ตอนที่ 12 เข้าเรียนในสถาบันเวทมนตร์

สุดยอดเซนต์ตัวปลอมแห่งยุค

คืนนึงผ่านไปตั้งแต่เหตุการณ์การจับตัวประกันของฟาร่าซัง

หลังจากตอนนั้น ฟาร่าซังก็โดนควบคุมตัวไปที่ศาลสูง ตัวชั้นให้การว่า”คนๆนี้เป็นผู้บริสุทธิ์ค่ะ”ไป อย่างน้อยก็คิดว่าเธอคงไม่โดนประหาร

ถ้าชั้นเงียบไว้ล่ะก็ คนพวกนั้นก็คงจะไม่สนด้วยซ้ำว่าเธอโดนควบคุมอยู่หรือเปล่า ยังไงก็โดนโทษถึงตายแน่นอน ไม่รู้หรอกนะว่ามันมีอยู่ในกฏหมายรึเปล่า แต่การพยายามฆ่าเซนต์น่ะเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรงขนาดนั้นเลยนั่นแหละ เออ ถึงชั้นจะเป็นตัวปลอมก็เถอะนะ

ถ้าชั้นโดนจับได้ว่าเป็นของเก๊ล่ะก็ คงได้ขึ้นแท่นประหารหัวสุนัขในบัดดลเลยนั่นแหละ

แล้วก็นะ ตั้งแต่ที่ชั้นกลับมาถึงปราสาท ชั้นก็โดนพวกองครักษ์กับครูฝึกบ่นจนหูชาเลย

ก็พอเข้าใจได้นะ ถ้าชั้นผลุนผลันออกไปตายล่ะก็ พวกองครักษ์ที่มีหน้าที่ปกป้องชั้นก็จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ อาจจะเสียงานและถูกตีตราว่าเป็นพวกไร้ค่าได้

จะโดนบ่นก็คงช่วยไม่ได้

เผื่อไว้ก่อน ชั้นได้เขียนพินัยกรรมทิ้งไว้แล้วว่าพวกผู้ติดตามของชั้นจะไม่ต้องรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้นและไม่มีส่วนรู้เห็นที่ชั้นเป็นตัวปลอม ชั้นซ่อนพินัยกรรมฉบับนั้นไว้ในลิ้นชักที่ห้องแล้ว ล็อกไว้อย่างดีเลย

ถ้าเตรียมตัวไว้ดี ก็ไม่มีอะไรต้องห่วงมากนัก

มีสุภาษิตต่างชาติแบบนี้อยู่นี่นา “Hope for the best, but prepare for the worst”(คาดหวังในสิ่งที่ดีที่สุด แต่ก็ต้องเตรียมพร้อมรับสิ่งที่เลวร้ายที่สุดด้วย)

ฟังดูเท่ดีแฮะ เอาไปใช้เป็นชื่อท่าไม้ตายต่อไปดีกว่า

อย่างน้อยที่สุด ในตอนนี้ชั้นก้าวข้ามปัญหาช่วงต้นไปได้แล้ว

น่าจะสงบสุขไปอีกสักพัก อาจจะมีพวกอีเวนต์ของพวกนางเอกอยู่บ้าง เช่นตบตีแย่งตัวเอกกัน หรืออีเวนต์เข้าใจผิด ไอ้พวกนี้ข้ามๆไปก็ได้อยู่

ตอนแรกชั้นก็ตระหนกพอควรเลยที่เวอร์เนลจะมุ่งเข้าสู่รูท”ใจเกเร” แต่มาคิดดีๆแล้วมันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น

เพราะว่าเจ้านั่นเมินนางเอกรองคนอื่นๆไปซะหมด ตอนนี้เลยเหลือแค่เอเทอร์น่าที่เหมาะจะเป็นเป้าหมายจีบ

ชั้นเตือนเขาไปแล้วเรื่องรูท”ใจเกเร” ฉะนั้นถ้าตัดตัวเลือกออกไปหมด ก็เหลือแค่รูทเอเทอร์น่าเท่านั้น

แน่นอนว่าชั้นไม่ใช่ตัวเลือก ไม่ใช่เกย์นะเฟ้ย โอเค้?

