ผมผ่านการวอร์มอัพที่แทบเจียนตายมาได้
ส่วนท่านอาจารย์ที่เคารพก็ยืนยิ้มอยู่ตรงหน้าผมที่กำลังนอนอยู่บนพื้น
“ฮิอิโระเนี่ย มีพลังกายไม่ค่อยเยอะสินะคะ งั้นหลังจากนี้เรามาฝึกจุดนี้เพิ่มกันเถอะค่ะ”
มันจะเกินไปแล้วนะเฟ้ย ยัยกอริลล่านี่!! ทั้งที่ฮิอิโระต้นเกมจะเด่นในเรื่องพลังกายแท้ ๆ แต่ทำไมเธอที่ออกกำลังกายเหมือนกัน ถึงไม่เหนื่อยซักนิดเลยล่ะฟะ!! ผู้พัฒนาครับ!! แก้แพตซ์หน่อยดิครับ แก้แพตซ์หน่อยเถ้อะ!!
ในขณะที่ผมกำลังนอนแผ่ หายใจหอบ จู่ ๆ ก็มีอะไรบางอย่างเย็น ๆ มาโดนตัวผม
สิ่งนั้นก็คือ สปอร์ตดริ้งค์ (เครื่องดื่มเกลือแร่)
อาจารย์ที่ยิ้มอารมณ์ดี ได้ก้มตัวลงและยิ้มให้กับผม
“พักซักหน่อย แล้วค่อยมาเริ่มบทเรียนกันนะคะ”
อาจารย์คร้าบ รักนะคร้าบ….ขอโทษที่เรียกอาจารย์ว่ากอริลล่านะคร้าบ…!!
“แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยมาต่อกันอีกรอบ”
ยัยกอริลล่า!!
เธอยกผมขึ้นมาด้วยมือเดียวและเอาผมไปส่งที่ม้านั่ง
จากนั้นอาจารย์ที่นั่งข้าง ๆ ก็จัดหัวผมที่ยุ่ง ๆ ของผมให้
“ฮึฮึ…ต่อให้จะฝึกอยู่ก็ตาม แต่ก็ควรใส่ใจเรื่องภาพลักษณ์ตัวเองด้วยนะคะ”
ไปพูดอะไรแบบนั้นให้เด็กผู้หญิงฟังเถอะนะ
ถึงจะอยากพูดอะไรแบบนั้นออกไปก็เถอะ แต่สิ่งที่ออกจากคอผมได้ตอนนี้ก็มีแค่เสียงหายใจหอบเท่านั้นแหละ
อาจจะเป็นเพราะอาจารย์คอยดูแลอยู่ก็ได้ ผมเลยเริ่มที่จะหายใจได้ตามปกติ แล้วก็เริ่มต้นบทเรียนหลังจากนั้น
“ฮิอิโระตัดสินใจฝึกธาตุ [แสง] ที่ตัวเองเลือกสินะคะ?”
“อืม…บอกตามตรงก็รู้สึกกังวลอยู่เหมือนกัน”
ธาตุ…หรือจะให้พูดก็คือ ค่าพลังธาตุ
พลังกาย กล้ามเนื้อ พลังเวทย์ สติปัญญา และความว่องไว ทั้งหมดล้วนเป็นค่าพลังพื้นฐาน และนอกจากนั้นก็ยังมีค่าพลังธาตุที่จะส่งผลต่อการเปิดใช้งานหรือผลของเวทมนตร์ด้วย
ซึ่งธาตุนั้นก็จะเป็นแบบที่เห็นได้ทั่วไปเลย
ดิน น้ำ ลม ไฟ แสง ความมืด และไร้ธาตุ
คอนโซลนั้นมีทั้งหมด 6 ธาตุด้วยกัน ดิน น้ำ ลม ไฟ แสง และความมืด
ถ้าใส่คอนโซลตรงตามธาตุ ก็จะสามารถเปิดใช้งานเวทย์ของธาตุนั้นหรือเพิ่มค่าพลังธาตุได้ และถ้าใช้เวทย์โดยที่ไม่ได้ใส่คอนโซลไหนเลยใน 6 ธาตุนี้ ค่าพลังของไร้ธาตุก็จะเพิ่มขึ้น
เอ๊ะ? ถ้างั้นก็เพิ่มพลังให้ไร้ธาตุไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ?
