คืนนึงผ่านไปตั้งแต่เหตุการณ์การจับตัวประกันของฟาร่าซัง
หลังจากตอนนั้น ฟาร่าซังก็โดนควบคุมตัวไปที่ศาลสูง ตัวชั้นให้การว่า”คนๆนี้เป็นผู้บริสุทธิ์ค่ะ”ไป อย่างน้อยก็คิดว่าเธอคงไม่โดนประหาร
ถ้าชั้นเงียบไว้ล่ะก็ คนพวกนั้นก็คงจะไม่สนด้วยซ้ำว่าเธอโดนควบคุมอยู่หรือเปล่า ยังไงก็โดนโทษถึงตายแน่นอน ไม่รู้หรอกนะว่ามันมีอยู่ในกฏหมายรึเปล่า แต่การพยายามฆ่าเซนต์น่ะเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรงขนาดนั้นเลยนั่นแหละ เออ ถึงชั้นจะเป็นตัวปลอมก็เถอะนะ
ถ้าชั้นโดนจับได้ว่าเป็นของเก๊ล่ะก็ คงได้ขึ้นแท่นประหารหัวสุนัขในบัดดลเลยนั่นแหละ
แล้วก็นะ ตั้งแต่ที่ชั้นกลับมาถึงปราสาท ชั้นก็โดนพวกองครักษ์กับครูฝึกบ่นจนหูชาเลย
ก็พอเข้าใจได้นะ ถ้าชั้นผลุนผลันออกไปตายล่ะก็ พวกองครักษ์ที่มีหน้าที่ปกป้องชั้นก็จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ อาจจะเสียงานและถูกตีตราว่าเป็นพวกไร้ค่าได้
จะโดนบ่นก็คงช่วยไม่ได้
เผื่อไว้ก่อน ชั้นได้เขียนพินัยกรรมทิ้งไว้แล้วว่าพวกผู้ติดตามของชั้นจะไม่ต้องรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้นและไม่มีส่วนรู้เห็นที่ชั้นเป็นตัวปลอม ชั้นซ่อนพินัยกรรมฉบับนั้นไว้ในลิ้นชักที่ห้องแล้ว ล็อกไว้อย่างดีเลย
ถ้าเตรียมตัวไว้ดี ก็ไม่มีอะไรต้องห่วงมากนัก
มีสุภาษิตต่างชาติแบบนี้อยู่นี่นา “Hope for the best, but prepare for the worst”(คาดหวังในสิ่งที่ดีที่สุด แต่ก็ต้องเตรียมพร้อมรับสิ่งที่เลวร้ายที่สุดด้วย)
ฟังดูเท่ดีแฮะ เอาไปใช้เป็นชื่อท่าไม้ตายต่อไปดีกว่า
อย่างน้อยที่สุด ในตอนนี้ชั้นก้าวข้ามปัญหาช่วงต้นไปได้แล้ว
น่าจะสงบสุขไปอีกสักพัก อาจจะมีพวกอีเวนต์ของพวกนางเอกอยู่บ้าง เช่นตบตีแย่งตัวเอกกัน หรืออีเวนต์เข้าใจผิด ไอ้พวกนี้ข้ามๆไปก็ได้อยู่
ตอนแรกชั้นก็ตระหนกพอควรเลยที่เวอร์เนลจะมุ่งเข้าสู่รูท”ใจเกเร” แต่มาคิดดีๆแล้วมันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น
เพราะว่าเจ้านั่นเมินนางเอกรองคนอื่นๆไปซะหมด ตอนนี้เลยเหลือแค่เอเทอร์น่าที่เหมาะจะเป็นเป้าหมายจีบ
ชั้นเตือนเขาไปแล้วเรื่องรูท”ใจเกเร” ฉะนั้นถ้าตัดตัวเลือกออกไปหมด ก็เหลือแค่รูทเอเทอร์น่าเท่านั้น
แน่นอนว่าชั้นไม่ใช่ตัวเลือก ไม่ใช่เกย์นะเฟ้ย โอเค้?
