พยัคฆ์ขนาดใหญ่ที่มีความยาวกว่าร้อยเมตรลำตัวมีลายสีดำสลับสีขาวปรากฏตัวทางด้านทิศตะวันตกของยอดเขา
ดวงตาทั้งสองของมันใหญ่เท่าถังน้ำสายตาจับจ้องไปทางทิศตะวันออกด้วยความไม่พอใจ ปากของมันเปิดขึ้นเล็กน้อยและคำรามออกมาด้วยเสียงต่ำ

ในวินาทีต่อมาทางทิศตะวันออกของยอดเขาปรากฎอสรพิษดำที่มีความยาวสองร้อยเมตรลำตัวปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีดำและมีก้อนเนื้อน่าขยะแขยงอยู่บนหัว
ดวงตาตาทั้งสองของอสรพิษดำจ้องมองอย่างเย็นชาไปยังพยัคฆ์โดยไม่แสดงอาการหวาดกลัวใดๆ

ภูเขาขนาดใหญ่นี้มีความสูงชันเป็นอย่างมาก อาจพูดได้ว่ายอดเขาแห่งนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะขึ้นมายกเว้นแต่จะมีปีกเหมือนดั่งนก

อย่างไรก็ตามในตอนนี้พยัคฆ์และอสรพิษดำตัวใหญ่สามารถขึ้นมา

ด้วยความสามารถในการปีนของอสรพิษมันจึงสามารถขึ้นมาบนที่แห่งนี้ได้ แต่พยัคฆ์ตัวนี้กลับขึ้นมาบนนี้ได้เช่นกัน ซึ่งน่าแปลกใจเล็กน้อย

แต่ที่จริงแล้วก็แค่นั้นแหละ

ทั้งพยัคฆ์และอสรพิษดำไม่มีใครขยับพวกมันต่างจ้องมองกันและกันอย่างใกล้ชิด

หสกสังเกตให้ดีจะพบได้ว่าบนยอดเขาแห่งนี้ไม่ได้มีแต่พยัคฆ์และอสรพิษเท่านั้น แต่ยังมีเย่เฉินที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่กลางภูเขาโดยไม่รู้เรื่องอะไรเลย และยังมีผลไม้สีแดงที่แปลกประหลาดห้อยอยู่บนลำต้นขนาดเล็กอยู่ใกล้ๆกับเย่เฉิน

เมื่อเวลาผ่านไปเล็กน้อยกลิ่นหอมแปลก ๆ ก็ลอยออกมาจากยอดเขา

การปรากฏของกลิ่นหอมนี้ทำให้สัตว์ร้ายทั้งสองกระสับกระส่าย

บรรยากาศที่ตึงเครียดอยู่แล้วเริ่มครุกกรุ่นขึ้นทันที

การเผชิญหน้าอาจจะเกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้

เมื่อกลิ่นหอมที่รุนแรงขึ้นลอยขึ้นไปในอากาศสัตว์ร้ายทั้งสองต่างสั่งเสียงคำรามที่สั่นสะเทือนท้องฟ้าในเวลาเดียวกัน

จากนั้นพวกมันก็พุ่งเข้าหากันโดยไม่ได้สนใจเย่เฉินนอนอยู่บนยอดเขาเลยแม้แต่น้อย

เพราะสำหรับพวกมันแล้วเย่เฉินนั้นนั้นอ่อนแอเกินไป!

ไม่ว่าจะเป็นพยัคฆ์หรืออสรพิษดำก็สามารถสังหารเย่เฉินได้ด้วยลมหายใจของมัน

พยัคฆ์และอสรพิษดำเริ่มต่อสู้กันอย่างดุเดือดเศษหินกระจุยกระจายจากการปะทะเสียงคำรามดังขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่า

“ โฮกกกก!”

“ตูม”

ทั้งสองต่อสู้กันอย่างดุเดือด พวกมันพยายามออกห่างจากใจกลางภูเขาเพราะกลัวว่าผลไม้สีแดงจะถูกทำลาย

รอยเลือดปรากฏบนร่างของอสรพิษดำอย่างรวดเร็ว กรงเล็บของพยัคฆ์นั้นคมอย่างมากและฟันของมันทำให้มันดุร้ายยิ่งขึ้น

แม้ว่าอสรพิษดำจะอยู่ในท่าทางที่อ่อนแรง แต่พยัคฆ์ก็ไม่กล้าเข้าใกล้เพราะหากมันถูกอสรพิษดำรัดมันจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายในทันที

ทันใดนั้นเองกลิ่นหอมก็รุนแรงมากขึ้น สัตว์ร้ายทั้งสองเริ่มวิตกกังวล เพราะผลไม้นี้กำลังจะสุก!