ต่อให้มีโอกาสหนึ่งในหมื่น-หนึ่งในพันล้านที่เขาจะมุ่งมาที่ชั้นแทน ชั้นก็จะปฏิเสธไป ตัดไฟแต่ต้นลมมันตรงนั้นเลย ถึงจะโดนชวนไปเดินเล่น ชั้นก็จะใช้ข้ออ้างแบบ”มันน่าอายน่ะค่ะถ้าเพื่อน(ในจินตนาการ)ของชั้นมาเห็นเข้า”ในการปฏิเสธ

ตอนแรกก็น่าเป็นห่วงอยู่หรอก แต่ด้วยการแทรกแทรงของชั้น ทุกอย่างถือว่าจบได้โอเคเลย ชั้นนี่มันอัจฉริยะจริงๆ

แต่ก็นะ เจ้านั่นเป็นคนที่เกือบได้เข้ารูท”ใจเกเร”ไปแล้วครั้งนึง

ไม่รู้ว่าจะมีออกนอกลู่นอกทางอีกรึเปล่า

อย่างที่เคยพูดไปแล้ว นางเอกบางคนจะตายถ้าไม่ได้อยู่ในรูทของตัวเอง ถ้าให้ดีที่สุดก็คือชั้นสามารถจัดการกับธงพวกนั้นได้อย่างทันท่วงที ซึ่งจะนำไปสู่แฮปปี้เอนดิ้ง

หรือก็คือ ชั้นต้องเข้าเรียนในสถาบันให้ได้ นี่เป็นทางที่ง่ายที่สุด

ในเมื่อตัดสินใจได้แล้ว ก็ไปขอให้เลย์ล่าจังช่วยจัดการเรื่องเอกสารที่จำเป็นให้หน่อย

นั่นอยู่ในขอบเขตหน้าที่ขององครักษ์ด้วยเหรอ? บางคนอาจจะคิดแบบนี้ก็ได้ แต่เห็นแบบนี้น่ะ เธอเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมทั้งด้านบู๊บุ๋นเลยนะเออ

พวกงานเอกสารน่ะเธอจัดการให้ได้ง่ายๆ

นี่เป็นอีกผลนึงที่ชั้นควรจะเลิกเรียกเลย์ล่าผู้เพียบพร้อมว่าสต๊อกโกะได้แล้ว

“ไม่อนุญาตค่ะ”

โอ้ย! ยัยสต๊อกโกะนี่!

ทำไมถึงปฏิเสธแบบไม่ฟังเหตุผลก่อนล่ะ!

ก็ใช่ว่าชั้นจะไม่คิดว่าจะถูกปฏิเสธหรอกนะ

อย่างที่เคยบอกก่อนหน้านี้ ถ้าชั้นผลุนผลันออกไปตายล่ะก็มันจะเป็นปัญหาสำหรับเธอ

ถึงเธอจะเกลียดคนที่เธอทำหน้าที่อารักขาอยู่ในใจ พูดประมาณว่า “ทำไมไม่ตายๆไปสักที” ถ้าตายไปจริงๆก็จะทำให้ประวัติของเธอเสื่อมเสียได้

เราจะได้ยินเสียงในใจของเลย์ล่าในรูทของเธอด้วยล่ะ

ในรูทอื่นๆเธอจะดูเหมือนอัศวินผู้ภักดีจนถึงเวลาทรยศ แต่ในรูทเธอทุกๆครั้เราจะได้เห็นความลำบากในแต่ละวันจากมุมมองของเธอเอง

ทุกๆครั้งที่เลย์ล่าดูเหมือนว่าจะทำตามคำสั่งของเอลริสโดยไม่ปริปากบ่น ในใจเธอนี่จะด่าแบบสาดเสียเทเสียอยู่ตลอดเลย

หรือก็คือเธอจะเป็นอัศวินหญิงหัวแข็งในรูทอื่น แต่เราจะได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของเธอในรูทตัวเอง เป็นนางเอกแบบซื้อหนึ่งแถมหนึ่งไงล่ะ

