ตอนที่ 5 คุฮุฮุ กะแล้วว่าทางที่ดีที่สุดในการล่อความสนใจโลลิน่ะต้องใช้ขนมล่ะ!

เด็กม.ปลายสายม็อบอย่างผมจะกลายเป็นสายเรียลได้ไหมถ้าเป็นนักผจญภัย

เดินผ่านป่าไปด้วยความระมัดระวัง

 

    ความกว้างของทางประมาณ 2 เมตร ถูกปกคลุมไปด้วยวัชพืชสูงถึงข้อเท้า รอบข้างมีกำแพงต้นไม้ที่ดูแล้วมนุษย์ไม่น่าจะสามารถฝ่าไปได้ เส้นทางของเขาวงกตแห่งนี้เป็นเช่นนี้

    อันที่จริงถ้าฝืนออกแรงมากพอก็เป็นไปได้ที่จะทำลายต้นไม้ แต่จากการทดสอบโดยสมาชิกของหน่วยป้องกันตัวเองได้พิสูจน์แล้วว่า มันไม่ได้อะไรขึ้นมาจากการที่ฝืนฝ่าไปทางกำแพงของเขาวงกต

    อย่างเลวร้ายที่สุด ในกรณีของพื้นที่ป่าแบบนี้มีความเป็นไปได้ที่จะหลงป่า นักผจญภัยจึงถูกสั่งห้ามเอาไว้อย่างเคร่งครัด

    ผมที่ลุยเข้าสู่เขาวงกตเรื่อยๆ โดยมีกูล่าทำหน้าที่เป็นแนวหน้ามาได้ซักพัก เริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีจึงเอ่ยถามซาชิกิวาราชิที่ยังมองไม่เห็นตัวอยู่

 

「นี่ซาชิกิวาราชิ รู้รึเปล่าว่าศัตรูอยู่ใกล้แค่ไหน? ตอนนี้ปลอดภัยดีไหม?」

「หา? แล้วทำไมชั้นจะต้องตอบเรื่องนั้นด้วยล่ะ」

 

    สิ่งที่ได้กลับมาจากความว่างเปล่าคือคำตอบห้วนๆ

 

「ทำไมงั้นเหรอ….. เพราะเป็นพรรคพวกกัน?」

「พรรคพวกเหรอ?」

 

    ซาชิกิวาราชิปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าพร้อมหัวเราะ

 

「ขอบอกเอาไว้ก่อนเลย ชั้นน่ะเกลียดมนุษย์อย่างพวกแกที่สุด แค่มองดูก็รู้สึกคลื่นไส้แล้ว ทั้งที่คอยทำตามคำสั่งราวกับทาสตรงนั้นก็ด้วย」

 

    ขณะที่ตัวเธอพูดออกมาก็รู้สึกถึงความโกรธที่ไม่อาจปิดซ่อนเอาไว้ในดวงตา

 

「นายน่ะยอมแพ้เรื่องที่มองชั้นเป็นกำลังรบออกไปได้เลย ไม่มีความตั้งใจแม้แต่เสี้ยวเดียวที่จะทำอะไรเพื่อแกเลย เคยบอกไปแล้วใช่ไหม? ว่าเสียใจด้วยที่จับได้ของบกพร่องแบบนี้มาน่ะ」

 

    พอพูดหมดแล้วซาชิกิวาราชิก็หายตัวไปอีกครั้ง ผมที่เห็นเธอเป็นแบบนั้นก็ได้แต่เกาหัว

 

    …..แบบนี้มัน แย่แล้วน้า เจ้าของคนก่อนไปทำอะไรไว้กันเนี่ย?

    เมื่อการ์ดถูกเปลี่ยนมาสเตอร์จะคืนกลับไปสู่ค่าเริ่มต้น รวมทั้งความทรงจำเองก็ถูกลบ ทว่าความรู้สึกจะยังติดอยู่กับตัวการ์ดไม่สามารถลบออกได้ จากสายตาของซาชิกิวาราชิ เป็นอะไรที่แม้แต่ผมก็รู้สึกได้ว่ารังเกียจต่อมนุษย์

    ถ้าแบบนี้น่าจะให้เธอถอยกลับมาก่อนแล้วเรียกคูซี่ออกมาแทนดีไหม ความคิดเช่นนี้มีผ่านหัวมา

    …..ไม่สิ ยังพอมีการป้องกันขั้นต่ำที่มาจากกฏของการ์ดอยู่ แบบนี้แล้วซาชิกิวาราชิที่เป็นแรงค์ C จะปลอดภัยมากกว่า

    เหนือสิ่งอื่นใด ถ้าปล่อยยัยนี้ไปตอนนี้ก็รู้สึกว่าแพ้แล้วเลย….