“ โฮก โฮก!”

หลังจากเสียงคำรามดังขึ้นสองครั้งการต่อสู้ระหว่างพยัคฆ์และอสรพิษดำก็เริ่มใกล้ถึงจุดจบ

ขนของพยัคฆ์และเกล็ดของอสรพิษดำเริ่มถูกฉีกออกไปเรื่อย ๆ

ในตอนนั้นเองเย่เฉินลืมตาขึ้น

“ติ้ง ผู้เล่น เย่เฉิน ด้วยการเฝ้าดู ผานกู่เบิกฟ้า ได้รับความเข้าใจวิชา 9โคจรศักดิ์สิทธิ์” (จิ๋วจ่วนเสวียนกง)

“ติ้ง ผู้เล่น เย่เฉิน ด้วยการดู ผานกู่เบิกฟ้า ได้รับความเข้าใจทักษะเทพอัสนีบาต”

“ติ้ง ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น เย่เฉิน ด้วยการเฝ้าดู ผานกู่เบิกฟ้า,โชคชตา +100”

หลังจากที่เขางุนงงอยู่ชั่วครู่ดวงตาของเย่เฉินก็เปิดกว้าง

“ฮ่า ๆ ๆ ๆ … ”

เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งดังขึ้นในทันที เมื่อผ่านความยากลำบากคุณจะได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ!

วิชา 9โคจรศักดิ์สิทธิ์สามารถใช้เพื่อทำความเข้าใจ วิถีแห่งเต๋า ด้วยความแข็งแกร่ง

เทพอัสนีบาต นำพาสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่และสามารถควบคุมทัณฑ์ของสวรรค์ได้

ไม่ว่าทักษะใดจะปรากฏขึ้นจะมีการฆ่าฟันการนองเลือดเพื่อแย่งชิงพวกมันมา นับประสาอะไรกับสองทักษะที่ปรากฏขึ้นในเวลาเดียวกัน

แน่นอนว่าทักษะการบ่มเพาะทั้งสองเป็นทักษะอันดับต้นๆของโลก แต่ตอนนี้มันกลับเป็นของเย่เฉิน!

เสียงหัวเราะของเย่เฉินต้องหยุดลงเพราะในขณะนั้นเย่เฉินเห็นเสือโคร่งและอสรพิษดำขนาดใหญ่

พวกมันหยุดต่อสู้กัน ดวงตาขนาดใหญ่ทั้งสองคู่จับจ้องไปยังเย่เฉิน

“ พยัคฆ์น้ำแข็ง,อสรพิษดำลึกลับ … ”

เย่เฉินจำระบุที่มาของสัตว์ร้ายทั้งสองได้ทันที
พวกมันคือบอสเลเวล 100 ในพื้นที่รกร้างว่างเปล่าซึ่งเขารับรู้การดำรงอยู่ของพวกมันจากขุนพลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์

แต่เย่เฉินในตอนนี้เป็นเพียงเลเวลหนึ่ง ในขณะที่ผู้มาใหม่ทั้งสองไม่มีทางอ่อนโยนกับเขาอย่างแน่นอน

ทันใดนั้น กลิ่นหอมรุนแรงขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

สัตว์ร้ายทั้งสองรู้สึกหงุดหงิดขึ้นในทันทีและพร้อมที่จะกระโจนเข้าหากลิ่นนั้น

เย่เฉินนึกถึงบางสิ่งได้และด้วยการปัดมือขวาอย่างรุนแรงเขาก็คว้าเข้ากับผลไม้สีแดง

ผลหยางแกร่ง : ยาอายุวัฒนะระดับเหลืองจำเป็นต้องใช้ภายในครึ่งชั่วโมงหลังจากเก็บมัน มิฉะนั้นมันจะสลายกลายเป็นขี้เถ้า คุณลักษณะเพิ่มโอกาสในการทะลวงระดับ 30%

ทั้งอสรพิษดำและราชาพยัคฆ์ต่างต้องการสิ่งนี้เพื่อใช้ในการยกระดับ

เย่เฉินก็อยากได้เช่นกัน ท้ายที่สุดแล้วนี่เป็นสมุนไพรระดับสูง ตราบใดที่มันถูกเก็บรักษาด้วยเทคนิคพิเศษเมื่อความแข็งแกร่งถึงระดับหนึ่ง หลังจากกินมันก็จะเพิ่มโอกาศในการทะลวงระดับได้ง่ายดายยิ่งขึ้น

