ผมขอแนะนำให้รู้จักกับแผนผังในบ้านพักของตระกูลซันโจที่ผม ฮิอิโระ กำลังอาศัยอยู่หน่อยก็แล้วกัน
ก่อนอื่นเลย พอเข้ามาหน้าทางเข้า จะเจอกับบันไดเวียนที่มองเห็นได้สุดลูกหูลูกตา พร้อมทั้งมีพรมแดงปูไว้ และมีโถงทางเดินประกบบันไดเวียนและทางเข้า ส่วนตรงโถงทางเดินก็ตกแต่งด้วยภาพวาดสไตล์ญี่ปุ่นผสมตะวันตก
ไม่รู้เหมือนกันว่าภาพที่จัดแสดงตรงโถงทางเดินนั้นเป็นของจริงรึเปล่า แต่มันมีภาพ ทัศนียภาพ 36 มุมของภูเขาฟูจิ ภาพจูบของกุสตาฟ คลิมท์ สาวใส่ต่างหูมุกของโยฮันเนิส เฟอร์เมร์…แล้วถัดจากนั้นก็ยังมี ภาพที่ผมเป็นคนเอาไปตั้งไว้เอง โปสเตอร์ยูรุ**ริ ของอาจารย์ นา***ริ
(ยูรุยูริโดยอาจารย์นาโมริ คลับบ้าฮาต๊อง)
เวลากินข้าวนั้น จะมีห้องโถงขนาดใหญ่ที่พอจะใช้จัดปาร์ตี้แล้วไปเต้นได้เลย
ที่ชั้น 1 จะเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ ซึ่งมีห้องสันทนาการ ห้องสมุดและห้องเก็บหนังสือ ห้องจัดแสดง ห้องโสตฯ ห้องรับแขก แล้วก็ห้องน้ำ 2 ห้อง
ผ่านทางเดินเชื่อมระหว่างอาคารไป ก็จะมีห้องสไตล์ญี่ปุ่นขนาดใหญ่อยู่ 2 ห้อง ห้องสไตล์ตะวันตก 2 ห้องอาบน้ำ 2 ห้อง (แบบน้ำพุร้อน) มีห้องส้วม ห้องเก็บของ แล้วก็ห้องพักแขกอีก 5 ห้องด้วยกัน
ส่วนชั้น 2 นั้น ส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นห้องพักแขกเกือบหมด ห้องพักแขกจะเป็นสไตล์ญี่ปุ่นผสมตะวันตก บางห้องก็จะเป็นสไตล์ออกแนวจีนก็มีเหมือนกัน
ห้องพักโดยรวมมีประมาณ 10 กว่าห้อง แล้วก็จะเป็นห้องสันทนาการ ห้องอาบน้ำ (แบบที่ไม่ใช่น้ำพุ) แล้วก็ห้องแต่งตัวอยู่ทั่วทุกมุม
ชั้น 3 เป็นหอดูดาวที่สร้างขึ้นคล้าย ๆ หอคอย มีกล้องโทรทรรศน์อันใหญ่ที่เจอได้ที่หอดูดาว ให้บรรยากาศที่ทำให้รู้สึกอยากไปดูดาวมาก ๆ
ถ้าออกไปที่สวน ก็จะเจอบ้านพักสำหรับเมดอยู่หลังหนึ่ง สนามซ้อมต่อสู้กับห้องอาบน้ำในสนาม (ทั้งที่มีฝักบัวให้ใช้อยู่เป็น 10 อัน แต่ก็มีแค่ผมที่ใช้อยู่คนเดียว)
ในสวนก็จะมีบ่อน้ำที่เต็มไปด้วยปลาคาร์ป ห้องอาบน้ำแบบเปิดที่เข้าได้จากทางชั้น 1 แล้วก็มีคลังที่จัดแสดงอาวุธอุปกรณ์เวทย์ แล้วก็ห้องเก็บของที่มีกลอนใหญ่
ลักษณะโดยรวมของบ้านพักก็จะคล้าย ๆ กับที่พักของพวกซามูไรเลยล่ะ