.

「จะยังไงก็เถอะ….. ร้อนจัง」

 

    ผมพูดพึมพำพลางปาดเหงื่อนบนหน้าผาก แม้จะผ่านไปแค่ไม่กี่นาทีก็เหงื่อชุ่มซะแล้ว

    ทนต่อไม่ไหว นำเครื่องดื่มเกลือแร่ออกมาจากกระเป๋าแล้วดื่มอึกๆ ความรู้สึกที่ความหวานแผ่ซ่านและคอที่ชุ่มชื่นมันต้านทานไม่ได้จริงๆ

    จากนั้นก็นำซ็อคโกบาร์ออกมา กัดกรุ๊บเข้าปาก รสหวานซึบซาบไปในร่างกายซึ่งยังไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เที่ยง

    ถึงจะใช้หัวกับเรื่องเล็กน้อย แต่น้ำตาลก็ทำให้รู้สึกดี

 

「….. อ-โอ่ย」

 

    ผมที่กำลังดื่มด่ำกับของว่างตอนบ่าย 3 พอรู้ตัวอีกที ซาชิกิวาราชิที่น่าจะหายตัวอยู่ก็ปรากฏตัวมายืนอยู่ข้างๆ พร้อมเงยหน้าจ้องผมอยู่….. หืม?

 

「น-นั่นมัน….. อะไรน่ะ?」

「อะไรนี่….. ก็แค่ช็อคโกบาร์เอง」

「ข-ของหวาน…..เหรอ?」

「อือ ใช่แล้ว ช็อคโกแลต」

「ฟุ ฟู่ว~….. ห-เหรอ」

 

    …..หรือว่าบางทียัยนี่

 

「อยากจะกินเหรอ?」

「!!」

 

    ซาชิกิวาราชิตัวสะดุ้งโหยงราวกับลูกแมวตกใจ ดวงตากลมโตนั่นให้ความรู้สึกน่ารักอยู่หน่อย

 

「ห-หา!? ไม่มีทางซักหน่อย! นี่ไม่ใช่เด็กนะ!」

 

    ไม่ใช่ล่ะ เป็นเด็กเหอะ ก็ถูกเรียกว่าซาชิกิ『วาราชิ』 นี่ /// (วาราชิในภาษาญี่ปุ่นแปลว่าเด็กๆ)

    กับผมที่รู้สึกแปลกใจโดยเด็กผู้หญิงที่เข้าใจได้ง่ายคนนี้ จึงนำช็อคโกบาร์อันใหม่ออกมาแล้วยื่นให้เธอ

 

「ถ้างั้นก็กินไหมล่ะ?」

「อุ!?」

 

    ซาชิกิวาราชิจ้องมาที่ช็อคโกบาร์ที่ยื่นให้ จะกินแล้ว จะกินแล้ว

 

「ค-คิดจะใช้ของแบบนี้มาล่องั้นเหรอ? แต่เสียใจด้วย ไม่ได้ผลกับชั้นคนนี้หรอก」

「ไม่ใช่ล่ะ ไม่ได้หมายถึงอย่างนั้นซักหน่อยแต่….. นั้นสินะ ก็จริงอยู่ว่าคนที่ไม่ทำงานก็ไม่สมควรจะได้กิน」

 

    ผมทำตีเนียน เก็บช็อคโกบาร์กลับลงกระเป๋า ไหน จะเป็นยังไง?

 

「อะ เอ๋…..」

 

    แล้วซาชิกิวาราชิก็ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสายตาว่างเปล่า แต่แล้วเธอก็กัดริมฝีปากพร้อมพูด 「เจ้าบ้า!」แล้วก็หายตัวไป

    …..มู ล้มเหลวงั้นรึ ถ้าเป็นแบบนี้แล้วก็คิดไปว่า「งั้นจะร่วมมือด้วยซักครั้งก็ได้แลกกับซ็อคโกแลตนี่」

    บางทีแล้วคงเป็นเพราะไม่รู้ว่าความอร่อยของช็อคโกแลตเป็นยังไง มันเลยเป็นเหตุผลที่ไม่สามารถก้าวข้ามความดื้อรั้นของซาชิกิวาราชิได้

