“ไม่พบการเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์ ไม่พบชีพจร”
“ไม่สำเร็จอีกแล้ว!”
ลูซีหยูเฝ้ามองหลายชีวิตหายไปต่อหน้าต่อตาเค้าทำให้เค้ารู้สึกหดหู่มาก พันธุกรรมไม่มีอะไรผิดปกติ ตันแบบชีวิตของพวกเค้าก็เสร็จสมบูรณ์ เค้าไม่รู้ว่าทำไมเค้าถึงยังล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำอีก
หลังจากเค้าเริ่มแผนปรับปรุงยีนให้เป็นอมตะ เค้าพยายามที่จะสร้างสปีชีย์ที่ฉลาดและมีอายุขัยยาวนาน เพื่อให้สำเร็จเค้าได้เพิ่มส่วนของยีนพืชลงในยีนที่มีอยู่ของมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ ความสามารถในการซ่อมแซมตัวเองและความมีชีวิตชีวาของพืชมีมากกว่าความสามารถของสัตว์ แม้ว่าพืชจะถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆน้อยๆตราบใดที่มีน้ำและแสงแดดก็สามารถเติบโตได้อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นใต้น้ำหรือบนบก เย็นหรือร้อนก็สามารถพบเจอพืชได้ พวกมันพบได้ในสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย เช่น ทะเลทราย พืชมีอายุยาวและที่สำคัญพวกเค้าสามารถอยู่ในสภาพที่ดีที่สุดได้ตลอดเวลาจนกว่าพวกมันจะตาย
ลูซีหยูพยายามออกแบบสายพันธุ์ที่มีอายุยืนยาวเหมือนพืช สิ่งมีชีวิตเหล่านี้จะสามารถมีชีวิตอยู่ได้เป็นพันปี เช่นเดียวกับพืชสิ่งมีชีวิตเหล่านี้จะสามารถคงความเยาว์วัยไว้ได้และจะเริ่มแก่ขึ้นในช่วงอายุ100ปีสุดท้ายของชีวิต
พวกเค้าไม่จำเป็นต้องกินอาหารจำนวนมากเพื่อให้ตัวเองมีพลังงานเพียงพอที่จะอยู่รอด ตราบใดที่พวกเค้ามีแสงแดดและน้ำเพียงพอพวกเค้าก็สามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้ นี่จะเป็นสิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบที่สุดและลูซีหยูตัดสินใจให้นี่เป็นผลงานชิ้นเอกของเค้า ปัญหาเดียวคือตอนนี้เค้ายังไม่สามารถสร้างมันได้สำเร็จ!
“หรือนี่อาจจะเป็นเพราะแม่?”
ทันใดนั้นลูซีหยูก็รู้ว่าเค้าได้ทำผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ สิ่งมีชีวิตนี้แตกต่างกับสิ่งมีชีวิตทั่วไปดังนั้นมันมันจึงเป็นไปไม่ได้สำหรับสิ่งมีชีวิตนี้ที่จะมีลักษณะของพืชที่จะเติบโตในมดลูกของสัตว์อื่นๆ เนื่องจากลักษณะของพืชไม่สามารถรับสารอาหารที่จำเป็นในมดลูกของสัตว์อื่นได้
เค้าเปลี่ยนงานวิจัยของเค้าไปอีกทางหนึ่งทันทีและเริ่มวางแผนสร้างพืชที่สามารถให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตดังกล่าวได้
“ความคิดฉันมันบ้าชะมัด! สิ่งมีชีวิตที่ชาญฉลาดจะเติบโตมาจากพืช!”
เค้าลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันทีและออกจากห้องแล็บ เค้ารีบไปที่ห้องสมุดที่ชั้นล่างเพื่ออ่านหนังสือ ลูซีหยูใช้เวลาในการคิด มีมดครึ่งคนมากมายที่กำลังวิ่งเข้ามาในปราสาทและทำงานที่ได้รับมอบหมาย พวกเค้าไม่เคยคุยกันหรือถามคำถามกับลูซีหยูเลย หลังจากเวลาผ่านไปลูซีหยูเริ่มคิดว่าพวกมันเหมือนหุ่นยนต์มากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นเค้ามักจะลืมว่าพวกมันมีตัวตนอยู่
หลังจากเข้ามาในห้องสมุดลูซีหยูก็พูดกับมดครึ่งคนที่กำลังกวาดพื้นอยู่ “หมายเลข23ไปรับตัวอย่างพืชหมายเลข1289,2358 และ256 แล้วนำพวกมันไปวางไว้บนโต๊ะในห้องแล็บ นอกจากนี้ไปสั่งในครัวให้ทำอาหารมาให้ฉันด้วย” มดครึ่งวางไม้กวาดและวิ่งออกไปจากห้องสมุด
ลูซีหยุเดินไปที่ชั้นวางหนังสือ หลังจากตรวจดูแล้วว่าหนังสือนั้นเกี่ยวกับพืชเค้าก็ยื่นมืออกมา ทันทีหนังสือ2-3จากบนชั้นก็ตกลงมาอยู่บนมือของเค้า ตอนนี้พลังจิตของเค้าแข็งแกร่งพอที่จะมีอิทธิพลต่อความเป็นจริงและเคลื่อนย้ายวัตถุ อย่างไรก็ตามทำได้แค่เฉพาะกับสิ่งของที่มีขนาดเล็กและเบา
