「ฟุ ฮ้า~~~」
ในห้องเรียนช่วงพักเที่ยง ผมที่กำลังนั่งกินข้าวกับสมาชิกหน้าเดิมๆ ต้องต่อสู้อยู่กับความง่วงที่เพิ่มขึ้น
「…..เป็นอะไรไปมาโร่ ดูง่วงๆนะ」
ฮิกาชิโนะพูดมาหลังจากที่เห็นผมหาวฟอดใหญ่
「พักนี้ดูง่วงอยู่ตลอดเลย งานพิเศษมันยุ่งขนาดนั้นเชียว?」
「อา…..」
กับนิชิดะที่ดูเป็นห่วงมานิดหน่อย ทำให้ผมลังเลเล็กน้อยไม่รู้จะตอบกลับยังไงดี
เรื่องงานพิเศษที่ซุปเปอร์ ลาออกไปก่อนจะเป็นนักผจญภัยเล็กน้อย ที่ซุปเปอร์นั่นมันไม่มีอะไรดึงดูดนอกเสียจากเวลาเข้ากะงานที่เยอะ
แต่ถ้าอยากรู้จริงๆว่าทำไมถึงดูง่วงแบบนี้ก็จะบอกให้ก็ได้
「พักนี้ต้องมากำกับเด็กใหม่นะสิ แถมยังทีเดียวตั้ง 3 คน เพราะงั้นเลยรู้สึกแตกต่างไปจากเดิมนิดหน่อย」
「อย่างงี้นี่เอง ดูลำบากเอาเรื่อง เป็นชั้นคงไม่ไหวหรอก」
ฮิกาชิโนะทำหน้ามุ่ย แต่นิชิดะกลับยิ้มมีเลศนัยแล้วพูดกลับมา
「แต่ว่า บางทีอาจจะเป็นผู้หญิงน่ารักใช่รึเปลา?」
「โอ จริงด้วย แล้วตกลงเป็นยังไงล่ะ?」
「มู」
มันก็จริงที่เด็กใหม่ 3 คนเป็นเด็กผู้หญิงน่ารัก แต่ว่าคนนึงเป็นโลลิเอาแต่ใจ, อีกคนเป็นศพแสนสวย, และคนสุดท้ายไม่ได้มีร่างมนุษย์ด้วยซ้ำ…..
「ก็จริงอยู่ว่าเป็นผู้หญิง」
「โอ้! หน้าตาล่ะ? น่ารักไหม?」
ฮิกาชิโนะผู้กำลังค้นหาแฟนยื่นหน้ามาใกล้ แต่ถึงจะบอกว่าค้นหา แต่ก็ไม่เห็นจะไปสุงสิงกับใคร
「หน้าตาเหรอ….. ก็น่ารักอยู่หรอก คนนึงจัดว่าสวย ส่วนอีกคนจัดว่าน่ารัก」
ไม่ได้พูดโกหก
ดวงตาของทั้งคู่ลุกวาวด้วยคำพูดของผม
「อะไรล่ะนั่น สุดยอดไปเลยนี่หว่า!」
「ได้สอนงานพิเศษกับรุ่นน้องน่ารัก เกม18+ ชัดๆเลย」
หยุดเอาทุกอย่างมาเชื่อมกับเกม18+ หรือเกมจีบสาวเถอะนะนิชิดะคุง
「มันไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้นซักหน่อย มันก็แค่งานใช่ไหม? งานน่ะ」
ผมประสพความสำเร็จในการบ่นเรื่องงานของนักผจญภัยให้กับทั้งคู่ได้
คนนึงทำตัวมีปัญหาแถมไม่ฟังที่ผมบอก, คนนึงทำตามที่บอกแต่คิดด้วยตัวเองไม่ได้, อีกคนดูซื่อและจริงจังแต่ทนต่อแรงกดดันไม่ได้และไม่มีใจจะเผชิญหน้า…..
