ตอนที่ 8 หมู่บ้านต้องสาป อิสรัน (3)

ตัวของผมในต่างโลก…. แม่งบ้า!!!

นานมาแล้ว ตระกูลของเราเป็นเพียงแค่เอล์ฟกลุ่มหนึ่งที่มีสมาชิกเพียงไม่กี่สิบคน

 

 

บรรพบุรุษของเรามีชื่อว่าโกรุม เป็นน้องชายของชายที่มีชื่อว่ากอร์ เพียงแต่พวกเขานั้นไม่ได้เป็นพี่น้องกันโดยกำเนิด กอร์นั้นเป็นมนุษย์ ส่วนโกรุมนั้นเป็นไฮเอล์ฟ

 

 

ตามตำนานกล่าวเอาไว้ว่าถึงแม้กอร์จะเป็นเพียงมนุษย์ แต่เขานั้นกลับถือครองพลังที่แข็งแกร่งเหนือมนุษย์ สิ่งนั้นคือสกิลโดยกำเนิด จุติ ความลับของสกิลนั้นไม่มีใครรู้ ตามจดหมายเหตุที่ชาวสวรรค์คนหนึ่งบันทึกไว้เมื่อก่อน สกิลจุตินั้นคือกุญแจ ที่ทำให้กอร์นั้นสามารถหยุดยั้งมหาสงครามในกลียุคได้ เขาต่อต้านทุกฝ่าย ตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับเหล่าราชาของแต่ละดินแดน

 

 

เขาฆ่าล้างกองทัพในมหาสงคราม จนผืนดินแปรเปลี่ยนเป็นมหาสมุทรสีแดงฉาน ที่เต็มไปด้วยกองศพบนผืนแผ่นดินนี้ ไม่ว่าจะเป็นชาวสวรรค์ ปีศาจ มนุษย์ คนแคระ เผ่ามนุษย์สัตว์หรือครึ่งมังกร นั่นทำให้กอร์ถูกมองว่าเป็นอาชญากรที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลก

 

 

ทว่า สิ่งที่เขาได้ทำลงไปทั้งหมดนั้นก็เพื่อน้องชายเพียงคนเดียวของเขา

 

 

โกรุมนั้นเกลียดสงคราม แม้ว่าจะเป็นชายที่แข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่งในยุคนั้น และมีชีวิตมาจนถึงปัจจุบัน เขาก็ยังเกลียดสงครามอยู่เสมอ และเขาก็ยังรักพี่ชายของเขามาก เขาอยากที่จะ.. ให้พี่ชายของเขาเลิกยุ่งเกี่ยว กับสงคราม

 

 

เมื่ออาชญากรที่เลวร้ายที่สุด ได้ทำสิ่งที่ตนต้องการสำเร็จ นั่นก็คือการหยุดสงคราม ถึงวิธีการของเขาจะไม่ใช่เรื่องที่สามารถให้อภัยได้ แต่กอร์.. ก็ทำทั้งหมดเพื่อน้องชายของเขา

 

 

โกรุมไม่ได้ดีใจที่พี่ชายของตนฆ่าล้างเหล่ากองทัพทั้งหลาย ทันทีที่กอร์กลับมาถึงที่ที่เรียกว่าบ้านพร้อมร่างกายที่โชกไปด้วยเลือด น้องชายของเขาทำท่าทีที่รังเกียจเขา เพียงแค่เขานั้นไปฆ่าผู้คนมามากมาย แต่นั่นเป็นเรื่องที่เขาใจได้เพราะคงจะไม่มีใครที่อนากจะให้พี่น้องของตนมือเปื้อนเลือดหรอก

 

 

โกรุมผู้เป็นหัวหน้าหมู่บ้านในขณะนั้นขับไสไล่ส่งกอร์ออกจากหมู่บ้านของเอล์ฟไป ถึงเขาจะรู้สึกผิดต่อพี่ชายสักเท่าไรแต่เรื่องนี้เขาก็ทำเพื่อหมู่บ้านของเขาเช่นกัน เขาจะทำให้ลูกบ้านไม่สบายใจไม่ได้ที่มีผู้ที่ถูกเรียกว่าอาชญากรที่เลวร้ายที่สุดอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน

 

 