เธอเป็นที่นิยมในหมู่แฟนเกมพอสมควรเลย ถึงได้ชื่อเล่น “สต๊อกโกะ” มาไงล่ะ

ชั้นเปิดใช้งานทักษะการเจรจาระดับเทพใส่สต๊อกโกะ

เข้าใจมั้นสต๊อกโกะจัง ชั้นไม่ได้จะเข้าเรียนแบบไม่มีเหตุผลนะเออ

การกระทำของชั้นคนนี้น่ะมีเหตุผลที่ลึกล้ำอยู่

ไม่คิดว่าแปลกบ้างเหรอ? ถึงจะยังเป็นแค่พวกลูกเจี๊ยบ แต่โรงเรียนนี้น่ะเป็นที่รวมตัวของผู้มีพรสวรรค์มากมายที่วันหนึ่งจะกลายเป็นอัศวิน ทำยังไงอาจารย์ผู้มีความสามารถอย่างฟาร่าซังถึงถูกควบคุมโดยแม่มดได้? คิดแล้วก็แปลกใช่มั้ยล่ะ?

จากการตรวจสอบของชั้นแล้ว จะเห็นได้ว่าฟาร่าซังน่ะเป็นพวกบ้างานที่ไม่กลับบ้านกลับช่อง แต่เลือกที่จะอาศัยในหอพักของโรงเรียนแทน

คนแบบนั้นจะสามารถไปโดนแม่มดควบคุมได้ที่ไหนกัน? หืมม?

“ยะ-อย่าบอกนะว่า…”

โอ้ ขนลุกเลยใช่มั้ยล่ะ?

ขนที่ลุกนั่นน่ะเป็นหลักฐานของ”ความกลัว”ไงล่ะ

ใช่แล้ว ในที่สุดเธอก็พบความเป็นไปได้ที่ทำให้คิดว่า “ไม่ เป็นไปไม่ได้” หรือ “ไม่เอาแบบนั้นสิ”

ชั้นจะบอกคำตอบให้

อย่างที่คิดนั่นแหละ…มีความเป็นไปได้สูงเลยที่แม่มดจะแอบอยู่ในสถาบัน

ยังมีจุดที่แปลกอื่นอยู่อีกนะ

ถึงไอ้พวกนั้นจะเป็นแค่ปลาซิวปลาสร้อยสำหรับชั้น ทำยังไงถึงได้รวบรวมปีศาจชั้นสูงมากขนาดนั้นมาได้

จำนวนที่ถูกรวมมาน่ะไม่ใช่น้อยๆเลย จะบอกว่าในโรงเรียนนี้มีแต่พวกโง่ที่ไม่เคยสังเกตเห็นปีศาจพวกนี้เดินเพ่นพ่านงั้นหรือ?

แต่ถ้าแม่มดอยู่ในโรงเรียนมาตั้งแต่แรกล่ะก็ มันจะไม่ใช่เรื่องแปลกเลย

ปีศาจจริงๆแล้วก็คือพวกสัตว์ที่ถูกพลังของแม่มดครอบงำ และร่างกายถูกทำให้กลายพันธุ์ไป

หรือก็คือ ถ้าแม่มดอยู่ในโรงเรียนล่ะก็ เธอก็สามารถที่จะรวบรวมสัตว์ตัวเล็กๆมาได้โดยที่ไม่มีใครเห็น แล้วเปลี่ยนพวกมันให้เป็นปีศาจ นี่เป็นเหตุผลที่มีปีศาจมากมายขนาดนั้นอยู่ในสถาบันได้ไงล่ะ

และนี่เป็นเหตุผลที่ชั้นต้องเข้าเรียนที่นั่น

—พอพูดแบบนั้น สีหน้าของสต๊อกโกะจังก็ซีดลง

เออ ขอสปอยล์หน่อยละกัน แม่มดก็อยู่ในโรงเรียนจริงๆนั่นแหละ

อยู่ใต้ลงไปจากชั้นใต้ดินที่ฟาร่าซังจับตัวประกันไว้ซะอีก

เป็นดันเจี้ยนใต้ดินที่กระทั่งอาจารย์ส่วนใหญ่ก็ไม่รู้ว่ามีอยู่

จริงๆก็เป็นที่ที่เห็นอยู่บ่อยๆในเกมที่มีโรงเรียนเป็นเวทีหลักน่ะนะ

แน่นอนว่ามีอีเวนต์ที่เกิดขึ้นด้านนอกบ้างอย่างเช่นเดต แล้วก็มีช่วงที่ต้องออกจากสถาบันไปนานพอตัว แต่ส่วนมากแล้วก็เป็นสถานที่ที่เหมือนแบ็คกราวด์ดาษๆ ส่วนใหญ่แล้วสถานที่ที่ผู้เล่นจะมีอิสระมากที่สุดก็คือในโรงเรียนนี่แหละ

