พอถูกหม่าม้าใช้ให้มาซื้อของที่ซุปเปอร์ใกล้บ้าน ก็เจอเข้ากับโอสึกิคุงโดยบังเอิญ

ฉันที่ได้เห็นโอสึกิคุงตอนนอกเวลาทำงานตกใจหยุดชะงักและเข้าไปแอบหลังชั้นวางสินค้า

ทะ ทำยังไงดี ส่งเสียงทักไปเลยดีมั้ยนะ?

เขามาที่บ้านก็ตั้งสองครั้งแล้วเพราะงั้น เลยจุดที่ต้องเกรงใจแล้วทักทายกันอย่างเป็นกันเองได้แล้ว ……รึเปล่า?

แต่ว่าทำยังไงดี ถ้าเกิดว่าโอสึกิคุงไม่ได้คิดกับฉันแบบนั้นล่ะ แล้วคิด『อะไรของยัยนี้? ทำตัวตีซี้จังนะ』แบบนี้แทนล่ะ

อูว……แบบนั้นไม่เอานะ……

แต่ว่า โอสึกิคุงไม่ใช่คนแบบนั้นหรอกใช่มั้ย?ก็แบบ เขาออกจะใจดีนี่นา ต้องทักทายพร้อมยิ้มกลับให้แน่

ฉันโผล่หัวออกจากด้านหลังชั้นวางสินค้าและจับตาดูท่าทีของโอสึกิคุงอย่างเงียบๆ

เห็นจ้องสินค้าตั้งโชว์ด้วยสีหน้าปั้นยากอย่างบอกไม่ถูกตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว

บางที โอสึกิคุงอาจจะสังเกตเห็นฉันอยู่ก่อนแล้วแต่แค่ไม่เข้ามาทักเฉยๆรึเปล่านะ คิดเป็นแบบนั้นไปแล้วแต่ ดูจากท่าทีแบบนั้นคงไม่ใช่สินะ

……โอสึกิคุง ทำหน้าแบบนั้นเป็นด้วยล่ะ

เวลาโอสึกิคุงมาทำงานที่บ้านทีไร ก็มักทำหน้าสงบอยู่ตลอด

แต่ ตอนนี้เขากำลังจ้องไปยังจุดหนึ่งด้วยสายตาเคร่งเครียด

แบบว่า รู้สึกดีใจนิดหน่อยที่ได้รู้จักโอสึกิคุงในมุมที่ตัวเองไม่รู้จัก

ขณะที่คิดเรื่องแบบนั้นพลางแอบดูท่าทีของเขาจากด้านหลังชั้นวางสินค้า จู่ๆเขาก็หยิบมือถือออกมาและเริ่มติดต่อหาใครซักคนด้วยความเร็วอันน่าตกใจ ไม่นานก็วางสายในสภาพท้อแท้สุดๆแล้วยื่นมือไปหยิบสินค้า

นั่นมัน น้ำมันงา? ทำไมถึงหยิบน้ำมันงาด้วยท่าทีเศร้าสร้อยแบบนั้นกันนะ?

ระหว่างที่ฉันกำลังนึกสงสัย โอสึกิคุงก็หันหลังให้อย่างโศกเศร้าและออกเดินอย่างโซซัดโซเซ

เกิดอะไรขึ้นกันนะ? ทำไมถึงดูเศร้าขนาดนั้นล่ะ?