    แต่ความล้มเหลวครั้งนี้มันก็เจ็บปวดน่าดู รู้สึกเหมือนจะยิ่งห่างเหินจากซาชิกิวาราชิมากขึ้น ไม่สิ หรือว่ากลับกัน? ถ้าลองมองดูแล้ว ที่ได้ทะเลาะกันก็เรียกได้ว่าเป็นก้าวใหญ่ เพราะมันก็ถือว่าเป็นการปฏิสัมพันธ์อย่างหนึ่ง แล้วยังได้รู้ถึงของที่ชอบด้วย

    เพราะว่ากำลังคิดอะไรแบบนั้นอยู่

    ผมจึงไม่ทันรู้สึกตัวถึงเงาที่กระโจนออกมาจากจุดบอด

 

「คุ!? กูล่า!」

 

    ตัวตนของผู้จู่โจมก็คือหมาป่าสีเทา ขนาดอาจเทียบได้กับสุนัขพันธ์โทสะขนาดใหญ่ มีพละกำลังที่พูดได้ว่าเป็นสัตว์นักล่า

    หมาป่าตัวใหญ่และดุร้าย ภาพของมันที่กำลังเข้าขย้ำกูล่าทำเอาผมตกใจกลัวมากกว่าที่คิดไว้ ผิวหนังทั่วตัวรู้สึกแข็งไปหมด

    กูล่าที่ถูกผลักล้มลงและกัดเข้าที่ลำคอ แทบจะไม่สามารถต่อต้านอะไรได้ ไม่สิ ไม่ใช่ ไม่ได้ขัดขืนอะไรเลย ทำไมถึงไม่สู้กลับไปล่ะ!?

    ขณะที่ผมสับสนอยู่กับการจู่โจมฉับพลันและความไร้ซึ่งการขัดขืนของกูล่าอยู่ ในตอนนั้นเองก็มีกระสุนแสงลอยมาจากที่ไหนก็ไม่รู้พุ่งทะลวงหมาป่า

    ก๊าซ- หมาป่ากรีดร้องและกลิ้งไปหลายเมตรกับพื้น หลังจากนั้นเพียงชั่วครู่ ขาหลังของมันก็ร่วงลงบนพื้นดังตุ๊บ

    อ-อะไร? มันเกิดอะไรขึ้น?

    คำตอบของคำถามนั้น มาอยู่ที่ข้างๆผมในทันที

 

「หยุดยืนบื้อเฉยๆได้แล้ว รีบขยับเจ้าหุ่นเชิดตัวนั้นซะสิ」

 

    พอรู้ตัวก็มีเด็กผู้หญิงมายืนอยู่ข้างๆ พูดออกมาด้วยความเบื่อหน่าย

    แล้วในที่สุดผมก็เข้าใจ คนที่โจมตีหมาป่าเมื่อครู่ก็คือซาชิกิวาราชิ และเหตุผลที่กูล่าไม่ขัดขืนอะไรก็เพราะผมไม่ได้ออกคำสั่งอะไร!

 

「กูล่า! ลุกขึ้นมาแล้วสู้หมาป่ากลับซะ! ใช้สกิลที่สามารถใช้ได้ทั้งหมดเลย!」

 

    ทันทีที่ออกคำสั่ง ทันใดนั้นดวงตาของกูล่าก็เบิกโพลงราวกับว่าสวิตซ์ถูกเปิด หยั่งกับว่าการเคลื่อนไหวเมื่อซักครู่เป็นเรื่องโกหก ลุกขึ้นมาด้วยความรวดเร็วแล้วเข้าโจมตีหมาป่า

    พอหมาป่าที่เคลื่อนไหวได้ไม่เร็วเพราะสูญเสียขาหลังของมันไปจึงถูกกดลงไปกับพื้น แล้วปากที่อ้ากว้างราวกับว่าจะหลุดแยกออกจากกันเริ่มทำการกัด

    ขณะที่เสียงร้องโหยหวนของหมาป่าดังก้อง กูล่าก็ทำการกัดกินหมาป่าอย่างเต็มกำลัง

    ผมยืนงงอยู่ตรงนั้นต่อภาพที่ราวกับหลุดออกมาจากหนังสยองขวัญ พอรู้ตัวอีกทีซาชิกิวาราชิก็มายืนอยู่ข้างๆพร้อมกับหน้าตาไม่พอใจ

 

「อะ…..ที่เมื่อกี้ช่วยเอาไว้ ขอบคุณมากนะ」

 

    ถึงจะยังลังเลแต่ก็บอกขอบคุณไป ทว่าไม่มีการตอบสนองกลับมา

    มู ทำเมินใส่เหรอ ที่ทำไปก็แค่อย่างต่ำที่สุดเองไม่ใช่รึ? ไม่สิ เหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง อะไรกัน….. อะ หรือว่าบางที

   