ในเกมผู้เล่นจะต้องรวบรวมข้อมูลและคำใบ้ที่จะนำไปหาสถานที่ที่แม่มดซ่อนตัวอยู่ด้วย…และข้อมูลพวกนั้นทั้งหมดสามารถหาได้ภายในสถาบันนี้

ถ้าแม่มดไปซ่อนอยู่ที่อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับโรงเรียนเลย อย่างกระท่อมใต้ดินเล็กๆในประเทศข้างๆ ผู้เล่นก็จะไม่สามารถไปหาเธอได้

เพราะแบบนั้นจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากให้แม่มดซ่อนตัวอยู่ในโรงเรียน

เอาล่ะ สต๊อกโกะจัง

ยังจะห้ามไม่ให้ชั้นเข้าเรียนอยู่อีกมั้ย?

.

เลย์ล่า สก็อต เป็นลูกสาวคนโตของขุนนางชั้นสูงมาร์ควิสสก็อต

เธอไม่สามารถเป็นผู้นำตระกูลรุ่นต่อไปได้เนื่องจากเธอเป็นผู้หญิง และแทนที่หน้าที่นั้น เธอได้รับภารกิจมาอย่างหนึ่ง

บ้านตระกูลสก็อตเป็นตระกูลอัศวินที่มีประวัติการรับใช้เซนต์มาอย่างยาวนาน

เลย์ล่าภูมิใจในสายเลือดนั้น และคาดหวังว่าวันหนึ่งเธอจะได้รับใช้เซนต์เช่นเดียวกับเหล่าบรรพบุรุษ

เพื่อการนั้นแล้ว เธอเพียรฝึกฝนวิชาดาบมาตั้งแต่ยังเยาว์

เธอเฝ้าฝันถึงเวลาที่เธอจะได้พบนายหญิงที่เธอจะอุทิศชีวิตรับใช้

เซนต์จะมีหน้าตาอย่างไรนะ? เธอจะงดงามอย่างที่วาดฝันไว้หรือเปล่า? หรือเธอจะออกไปทางน่ารักแทน?

เธอจะต้องเป็นเหมือนกับเจ้าหญิงในเทพนิยายอย่างแน่นอน

เลย์ล่าเคยคิดเช่นนั้นอยู่

…เธอเคยพบเจ้าหญิงของประเทศเธอตัวต่อตัวแล้วครั้งหนึ่ง แต่เพราะว่าเจ้าหญิงคนนั้นไม่น่ารักเอาเสียเลย จึงโดนลบออกไปจากความทรงจำ

โอ้ย!!! ยัยสต๊อกโกะ!!!

เมื่อเลย์ล่ามีอายุ 19 ปี เธอทำตามความหวังของตระกูลได้สำเร็จ เรียนจบจากสถานฝึกฝนอัศวินเวทมนตร์อัลเฟรียในฐานะนักเรียนดีเด่น และถูกรับเลือกให้เป็นองครักษ์ของเซนต์

เธอเคยได้ยินคำร่ำลือเกี่ยวกับเซนต์เอลริสมาแล้วไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง

เธอก้าวสู่สนามรบเพื่อปกป้องผู้คน ช่วยเหลือทุกคนที่เธอพบเห็นแม้นจะเป็นหมู่บ้านที่แร้นแค้น

ว่ากันว่าเธอคือ “ศูนย์รวมของความเป็นเซนต์”

และคำร่ำลือเหล่านั้น…ถือเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ไม่สิ ยังอ่อนด้อยเกินไปเสียด้วยซ้ำเมื่ออยู่ต่อหน้าตัวจริง

“คุณคือคนที่จะมาเป็นองครักษ์ใหม่หรือคะ?”