เป็นเพราะน้ำมันงาเหรอ?คำถามผุดขึ้นมาเรื่อยๆ อยากรู้สุดๆ

「โอสึกิคุง?」

ฉันอยากรู้จนเผลอก้าวออกจากชั้นวางสินค้าที่ตัวเองแอบอยู่และส่งเสียงทักเขาโดยไม่รู้ตัว

อ๊า! ทำยังไงดี! เผลอทักไปซะแล้ว ยังไม่ได้เตรียมใจ ……

ฉันทำท่าลนลานพลาง คิดหาหัวข้อทักทายต่างๆเพื่อใช้สนทนากับโอสึกิคุงได้อย่างเป็นธรรมชาติ

วันนี้อากาศดีเนอะ ……เหมือนจะยังไม่ใช่ สวัสดีโอสึกิคุง ……นี่ก็ธรรมดาไปหน่อย?มาทำอะไรในที่แบบนี้เหรอ?……มาซุปเปอร์ก็ต้องซื้อของอยู่แล้วเนอะ ……ถ้างั้น…………ได้เจอกันในที่แบบนี้รู้สึกเหมือนพรหมลิขิตเลยเนอะ!……ไม่ใช่อันนี้แน่ๆ! เป็นอะไรไปเนี้ยตัวฉัน!?

ระหว่างที่ฉันกำลังคิดฟุ้งซ่าน โอสึกิคุงก็พูดบางอย่างที่ทำให้ฉันสับสนมากขึ้นกว่าเดิม

「อา! คุณโทโจ!! ท่านเทพธิดาจุติ!」

「เฮ๊ะ!?」

เผลอส่งเสียงประหลาดออกไปซะแล้ว!

ว่าแต่ เอ๊ะ!? เทพธิดา? ฉันเหรอ? ของโอสึกิคุง?

ไม่เห็นจะเข้าใจ

เทพธิดาเนี้ยอะไร? ภาพวาดของคนสมัยก่อน ที่มีคนยืนในเปลือกหอย ไม่ก็โบกสะบัดธงชาตินำหน้าประชาชน ?(หมายถึง เทพธิดาวีนัสกับโจน ออฟ อาร์ค มั้ง)

「คุณโทโจ! มีเรื่องอยากขอร้องคุณครับ!」

「คะ ค่ะ」

โอสึกิคุง มองฉันด้วยสายตาจริงจังสุดๆ ทำยังไงดี แบบว่ารู้สึกเหมือนหัวใจเต้นเร็วขึ้นเลยอะ

……ฮะ! เดี๋ยวนะ! นี่มัน……นี่มันอย่าบอกนะว่า สารภาพรัก!?

เดี๋ยวๆๆ! ตรงนี้เลยเหรอ? หน้าร้านขายเครื่องปรุงในซุปเปอร์? สารภาพรักด้วยน้ำมันงา!?

ทะ ทำยังไงดี …‥แปลกใหม่ไม่เหมือนใครจนหัวไม่แล่นเลยอะ

ตะ ตะตะ แต่ว่า ถ้าถูกสารภาพรักเราต้องปฏิเสธไปก่อนรอบนึง อืม ปฏิเสธไปก่อน จากนั้นก็ขอให้เริ่มจากเป็นเพื่อนกันก่อน

「คุณโทโจ!ขอความร่วมมือช่วยซื้อน้ำมันงาหน่อยครับ!」

「อ๊ะ ค่ะ!ทางนี้ก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ!」

เรามันบ้า!! ตังใจจะปฏิเสธก่อนรอบนึงแท้ๆ!……แล้ว หืม? น้ำมันงา? หมายความว่าไง?

「ได้เหรอครับ!? แหม〜ขอบคุณครับ! ช่วยได้มากเลยครับ」

「อ๊ะ ค่ะ ด้วยความยินดีค่ะ?」

เอ๊ะ? เอ๊ะๆ? อะไร? ยังไงนะ? ขอความร่วมมือช่วยซื้อน้ำมันงา? อารมณ์แบบคู่สามีภรรยาทำงานร่วมกันครั้งแรก ? แถมสินสอดยังเป็นน้ำมันงา?