น่าเสียดายที่ในตอนนี้เย่เฉินทำได้เพียงโยนมันออกไปเพื่อใช้มันเป็นเหยื่อล่อ

การสูญเสียครั้งนี้ไม่สำคัญนัก อสรพิษดำและเสือตัวยักษ์ที่กำลังบ้าคลั่งพุ่งเข้าหากันทันที

การกัดอย่างไม่หยุดยั้งของพยัคฆ์,การรัดของอสรพิษดำ

พยัคฆ์กัดอสรพิษดำเกิดเป็นแผลลึกเจ็ดนิ้วและเหวี่ยงกรงเล็บอย่างบ้าคลั่ง

อสรพิษดำกัดเข้าที่คอพยัคฆ์ร่างของมันเข้าไปพัวพันกับพยัคฆ์อย่างแน่นหนาในเวลาเดียวกันก็พยายามขดรัดอย่างรุนแรง

อสรพิษดำมีพิษที่ร้ายกาจแต่พยัคฆ์ตัวนั้นก็ไม่ได้หลบหลีกแต่กลับกันสายตาของมันยิ่งดูบ้าคลั่งมากยิ่งขึ้น

แสงสีขาวสว่างวาบขึ้นและมีเสียง “แครก” ดังเข้ามา

พยัคฆ์ตัวนั้นค่อยๆใช้ฟันยาวเจ็ดนิ้วของมันกัดลงอย่างกระทันหันจากนั้นมันก็กัดที่หัวของอสรพิษดำ
อสรพิษดำก็บ้าคลั่งเช่นกันในเวลานี้เนื่องจากความเจ็บปวดทำให้มันรู้สึกถึงความตาย

อสรพิษดำฝังเขี้ยวที่คอพยัคฆ์ตัวใหญ่อย่างสิ้นหวังและฉีดพิษอย่างบ้าคลั่งเข้าไปในร่างกายของพยัคฆ์จากนั้นก็ค่อยๆรัดคอพยัคฆ์อย่างรุนแรง

เสียง “กรอบ กรุบ” ดังออกมาทันที

นี่คือเสียงของกระดูกหัก

กระดูกของพยัคฆ์ถูกอสรพิษดำรัดจนแตกและจำนวนกระดูกที่แตกหักยังคงเพิ่มขึ้น

มี “แครก”

พยัคฆ์กัดส่วนหัวของอสรพิษดำด้วยปากเพียงครั้งเดียวดียวและทันใดนั้น
พลังชีวิตของสัตว์ร้ายทั้งสองเริ่มหายไปอย่างรวดเร็ว

ด้านหนึ่งเย่เฉินที่มองอยู่คิ้วของเขาก็เลิกขึ้นทันที หลังจากชั่วครู่เขาก็หยิบหินขึ้นมาสองก้อนและปาไปที่พยัคฆ์และอสรพิษดำ

พยัคฆ์และอสรพิษดำยังไม่ตาย แต่ตอนนี้พวกมันไม่มีแรงเหลือแล้ว

หลังจากแน่ใจแล้วว่าพยัคฆ์และงูดำถูกโจมตีด้วยก้อนหิน เย่เฉินก็รู้สึกโล่งใจทันที จากนั้นก็เริ่มต้นหาก้อนหินที่ใหญ่ขึ้นเขาหยิบและขว้างก้อนหินใส่สัตว์ร้ายทั้งสอง

เวลาผ่านไปทีละนิด เมื่อผ่านไปหนึ่งชั่วโมงต่อมา

พยัคฆ์และอสรพิษดำนอนแน่นิ่งไปและหมดลมหายใจเกือบจะเวลาเดียวกัน

ในขณะนั้นเองเสียงประกาศของระบบก็ดังขึ้นในความคิดของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดทันที

“ติ้ง ผู้เล่น เย่เฉิน ฆ่าบอสพื้นที่รกร้างว่างเปล่าเลเวล 100 ราชาพยัคฆ์น้ำแข็ง เป็นครั้งแรกได้รับรางวัล 100,000 เหรียญทอง 100,000 แต้มคุณูปการ 100,000 ค่าชื่อเสียง”

“ติ้ง ผู้เล่น เย่เฉิน ฆ่าบอสพื้นที่รกร้างว่างเปล่าเลเวล 100 อสรพิษสายน้ำทมิฬเร้นลับ ได้รับรางวัล 50,000 เหรียญทอง 50,000 แต้มคุณูปการ และ 50,000 ค่าชื่อเสียง”