「ช-ใช่แล้ว ต้องตอบแทนคนที่ทำงานหนักสินะ อื้ม เอ้านี่ รับไปสิ」

 

    ด้วยประกายความคิดที่แว่บมาจึงได้ยื่นช็อคโกบาร์ให้ สีหน้าของซาชิกิวาราชิสดใส่ขึ้นมาทันทีพร้อมกับคว้าช็อคโกบาร์ไปราวกับฉก

 

「หึ ไม่ใช่ว่าอยากจะได้เจ้านี้หรอกนะ แต่เพราะว่ากลิ่นมันเหม็นนะสิก็เลยช่วยไม่ได้ต้องลงมือเอง! อย่าได้เข้าใจผิดไปล่ะ!」

「อ-อา รู้แล้ว เข้าใจแล้วล่ะ」

 

    นี่อยากกินขนมมากขนาดนั้นเชียวรึ….. ดูเหมือนจะกลายสภาพเป็นตัวละครซึนเดเระที่ผู้คนรู้จักดีไปซะแล้ว

    แต่ก็เอาเถอะ ยังดีกว่าเข้าใจอะไรได้ยาก คราวหน้าต้องเตรียมขนมเอาไว้บ้างซะแล้ว

 

    โอ๊ะ จะว่าไปแล้วกูล่าเป็นอะไรรึเปล่า?

    ด้วยความเป็นห่วงจึงหันกลับไปดูเธอ แต่ตรงนั้นก็ไม่มีหมาป่าอยู่แล้ว มีอยู่แค่กูล่าที่ปากเปื้อนเต็มไปด้วยสีแดง

    …..อืม ดูท่าจะชนะมาได้อย่างปลอดภัยนะ

    พอลองมองดูใกล้ๆ ก็พบว่ารอยแผลที่เกิดจากหมาป่ากัดที่ลำคอได้หายไปแล้ว คงเป็นเพราะสกิลของกูล่า ฟื้นฟูด้วยการกินศพ

    ยังไงก็ตาม ดีแล้วที่ปลอดภัย

 

「กูล่า ครั้งต่อไปที่ถูกโจมตีโดยศัตรูช่วยสู้กลับไปในทันทีด้วยล่ะ สกิลเองก็ใช้ได้หมดเท่าที่ใช้ได้ ถ้าเข้าใจแล้วก็พยักหน้านะ」

 

    หงึก กูล่าพยักหน้า ผมที่บอกเธอจึงแตะไปที่หัวไหล่

    เอาล่ะ ต่อไปก็ของล่ะ ดูเหมือนว่าเมื่อทำการสู้กับมอนสเตอร์แล้วชนะ บางครั้งก็จะมีไอเทมไม่ก็การ์ดตกออกมา…..

 

「อะ! การ์ดนี่นา!」

 

    ผมทำการหยิบการ์ดที่มีรูปของหมาป่าที่ร่วงอยู่บนพื้นขึ้นมา

    การ์ด Wild Wolf แรงค์ F ล่ะ พลังต่อสู้ก็….. แค่ 15

    ถ้าจำไม่ผิด ราคาซื้อขายจนถึงแรงค์ D น่าจะประมาณ 10% ของราคาตลาด ราคาตลาดของแรง์ F อยู่ที่ 10,000 จนถึง 100,000 ตัว Wild Wolf นี่เป็นลูกกระจ๊อกในหมู่ลูกกระจ๊อก ราคาก็ประมาณ 1,000 ได้

    หากมาคิดเอาว่าเข้าเขาวงกตมาได้ประมาณ 10 นาทีแล้วได้เงิน 1,000 เยน ก็ถือว่าเป็นเงินเดือนรายชั่วโมงที่ดี แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะตกมาตลอด สำหรับอัตราดร็อปของการ์ดแรงค์ F อย่างดีๆก็คิดเป็น 1ใน 10 ครั้ง

    หากมาคำนึงร่วมถึงการเสี่ยงชีวิตแล้ว แรงค์ต่ำๆแบบนี้ดูจะไม่คุ้มค่านัก….. ดูเหมือนว่าหากเป็นแรงค์ C ขึ้นไปแล้ว รายได้จะพุ่งก้าวกระโดด

    ไม่ว่าจะโลกไหนมันก็ก็เริ่มด้วยความยากลำบากเสมอ…..