ระหว่างที่ฉันกำลังคิดฟุ้งซ่าน โอสึกิคุงก็ทำหน้ายิ้มแย้ม ชี้นิ้วไปยังอักษรตัวหนึ่งซึ่งเขียนอยู่บนกระดาษใบประกาศที่แปะอยู่ตรงชั้นวางน้ำมันงาแล้วพูดต่อ

「พอดีเจ้าน้ำมันงานี่ จำกัดหนึ่งคนต่อหนึ่งขวดน่ะครับ ก็ขอให้เพื่อนมาช่วยซื้อขวดที่สองแล้วล่ะครับ แต่เพื่อนคนนั้นดันมาไม่ได้ ผมก็เลยกะว่าจะตัดใจยอมแพ้แล้วซื้อขวดเดียวน่ะครับ」

「อ๊ะ! เป็นแบบนั้นนี่เอง!……นั่นสินะ จำกัดหนึ่งคนต่อหนึ่งขวด ……อื้ม นั่นสินะ แค่ให้ฉันซื้อในส่วนของโอสึกิคุงก็พอสินะ?」

「ครับ เดี๋ยวผมจ่ายเงินให้ทีหลัง」

「อื้ม เข้าใจแล้ว ถ้างั้น ซื้อเลยเนอะ」

ฉันพูดแบบนั้นและเอื้อมมือไปหยิบน้ำมันงาบนชั้นวางสินค้าใส่ลงในตะกร้า

…………น่าอายสุดๆ!!!!!!!!

นี่เรา ดันเข้าใจผิดซะยกใหญ่เลยไม่ใช่รึไง!! ขอแต่งงานด้วยน้ำมันงาอะไรกันเล่า!!มันจะไปมีของแบบนั้นได้ยังไงกันเล่า!! เรามันบ้า! บ้า! บ้า!

อา……แบบว่า รู้สึกเหมือนน้ำมันงาจะกลายเป็นปมในใจเลย

รับรองว่าหน้าของฉันตอนนี้ต้องแดงไปถึงหูเพราะความอายแน่เลย เป็นไปได้ก็ไม่อยากให้โอสึกิคุงเห็นหน้าแบบนี้ของตัวเอง

ฉันพยายามเบือนหน้าหนีเพื่อไม่ให้โอสึกิคุงเห็น

「แหม ซื้อน้ำมันงาได้ในราคา78เยนเนี่ย ประสบการณ์แบบนี้ คงไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ

ครั้งหน้าที่จะได้ซื้อในราคานี้อีก อาจจะเป็นอีก80ปีข้างหน้าเลยก็ได้」

「น้ำมันงา78เยนเนี่ยถูกมากเลยเนอะ」

น้ำมันงาราคาพิเศษเนี่ยระยะเวลาครบรอบพอๆกับดาวหางเลยเหรอ จริงอะ?

ขณะที่แกล้งทำเป็นมองที่น้ำมันงาบนชั้นวางสินค้า ฉันก็เบือนหน้าหนีจากโอสึกิคุงแล้วเริ่มบทสนทาต่อ

「ราคานี้ถือเป็นปาฏิหาริย์เลยล่ะครับ ปีนี้ต้องได้รับรางวัล คิง ออฟ น้ำมันงา แน่เลยครับ」

「คิง ออฟ น้ำมัน …ฟุฟุ อะไรล่ะนั่น」

ฉันเผลอระเบิดหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ให้คำพูดติดตลกของเขา

โอสิกิคุง พูดติดตลกแบบนี้ก็เป็นด้วย

ขณะที่คิดแบบนั้นฉันก็นึกสงสัยว่าเขากำลังทำหน้าแบบไหนอยู่ จึงชำเลียงมองจากด้านข้างอย่างรวดเร็ว

โอสึกิคุงในตอนนี้ กำลังทำหน้ายิ้มแย้มสุดๆซึ่งบ่งบอกได้ว่ากำลังดีใจ ตรงจุดนั้น รู้สึกเหมือนไปซ้อนทับกับเรียวตะที่กำลังมีความสุขอย่างไร้เดียงสายังไงไม่รู้

น่ารัก ……

รอยยิ้มอันไร้เดียงสาของโอสึกิคุงที่ปกติมักทำตัวเป็นผู้ใหญ่ ทำเอาฉันเผลอยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้