กลับกันนั้นกอร์ไม่ได้รู้สึกเสียใจหรืออะไรเลย เขาเข้าใจน้องชายของตนที่ต้องทำหน้าที่ให้สมกับที่เป็นหัวหน้า เขายิ้มและยอมออกไปจากหมู่บ้านแต่โดยดี เหล่าลูกบ้านที่เห็นเหตุการณ์เหล่านั้นพวกเขาเองก็รู้สึกผิดต่อกอร์เช่นกัน

 

 

กอร์ เขาเป็นคนที่รักเพื่อนพ้องอย่างมาก เขาดูแลลูกบ้านแทนโกรุมที่ติดงานอยู่เสมอ เข้าใจดีถึงปัญหา และแก้ปัญหาที่ผิดใจกันของพวกลูกบ้านได้เป็นอย่างดี นั่นจึงทำให้เขาเป็นที่รักของเหล่าเอล์ฟ แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงมนุษย์ก็ตาม

 

 

หลังจากที่กอร์ออกไปจากหมู่บ้านหลายวัน เวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆ 1 เดือน 3 เดือน 6 เดือน หรือแม้กระทั่ง 1 ปีมาแล้วเขาก็ยังคงไม่กลับมาที่หมู่บ้าน 

 

 

จน มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งแนะนำให้โกรุมออกตามหาตัวพี่ชายของเขา เพื่อที่จะได้คืนดีกัน 

 

 

วันและเวลาผ่านไปจนแล้ว.. ก็มาจบที่อยู่ที่ต้นไม้โลก 

 

 

เป็นเวลากว่า 30 ปีที่เขาใช้เวลาในการตามหาตัวพี่ชายของเขา 

 

 

ใต้โพรงของต้นไม้โลกมีทางลับอยู่ เป็นทางลับที่เชื่อมไปถึงจุดสิ้นสุดของโลก หรือก็คือ เดอะลาสต์โฮลเดอร์ ที่เป็นที่พำนักของเหล่าภูติทั้งหลาย

 

 

โกรุมเข้ามายังลาสต์โฮลเดอร์แห่งนี้ ได้พบเข้าศาสตราเโลหิตเหล็กเทวะที่เป็นอาวุธของพี่ชายของตน ลอยอยู่ท่ามกลางเหล่าภูติระดับสูงที่ตั้งใจปกป้องมันเอาไว้ และใต้ต้นไม้ต้นเดียวที่ตั้งตระหง่านอยู่ ก็มีโครงกระดูกอยู่โครงหนึ่ง.. มันคือศพของพี่ชายของเขา

 

 

โกรุมไม่เคยคิดเลยว่าการที่เขาไล่พี่ชายผู้อุปการะตนมาตั้งแต่ยังเด็กออกจากหมู่บ้านในวันนั้น จะเป็นวันสุดท้าย ที่เขาได้เห็นหน้าของพี่ชาย เมื่อ 30 ปีก่อน ในตอนนั้นพวกเขาไม่แม้แต่จะได้คุยกันด้วยซ้ำ

 

 

นั่นทำให้เกิดเป็นแผลใจ ที่พี่ชายของเขาถูกพรากจากไป ด้วยตัวของเขาเอง

 

 

จากตอนนั้นมาโกรุมได้ย้ายหมู่บ้านมาตั้งอยู่ในตำแหน่งของต้นไม้โลกเพื่อที่เขาจะได้อยู่ใกล้ชิดกับพี่ชายของเขา และเพื่อปกป้องอาวุธสุดล้ำค่าที่เป็นเพียงสิ่งเดียวที่เขาเหลือเอาไว้ให้เป็นของดูต่างหน้า

 

 

“ตั้งแต่นั้นมา.. ตระกูลของแม่ก็เติบโตมาตลอด 2พันปีในตอนนี้แม่ก็ออกมาจากตระกูลแล้ว แต่ก็ยังจำเรื่องพวกนี้จากคุณทวดได้ไม่ลืมเลย ”วิเวียน

 

 

ท่านแม่เล่าไปพลางน้ำตาคลอไป มันเป็นเรื่องราวที่น่าเศร้าสำหรับสองพี่น้อง สำหรับฉันมันดูเศร้าก็จริง แต่ไม่มากพอที่จะทำให้ฉันร้องไห้ได้ ส่วนพานาร์นั้น… ร้องไห้ราวกับคนรักถูกพรากไปเลยล่ะ