พอผมอธิบายไป ทั้งคู่ก็ทำหน้าเห็นใจมาเล็กน้อย
「ดูเป็นพวกมีนิสัยเอาเรื่องอยู่นะ」
「มีของที่อยากได้เลยคิดจะหางานพิเศษอยู่บ้าง แต่พอได้ยินมาโร่แล้วดูจะทำยากจนต้องกลับมาคิดใหม่เลย」
นิชิดะที่กอดอกทำท่าเป็นห่วง ผมก็ตัดสินใจตามน้ำไป
「ไม่หรอก ไม่คิดว่าจะเอามาใช้อ้างอิงได้เพราะที่ที่ทำอยู่นี่มันลำบากกว่าที่ทั่วไปอยู่มั้ง? ต้องทำแทบทั้งอาทิตย์ แล้วเห็นมีคนเยอะแบบนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะพอ ถ้าหาทำซัก 2 หรือ 3 วันต่ออาทิตย์ก็คงไม่เป็นอะไรหรอก」
「อืม เป็นแบบนั้นเหรอ เพราะงั้นพักนี้เลยไม่ได้ไปเที่ยวเล่นด้วยกันสินะ」
「มีอะไรที่อยากได้ถึงต้องทำซะขนาดนั้นเนี่ย? มอ’ไซค์เหรอ」
「อา…..」
ด้วยคำถามสบายๆของฮิกาชิโนะ ทำให้ผมตอบไม่ถูกไปเล็กน้อย
「ก็หลายๆอย่างแหละนะ ใบขับขี่มอเตอร์ไซค์กับมอเตอร์ไซค์ดีๆก็อยากได้อยู่แหละ」
ถ้ามีมอเตอร์ไซค์ ระยะขอบเขตในการผจญภัยก็จะมากขึ้นด้วย
「อย่างงี้นี่เอง อยากได้มอเตอร์ไซค์บ้างน้า ที่โรงเรียนเราอนุญาตให้ขี่มอเตอร์ไซค์มาได้นี่นะ」
「โรงเรียนเราไม่ค่อยเข้มงวดเรื่องนั้น คงเพราะว่าอยู่ไกลจากสถานีแหละ ชั้นเองก็ว่าจะพยายามหางานพิเศษทำนิดหน่อยที่งานหนังสือComiket」
ขณะที่รู้สึกโล่งอกอยู่ข้างในที่สามารถเบี่ยงเบนประเด็นได้ ความง่วงก็เข้าจู่โจมผมอีก
「แย่ล่ะ รู้สึกง่วงจนเวียนหัวแล้ว ต้องขอตัวไปนอนพักที่ห้องพยาบาลก่อน ขอโทษที แต่ฝากบอกอาจารย์ให้หน่อยนะ」
「ไม่เป็นไร ระวังตัวด้วยล่ะ」
ผมโบกมือลาทั้ง 2 คนแล้วมุ่งไปห้องพยาบาล
อาจารย์ห้องพยาบาลของโรงเรียนเรานั้น เป็นคุณพี่สาวหุ่นเซ็กซี่…..ซะที่ไหนกันล่ะ เป็นคุณป้าที่น่าจะดูเป็นสาวสวยได้เมื่อซักประมาณ 30 ปีที่แล้ว
…..สงสัยเหลือเกินว่า อาจารย์ห้องพยาบาลแสนสวยสุดเซ็กซี่แบบในนิยายไลท์โนเวลกับเกมจีบสาวนี่มันมีอยู่จริงๆไหม ถ้ามีแล้วล่ะก็อยากจะให้ช่วยบอกหน่อย
「ขอโทษครับ พอดีรู้สึกเวียนหัว อยากจะขอใช้เตียงหน่อยได้ไหมครับ?」
พอเข้าห้องพยาบาลมาก็บอกไปทันที แต่ไม่มีเสียงตอบกลับมา พอลองมองดูรอบๆห้องก็ไม่เจอใครอยู่
จะทำยังไงดี นอนไปเลยจะเป็นอะไรไหม?