ต่อให้มีโอกาสหนึ่งในหมื่น-หนึ่งในพันล้านที่เขาจะมุ่งมาที่ชั้นแทน ชั้นก็จะปฏิเสธไป ตัดไฟแต่ต้นลมมันตรงนั้นเลย ถึงจะโดนชวนไปเดินเล่น ชั้นก็จะใช้ข้ออ้างแบบ”มันน่าอายน่ะค่ะถ้าเพื่อน(ในจินตนาการ)ของชั้นมาเห็นเข้า”ในการปฏิเสธ
ตอนแรกก็น่าเป็นห่วงอยู่หรอก แต่ด้วยการแทรกแทรงของชั้น ทุกอย่างถือว่าจบได้โอเคเลย ชั้นนี่มันอัจฉริยะจริงๆ
แต่ก็นะ เจ้านั่นเป็นคนที่เกือบได้เข้ารูท”ใจเกเร”ไปแล้วครั้งนึง
ไม่รู้ว่าจะมีออกนอกลู่นอกทางอีกรึเปล่า
อย่างที่เคยพูดไปแล้ว นางเอกบางคนจะตายถ้าไม่ได้อยู่ในรูทของตัวเอง ถ้าให้ดีที่สุดก็คือชั้นสามารถจัดการกับธงพวกนั้นได้อย่างทันท่วงที ซึ่งจะนำไปสู่แฮปปี้เอนดิ้ง
หรือก็คือ ชั้นต้องเข้าเรียนในสถาบันให้ได้ นี่เป็นทางที่ง่ายที่สุด
ในเมื่อตัดสินใจได้แล้ว ก็ไปขอให้เลย์ล่าจังช่วยจัดการเรื่องเอกสารที่จำเป็นให้หน่อย
นั่นอยู่ในขอบเขตหน้าที่ขององครักษ์ด้วยเหรอ? บางคนอาจจะคิดแบบนี้ก็ได้ แต่เห็นแบบนี้น่ะ เธอเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมทั้งด้านบู๊บุ๋นเลยนะเออ
พวกงานเอกสารน่ะเธอจัดการให้ได้ง่ายๆ
นี่เป็นอีกผลนึงที่ชั้นควรจะเลิกเรียกเลย์ล่าผู้เพียบพร้อมว่าสต๊อกโกะได้แล้ว
“ไม่อนุญาตค่ะ”
โอ้ย! ยัยสต๊อกโกะนี่!
ทำไมถึงปฏิเสธแบบไม่ฟังเหตุผลก่อนล่ะ!
ก็ใช่ว่าชั้นจะไม่คิดว่าจะถูกปฏิเสธหรอกนะ
อย่างที่เคยบอกก่อนหน้านี้ ถ้าชั้นผลุนผลันออกไปตายล่ะก็มันจะเป็นปัญหาสำหรับเธอ
ถึงเธอจะเกลียดคนที่เธอทำหน้าที่อารักขาอยู่ในใจ พูดประมาณว่า “ทำไมไม่ตายๆไปสักที” ถ้าตายไปจริงๆก็จะทำให้ประวัติของเธอเสื่อมเสียได้
เราจะได้ยินเสียงในใจของเลย์ล่าในรูทของเธอด้วยล่ะ
ในรูทอื่นๆเธอจะดูเหมือนอัศวินผู้ภักดีจนถึงเวลาทรยศ แต่ในรูทเธอทุกๆครั้เราจะได้เห็นความลำบากในแต่ละวันจากมุมมองของเธอเอง
ทุกๆครั้งที่เลย์ล่าดูเหมือนว่าจะทำตามคำสั่งของเอลริสโดยไม่ปริปากบ่น ในใจเธอนี่จะด่าแบบสาดเสียเทเสียอยู่ตลอดเลย
หรือก็คือเธอจะเป็นอัศวินหญิงหัวแข็งในรูทอื่น แต่เราจะได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของเธอในรูทตัวเอง เป็นนางเอกแบบซื้อหนึ่งแถมหนึ่งไงล่ะ
เธอเป็นที่นิยมในหมู่แฟนเกมพอสมควรเลย ถึงได้ชื่อเล่น “สต๊อกโกะ” มาไงล่ะ
ชั้นเปิดใช้งานทักษะการเจรจาระดับเทพใส่สต๊อกโกะ
เข้าใจมั้นสต๊อกโกะจัง ชั้นไม่ได้จะเข้าเรียนแบบไม่มีเหตุผลนะเออ
การกระทำของชั้นคนนี้น่ะมีเหตุผลที่ลึกล้ำอยู่
ไม่คิดว่าแปลกบ้างเหรอ? ถึงจะยังเป็นแค่พวกลูกเจี๊ยบ แต่โรงเรียนนี้น่ะเป็นที่รวมตัวของผู้มีพรสวรรค์มากมายที่วันหนึ่งจะกลายเป็นอัศวิน ทำยังไงอาจารย์ผู้มีความสามารถอย่างฟาร่าซังถึงถูกควบคุมโดยแม่มดได้? คิดแล้วก็แปลกใช่มั้ยล่ะ?