 

 

แต่มันก็แปลกแฮะ ทั้งๆที่ท่านกอร์เขาเป็นแค่มนุษย์แต่เขากลับสามารถรับการโจมตีจากทุกฝาย และสวนกลับไปอย่างรุนแรงได้ เป็นคนที่.. น่าหวาดกลัวสุดๆไปเลยแฮะ

 

 

“ ท่านแม่คะ หนูมีคำถามค่ะ ”เมเดียร์

 

 

ฉันยกมือขึ้นระดับบ่า โดยที่สีหน้าในตอนนี้เป็นสีหน้าปกติที่ไม่ได้มีน้ำตาแม้แต่นิดเดียว

 

 

“ ว่าไงจ๊ะ? ถามแม่มาได้เลย ”วิเวียน

 

 

“ ท่านทวดของทวดนี่.. ใช่ท่านโกรุมรึเปล่าคะ? ”เมเดียร์

 

 

ฉันคาดหวังคำตอบจากคุณแม่ แม้ว่าเอล์ฟจะมีอายุที่ยืนยาวแต่ฉันก็ไม่ได้คิดว่าท่านจะอายุยืนถึงขนาดนั้น 

 

 

คุณแม่ครุ่นคิดอยู่พักนึง ก่อนจะตอบคำถามฉัน คำตอบนั้นทำฉันอึ้งไปเลย

 

 

“ ใช่จ้ะ! แหม~ ลูกแม่นี่ฉลาดจังเลยนะ ท่านทวดน่ะ ปัจจุบันก็ยังแข็งแรงดีอยู่นะจ๊ะเมเดียร์ ”วิเวียน

 

 

“ เหลือเชื่อเลยค่ะ… ”พานาร์

 

 

เอล์ฟจาก.. กลียุคที่เป็นต้นตระกูลของฉัน.. ยังมีชีวิตอยู่!

 

 

“ น้องชายของท่านกอร์ ยังมีชีวิตอยู่ล่ะจ้ะ! ”วิเวียน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เช้าแล้วแฮะ ”

 

 

ผมเปิดม่านมองออกไปนอกหน้าต่าง แสงแดดที่สาดเข้ามาภายในห้องเป็นสัญญาณที่บอกว่ารุ่งอรุณได้มาถึงแล้ว ซึ่ง…ถ้าจำไม่ผิด ตอนเช้าผมจะสามารถออกไปจากที่นี่ได้

 

 

แต่ตอนนี้ผมยังไม่อยากออกไปสักเท่าไหร่ เพราะผมต้องช่วยเหลือครอบครัวที่น่าสงสารนี้ให้รอดพ้นจากคำสาปของหมู่บ้านก่อน เมื่อคืนคุณอลันต้มยาที่ทำจากเห็ดอีซ่าร์ให้ภรรยากับลูกสาวของเขาแล้ว แม้ว่าเห็ดนี่จะเป็นเห็ดปาฏิหาริย์แต่คงต้องใช้เวลาสักวันกว่าจะหายดี

 

 

ผมปล่อยมือจากม่าน ก่อนจะเปิดห้องเดินลงไปชั้นล่าง ซึ่งคุณอดัมกับนาร์ทำอาหารอยู่ที่เคาท์เตอร์

 

 

“อรุณสวัสดิ์ครับคุณอลัน ”

 

 

ผมทักทายพวกเขาในยามเช้า เขาตอบรับด้วยความสดใส 

 

 

ในตอนนี้พวกเราต้องทิ้งเรื่องเมื่อคืนไปก่อน ไม่งั้นเราจะไม่เป็นอันทำอะไรเนื่องจากอาการแพนิค

 

 

“ อรุณสวัสดิ์ครับคุณนักเดินทาง! จริงสิ! ผมชื่อนาร์ สปริงส์ครับ! ปีนี้ผมอายุได้ 15 ปีแล้วล่ะครับ! ”นาร์

 

 

ทั้งๆที่เขาอายุเพียง 15 แต่กลับมีร่่างกายที่สมส่วนและล่ำเกินกว่าที่เด็กอายุ 15 จะทำได้ ตอนนี้ผมแทบไม่เชื่อเลยล่ะว่าเขาจะอายุน้อยกว่าผมเพียง 2 ปี

 

 