ในห้องของเซนต์ที่บิดาของเธอนำทางมา ที่นั่น…มีเซนต์อยู่

เธอไม่สามารถหาคำอื่นมาอธิบายได้

ความบริสุทธิ์นี้! ความโปร่งใสนี้! ความศักดิ์สิทธิ์นี้! ทุกสิ่งทุกอย่างที่ดีงามในโลกมารวมตัวกันแล้วสร้างเป็นบุคคลคนหนึ่งขึ้นมา

เธอนั้นเป็นตัวจริงยิ่งกว่าคนในเทพนิยาย เซนต์ตัวจริงได้อยู่ตรงหน้าเธอแล้ว

เลย์ล่าหลงเสน่ห์ของเธอตั้งแต่แรกพบ

เธอทั้งตื่นเต้นและซาบซึ้งที่จะได้รับใช้คนเช่นนี้

ตั้งแต่ที่เธอได้มารับใช้เซนต์ ราวกับได้เห็นปาฏิหารย์อยู่ทุกๆวัน

เธอทำลายกองทัพปีศาจไปเป็นจำนวนมากจนนับไม่หวาดไม่ไหว เธอรักษาผู้ที่เจ็บป่วยโดยไม่สนว่าคนเหล่านั้นจะเป็นใคร

ราวกับว่าโลกส่องสว่างขึ้นโดยตัวตนของเธอ ผู้คนรอบตัวเธอหัวเราะอย่างเริงร่า

ดวงตะวันสาดส่องแสงสว่างได้โดยเพียงแค่มีตัวตนอยู่

เธอเองก็เช่นกัน เธอคือแสงสว่าง เป็นเพราะเอลริสมีตัวตนอยู่ โลกนี้จึงถูกอาบไปด้วยแสง

และเพราะเธอเป็นคนเช่นนั้น…เลย์ล่าได้คาดไว้แล้วว่าเรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้น

“เลย์ล่า ชั้นต้องการที่จะเข้าเรียนในสถาบันเวทมนตร์จ้ะ”

“ไม่อนุญาตค่ะ”

เธอรู้ดี เธอรู้ดีว่าเอลริสจะต้องพูดแบบนี้

เงื้อมมือที่ช่วร้ายของแม่มดได้แทรกซึมเข้ามาในสถาบัน เป็นผลให้เหล่านักเรียนต้องตกอยู่ในอันตราย

ไม่มีทางเลยที่เธอจะไม่พยายามทำอะไรสักอย่างเมื่อรู้ถึงเรื่องนั้น

ถึงแม้เธอจะรู้อยู่แล้วว่าเหตุการณ์เมื่อวานนั้นเป็นกับดัก เธอก็ไม่ลังเลเลยที่จะทำตามคำสั่งของคนร้าย—ฟาร่า และไปที่นั่นเพียงคนเดียว เพราะว่าเธอเป็นคนเช่นนั้น

“เลย์ล่า ไม่ใช่ว่าชั้นต้องการที่จะเข้าเรียนโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะจ๊ะ ฟาร่าซังน่ะถูกควบคุมโดยแม่มด แต่ถ้าลองคิดดูแล้ว…เธอจะสามารถไปโดนควบคุมได้ที่ไหนกัน?”

“ตั้งแต่ที่เธอเรียนจบจากที่นั่นมา เธอก็ใช้เวลาส่วนใหญ่นอกการเรียนการสอนอยู่ในหอพักครู เธอเป็นคนที่จริงจังในงานของเธอมากแล้วไม่ค่อยได้กลับบ้าน”

“ยะ-อย่าบอกนะว่า…”

อย่าบอกนะว่า—เธอรู้ตัวแล้ว

สีหน้าของเลย์ล่าซีดลงต่อความคิดนั้น

อา ขอร้องล่ะค่ะ กรุณาอย่าพูดต่อเลย

หากท่านยังพูดต่อไปล่ะก็ ดิฉันคงไม่สามารถที่จะหยุดท่านได้

ดิฉันจะไม่มีทางเลือกนอกจากยอมให้ท่านเข้าเรียน ถึงแม้ที่นั่นจะเป็นสถานที่ที่อันตรายก็ตาม