ก็คงงั้นแหละ เพราะผมเองก็คิดงั้นเหมือนกัน
แต่ทว่า ธาตุที่อ่อนแอที่สุดในเกมนี้ มันกลับเป็นไอ้เจ้าไร้ธาตุนี่แหละ
ถ้าจะให้พูดก็คือธาตุทั้ง 6 (ดิน น้ำ ลม ไฟ แสง ความมืด) นั้น จะเพิ่มค่าพลังที่ตรงตามธาตุตอนที่เปิดใช้งาน ส่วนไร้ธาตุจะมีค่าพลังที่คงที่ หากไม่ได้ใช้พลังไร้ธาตุ
พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าพลังกับธาตุตรงกัน ก็จะสามารถสร้างได้เมจได้เป็น 2 เท่า ในขณะที่ไร้ธาตุนั้น ค่าพลังจะคงที่หากใช้พลังที่ไม่ตรงตามธาตุ ซึ่งจะสร้างดาเมจได้แค่ 0.2 เท่า เท่านั้น
แถมค่าคงที่นั่นก็โคตรจะขี้งกเลย นั่นก็เพราะต่อจะใช้เวลาฝึกแทบตาย สุดท้ายก็ได้ค่าพลังไม่เท่ากับการใช้พลังที่ตรงธาตุอยู่ดี
เพราะงั้นแล้ว อย่างไร้ธาตุน่ะ ใช้เป็นแค่ตัวเสริมก็พอแล้ว
อย่างเช่นพวกเสริมพลังกาย บาเรียเวทย์ เสริมพลังอาวุธ (เอนชานท์) อะไรแบบนี้…แล้วก็ให้เป็นไร้ธาตุไว้ช่องนึง ก็คงจะใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับการปรับแต่งอุปกรณ์เวทย์ล่ะนะ
เพราะแบบนี้เลยต้องเพิ่มพลัง 1 ในธาตุทั้ง 6 ให้มากขึ้นหลังจากนี้น่ะนะ
ตัวดาบคุกิ มาซามุเนะนั้น ใส่คอนโซลแสงมาตั้งแต่แรกแล้ว
อาจเป็นเพราะแบบนี้รึเปล่านะ เจ้าฮิอิโระในเกมเลยใช้เวทย์แสงได้ทั้งที่ทำตัวอวดดี…ไม่สิ ไปตายซะไป อย่างนาย…คนอย่างนายน่ะ มันไม่ควรที่จะต้องใช้เวทย์แสงสิ ถึงคนที่อยู่ท่ามกลางยูริอย่างนายมันควรเป็นธาตุมืด แต่อยากให้ไร้ธาตุไปเลยไม่ต้องใช้อะไรได้ทั้งนั้นจะดีกว่า(ของขึ้น)
เอาล่ะ แล้วที่นี้ผมควรจะฝึกธาตุอะไรดีล่ะ?
ตามทฤษฎีในโลกเอสโก้แล้ว ก็ควรจะมีความเชี่ยวชาญซัก 1 อย่าง หรือไม่ก็ 2 แยกเป็นธาตุหลักกับธาตุย่อย…แต่เอาเป็นว่าตอนนี้ผมยังไม่อยากจะตายเหมือนกับฮิอิโระน่ะนะ เพราะงั้นก็ควรจะเลี่ยงธาตุแสงไปก่อน แล้วควรฝึกอีกธาตุล่ะนะ
“สำหรับฮิอิโระน่ะ คิดว่าฝึกแสงไว้ก็น่าจะดีนะคะ”
“ครับ?”
ในขณะที่ผมกำลังคิดเรื่องนี้อยู่ในหัว จู่ ๆ ก็มีคำแนะนำที่ไม่คาดคิดส่งมาให้ผม
“ไม่สิ ทำไมงั้นล่ะ?”
“ดาบและธาตุแสงนั้นเข้ากันได้เป็นอย่างดีจนน่าตกใจเลยน่ะค่ะ ถ้ารวมเข้ากับวาร์ปด้วยแล้วล่ะก็ จะสามารถเคลื่อนที่ความเร็วแสงได้ด้วย”
ไม่ล่ะ แบบนั้นพลังเวทย์ไม่พอหรอกนะครับ ไอ้แบบนั้นน่ะ มีแต่คุณแหละครับที่ทำได้น่ะ
แล้วมันก็เพราะเป็นคุณหรอกนะครับถึงใช้สูตรโกงอย่างเคลื่อนที่ความเร็วแสงในเกมนี้ได้น่ะ
“แต่พอดีว่าผมไม่ชอบแสงน่ะ–“
“แล้วธาตุรองเอาเป็นอะไรดีล่ะคะ? มีคิดไว้บ้างรึเปล่าคะ?”
ยะ…ยัยคนนี้…!!
ราวกับจะแสดงว่านี่คือสิทธิ์ของความเป็นครู แอสเทมีร์เลยยิ้มแล้วก็เข้ามาใกล้ผม
ผมไม่รู้ตัวเลยว่าทำไมถึงเข้ามาใกล้ได้ขนาดนี้ บางทีผมคงจะคิดเกี่ยวกับการเลือกธาตุเยอะไปหน่อยจนลืมดูรอบข้างก็ได้
“น้ำดีมั้ยนะ”
“ทำไมล่ะคะ?”