    ครู่หนึ่งมีความรู้สึกอยากจะถอนหายใจ แต่ก็หยุดเอาไว้

    หากมาคิดดู การได้การ์ดมาในการต่อสู้แรกนี่ก็ถือว่าประสพความสำเร็จมากพอแล้ว ในความจริงหากไม่ใช่เพราะซาชิกิวาราชิก็มีความเป็นไปได้ว่าจะสูญเสียกูล่า พูดได้เลยว่าโชคดี

    สมแล้วที่เป็นซาชิกิวาราชิ แม้จะบิดเบี้ยวไปบ้างแต่ก็เป็นการ์ดแรงค์ C

    ผมที่คิดในใจอยู่แบบนี้ก็มองไปที่เธอ ที่กำลังจ้องมองซองใส่ช็อคโกบาร์ที่ว่างเปล่าด้วยความผิดหวังบนใบหน้า

 

「อร่อยรึเปล่าล่ะ?」

 

    พอเห็นแบบนี้แล้วก็เป็นแค่เด็กจริงๆ พอถูกถาม ซาชิกิวาราชิก็หันมามองทันทีราวกับว่าเพิ่งจะรู้สึกตัว

 

「…..ก-ก็ไม่เท่าไหร่นิ? สำหรับของกินของมนุษย์แล้วก็พอใช้ได้แหละนะ」

「ถ้าหากว่ามาช่วยอีกจะให้ขนมอื่นด้วยนะ」

「จ-จริงเหรอ!? อะ ไม่สิ….. ถ-ถ้าอยากจะให้ก็ไม่มีปัญหาหรอก เข้าใจ๋? แต่ไม่ใช่ว่าจะช่วยซักหน่อยนะ!」

「อา แบบนั้นก็ดีแล้วล่ะ ถ้ารู้สึกอยากจะกินขนมเมื่อไหร่ก็ช่วยนานๆทีซักครั้งก็ได้」

「ก็ ถ้าแบบนั้นแล้ว…..จะคิดดูละกัน」

 

    ดูจะซื่อตรงขึ้นมาเมื่อเทียบกับครั้งแรก ทำเอาผมยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้

    โย้ชโย้ช อะไรล่ะนั่น พอมองดูแบบนี้แล้วก็เป็นแค่เด็กผู้หญิงน่ารักที่ไม่ค่อยซื่อตรงเท่านั้นเอง

    นี่มันออกมาดีกว่าที่คิดเอาไว้อีก

    เอาล่ะ วันนี้พอเท่านี้แล้วกลับบ้านกันดีไหม

    ความจริงแล้ววันนี้มาด้วยความตั้งใจที่จะลองสู้ดูซัก 10 ครั้งเพื่อให้คุ้นชินกับการต่อสู้ แล้วถ้าไปได้สวยก็อาจจะพิชิตชั้นแรกได้เลย

    แต่คิดตื้นไป ความกดดันที่ต้องมุ่งเข้าไปรวมถึงการต่อสู้ภายในเขาวงกต มันมากกว่าที่จินตนาการเอาไว้

    แม้จะผ่านไปแค่ 10 นาที จิตใจก็ล้าไปหมดแล้ว

    ต้องคิดเรื่องคำสั่งหลายๆอย่างไว้ให้กับกูล่า และยังต้องซื้อขนมไว้เผื่อซาชิกิวาราชิด้วย

    ผมมุ่งหน้ากลับบ้านขณะที่ฉายซ้ำภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ภายในหัว

 

 

 

 

【Tips】ภายในเขาวงกต

    เขาวงกตนั้นคือช่องว่างที่แตกต่างออกไป มีอยู่ด้วยกันหลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นประเภทป่า, ประเภทหุบเขา, ประเภทชายทะเล, ประเภทถ้ำ, ประเภทวงกต, หรือประเภทสุสาน และยังมีการพบว่าฤดูกาล, สภาพอากาศ, ช่วงเวลาของวันจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งอาหารที่นำเข้าไปจะไม่เน่าเสีย กับเหล่านักผจญภัยมากประสบการณ์หลายคนก็มีสภาพที่ดูหนุ่มสาวกว่าอายุจริง จึงมีทฤษฏีที่ถูกสนับสนุนอยู่มากว่าเวลาจะถูกหยุดภายในเขาวงกต แต่ทว่าหากเวลาหยุดนิ่งจริงๆแล้ว มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเคลื่อนไหว ปริศนายังคงมีอยู่อีกมากนัก

    เหล่านักผจญภัยเรียจูอาศัยประโยชน์ตรงจุดนี้ สนุกสนานไปกับกีฬาตามฤดูกาลอย่างเช่น สกี, โต้คลื่น อยู่ภายในเขาวงกตไปตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นช่วงฤดูร้อนหรือฤดูหนาว แล้วก็มีบางครั้งที่เผลอลดความระมัดระวังแล้วตายไป