จากการตรวจสอบของชั้นแล้ว จะเห็นได้ว่าฟาร่าซังน่ะเป็นพวกบ้างานที่ไม่กลับบ้านกลับช่อง แต่เลือกที่จะอาศัยในหอพักของโรงเรียนแทน
คนแบบนั้นจะสามารถไปโดนแม่มดควบคุมได้ที่ไหนกัน? หืมม?
“ยะ-อย่าบอกนะว่า…”
โอ้ ขนลุกเลยใช่มั้ยล่ะ?
ขนที่ลุกนั่นน่ะเป็นหลักฐานของ”ความกลัว”ไงล่ะ
ใช่แล้ว ในที่สุดเธอก็พบความเป็นไปได้ที่ทำให้คิดว่า “ไม่ เป็นไปไม่ได้” หรือ “ไม่เอาแบบนั้นสิ”
ชั้นจะบอกคำตอบให้
อย่างที่คิดนั่นแหละ…มีความเป็นไปได้สูงเลยที่แม่มดจะแอบอยู่ในสถาบัน
ยังมีจุดที่แปลกอื่นอยู่อีกนะ
ถึงไอ้พวกนั้นจะเป็นแค่ปลาซิวปลาสร้อยสำหรับชั้น ทำยังไงถึงได้รวบรวมปีศาจชั้นสูงมากขนาดนั้นมาได้
จำนวนที่ถูกรวมมาน่ะไม่ใช่น้อยๆเลย จะบอกว่าในโรงเรียนนี้มีแต่พวกโง่ที่ไม่เคยสังเกตเห็นปีศาจพวกนี้เดินเพ่นพ่านงั้นหรือ?
แต่ถ้าแม่มดอยู่ในโรงเรียนมาตั้งแต่แรกล่ะก็ มันจะไม่ใช่เรื่องแปลกเลย
ปีศาจจริงๆแล้วก็คือพวกสัตว์ที่ถูกพลังของแม่มดครอบงำ และร่างกายถูกทำให้กลายพันธุ์ไป
หรือก็คือ ถ้าแม่มดอยู่ในโรงเรียนล่ะก็ เธอก็สามารถที่จะรวบรวมสัตว์ตัวเล็กๆมาได้โดยที่ไม่มีใครเห็น แล้วเปลี่ยนพวกมันให้เป็นปีศาจ นี่เป็นเหตุผลที่มีปีศาจมากมายขนาดนั้นอยู่ในสถาบันได้ไงล่ะ
และนี่เป็นเหตุผลที่ชั้นต้องเข้าเรียนที่นั่น
—พอพูดแบบนั้น สีหน้าของสต๊อกโกะจังก็ซีดลง
เออ ขอสปอยล์หน่อยละกัน แม่มดก็อยู่ในโรงเรียนจริงๆนั่นแหละ
อยู่ใต้ลงไปจากชั้นใต้ดินที่ฟาร่าซังจับตัวประกันไว้ซะอีก
เป็นดันเจี้ยนใต้ดินที่กระทั่งอาจารย์ส่วนใหญ่ก็ไม่รู้ว่ามีอยู่
จริงๆก็เป็นที่ที่เห็นอยู่บ่อยๆในเกมที่มีโรงเรียนเป็นเวทีหลักน่ะนะ
แน่นอนว่ามีอีเวนต์ที่เกิดขึ้นด้านนอกบ้างอย่างเช่นเดต แล้วก็มีช่วงที่ต้องออกจากสถาบันไปนานพอตัว แต่ส่วนมากแล้วก็เป็นสถานที่ที่เหมือนแบ็คกราวด์ดาษๆ ส่วนใหญ่แล้วสถานที่ที่ผู้เล่นจะมีอิสระมากที่สุดก็คือในโรงเรียนนี่แหละ
ในเกมผู้เล่นจะต้องรวบรวมข้อมูลและคำใบ้ที่จะนำไปหาสถานที่ที่แม่มดซ่อนตัวอยู่ด้วย…และข้อมูลพวกนั้นทั้งหมดสามารถหาได้ภายในสถาบันนี้
ถ้าแม่มดไปซ่อนอยู่ที่อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับโรงเรียนเลย อย่างกระท่อมใต้ดินเล็กๆในประเทศข้างๆ ผู้เล่นก็จะไม่สามารถไปหาเธอได้
เพราะแบบนั้นจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากให้แม่มดซ่อนตัวอยู่ในโรงเรียน
เอาล่ะ สต๊อกโกะจัง
ยังจะห้ามไม่ให้ชั้นเข้าเรียนอยู่อีกมั้ย?