“ก็น้ำมันเข้ากับธาตุอื่น ๆ ได้ง่ายนี่นา? แต่ก็นะ ถ้าคิดถึงการผสมธาตุอื่น ๆ ก็ควรจะทิ้งสล็อตที่ 3 ของคุกิ มาซามุเนะไปอยู่หรอก…แต่ถ้าคิดถึงอนาคตแล้ว น้ำคงจะเหมาะที่สุดแล้วล่ะ”
“ฮิอิโระนี่ เลือกได้ดีเลยนะคะ เก่งมาก ๆ”
“การลูบหัวแบบนี้น่ะ ช่วยไปทำกับลาพิสแทนเถอะ…อ๊ะ แล้วถ้าจะทำก็เรียกผมด้วยนะ…เอ้ย ไม่ใช่สิ”
ผมพูดต่อไปโดยไม่สนใจอาจารย์ที่กำลังลูบหัวอยู่
“ผมมีความคิดที่จะใช้อย่างอื่นนอกจากดาบด้วยน่ะนะ…ช่วยสอนการยิงธนูให้ผมหน่อยได้มั้ย?”
“ธนู?”
แอสเทมีร์หยุดมือไปด้วยความตกตะลึง
“ธนูธรรมดาเหรอคะ? หรือว่าเป็นอุปกรณ์เวทย์?”
“ธนูธรรมดาน่ะ พอดีผมวางแผนที่จะใช้คุกิ มาซามุเนะไปอีกซักพักเลย จากพลังเวทย์ของผมแล้วคงใช้อุปกรณ์เวทย์พร้อมกัน 2 อย่าง ไม่ได้แน่ ผมเลยอยากที่จะเรียนวิธีการยิงธนูธรรมดา เพื่อที่จะทำให้โจมตีระยะกลางได้ด้วย”
แอสเทมีร์ยิ้มด้วยความภูมิใจ
“งั้นเรามาเรียนวิชาดาบไปพร้อมกับการยิงธนูกันเถอะค่ะ ถึงจะทำได้ดีอยู่แล้วในแบบของตัวเองก็เถอะ แต่ทักษะในการใช้ดาบของฮิอิโระนั้นก็ยังถือว่าแย่อยู่ค่ะ เดิมทีแล้วการวิ่งเพื่อเพิ่มพลังเวทย์นั่นก็อยู่ในระดับที่จะทำให้แข็งแกร่งขึ้นได้อยู่แล้ว…แต่ก่อนอื่นก็คงต้องมาปรับตารางการฝึกกันใหม่ก่อนล่ะนะคะ”
“แจ๋ว!! ถ้าตัดสินใจกันได้แล้วล่ะก็ ก่อนอื่นเราก็กลับไปที่บ้านพักของตระกูลซันโจแล้วก็ประชุมแผนกันครับ!! มัวรอช้าอยู่ไย!! รีบกลับกัน–“
หมับ
ผมถูกจับไหล่
พอผมหันกลับไปก็เห็นอาจารย์ยืนยิ้มอยู่
“การฝึกวันนี้ยังไม่จบเลยนะคะ…?”
“จึ๋ย!?”
“ชักดาบออกมาค่ะ…จนกว่าจะตัดสินตารางการฝึกได้ ก็จะต้องฝึกฝนการต่อสู้ที่แสนสนุกค่ะ…ฮึฮึ พรสวรรค์นี้น่ะ ฉันจะต้องปั้นมันให้ได้เลยล่ะค่ะ…”
“เอ่อ…วันนี้คงไม่ไห–“
หลังจากตอนนั้น ผมก็โดนกระทืบหยั่งหมาเลยล่ะครับ
ผมแยกทางกับอาจารย์ที่บอกว่ามีเรื่องต้องทำ
จากนั้นก็เดินกลับไปยังบ้านพักตระกูลซันโจแบบมึน ๆ
“ก่อนอื่นมันก็ต้อง…อาบน้ำก่อนนี่แหละ อาบน้ำก่อน…อย่างล้างเลือด ล้างเหงื่อ ล้างสิ่งสกปรกจะแย่อยู่แล้ว…ถ้ายังฝึกต่อละก็ คงได้ตายแหง…”
พอผมกลับมาถึงบ้านพัก ผมก็เข้าไปในสนามฝึกซ้อมแล้วก็เข้าไปห้องอาบน้ำ
ด้วยความมึนหัว ผมจึงรีบถอดเสื้อผ้าและเปิดม่านห้องน้ำเข้าไปโดยที่ไม่ได้ดูอะไรเลย
“……”
“……”
ที่ตรงนั้นมีลาพิสที่กำลังยืนเปลือยอยู่
เธอหันมามองที่ผมพร้อมกับปากที่สั่นระริก
“……”
ผมเผลอมองผิวของเธอที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“วะ…”
เธออ้าปากขึ้น
“ว้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!”
ครับ ๆ เกมลามกครับ เกมลามก (ตรัสรู้แล้ว)