เขายังบอกว่าเขาเป็นนักล่าวีโกร์ฟ แสดงว่าเขาต้องจิตแข็งมากแน่ๆไปต้องไปล่าเจ้าตัวแบบนั้นในทุกๆคืน

 

 

“ ผมอัลเลียน ยินดีที่ได้รู้จักครับ ”

 

 

เพื่อให้สะดวกกับทางผม ผมจะไม่ใช่ชื่อตระกูลเพราะกลัวว่าพวกเขาจะทำตัวไม่ถูกเวลาพูดกับผม

 

 

“อาหารเช้าวันนี้เป็นเนื้อฟิชบอร์ย่างเนย กับมันบดครับ ”อลัน

 

 

ดูจากชื่ออาหารแล้วคงจะเป็นสเต็กอะไรสักอย่าง แต่ที่ทำให้ผมสนใจคือมันบด ตั้งแต่เมื่อโลกก่อนแล้วผมชอบกินมันบดมากๆ เพราะมันโคตรอร่อย!

 

 

อาหารเช้ามาเสิร์ฟพร้อมกับน้ำซอสในถ้วยชา เป็นอะไรที่แปลกใหม่ดีสำหรับผมสำหรับตัวเนื้อ เป็นเนื้อย่างเนยที่ย่างมากำลังดีแบบมิเดียมแรร์ กลิ่นเนื้อจะให้อารมณ์แบบปลาแซลม่อนผสมกับเนื้อวัว

 

 

ดูดีๆแล้วจะเห็นว่าลายเนื้อย่างนี้จะแทรกมันอยู่พอประมาณ 

 

 

ผมใช้ซ้อมช้อนที่คุณอลันให้มาตักน้ำซอสที่เสริ์ฟพร้อมกันเพียงนิดเดียวมาชิม 

 

 

มันให้รสชาติที่แปลกใหม่สำหรับผมอย่างมาก มันเหมือนกับซอสเกรวี่ที่ทานกับสเต็กทั่วไป เพียงแต่ว่าความเข้มข้นของน้ำซอสและความสดชื่นที่ปลายลิ้นนั้นมันน่าเหลือเชื่อสุดๆ

 

 

หรือว่าบางที วัตถุดิบที่ใช้ทำซอสชนิดนี้อาจจะมีส่วนผสมของเห็ดชนิดพิเศษอย่างอีซ่าที่เก็บมาได้เมื่อคืนก็ได้

 

 

“ เนื้อล่ะ.. ”

 

 

ส่วนตัวของเนื้อมัน.. มันให้ความสดชื่น สดใหม่ของปลาแซลม่อน อีกทั้งยังมีรสชาติและความหนักแน่นของเนื้อวัว ขณะที่ความเหนียวกำลังดีนี่เป็นของหมูป่า ความอร่อยของสัตว์ทั้งสามชนิดมารวมกันอยู่ในคำ คือแบบ กินทีนี่ผมแทบจะขึ้นสวรรค์เลยล่ะ

 

 

“อร่อยมาก!! ”

 

 

ผมพูดออกมาได้เต็มปากเลยว่า อร่อย! มันไม่เกินจริงเลยสักนิด

 

 

“ ฮ่าๆ มันเป็นเมนูขึ้นชื่อของที่นี่น่ะครับ มีเพียงแค่ที่นี่ที่เดียวเพราะเห็ดอีซ่าร์จะหาได้แค่ที่นี่ กับป่าปีศาจทางใต้ก็เท่านั้นน่ะครับฮ่าๆๆ ”อลัน

 

 

เป็นครั้งแรกเลย ที่ผมได้ลิ้นรสชาติของอาหารที่ใส่ใจคนทานแบบนี้ แม้อาหารในคฤหาสน์จะอร่อยถูกใจก็จริง แต่สำหรับอาหารที่ทำด้วยใจรักที่จะทำมันแล้วนั้น มันต่างกันลิบลับเลยล่ะ

 

 

หลังจากนั้นผมก็ใช้เวลาในการทานอาหารไปอีกสักพัก

 

 

..