……ว่าแต่ เรียกเพื่อนร่วมชั้นที่เป็นผู้ชายว่าน่ารักเนี่ยเป็นการเสียมารยาทสินะ

โอสึกิคุงเองถ้าถูกเด็กผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกันบอกว่า『น่ารัก』ก็คงรู้สึกไม่สบายใจเหมือนกัน

ฉันกดความรู้สึกที่ผุดขึ้นในใจของตัวเองลงไป

「จะว่าไป คุณโทโจมาซื้ออะไรเหรอครับ?」

「เอ๊ะ ?อ๊ะ หม่าม้าใช้ให้มาซื้อวาซาบิน่ะ」

「แค่วาซาบิเหรอครับ?」

「อื้ม」

「ถ้าแค่นั้น บอกผมตอนไปทำงานที่บ้านให้ซื้อไปให้ก็ได้แท้ๆ」

โอสึกิคุงพูดออกมาแบบนั้น แต่ฉันกลับส่ายหัว

「ป๊ะป๋าน่ะนะ บอกว่าวันนี้อยากให้โอสึกิคุงจดจ่อกับการทำมื้อเย็นก็พอน่ะ」

「……? วันนี้มีเมนูที่อยากให้ทำเหรอครับ?」

「อื้ม ที่จริงแล้วดูเหมือนวันนี้ป๊ะป๋าไปตกปลา แล้วอยากให้โอสึกิคุงจัดการกับปลาที่ตกมาได้น่ะ」

บางครั้งป๊ะป๋าก็จะออกไปตกปลาเป็นงานอิดเรก แต่ก็ชอบกลับบ้านตัวเปล่าตลอดพอลองถามก็บอกว่าเอามาแร่ที่บ้านมันน่ารำคาญ เลยยกให้เพื่อนนักตกปลาไปแล้ว

แต่ว่า เพราะครั้งนี้มีโอสึกิคุง เลยพยายามหอบปลาที่ตกได้ทั้งหมดกลับบ้าน

「โอสึกิคุงเนี่ยแร่ปลาเป็นรึเปล่า?」

เห็นป๊ะป๋าตื่นเต้นซะยกใหญ่เลยลืมถามไปแต่ ถึงโอกาสจะหนึ่งในหมื่น แต่ถ้าเกิดโอสึกิคุงแร่ปลาไม่เป็นขึ้นมาละก็ ป๊ะป๋าได้ตื่นเต้นเก้อแน่

เอาเถอะ โอสึกิคุงซะอย่างคงไม่มีปัญหาหรอกแต่ ก็มีคนประเภทที่สัมผัสปลาไม่ได้อยู่ โอสึกิคุงอาจจะเป็นหนึ่งในนั้นก็ได้

โอสิกิคุงที่ลนลานเพราะปลาที่กระเด้งไปมาบนเขียง ……อืม น่ารัก ไม่ว่ายังไงก็อยากเห็น

「นั่นสินะครับ ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของปลาด้วยน่ะครับแต่ว่า ผมพอรู้วิธีจัดการขั้นพื้นฐานอยู่ เพราะงั้นคิดว่าน่าจะไม่เป็นไรครับ แล้วก็ ขอถามได้รึเปล่าครับว่าตกได้ปลาแบบไหนมา?」

「อ๊ะ อื้ม แปบนะ น่าจะมีเขียนไว้ในข้อความที่ป๊ะป๋าส่งมา」

ฉันระวังตัวเรื่องที่เกือบยิ้มน้ำลายยืดเพราะการมโนของตัวเอง ดึงสีหน้าให้เข้มขรึมอย่างเร่งรีบและเปิดข้อความที่คุยกับป๊ะป๋าในแอบติดต่อบนมือถือ

「คือว่านะ ที่ตกได้ก็มีปลาหางเหลืองกับปลากระพงแดง แล้วก็……ตรงนี้อ่านว่ายังไงนะ?」

ฉันเอียงคอให้คันจิที่ตัวเองไม่คุ้นเคย

ปลาในฤดูใบไม้ผลิ อื〜ม เหมือนจะเคยเห็นที่ไหน แต่ก็ไม่เคยเห็น?