.
เลย์ล่า สก็อต เป็นลูกสาวคนโตของขุนนางชั้นสูงมาร์ควิสสก็อต
เธอไม่สามารถเป็นผู้นำตระกูลรุ่นต่อไปได้เนื่องจากเธอเป็นผู้หญิง และแทนที่หน้าที่นั้น เธอได้รับภารกิจมาอย่างหนึ่ง
บ้านตระกูลสก็อตเป็นตระกูลอัศวินที่มีประวัติการรับใช้เซนต์มาอย่างยาวนาน
เลย์ล่าภูมิใจในสายเลือดนั้น และคาดหวังว่าวันหนึ่งเธอจะได้รับใช้เซนต์เช่นเดียวกับเหล่าบรรพบุรุษ
เพื่อการนั้นแล้ว เธอเพียรฝึกฝนวิชาดาบมาตั้งแต่ยังเยาว์
เธอเฝ้าฝันถึงเวลาที่เธอจะได้พบนายหญิงที่เธอจะอุทิศชีวิตรับใช้
เซนต์จะมีหน้าตาอย่างไรนะ? เธอจะงดงามอย่างที่วาดฝันไว้หรือเปล่า? หรือเธอจะออกไปทางน่ารักแทน?
เธอจะต้องเป็นเหมือนกับเจ้าหญิงในเทพนิยายอย่างแน่นอน
เลย์ล่าเคยคิดเช่นนั้นอยู่
…เธอเคยพบเจ้าหญิงของประเทศเธอตัวต่อตัวแล้วครั้งหนึ่ง แต่เพราะว่าเจ้าหญิงคนนั้นไม่น่ารักเอาเสียเลย จึงโดนลบออกไปจากความทรงจำ
โอ้ย!!! ยัยสต๊อกโกะ!!!
เมื่อเลย์ล่ามีอายุ 19 ปี เธอทำตามความหวังของตระกูลได้สำเร็จ เรียนจบจากสถานฝึกฝนอัศวินเวทมนตร์อัลเฟรียในฐานะนักเรียนดีเด่น และถูกรับเลือกให้เป็นองครักษ์ของเซนต์
เธอเคยได้ยินคำร่ำลือเกี่ยวกับเซนต์เอลริสมาแล้วไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
เธอก้าวสู่สนามรบเพื่อปกป้องผู้คน ช่วยเหลือทุกคนที่เธอพบเห็นแม้นจะเป็นหมู่บ้านที่แร้นแค้น
ว่ากันว่าเธอคือ “ศูนย์รวมของความเป็นเซนต์”
และคำร่ำลือเหล่านั้น…ถือเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ไม่สิ ยังอ่อนด้อยเกินไปเสียด้วยซ้ำเมื่ออยู่ต่อหน้าตัวจริง
“คุณคือคนที่จะมาเป็นองครักษ์ใหม่หรือคะ?”