 

 

พอกินเสร็จแล้ว ผมไม่ได้คิดที่จะออกไปในวันนี้ เพียงแต่ผมต้องการที่จะสำรวจป่าต้องห้ามข้างหลังโรงเตี๊ยมนี้ในตอนกลางวัน  เพื่อหาต้นตอของคำสาปและสถานที่ที่คาดว่าลอกอชจะซ่อนตัวอยู่ บางทีมันอาจจะกำลังรอพวกผมอยู่ก็ได้ ใครจะรู้

 

 

“คุณอัลเลียนครับ ”นาร์

 

 

“หืม ว่าไง? ”

 

 

“รีบหน่อยก็ดีนะครับ เพราะวันนี้กลางวันจะสั้นมากกว่าเดิม 2 เท่าเลย และกลางคืนจะยาวนานกว่าเดิม 2 เท่า ”นาร์

 

 

“ทำไมเป็นแบบนั้นล่ะ ”

 

 

“ ทุกๆวันก่อนคืนจันทร์สีเลือด กลางวันจะสั้นลงมากๆเลยครับ และเพราะคืนนี้.. จะเกิดบลัดมูนขึ้น ..มันอันตรายมากนะครับ! ได้โปรดกลับมาก่อนกลางคืนนะครับคุณอัลเลียน! ”นาร์

 

 

เหมือนว่าพอจบคืนเดือนมืดไปปุ๊บ ก็จะเข้าบลัดมูนทันทีเลยสินะเนี่ย

 

 

“ อืม! แต่ก่อนหน้านั้น.. ฉันคงต้องช่วยซ่อมโรงเตี๊ยมก่อนน่ะนะ.. ฮ่ะฮ่ะ ”

 

 

ผมมองภาพโรงเตี๊ยมที่มีรูโหว่อยู่บนกำแพงแล้วก็รู้สึกใจหวิวๆยังไงก็ไม่รู้ แบบ.. บ้านไม่ครบองค์ประกอบแล้วมันน่ากลัวอ่ะ

 

 

“ ไม่ต้องหัวเรื่องนั้นหรอก เดี๋ยวผมจัดการเอง ”อลัน

 

 

คุณอลันเริ่มร่ายเวท พวกเศษไม้ต่างๆที่กระจัดกระจายอยู่มาเริ่มตัวกันก่อร่างสร้างเป็นกำแพง เสร็จภายในไม่กี่นาที

 

 

“จะทำให้ มันแข็งแรงขึ้นต้องใช้เวลาด้วย เพราะงั้นคุณไปสำรวจที่ป่าอย่างสบายใจได้เลยครับ ”อลัน

 

 

ผมพยักหน้าให้เขา แล้วหยิบดาบปราบปีศาจเมื่อคืนออกไปด้วยเพื่อความปลอดภัย ผมจะมัวรีรอชักช้าอยู่ไม่ได้ตอนนี้มันนานมากแล้ว ผมจะต้องกลับมาที่นี่ก่อนบลัดมูน ไม่งั้นหลงแน่

 

 

 

 

 

เช้าแล้ว

 

 

“ เกี่ยวกับบี๋น่ะจ้ะ ”วิเวียน

 

 

“มีอะไรหรอคะแม่? ”เมเดียร์

 

 

อยู่ๆแม่ก็พูดถึงเรื่องของบี๋ ทันทีที่ฉันกับพานาร์กำลังจะลุกออกจากโซฟาที่กำลังนั่งอยู่ ได้ยินดังนั้นฉันกับพานาร์จึงนั่งลงต่ออีกสักหน่อยเพื่อฟังเรื่องที่แม่จะเล่า

 

 

“ คือแม่.. รู้เรื่องตั้งแต่แรกอยู่แล้วน่ะ ลูกคงจะรู้อยู่แล้วว่าแม่มีสกิลที่สามารถรู้อนาคตได้และยังเป็นระดับ EX ด้วย แม่เลยรู้เรื่องที่เขาจะมาที่นี่ และเรื่องหลังจากนี้ด้วย ..ซึ่ง เขาจะได้พบกับอันตราย ”วิเวียน

 

 

เมื่อแม่ได้พูดแบบนั้นออกมาใจฉันก็เริ่มหวิวๆ หวั่นใจว่าบี๋จะเป็นอะไรรึเปล่า.. 