ประตูหลักที่มีตราประจำตระกูลนั้นก็ดูดี กำแพงที่มีแผงป้องกันเวทย์ก็น่าประทับใจมากเลยทีเดียว
บ้านพักนี้เป็นของผู้สืบทอดตระกูลอย่างซันโจ เรย์ (น้องสาวของฮิอิโระ) ซึ่งเธอให้ผมอยู่แค่ชั่วคราวเท่านั้น ส่วนบ้านหลักที่เรย์อาศัยอยู่ในตอนนี้นั้น ยิ่งน่าประทับใจกว่านี้อีก ซึ่งจะทำให้เห็นเลยว่าตระกูลซันโจนั้นมีอำนาจมากขนาดไหน
เอาล่ะ เรื่องบ้านพักมันก็เป็นแบบนี้แหละ ก็คือเป็นสิ่งที่เตรียมมาไว้ให้ผมคนเดียวเลย
ซึ่งแน่นอนว่า นี่มันมากเกินไป
ไอ้สารเลวชาติหมาที่อยู่ระหว่างยูรินี่ ต่อให้เป็นผมก็ยังคิดหนักเลยว่าจะจัดการยังไงดี
จู่ ๆ กลับถูกบอกให้มาอยู่คนเดียวในบ้านหลังใหญ่แบบนี้เนี่ย ผมล่ะอยากแชร์ความกังวลนี้กับใครซักคนจริงๆ
ผมเคยคิดแบบนั้น…ใช่แล้ว ผมก็เคยคิดแบบนั้นอยู่หรอก…
“ถึงจะเล็กไปหน่อย แต่ก็ถูกใจใช้ได้เลยนะ ฉันก็ชอบอะไรญี่ปุ่น ๆ ซะด้วยสิ อยากลองอยู่บ้านที่มีบรรยากาศแบบนี้ด้วย”
“……”
แต่ผมก็ไม่ได้บอกว่าใครที่ว่านั่น คือนางเอกของเกมซักคำเลยนะ
“ค่า ย้ายเข้าค่า!! จะย้ายเข้าล่ะนะค้า ช่วยหลบไปด้วยค่า!!”
“เย้ ห้องมุมชั้น 1 ของฉัน! ได้มาแล้ว!”
“หวา ขี้โกงอะ! ถ้างั้นเราขอซักห้อง บนชั้น 2 ที่มีหน้าต่างก็แล้วกันนะ”
“……”
แล้วใครที่ว่านั่น ก็ไม่ได้บอกว่าต้องเป็นเหล่าหน่วยเงาทั้ง 12 คน
(ซึ่งเป็นสาวสวยทุกคน) ของลาพิสด้วยเลยซักคำ
“นี่ คุณฮิอิโระค้า~? แชมพูเนี่ย ใช้อันไหนเหรอค้า~?”
“……”
เพิ่งเจอกันครั้งแรกแท้ ๆ แต่ดันอาบน้ำกันโดยพละการ แถมยังมาถามหาว่าแชมพูอันไหนตอนเปลือยอีกต่างหาก…ไม่เคยบอกว่าจะให้อยู่ด้วยเลยนะเฟ้ย
“นี่ แล้วห้องของฮิอิโระอยู่ไหนล่ะ? แต่ก่อนอื่นฉันขอไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน ไปรออยู่ที่ห้องก่อนนะ”
“……”
“เจ้าหญิงค้า~! ดูเหมือนว่าตรงนี้จะมีทางลับอยู่ด้วยล่ะค่า~! ถึงบ้านจะเล็กเมื่อเทียบกับปราสาท แต่ลูกเล่นที่มีก็สนุกมากเลยล่ะค่ะ~!!”
“……”
“คุณฮิอิโร้~? ฟังอยู่รึเปล่าค้า~? แชมพูน่ะค่ะ แชมพูน่ะ~?”
“……”
“อ๊ะ แล้วก็นะ ฮิอิโระ ฉันน่ะ ถ้าไม่มีเตียงก็นอนไม่หลับน่ะนะ แต่ยังไงมันก็ต้องอยากได้ห้องญี่ปุ่นอยู่ดีนี่นา? ช่วยแยกห้องส่วนตัวกับห้องนอนออกจากกันหน่อยได้รึเปล่านะ? คงไม่ว่าอะไรใช่มั้ย? เยี่ยมเลย ขอบคุณน้า!”
