ตอนที่ 9 ห้องเดี่ยวพิเศษของเฉินเหล่าเอ้อร์ (รีไรท์)
ตอนที่ 9 ห้องเดี่ยวพิเศษของเฉินเหล่าเอ้อร์ (รีไรท์)
ทางด้านของซูเถานั้นสงบสุขมาก ในตอนบ่ายสือจื่อเยว่ไม่มีเรียน จึงอาสาช่วยซูเถากวาดและถูพื้นทำความสะอาดทางเดินและห้องนั่งเล่นอย่างสะอาดเอี่ยมอ่องในเวลาอันสั้น
ซูเถารู้สึกเกรงใจและต้องการให้เงินเด็กน้อยเป็นการตอบแทน แต่มันก็รู้สึกแปลก ๆ ราวกับว่าเธอปฏิบัติต่อคนอื่นเหมือนแม่บ้าน และดูไม่เคารพอีกฝ่ายมากเท่าไหร่นัก
สือจื่อเยว่จับมือเธอ “พี่เถาจื่อ หนูเองก็อยู่เฉย ๆ ไม่มีอะไรทำ คิดซะว่าได้ออกกำลังกายก็แล้วกันค่ะ”
หลังจากที่สนิทสนมกันแล้ว สือจื่อเย่วก็ชอบทำตัวออดอ้อนราวกับแมวตัวน้อย อิจฉาสือจื่อจิ้นจริง ๆ ที่มีน้องสาวที่รู้ใจเช่นนี้
ทันทีที่ซูเถามีความสุข เธอใช้เงิน 200 เหลียนปัง เพื่อซื้อตู้กดน้ำและวางไว้ในห้องนั่งเล่นให้ทุกคนได้ดื่มฟรี
เธอไม่ใช่คนตระหนี่ถี่เหนียว ถ้าจัดหาเครื่องอำนวยความสะดวกให้ผู้เช่าได้ เธอก็จะซื้อให้ตามกำลังความสามารถของเธอ
เช่นเดียวกับกระต่ายขาวตัวน้อยอย่างสือจื่อเยว่ที่กระโดดหย่ง ๆ ไปหยิบแก้วแล้วกดน้ำดื่ม กระดกหมดภายในอึกเดียว
“อร่อยจัง~ ดีกว่าน้ำขวดที่เราซื้อตามร้านสะดวกซื้ออีก พี่เถาจื่อพี่ใจกว้างที่สุดเลยค่ะ~” มันเป็นความรู้สึกที่ออกมาจากก้นบึ้งหัวใจ
เป็นที่รู้กันดีน้ำดื่มในฐานตรงหยางมีราคาแพงและว่ากันว่าน้ำฟรีมีอยู่เฉพาะในช่วงก่อนยุควันสิ้นโลก
ซูเถาบีบใบหน้าเล็ก ๆ ของเด็กสาวตัวน้อย “เธอนี่ช่างพูดจริง ๆ เดือนหน้าเมื่อได้ค่าเช่าแล้ว พี่จะจัดโต๊ะและชั้นวางหนังสือไว้ให้เธอ เธอจะได้ไม่ต้องใช้ห้องนั่งเล่นทำการบ้าน”
สือจื่อเยว่ส่งเสียงร้องยินดี
ในตอนบ่ายซูเถาพาสือจื่อเยว่ไปร้านอาหารริมทางที่ฐานหลัก
เมื่อก่อนตอนเด็ก ๆ พ่อของเธอมักจะแอบพาพี่ชายทั้งสองคนออกไปกินข้าวข้างนอก หลี่หรงเหลียนก็มักจะพาตนไปกินอาหารดี ๆ ร่วมกับครอบครัวเจียงจิ่นเวย
แต่ของอร่อยไม่เคยตกสู่ท้องของเธอแม้แต่ครั้งเดียว
ตอนนี้ซูเถามีเงินอยู่ในมือ แต่ไม่ได้ทำตัวขี้เหนียวเลย เธอสั่งอาหารจานเนื้อสามอย่าง อาหารจานผักสองอย่าง และน้ำซุปหนึ่งอย่าง และกินข้าวมื้อนี้กับสือจื่อเยว่อย่างเอร็ดอร่อย
กินเหลือก็ห่อกลับบ้านเอาไว้กินตอนเที่ยงพรุ่งนี้
เมื่อกลับมาถึงเถาหยาง ซูเถารู้สึกว่าหนังท้องยังตึงเลยเดินยืดเส้นยืดสายรออาหารในท้องย่อยก่อนเข้านอน ถือโอกาสนี้ซื้อเครื่องซักผ้า
เธอคิดไม่ถึงว่าเครื่องซักผ้าจะแพงขนาดนี้ เครื่องซักผ้าฝาหน้าแบบธรรมดาราคาถูกที่สุดคือ 1,000 เหลียนปัง
แต่เพื่อคืนอิสรภาพให้มือทั้งสองของเธอ ซูเถาจึงตัดสินใจซื้อมันมาด้วยความปวดใจ เครื่องซักผ้าถูกวางไว้ตรงระเบียงเล็ก ๆ ขนาด 4 ตารางเมตรและซื้อราวตากผ้ามาตั้งไว้ข้าง ๆ ในราคา 60 เหลียนปัง
ความจริงแล้วเธออยากซื้อเครื่องอบผ้าด้วยแต่ราคามันตั้ง 2,000 เหลียนปัง แล้วไหนจะค่าไฟที่ต้องถูกเรียกเก็บอีกล่ะ…