รู้สึกสับสนไปหมด
「—-อาจารย์ตอนนี้ไม่อยู่ พักก่อนซักหน่อยน่าจะไม่เป็นอะไรหรอก?」
จู่ๆ ผ้าม่านของเตียงด้านหลังก็เปิดออก นักเรียนหญิงคนหนึ่งโผล่หน้าออกมา
「ช-ชิโนมิยะซัง」
คนตรงนั้นคือคนหนึ่งในกลุ่มเรียจู พูดได้ว่าเป็นคนที่สวยที่สุดในชั้นปี ชิโนมิยะ คาเอเดะ
มีข่าวลือว่าเธอทำงานเป็นโมเดลมือสมัครเล่น เป็นสาวแกลสมบูรณ์แบบที่แต่งหน้ามาทุกวันและย้อมสีผมเป็นสี Ash Gold ทรงผมเธอจะเปลี่ยนไปขึ้นอยู่กับอารมณ์ของเธอในวันนั้น แต่รู้สึกว่าเธอมักจะปล่อยผมไปตามหลังของเธออย่างมีสไตล์พร้อมกับยางรัดผม
เพื่อนๆของเธอหลายคนเองก็ดูฉูดฉาดเป็นที่ต้องตา เธอเองยังเป็นท็อปของกลุ่มสาวแกลในชั้นของพวกเราด้วย
พวกทาคาฮาชิมักจะถูกมองเป็นกลุ่มเรียจู แต่พวกเขาเองหลายคนก็มีกลุ่มเพื่อนอื่นที่ตัวเองเป็นผู้นำกลุ่มอยู่ด้วย อย่างเช่น ทาคาฮาชิมีกลุ่มคลับเบสบอล, อุชิคุระซังที่เป็นสมาชิกกลุ่มผู้หญิงโตในวงดนตรีเครื่องเป่าทองเหลือง
ชิโนมิยะซังกับอุชิคุระซังเป็นเพื่อนซี้และเพื่อนสมัยเด็ก แต่ว่าอยู่ในกลุ่มผู้หญิงต่างกัน
ต่อชิโนมิยะซังที่เป็นท็อปของกลุ่มสาวแกลแบบนั้น กับผมที่เป็นตัวละครประกอบสายม็อบ ทำให้รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
เหตุผลมันก็มีอยู่หลายอย่าง แต่ถ้าจะให้สรุปออกมาคำเดียวแล้วล่ะก็ต้องบอกว่า 「เพราะยังซิงอยู่」
ขณะที่ผมยืนตัวเกร็งราวกับกบถูกงูจ้องตา ชิโนมิยะซังก็ยิ้มให้แล้วชี้ไปที่เตียงที่อยู่ข้างๆ
รอยยิ้มของเธอดูบริสุทธิ์กว่าที่คิดเอาไว้ ทำให้ผมรู้สึกหลงไหลไปชั่วครู่แบบไม่ทันตั้งตัว
「รู้สึกไม่สบายใช่ไหมล่ะ พักซักหน่อยเถอะ」
「อา อืม ขอบคุณ」
ผมปีนขึ้นไปบนเตียงที่อยู่ข้างๆด้วยความเหนียมอายแล้วนอนลง
หลังจากนั้น ช่วงเวลาแห่งความเงียบก็ผ่านมา ผมที่มีสาวแกลเป็นเหมือนกับศัตรูทางธรรมชาติทำให้นอนไม่หลับ แล้วก็ไม่รู้จะพูดคุยอะไรด้วย ทำให้ต้องใช้เวลาไปด้วยความทรมานอย่างมาก
「……………」
-ติ๊กต๊อก- เสียงของนาฬิกาดังก้องในห้องอย่างน่าประหลาด
แบบว่า….. น่าสมเพชจัง จู่ๆก็คิดขึ้นมา
แม้ว่าจะพุ่งเป้าเป็นนักผจญภัยเพื่อที่จะได้คุยกับเหล่าสาวๆน่ารักอย่างชิโนมิยะซังได้โดยไม่สติแตก แต่พอมาตอนนี้ไม่รู้ทำไมกลับรู้สึกว่าทำไม่ได้
สุดท้ายแล้ว นี่คงหมายความว่าเนื้อในของผมมันก็เป็นแค่ม็อบตัวประกอบ….. ต่อให้มีฉายาอย่างนักผจญภัยก็ไม่มีทางจะเป็นพวกเรียจูได้…..