พอฉันกลุ่มใจอยู่กับคันจิที่อ่านไม่ได้ โอสิกิคุงที่อยู่ข้างๆก็ส่งเสียงทัก

「ขอดูหน้าจอแปบนึงได้รึเปล่าครับ?」

「อื้ม」

พอฉันพยักหน้า โอสึกิคุงก็โน้มตัวเข้ามาใกล้และจ้องลงไปยังมือถือของฉัน

「อา〜 เจ้านี่มันปลาซาวาระสินะครับ」

「เห๋ ปลาในฤดูใบไม้ผลิอ่านว่าซาวาระนี่เอง」

「เจ้าปลาตัวนี้ พอถึงฤดูใบไม้ผลิก็จะเข้ามาใกล้ชายฝั่งเพื่อวางไข่ ทำให้พบเห็นได้ค่อนข้างบ่อยน่ะครับ เพราะงั้นคนสมัยก่อนเลยเรียกซาวาระว่าเป็นปลาที่แสดงถึงการมาเยือนของฤดูใบไม้ผลิครับ คันจิเองก็เหมือนจะเอามาจากคำว่าปลากับฤดูใบไม้ผลิน่ะครับ」

(ขอนิดนึงครับ サワラหรือปลาอินทรี (คันจิ鰆)มาจากคำว่าปลา(魚)+ฤดูใบไม้ผลิ(春)รวมกันตู้มง่ายๆ)

「งี้นี่เอง แบบว่าแสดงถึงการมาเยือนของฤดูใบไม้ผลิเนี่ยฟังดูวิเศษไปเลยเนอะ」

ในสมองของฉัน จิตนาการถึงปลารูปร่างแฟนซีแหวงว่ายอย่างงดงามในทะเลราวดอกซากุระปลิวไสว

「แต่ว่าเจ้าปลานี่ ฟันมันคมสุดๆ จนกัดเบ็ดตกปลาขาดได้ง่ายๆเลยล่ะครับเพราะงั้น นักตกปลาเลยตั้งสมญานามให้มันว่าซาวาระยอดนักตัด น่ะครับ」

โอสึกิคุงพูดพลางหัวเราะ「ฮ่าฮ่าฮ่า」ทำให้ภาพลักษณ์ที่มีต่อซาวาระของฉันเปลี่ยนไปจากที่มองว่าน่ารักกลายเป็นปลาที่ดุร้ายราวกับปิรันย่า

「หรือว่าซาวาระเนี่ยจะเป็นปลาที่น่ากลัว?」

「ก็นะ เพราะเป็นปลากินเนื้อขนาดใหญ่ล่ะนะครับ แต่ว่ารสชาติอร่อยไร้ที่ติเลยล่ะครับ ซาชิมิน่ะแน่นอนแต่ไซเคียวยากิเองก็สุดยอดไม่แพ้กันครับ เพราะเป็นปลาเนื้อนุ่ม เนื้อสัมผัสเลยละมุนลิ้นเคี้ยวง่าย ถ้าได้ลิ้มลองสักครั้งรับรองว่าต้องติดใจแน่ครับ」

「เห๋ โอสึกิคุงเนี่ยรอบรู้จังนะ」

ฉันพูดแบบนั้นพร้อมหันหน้าไปทางโอสึกิคุงที่อยู่ข้างๆ

จากนั้นก็ เบือนสายตากลับมามองหน้าจอมือถืออย่างรวดเร็ว

กะ ใกล้!! หน้าของโอสึกิคุงอยู่ใกล้จนจะ!!