เธอยังคงต้องจ่ายค่าน้ำและค่าไฟทุกเดือน แต่จ่ายเฉพาะส่วนของตัวเองและพื้นที่ส่วนรวมเท่านั้น
ส่วนผู้เช่ามีหน้าที่จ่ายค่าน้ำไฟค่าภายในห้องด้วยตนเอง เมื่อคิดดูแล้วซื้อแค่ราวตากผ้าก็พอแล้ว คอยดูว่าฤดูหนาวเสื้อผ้าจะแห้งยากหรือเปล่า
ตอนนี้เธอมีเงินเหลืออยู่มากกว่า 14,000 เหลียนปัง
หลังจากคิดทบทวนอีกครั้ง สือจื่อจิ้นยังมีกลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชาที่รอการย้ายเข้า ดังนั้นเป็นการดีหากจะเปิดเพิ่มห้องว่างอีกสองห้อง
เธอจึงควักเงิน 1,000 เหลียนปังเพื่อเปิดห้องเดี่ยว และใช้เงินอีก 3,000 เหลียนปังเพื่อเปิดห้องคู่ ดังนั้นจึงต้องขยายทางเดินที่ด้านหลังของห้องนั่งเล่นให้ใหญ่ขึ้น
ห้องเดี่ยวหมายเลข 002 ของสือจื่อเยว่และห้องเดี่ยวหมายเลข 004 ที่สร้างขึ้นใหม่กลายเป็นเพื่อนบ้านกัน
การตกแต่งห้องทั้งสองห้องนี้มีราคา 2,700 เหลียนปัง
แล้วยอดเหลือแค่ 8,000 กว่า ๆ… (ノ﹏ヽ)
ยุ่งเหยิงไปกันใหญ่แล้ว เงินในมือของซูเถาถูกเก็บไว้เพื่ออัปเกรดเป็นเลเวล 3 และเก็บไว้สำหรับซื้อเครื่องปรับอากาศ เธอยังต้องการซื้อคอนโซลเกม VR หรือทีวีโพรเจกเตอร์หรืออะไรอีกสักอย่างด้วยซ้ำ
มันน่าเบื่อเกินไปที่จะต้องอุดอู้อยู่ในห้องหลังมื้ออาหารเย็น ก็เลยอยากมองหาความสนุกสนาน
อนิจจา~ ยังมีอีกหลายสิ่งหลายยังที่ต้องใช้เงิน ช่วงนี้เก็บออมเอาไว้ก่อนก็แล้วกัน
เธอวางแผนที่จะเปิดห้องใหม่สองห้องและบอกสือจื่อจิ้นเมื่อพวกเขากลับมา ซูเถาผล็อยหลับไปบนเตียง ความนุ่มสบายทำให้เธอไม่อยากลุกขึ้น
เมื่อก่อนอยู่บ้านตระกูลซู เธอต้องตื่นก่อนหกโมงเพื่อออกไปซื้ออาหารเช้าให้ครอบครัว มิฉะนั้นเธอจะถูกเจียงจิ่นเวยดุ และแม้แต่พี่ชายสองคนก็จะชักสีหน้าใส่เธอ
การอยู่ในบ้านตัวเองมันเต็มไปด้วยความสบาย สามารถนอนหลับได้นานเท่าที่ต้องการ และไม่มีใครมาคอยควบคุม
สองวันมานี้ที่เถาหยางเงียบมาก ทั้งสือจื่อจิ้นและเฉินเทียนเจียวก็ยังไม่กลับมา
สือจื่อเยว่ยุ่งกับกิจกรรมนอกหลักสูตรของโรงเรียนเป็นเวลาสองวันติดต่อกัน กว่าจะกลับมาก็ค่ำมากแล้ว
ซูเถาผู้โดดเดี่ยวไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เธอจึงซื้อทีวีจอ LCD วางไว้บนโต๊ะกาแฟในห้องนั่งเล่น มีค่าใช้จ่าย 1,800 เหลียนปัง
เงินในคลังน้อยลงเรื่อย ๆ
แต่มันก็ถูกเพิ่มขึ้นโดยเฉินเหล่าเอ้อร์ซึ่งร่ำรวยและมีอำนาจเช่นกัน หลังจากสัญญาค่าเช่าห้องเดี่ยวรายวันห้าวันของเขาหมดลง ซูเถาก็เริ่มการตกแต่งใหม่ทันที
ห้องเดี่ยวไม่มีฉากกั้น ซูเถาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเลือกฉากกั้นแบบโปร่งใสราคาประหยัดสามอันจากร้านตกแต่งบ้านเพื่อแยกเป็นโซนห้องน้ำ
ภายในห้องน้ำแยกส่วนเปียกและแห้งออกจากกัน มีชั้นเก็บของเหนืออ่างล้างหน้าให้ด้วย นอกจากนี้ยังมีตู้เสื้อผ้าเดี่ยวขนาดเล็กในห้องนอน และโซฟาเดี่ยวขนาดเล็ก
ค่าใช้จ่ายในการตกแต่งห้องสูงถึง 1,800 เหลียนปัง