“……”
ผมกระโดดออกไปข้างนอกแบบเงียบ ๆ แล้วก็เสริมพลังขาด้วยเวทมนตร์
จากนั้นผมก็กระโดดไปสู่ฟากฟ้าไปหาพระอาทิตย์ที่กำลังตกดิน–
“นี่มันเกมลามกรึไงว้าาา!!”
ผมตะโกนออกมา
จากนั้นก็ลงมาถึงบนพื้นและกรีดร้องออกมา
“นี่มันเกมลามกรึง้ายยย!!”
จากนั้นผมก็ใช้กำปั้นทุบพื้นไปทั้ง ๆ แบบนั้น
“นี่มันฉากเปิดเกมลามกรึไงงงงง!!”
ผมหายใจเข้าออกอย่างแรง แล้วจากนั้นก็ไปที่สวนสาธารณะและนั่งลงบนม้านั่ง
แปลกแฮะ
ผมสงสัยอยู่กับตัวเอง
นี่มันไม่ใช่เกมลามกแน่ ๆ ใช่มั้ยเนี่ย…ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ไปได้นะ…ทั้งที่เป็นเกมยูริแท้ ๆ แต่ทำไมอีเวนต์มันถึงมากองกันอยู่ที่ฮิอิโระที่เป็นผู้ชายได้เนี่ย…ในขณะที่ผมกำลังช่วยขนของโดยที่ก็ยังไม่รู้อิโหน่อิเหน่ มันก็ดันถึงตอนช่วงเย็นไปซะแล้ว…แบบนี้ไม่ว่าจะคิดยังไง ถ้าผมดันไปเปิดประตูห้องน้ำเข้า ก็คงจะพูดออกมากันว่า “ว้าย โนบิ*ะ คนลามก!” แล้วก็โกรธกันแหง ๆ
ผมนั่งหลั่งน้ำตาอยู่บนม้านั่งอยู่คนเดียว
ฉัน…นี่ฉัน…ทำอะไรผิดไปตรงไหนกันเนี่ย…ทั้งที่ผมก็แค่อยากคอยเฝ้าดูความรักของพวกเธอแท้ ๆ …. ทั้งที่แค่อยากจะเกิดเป็นตัวประกอบในโลกเกมยูริ แล้วก็คอยดูยูริอยู่ที่มุมห้องเรียน และนั่งหัวเราะ [ฮุฮุฮุ] เบา ๆ เท่านั้นเองแท้ ๆ …
ในขณะที่กำลังเศร้าอยู่ ผมก็ดึงสติตัวเองกลับมา
ไม่สิ ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่ผมจะมานั่งเศร้าอยู่แบบนี้
[ถ้ามาอยู่ด้วยกันก็จะสามารถท้าดวลได้ตลอดเวลา] ด้วยเหตุผลที่ไม่อาจทำความเข้าใจได้แบบนี้ ก็ทำให้ได้มาใช้ชีวิตร่วมกันกับเจ้าหญิงเอล์ฟ แต่ถ้าเจ้าหญิงจะมาอยู่ด้วยกันกับผมล่ะก็…แปลว่า “สิ่งนั้นน” ก็ต้องมาด้วยกันแน่ ๆ
เรื่องราวที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่ผมจะคิดได้ก็ได้แล่นเข้ามาในหัวของผม
ถ้าผมต้องสู้กับ “สิ่งนั้น” ในตอนนี้ล่ะก็ บางทีแล้วโอกาสชนะของผมคงมีไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นเลย เรียกว่าดวลยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำล่ะมั้ง ยังไงก็แพ้ในพริบตาแหง ต่อให้จะพยายามใช้วิธีอะไรต่อสู้ยังไงก็ไม่มีทางชนะเธอได้แน่นอน
พูดได้เต็มปากเลยว่า “สิ่งนั้น” น่ะ คือสิ่งที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกเอสโก้แล้ว ถ้าไปแตะต้องเธอเข้าละก็ จบเห่แน่
ความเกลียดชังที่เธอมีต่อฮิอิโระน่ะคือของจริงเลยล่ะ
เธอคือนักล่าฮิอิโระ ผู้ที่จะตามเชือดเจ้าผู้ชายที่อยู่ท่ามกลางยูริโดยอัตโนมัติ….ถ้าไม่มีโอกาสชนะ ก็มีแต่ต้องหนีสถานเดียวเท่านั้น และสิ่งที่แย่ที่สุดก็คือการที่ต้องเจอกับ “สิ่งนั้น” ในตอนที่ลาพิสไม่อยู่นี่แหละ
การพบกันครั้งแรกนั้น จะต้องเกิดขึ้นในตอนที่อยู่กับลาพิส และแสดงท่าทีที่เป็นมิตรต่อกันให้เห็นเท่านั้น
เพราะงั้นการต่อสู้เนี่ย บอกเลยว่าอย่าหาทำ
ถ้าอย่างงั้นแล้ว มื้อเย็นคืนนี้ล่ะ…?