「…..เน่」
「ฮี้!?」
ชิโนมิยะซังที่น่าจะกำลังเล่นมือถืออยู่เงียบๆ จู่ๆก็ส่งเสียงพูดขึ้นมา ผมที่กำลังตกอยู่ในห้วงความคิด ไม่ทันตั้งตัวจึงส่งเสียงแปลกๆไป
ทำให้เธอหัวเราะคิกออกมา
「อะไรล่ะนั่น ตลกจัง ว่าแต่ชื่อมาโร่ใช่รึเปล่า? ชื่อแปลกจังเลยน่ะ」
「อา ไม่สิ นั่นมันแค่ชื่อเล่น ชื่อจริง คิตากาว่า อุทามาโร่ ต่างหากล่ะ」
ขณะที่รู้สึกเขินก็พอจะตอบกลับไปได้
「อา งั้นเองเหรอ แต่ว่าชื่อจริงเองก็แปลกอยู่นะ เอาจริงๆ เหมือนเคยได้ยินชื่อคิตากาว่า อุทามาโร่ มาจากที่ไหนซักแห่ง」
「…..พวกเราอยู่ชั้นเดียวกันล่ะนะ คงจะเคยได้ยินมาบ้างซักครั้งแหละ แล้วก็นะ คิดว่าชิโนมิยะซังน่าจะหมายถึงคิตากาว่า อุทามาโร่ที่เป็นช่างวาดภาพสมัยเอโดะด้วย」
「อา นั่นแหละนั่นแหละ หรือว่านี่ะเป็นที่มาของชื่อ?」
「คนมักจะพูดกันแบบนั้นแต่ว่าไม่ใช่หรอก คุณแม่ชื่อไอกะ(愛歌) ส่วนคุณพ่อชื่อโชมะ(昌磨) พอเอาอักษรแต่ละตัวมารวมกันก็ได้เป็นอุทามาโร่(歌麿) แล้วพอเอาไปลงทะเบียนที่หน่วยราชการก็ถึงได้รู้ว่าไปเหมือนกันกับช่างวาดภาพสมัยเอโดะ」
「อะฮะฮะฮะ ตลกจัง!」
ขณะที่บทสนทนาดำเนินไป ผมก็รู้สึกเหมือนน้ำหนักที่อยู่บนไหล่ค่อยๆหายไป
กับชิโนมิยะซังที่กำลังยิ้มอยู่ ไม่ได้รู้สึกว่ากำลังถูกมองเป็น 『สิ่งมีชีวิตที่แตกต่างกันออกไป』ในชั้นเรียนอย่างเคย คุยด้วยได้ง่ายมาก
「แต่ว่ามาโร่เองก็เรียกง่ายดี เราเองก็ขอเรียกว่ามาโร่ด้วยได้ไหมล่ะ?」
「เอ๋ อ-อืม」
「ขอบใจนะ ถ้างั้น หรือว่ามาโร่เองก็ได้ทำงานพิเศษด้วยรึเปล่า?」
「เอ๋?」
ผงะไปครู่หนึ่งให้กับคำถามไม่คาดคิด
「อา ก็มีอยู่」
「กะไว้แล้ว! เราเองมักจะเห็นตอนไปที่ซุปเปอร์ที่ไปอยู่บ่อยๆ ก็คิดอยู่ว่าคล้ายๆกัน」
「ห-เห๋ เป็นงั้นหรอกเหรอ」
เอาจริงดิ ไม่รู้เรื่องมาก่อนเลย ระหว่างทำงานพิเศษมันยุ่งเอามากๆ เลยไม่ได้ใส่ใจรอบข้างซักเท่าไหร่
「เพราะเห็นว่าเหงื่อไหลท่วมเลยคิดว่าคงงานหนักเอามากๆเลยทำให้เข้าไปทักลำบาก แล้วทำงานอาทิตย์ละกี่ชั่วโมงล่ะ? ไปทีไรก็เจออยู่ตลอดเลย」
「อา น่าจะวันธรรมดา 5 วันต่อสัปดาห์ ส่วนสุดสัปดาห์เองก็มีไปทำงานพิเศษที่อื่นน่ะ」
「บ้าแล้ว! ทุกวันเลย เพราะแบบนั้นถึงได้เวียนหัวน่ะสิ ทำงานหนักแบบนั้นมีอะไรที่อยากได้เป็นพิเศษเหรอ?」
「มันก็…..」
ตอนแรกคิดว่าจะตอบหลอกๆไปเหมือนตอนพวกฮิกาชิโนะ ทว่าเมื่อมองเข้าไปในดวงตาที่เปล่งประกายของชิโนมิยะซังแล้ว สิ่งที่พูดออกมากลับแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