ถือเป็นห้องเดี่ยวแบบพิเศษ
ในเวลาเดียวกัน ค่าเช่ารายเดือนสูงถึง 13,000 เหลียนปัง
ซูเถาถ่ายรูปและส่งไปให้เฉินเทียนเจียว ในช่วงบ่ายเขาโอนเงิน 13,000 เพื่อต่ออายุสัญญาเช่าเป็นเวลา 1 เดือน
สือจื่อเยว่อิจฉาและอดไม่ได้ที่จะเดาว่าพี่เถาจื่อมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมในการหาสิ่งของก่อนยุคสิ้นโลกมาตกแต่ง
ซูเถาไม่มีทางเลือกนอกจากสัญญาว่าจะตกแต่งทันทีที่ครบกำหนดสัญญาเช่าในเดือนหน้า
“พี่เถาจื่อที่นี่จะมีห้องราคาเพียง 5,000 ต่อเดือนและไม่จำกัดจำนวนคนหรือเปล่าคะ?” จู่ ๆ สือจื่อเยว่ก็เอ่ยถามขึ้น
ซูเถาส่ายหัวด้วยความงุนงงและพูดว่า “ตอนนี้ยังไม่มีนะ”
ในอนาคต หลังจากที่เธออัปเกรด บางทีเธออาจจะปลดล็อกห้องในโหมดหอพักหลายคน ตอนนี้หนึ่งห้องสามารถรองรับได้มากสุดเพียงแค่สองคนเท่านั้น
สือจื่อเยว่ถอนหายใจและพูดว่า “หนูมีเพื่อนร่วมชั้นที่มีปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย พวกเขาอาศัยอยู่ในห้องพักกับสมาชิกสี่คนในครอบครัว พวกเขาไม่มีห้องน้ำแยกต่างหาก ต้องต่อคิวเข้าห้องน้ำนานทุกวัน นอกจากนี้ เธอเป็นเด็กผู้หญิงสองคนอยู่ที่บ้านและในหอพักก็มักจะมีพวกคนแก่ ๆ
ซูเถารู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย
เธอเคยอยู่บ้านตระกูลซูมาก่อน ถึงจะไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ แต่ก็ไม่เคยพบเจอสถานการณ์ล่วงละเมิด
ในยุควันสิ้นโลก ผู้หญิงในยุคนี้มักจะมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่เธอไม่สามารถทำการกุศลช่วยเหลือครอบครัวหนึ่งได้ และมีคนไร้บ้านอีกหลายหมื่นคนที่เธอไม่สามารถช่วยชีวิตพวกเขาทั้งหมดได้
สือจื่อเยว่ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้อีกต่อไปและพาซูเถาไปที่ศูนย์การค้าที่ฐานหลักเพื่อซื้อของใช้ประจำวัน
สิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันในช่วงวันสิ้นโลกราคาไม่ถูกเลยจริง ๆ ซูเถาใช้เงิน 550 เหลียนปังเพื่อซื้อผ้าอนามัยสำหรับสองเดือน มันแพงมากจนเธอแทบจะเป็นลม
ตอนอยู่ที่บ้านซู เวลามีประจำเดือนเธอใช้ผ้าอนามัยที่เย็บเองจากเสื้อผ้าเก่า และใช้มือซัก มือก็จะแดงเถือกเหมือนอยู่ในสนามรบ
เธอไม่คิดว่าผ้าอนามัยจะแพงขนาดนี้
แชมพูและครีมอาบน้ำก็แพงมากเช่นกัน เธอซื้อเสื้อผ้าเข้าบ้านอีก 1 ชุดรวมแล้วใช้เงินทั้งหมด 1,500 เหลียนปังกับสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันในหนึ่งวัน
มือของซูเถาสั่นสะท้าน
สือจื่อเย่วจ้องซูเถาตาไม่กะพริบเมื่อเห็นอีกฝ่ายช็อปปิงและใช้เงินพันกว่า หญิงสาวแบกถุงใบใหญ่พร้อมที่จะกลับบ้าน
ในเวลานี้หลี่หรงเหลียนซึ่งแอบดูอยู่ทั้งวัน ในที่สุดก็ยืนยันว่านั่นคือซูเถาลูกสาวคนสุดท้องของเธอ
เธอเบิกตากว้างแล้วตะโกนเรียก “เถาเถา!”
เมื่อซูเถาได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่ใจจะเต้นแรง