ผมดูนาฬิกาที่ข้อมือแล้วก็รู้สึกตกใจ
ชิบหายแล้ว!! จะยังไงก็แล้วแต่ ตอนนี้ต้องรีบไปหาเชฟที่เก่งที่สุดในโลกมาให้ได้โดยด่วนเลย!! เชฟที่ใส่หมวกขาวได้ดูดีที่สุดในโลก!! ถ้าไม่ใช้อำนาจของตระกูลซันโจอย่างเต็มที่ล่ะก็!! ชีวิตของผมได้ตกอยู่ในอันตรายแน่!! ฮิอิโระต้องตายห่านแน่!!
ต้องรีบแล้วสิ
ผมรีบลุกขึ้นยืน–
เย็นเฉียบ
ผมรู้สึกถึงพลังเวทย์ที่เพิ่มขึ้นจากที่ไหนซักแห่ง
ระยะของผู้มีฝีมือ
เข้ามาอยู่ในระยะของผู้มีฝีมือ…ซะแล้ว
สายตาของเขาทะลุตรงมาที่ผม ทำให้ผมที่ยืนตัวแข็ง ขยับไม่ได้แม้แต่นิ้ว เหงื่อเย็นก็ไหล และร่างกายก็ยังคอยเตือนถึงอันตรายที่ใกล้เข้ามา
สีเงิน
ภัยอันตรายสีเงินได้มายืนอยู่ตรงหน้า
ผมสีเงินยาว ชุดรบที่เป็นสไตล์ญี่ปุ่นผสมตะวันตก และดาบที่ยาวมากถ้าเทียบกับตัวเธอ อยู่ข้างตัว
เอล์ฟสาวสวยตัวสูง ดวงตาสีฟ้าเป็นประกาย ได้พุ่งตรงมาหาผม
เจตนาฆ่าของเธอนั่นน่ะ มันทิ่มแทงทะลุผิวผมเลยล่ะ
ในเวลายามค่ำคืน ก็ได้เปิดเผยความงามสีเงินนั้น
เธอดึงดาบยาวของเธอ–อุปกรณ์เวทย์ของเธอออกมาและโยนฝักดาบทิ้งไป
“พอดีได้ยินมาว่าเป็นผู้แข็งแกร่งที่สามารถเอาชนะลาพิสได้น่ะค่ะ”
เธอพูดเบา ๆ ด้วยเสียงอันไพเราะ
“มาสู้กันเถอะค่ะ”
แกร๊ง แกร๊ง (sfx)
พอได้ยินเสียงฝักดาบตกลงไปบนพื้น–พอเธอลืมตาขึ้น ก็เห็นตาสีฟ้าอ่อนของเธอ
“ซันโจ ฮิอิโระ ฉันน่ะ–“
คนที่แข็งแกร่งที่่สุดที่ผมไม่อยากเจอที่สุดในตอนนี้นั้น ขยับมุมปากโค้งขึ้นแล้วก็พูดออกมาอย่างนิ่ง ๆ
“รู้สึกสนใจในตัวคุณค่ะ”
ผมน่ะ ได้ตายไปแล้วล่ะครับ