「มีเป้าหมายอยู่นิดหน่อย ก็คงเป็นการลงทุนเพื่อการนั้นล่ะมั้ง」
「…..เป้าหมาย?」
「อา」
ผมหันกลับมา จ้องมองไปที่เพดานอย่างเลื่อนลอย
…..ทั้งชีวิตที่ผ่านมา ผมไม่เคยเลยที่จะเป็นจุดศูนย์กลางของชั้นเรียน ไม่ว่าจะชั้นประถม หรือว่าชั้นม.ต้นก็ตาม ใช้ชิวิตโดยการเฝ้ามองอยู่ตรงขอบห้องในขณะที่นักเรียนเด่นๆในชั้นส่งเสียงอึกทึก
จริงๆแล้ว ก็รู้สึกไม่พอใจ….. ซะที่ไหน มนุษย์นั้นจะกำเนิดขึ้นมาพร้อมกับคุณลักษณะบางอย่าง ตัวผมเองรับรู้มาตั้งแต่เด็กๆแล้วว่า ตัวเองไม่สามารถเป็นจุดความสนใจใดๆได้
เพราะแบบนั้น ตอนที่เห็นมินามิยาม่าสามารถเข้ากับกลุ่มเรียจูได้ จึงรู้สึกตกใจมากจริงๆ
หมอนั่นเป็นม็อบตัวประกอบไม่ผิดแน่ หน้าตาไม่ค่อยดี, ผลการเรียนก็ไม่ค่อยดี, ด้านกีฬาเองก็ไม่ค่อยดี, เรื่องที่คุยด้วยก็ไม่ค่อยน่าสนใจ, นิสัยเองก็ไปในทางแย่ด้วยซ้ำ
แต่พอกลายเป็นนักผจญภัยกลับสามารถเข้าร่วมกลุ่มเรียจูได้
ว่ากันตามตรงแล้ว คิดว่ามันสุดยอดมาก
กับพวกฮิกาชิโนะที่เห็นแบบนี้แล้วจะรู้สึกรังเกียจและโมโหต่อมินามิยาม่า ทว่าในทางกลับกัน ผมรู้สึกเคารพในตัวเขา
แน่นอนว่าโมโห แต่ในขณะเดียวกันก็เคารพเขามากที่สามารถก้าวข้ามธรรมชาติในตัวเองที่เป็นม็อบตัวประกอบได้
แล้วมันก็ทำให้รู้สึกตัว
ไม่ได้บ่นเรื่องที่เป็นม็อบตัวประกอบ แต่ว่า ใฝ่ฝันอยากจะเป็นเรียจูต่างหาก
เพราะแบบนั้นเลยตัดสินใจว่าจะพยายาม
ครั้งแรกในชีวิต ตัดสินใจผลักดันตัวเองสู่ขีดจำกัดเพื่อดูว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่
ความพยายามนั้นก็กำลังดำเนินอยู่
ขณะที่คิดอยู่แบบนั้น หนังตารู้สึกหนักขึ้นเรื่อยๆ
พยายามฝืน แต่ก็ไม่สามารถทนต่อไปได้ เพียงชั่วครู่สติสัมปชัญญะเริ่มขาดๆหายๆ
ชิโนมิยะซังเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ผมก็ไม่ได้ตอบสนองแล้วผล็อยหลับไป
———-พูดมาแบบนั้นแล้วรู้สึกเท่ดีนะ
รู้สึกเหมือนว่าชิโนมิยะซังพูดกับมาแบบนั้นในความฝัน
【Tips】อาจารย์ห้องพยาบาลสุดสวย
ไม่มีอยู่จริง ต่อให้จะมีคุณป้าพยาบาลโรงเรียนที่น่าจะเป็นสาวสวยได้ในอดีตก็ตาม แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง นักเรียนที่เคยพบเจอตอนสาวๆอยู่กลับไม่มีตัวตนอยู่เลย ในอนิเมะกับมังงะ และในหนังเองก็มักจะมีให้เห็นอยู่ จนชาวต่างชาติคิดไปว่าในญี่ปุ่นมีพยาบาลสาวสวยอยู่ในโรงเรียน แต่เอาจริงๆแล้วมันไม่มี แม้แต่ในโลกนี้เองที่เรื่องแฟนตาซีกลายมาเป็นความจริง พยาบาลโรงเรียนสาวสวยก็ยังคงสภาพเป็นเรื่องแฟนตาซีอยู่ต่อไป