ห้องสมุดทั้งหมดถูกปูด้วยพรมและสะอาดมาก งานแกะสลักที่สวยงามรอบๆล้วนทำมาจากไม้ทำให้สถานที่ดูเป็นศิลปะมากขึ้น ตราบใดที่พวกมันอยู่ในสมองของลูซีหยู พวกมดครึ่งคนก็สามารถทำออกมาได้ดีเสมอ พวกเค้าสามารถทำสิ่งที่ลูซีหยุต้องการได้อย่างสมบูรณ์แบบ แน่นอนว่าต้องงานเป็นงานที่ไม่ใช้สติปัญญามากนัก
ลูซีหยูนั่งลงบนโต๊ะไม้ที่อยู่กลางห้อง ใต้โต๊ะมีพรมที่ทำจากหนังหมี เค้าเปิดไฟที่อยู่เหนือเค้าขึ้นและจากนั้นเค้าก็เริ่มอ่านหนังสือสองสามเล่มที่เค้าหยิบมา ลูซีหยูแสกนหนังสืออย่างรวดเร็วราวกับว่าเค้าได้เปิดมันหมดแล้วและข้อมูลทั้งหมดได้ถูกบันทึกไว้ในสมองน้อยของเค้าแล้ว จากนั้นสมองน้อยของเค้าจะดึงข้อมูลที่ลูซีหยูต้องการและเผยแพร่ให้เค้า
“พืชพวกนี้มีอะไรบางอย่างเหมือนกับรังของพวกแมลง บางทีฉันสามารถเรียนรู้บางอย่างได้จากโครงสร้างของรัง”
ลูซีหยูเคาะนิ้วบนโต๊ะอย่างต่อเนื่องในขณะที่เค้ากำลังใช้ความคิด สมองน้อยส่งข้อมูลใหม่ๆให้เค้าอย่างต่อเนื่อง ในไม่ช้าข้อมูลพื้นฐานของแผนทั้งหมดก็เริ่มก่อตัวขึ้นในหัวของเค้า ทันใดนั้นมดครึ่งคนตัวหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับอาหารจานหนึ่งในมือ มันวางอาหารลงบนโต๊ะของลูซีหยูหลังจากนั้นมันก็ออกไปทำความสะอาดต่อ
สองอาทิตย์ต่อมาลูซีหยูเลือกทวีปที่ค่อนข้างใหญ่ในโลกของมาเรียและไปที่นั่น ในบรรดา5ทวีปในโลกของมาเรีย สองทวีปที่ใหญ่ที่สุดคือทวีปเอเลน และ อีกทวีปคือทวีปที่เค้ายืนอยู่ในตอนนี้ อีก3ทวีปนั้นมีภูมิประเทศที่มีภูมิประเทศเป็นเอกลักษณ์แต่มีสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยหรือมีขนาดเล็กเกินไป และแน่นอนว่ายังมีเกาะอีกหลายแห่งบนทะเลด้วยแต่เค้าไม่ได้นับรวมพวกมัน
เค้าทำแผนที่โลกของมาเรียและแขวนไว้ในห้องนอนของเค้าที่ปราสาทมิติ อย่างไรก็ตามเค้ายังไม่ได้ตั้งชื่อให้สถานที่ส่วนใหญ่บนแผนที่ นอกเหนือจากการตั้งชื่อทวีปที่สำคัญไม่กี่แห่งเพื่อให้เค้าสามารถจดจำและแยกพวกมันได้ง่าย เค้าไม่ได้วางแผนที่จะตั้งชื่อให้ทวีปอื่นๆเพราะเค้ารอให้สิ่งมีชีวิตในโลกของมาเรียตั้งชื่อให้พวกมัน!
ทวีปที่เค้ายืนอยู่นั่นชื่อ ยาลา ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของโลกในทิศที่ดวงอาทิตย์ขึ้น ภูมิอากาศเหมาะสมมากสำหรับสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ ทวีปนี้เต็มไปด้วยป่าและสัตว์ป่าที่เตร็ดเตร่ไปทั่ว ลูซีหยูเดินเข้าไปในป่าที่พื้นที่ราบลุ่มในทวีป ป่าเต็มไปด้วยเสียงนกร้อง กลิ่นหอมของดอกไม้ และต้นไม้ที่อัดแน่นมากมาย สถานที่ดูเหมือนจะไม่รู้จักฤดูหนาวและเป็นสวรรค์สำหรับพวกสัตว์อย่างแน่นอน
ในทันทีที่ลูซีหยูเข้ามาในป่า เค้าเห็นสิ่งมีชีวิตและพืชต่างๆมากมายซึ่งมีบางตัวที่เค้ารู้จักและก็มีบ้างที่เค้าไม่รู้จัก หลังจากตอนนั้นมาเป็นเวลานาน พืชและเมล็ดพันธุ์ที่ลูซีหยูได้นำมาหว่านไว้ตอนนี้ได้กลายเป็นพืชท้องถิ่นไปแล้ว เนื่องจากสภาพแวดล้อมและภูมิประเทศที่แตกต่างกัน สิ่งมีชีวิตจึงมีการเปลี่ยนแปลง
ลูซีหยูเข้าไปถึงตรงกลางของป่าชายเลนและพบหุบเขาที่สวยงาม ในหุบเขามีทะเลสาบที่เหมือนกระจก พื้นดินถูกปกคลุมไปด้วยหญ้าและดอกไม้สีสันสดใสจำนวนมากกำลังเบ่งบาน สายลมพัดผ่านและทำให้เมล็ดดอกแดนดิไลแอนกระจายไปทั่วหุบเขา
“ที่นี้แหละ!”
ลูซีหยูพยักหน้า เค้ารู้สึกพอใจกับสถานที่นี้ มีต้นอ่อนอยู่ในมือของเค้าและเค้าปลูกมันอย่างระมัดระวังในทุ่งหญ้าที่ลึกที่สุดของหุบเขา
“นี่จะเป็นแหล่งกำเริดของชีวิตในทวีปนี้ คุณจะเรียกมันว่า ‘ต้นไม้แห่งชีวิต’ ”