ในห้องของเซนต์ที่บิดาของเธอนำทางมา ที่นั่น…มีเซนต์อยู่
เธอไม่สามารถหาคำอื่นมาอธิบายได้
ความบริสุทธิ์นี้! ความโปร่งใสนี้! ความศักดิ์สิทธิ์นี้! ทุกสิ่งทุกอย่างที่ดีงามในโลกมารวมตัวกันแล้วสร้างเป็นบุคคลคนหนึ่งขึ้นมา
เธอนั้นเป็นตัวจริงยิ่งกว่าคนในเทพนิยาย เซนต์ตัวจริงได้อยู่ตรงหน้าเธอแล้ว
เลย์ล่าหลงเสน่ห์ของเธอตั้งแต่แรกพบ
เธอทั้งตื่นเต้นและซาบซึ้งที่จะได้รับใช้คนเช่นนี้
ตั้งแต่ที่เธอได้มารับใช้เซนต์ ราวกับได้เห็นปาฏิหารย์อยู่ทุกๆวัน
เธอทำลายกองทัพปีศาจไปเป็นจำนวนมากจนนับไม่หวาดไม่ไหว เธอรักษาผู้ที่เจ็บป่วยโดยไม่สนว่าคนเหล่านั้นจะเป็นใคร
ราวกับว่าโลกส่องสว่างขึ้นโดยตัวตนของเธอ ผู้คนรอบตัวเธอหัวเราะอย่างเริงร่า
ดวงตะวันสาดส่องแสงสว่างได้โดยเพียงแค่มีตัวตนอยู่
เธอเองก็เช่นกัน เธอคือแสงสว่าง เป็นเพราะเอลริสมีตัวตนอยู่ โลกนี้จึงถูกอาบไปด้วยแสง
และเพราะเธอเป็นคนเช่นนั้น…เลย์ล่าได้คาดไว้แล้วว่าเรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้น
“เลย์ล่า ชั้นต้องการที่จะเข้าเรียนในสถาบันเวทมนตร์จ้ะ”
“ไม่อนุญาตค่ะ”
เธอรู้ดี เธอรู้ดีว่าเอลริสจะต้องพูดแบบนี้
เงื้อมมือที่ช่วร้ายของแม่มดได้แทรกซึมเข้ามาในสถาบัน เป็นผลให้เหล่านักเรียนต้องตกอยู่ในอันตราย
ไม่มีทางเลยที่เธอจะไม่พยายามทำอะไรสักอย่างเมื่อรู้ถึงเรื่องนั้น
ถึงแม้เธอจะรู้อยู่แล้วว่าเหตุการณ์เมื่อวานนั้นเป็นกับดัก เธอก็ไม่ลังเลเลยที่จะทำตามคำสั่งของคนร้าย—ฟาร่า และไปที่นั่นเพียงคนเดียว เพราะว่าเธอเป็นคนเช่นนั้น
“เลย์ล่า ไม่ใช่ว่าชั้นต้องการที่จะเข้าเรียนโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะจ๊ะ ฟาร่าซังน่ะถูกควบคุมโดยแม่มด แต่ถ้าลองคิดดูแล้ว…เธอจะสามารถไปโดนควบคุมได้ที่ไหนกัน?”