“เธอเป็นคนที่ฉลาดนะเลย์ล่า เธอคงจะเข้าใจถึงคำตอบแล้ว โอกาสที่แม่มดจะซ่อนตัวอยู่ภายในสถาบันนั้นมีอยู่สูงมาก”

…อย่างที่คิดเลย เธอได้คำตอบนั้นมาจนได้

เลย์ล่าคิดเช่นนั้นในขณะที่พยายามหยุดไม่ให้ความเจ็บปวดของเธอแสดงบนใบหน้า

เธอน่ะรู้ดี หากฟาร่าซังที่ไม่เคยออกไปจากสถาบันเลยยังสามารถโดนควบคุมได้ ก็แปลว่าที่อยู่ของแม่มดจะต้องเป็นที่ใดสักแห่งหนึ่งในสถาบัน

และเธอก็รู้…ว่าเซนต์มากปัญญาคนนี้ก็จะต้องสังเกตเห็นได้เช่นกัน

“ปีศาจจำนวนขนาดนั้น…มันแปลกเกินไปที่จะเข้ามายังสถาบันจากภายนอก คนในสถาบันน่ะไม่โง่เขลาจนมิอาจสังเกตความผิดปกติเช่นนั้นได้ นี่เป็นจำนวนที่มากเกินไปที่จะใช้ในการฝึกสอนหรือฝึกฝน แต่ถ้าแม่มดอยู่ในสถาบันล่ะก็… นั่นจะไม่ใช่เรื่องยากเลย นก หนู หรือกิ้งก่าขนาดเล็กสามารถนำเข้ามาในสถาบันได้โดยไม่มีใครสงสัย และเมื่อสัตว์เหล่านั้นถูกแปรเปลี่ยนให้กลายเป็นปีศาจ กะจะสามารถมีปีศาจจำนวนมากถึงขนาดนั้นในสถาบันได้”

เธอพูดถูกทุกอย่าง

ความจริงทุกอย่างบ่งชี้ไปที่ความเป็นไปได้สูงที่แม่มดจะแอบซ่อนอยู่ในสถาบัน

และเมื่อความเป็นไปได้นั้นถูกชี้แจงออกมาแล้ว เลย์ล่าก็มิอาจ”ปฏิเสธ”ไม่ให้เอลริสเข้าเรียนได้อีกต่อไป

เซนต์เพียงแค่ต้องการจะทำหน้าที่ของเธอในฐานะเซนต์ ไม่มีใครที่สามารถหยุดยั้งเรื่องนั้นได้ ไม่มีใครที่ได้รับอณุญาตให้ทำได้

“เพราะอย่างนั้นชั้นถึงต้องไป กรุณาเข้าใจด้วยจ้ะ…เลย์ล่า”

“…ถ้าท่าน–พูด–ถึงขนาด–นั้น–ล่ะก็”

เลย์ล่าหวาดกลัว

หวาดกลัวจากก้นบึ้งของจิตใจ

หวาดกลัวว่านายหญิงที่รักของเธอจะต้องสูญเสียชีวิตไป

เพราะว่าเซนต์ทุกรุ่นในทุกยุคสมัยที่ผ่านมา—

หลังจากที่สามารถปราบแม่มดได้ ทุกๆคน—ล้วนต้องพบกับความตายทั้งสิ้น

“ถ้าเช่นนั้นอย่างน้อย–กรุณาพาดิฉันไปด้วยเถอะค่ะ”

สิ่งที่เธอสามารถทำได้ในตอนนี้มีเพียงแค่การบีบคั้นคำเหล่านี้ออกมาจากปากของเธอเท่านั้น

ในวันต่อมา สถานฝึกฝนอัศวินเวทมนตร์อัลเฟรีย—เป็นที่รู้จักกันในชื่อ โรงเรียนเวทมนตร์ จะต้องสั่นสะเทือน

สิ่งที่ไม่มีใครเคยคาดคิดได้เกิดขึ้น ท่านเซนต์ได้ย้ายเข้ามาเรียนที่โรงเรียนนี้…และแล้ว เรื่องราวที่จะกำหนดชะตากรรมของโลกใบนี้โดยมีโรงเรียนเวทมนตร์เป็นจุดศูนย์กลางก็ได้เริ่มต้นขึ้น