 

 

“ทำไมแม่ไม่ห้ามเขาไม่ให้ออกไปล่ะ! ”เมเดียร์

 

 

“แม่ฝืนชะตาไม่ได้หรอก ถึงแม่จะรู้อยู่แก่ใจแล้วว่ามันจะเกิดขึ้น แม่ก็ห้ามไม่ให้ลูกชาย จะไปค้นหาตัวตนของตนเองเมื่อชาติที่แล้วได้หรอก ”วิเวียน

 

 

“ แม้ว่ามันจะไม่มีอะไรเหลืออยู่ข้างนอกนั่นแล้วน่ะนะแม่? แม่บ้าป่ะเนี่ย! ถ้ารู้ว่ามันจะอันตรายขนาดนั้นหนูก็คงห้ามเขาไปแล้ว!! ”เมเดียร์

 

 

ที่ฉันพูดแบบนั้นออกไป เป็นเพราะฉันเป็นห่วงความปลอดภัยของตัวฉันอีกคนหนึ่ง แม้ว่าเขาจะมีสกิลที่ดีเลิศเพียงใด หากพบกับพวกที่มีอาร์ติแฟกส์ยับยั้งสกิลล่ะก็.. จบไม่สวยแน่

 

 

ถ้ารู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก ฉันก็คงไม่ให้เขาออกเดินทางไปนานแล้ว

 

 

“ หึ! ”เมเดียร์

 

 

“เดี๋ยวสิเมเดียร์!! ”พานาร์

 

 

ฉันโมโหแม่มากที่ไม่บอกเรื่องนี้ตั้งแต่แรก จึงได้ลุกขึ้นออกจากห้องพร้อมกับปิดประตูเสียงดัง ส่วนคุณแม่ก็ทำได้แต่เพียงมองตามฉันมาอย่างเศร้าใจ

 

 

พานาร์เองก็รีบตามฉันออกมาทันที ก่อนที่จะได้ออกจากห้องเธอเคารพคุณแม่แล้วรีบตามฉันมา

 

 

ที่เรื่องมันเป็นแบบนี้ เพราะแม่ไม่บอกถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับบี๋ในอนาคต ฉันเองก็.. คงจะไม่สามารถช่วยอะไรได้ หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา นั่นทำให้ฉันนึกโกรธตัวเองด้วย ที่ไม่ห้ามเขาไว้ตั้งแต่แรก

 

 

“ เป็นแบบนี้จนได้สินะ เมเดียร์ ”วิเวียน

 

 

“ พวกคุณก็รู้หนิ ว่าฉันมีสกิลของเทพพยากรณ์ที่มีแรงก์ระดับ EX ”วิเวียน

 

 

ขณะที่วิเวียนยืนอยู่นั้น อยู่ๆเธอก็พูดอะไรบางอย่างขึ้นมาก

 

 

“ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมฉันถึงยอมรับลูกชายตัวน้อยจากต่างมิติของฉันอย่างง่ายดาย ”วิเวียน

 

 

“ เพราะฉันรู้ว่าเขาจะไม่เป็นอันตรายอะไรกับครอบครัวของเราแน่นอน และอนาคตที่ฉันสามารถมองเห็นได้นั้น มีความน่าเชื่อถือถึง 99.99% เลยยังไงล่ะ ”วิเวียน

 

 

เธอเริ่มหันกลับมามองด้านหลังอย่างช้าๆ ราวกับว่าเธอกับลังพูดกับคนอ่านอยู่ อีกอย่างคือ.. ดวงตาสีแดงทับทิมของเธอกำลังเรืองแสงอยู่ ราวกับว่าเธอกำลังใช้งานสกิลของเธออยู่เลย

 

 

“และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ว่าทำไม ฉันถึงรู้ ว่าพวกคุณทั้งหลาย กำลังดูพวกเราอยู่.. ”

 

 

คุณแม่วิเวียนยิ้มขึ้น ก่อนจะจีบชายกระโปรงขึ้นมาราวกับว่ากำลังทักทาย

 

 

“ อรุณสวัสดิ์ค่ะทุกท่าน ดิฉันวิเวียน ไกอา เจเนซิส ยินดีที่ได้พบ ผู้อ่านทุกคน ”วิเวียน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตัดจบตอน

 

 

 

เทพพยากรณ์ EX 

-สามารถมองเห็นอานาคตที่มีความแน่นอนสูง สามารถอ่านดวงชะตาของใครก็ได้ที่เจ้าของสกิลต้องการ

สำคัญที่สุด… คือ Break the 4th wall