“ตั้งแต่ที่เธอเรียนจบจากที่นั่นมา เธอก็ใช้เวลาส่วนใหญ่นอกการเรียนการสอนอยู่ในหอพักครู เธอเป็นคนที่จริงจังในงานของเธอมากแล้วไม่ค่อยได้กลับบ้าน”
“ยะ-อย่าบอกนะว่า…”
อย่าบอกนะว่า—เธอรู้ตัวแล้ว
สีหน้าของเลย์ล่าซีดลงต่อความคิดนั้น
อา ขอร้องล่ะค่ะ กรุณาอย่าพูดต่อเลย
หากท่านยังพูดต่อไปล่ะก็ ดิฉันคงไม่สามารถที่จะหยุดท่านได้
ดิฉันจะไม่มีทางเลือกนอกจากยอมให้ท่านเข้าเรียน ถึงแม้ที่นั่นจะเป็นสถานที่ที่อันตรายก็ตาม
“เธอเป็นคนที่ฉลาดนะเลย์ล่า เธอคงจะเข้าใจถึงคำตอบแล้ว โอกาสที่แม่มดจะซ่อนตัวอยู่ภายในสถาบันนั้นมีอยู่สูงมาก”
…อย่างที่คิดเลย เธอได้คำตอบนั้นมาจนได้
เลย์ล่าคิดเช่นนั้นในขณะที่พยายามหยุดไม่ให้ความเจ็บปวดของเธอแสดงบนใบหน้า
เธอน่ะรู้ดี หากฟาร่าซังที่ไม่เคยออกไปจากสถาบันเลยยังสามารถโดนควบคุมได้ ก็แปลว่าที่อยู่ของแม่มดจะต้องเป็นที่ใดสักแห่งหนึ่งในสถาบัน
และเธอก็รู้…ว่าเซนต์มากปัญญาคนนี้ก็จะต้องสังเกตเห็นได้เช่นกัน
“ปีศาจจำนวนขนาดนั้น…มันแปลกเกินไปที่จะเข้ามายังสถาบันจากภายนอก คนในสถาบันน่ะไม่โง่เขลาจนมิอาจสังเกตความผิดปกติเช่นนั้นได้ นี่เป็นจำนวนที่มากเกินไปที่จะใช้ในการฝึกสอนหรือฝึกฝน แต่ถ้าแม่มดอยู่ในสถาบันล่ะก็… นั่นจะไม่ใช่เรื่องยากเลย นก หนู หรือกิ้งก่าขนาดเล็กสามารถนำเข้ามาในสถาบันได้โดยไม่มีใครสงสัย และเมื่อสัตว์เหล่านั้นถูกแปรเปลี่ยนให้กลายเป็นปีศาจ กะจะสามารถมีปีศาจจำนวนมากถึงขนาดนั้นในสถาบันได้”
เธอพูดถูกทุกอย่าง
ความจริงทุกอย่างบ่งชี้ไปที่ความเป็นไปได้สูงที่แม่มดจะแอบซ่อนอยู่ในสถาบัน
และเมื่อความเป็นไปได้นั้นถูกชี้แจงออกมาแล้ว เลย์ล่าก็มิอาจ”ปฏิเสธ”ไม่ให้เอลริสเข้าเรียนได้อีกต่อไป
เซนต์เพียงแค่ต้องการจะทำหน้าที่ของเธอในฐานะเซนต์ ไม่มีใครที่สามารถหยุดยั้งเรื่องนั้นได้ ไม่มีใครที่ได้รับอณุญาตให้ทำได้
“เพราะอย่างนั้นชั้นถึงต้องไป กรุณาเข้าใจด้วยจ้ะ…เลย์ล่า”
“…ถ้าท่าน–พูด–ถึงขนาด–นั้น–ล่ะก็”
เลย์ล่าหวาดกลัว
หวาดกลัวจากก้นบึ้งของจิตใจ
หวาดกลัวว่านายหญิงที่รักของเธอจะต้องสูญเสียชีวิตไป
เพราะว่าเซนต์ทุกรุ่นในทุกยุคสมัยที่ผ่านมา—
หลังจากที่สามารถปราบแม่มดได้ ทุกๆคน—ล้วนต้องพบกับความตายทั้งสิ้น
“ถ้าเช่นนั้นอย่างน้อย–กรุณาพาดิฉันไปด้วยเถอะค่ะ”
สิ่งที่เธอสามารถทำได้ในตอนนี้มีเพียงแค่การบีบคั้นคำเหล่านี้ออกมาจากปากของเธอเท่านั้น
ในวันต่อมา สถานฝึกฝนอัศวินเวทมนตร์อัลเฟรีย—เป็นที่รู้จักกันในชื่อ โรงเรียนเวทมนตร์ จะต้องสั่นสะเทือน
สิ่งที่ไม่มีใครเคยคาดคิดได้เกิดขึ้น ท่านเซนต์ได้ย้ายเข้ามาเรียนที่โรงเรียนนี้…และแล้ว เรื่องราวที่จะกำหนดชะตากรรมของโลกใบนี้โดยมีโรงเรียนเวทมนตร์เป็นจุดศูนย์กลางก็ได้เริ่มต้นขึ้น