เพราะเราทั้งคู่กำลังมองหน้าจอมือถือเดียวกัน ใบหน้าจึงอยู่ใกล้กัน

ทะ ทำยังไงดี……

แต่ว่า ถ้าฉันผลีผลามถอยห่างตรงนี้ล่ะก็ โอสึกิคุงอาจจะรู้ตัวก็ได้……โอสึกิคุงไม่รู้สึกถึงระยะห่างนี้ของพวกเราเลยเหรอ?

ฉันในตอนนี้กับโอสึกิคุง อยู่ใกล้กันจนไหล่จะกระทบกันอยู่แล้ว พวกเราเข้ามาอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวของกันและกันอย่างสมบูรณ์

คราวนี้ฉันค่อยๆหันสายตาไปทางโอสึกิคุง เพื่อไม่ให้เขารู้ตัวว่ากำลังถูกแอบมอง

อ๊ะ โอสึกิคุงเนี่ยขนตาค่อนข้างยาวเลยนะ ยังไงกันนะ พอได้ดูหน้าของโอสึกิคุงแล้ว มันก็พลายรู้สึกแปลกๆราวกับกำลังถูกดูดเข้าไปยังไงก็ไม่รู้……

「จะว่าไปที่บ้านของคุณโทโจมีแก็สกระป๋องรึเปล่าครับ?」

「อึก!?!? อ๊ะ เอ๊ะ? แก็สกระป๋อง? ยังไงกันนะ? คิดว่าน่าจะไม่มีนะ」

ตะ ตกใจหมดเลย!

ตอนที่กำลังจ้องมองใบหน้าด้านข้างของโอสึกิคุงอยู่ จู่ๆเขาก็หันหน้ามาพูดกับฉัน นึกว่าหัวใจจะหยุดเต้นซะแล้ว

「แก็สกระป๋องเนี่ยจำเป็นในการเตรียมปลาด้วยเหรอ?」

เรื่องที่แอบมองโอสึกิคุงจากด้านข้าง ความยังไม่แตกใช่มั้ย?

ฉันหวั่นใจเล็กน้อยพร้อมกล่าวถามโอสึกิคุง

「ซาชิมิเนื้อปลาซาวาระจำเป็นต้องใช้แก็สกระป๋องครับ」

「เฮะ เห๋〜แบบนี้นี่เอง」

ดูเหมือนจะไม่เป็นไร ดูเหมือนเรื่องที่ฉันแอบมองโอสึกิคุงจากด้านข้างความจะยังไม่แตก

「พอดีเลย ข้างๆซุปเปอร์แห่งนี้มีโฮมเซ็นเตอร์อยู่ เดี๋ยวผมจะไปแวะซื้อจากที่นั่นก็แล้วกันครับ」

「อ๊ะ เดี๋ยว ฉันขอตามไปด้วยได้รึเปล่านะ?」

แย่แล้ว!แบบว่า เผลอพูดสวนกลับไปว่าอยากตามไปด้วยซะแล้ว

「โฮมเซ็นเตอร์เหรอครับ?」

「อื้ม พอดีฉันไม่ค่อยได้ไปร้านแบบนั้น ก็เลย ……」

ถึงปากจะพูดไปแบบนั้น แต่ใจจริงนั้นไม่ใช่

ฉันแค่อยากอยู่กับโอสึกิคุงต่ออีกสักหน่อย อยากรู้เรื่องของเขาตอนนอกเวลางานมากขึ้น

เผลอเอาแต่คิดเรื่องทำนองนั้นไปแล้ว ว่าแล้วเชียวฉันกับโอสึกิคุงแล้ว……

ไม่ เดี๋ยวก่อน!ยังเร็วเกินไปที่จะด่วนสรุปเอาตอนนี้ บางทีฉันแค่อยากสนิทกับโอสึกิคุงในฐานะเพื่อนเฉยๆก็ได้ แล้วก็เพราะเป็นเด็กผู้ชายคนแรกที่ตัวเองโต้ตอบได้ตามปกติเป็นครั้งแรกก็ได้

จริงอยู่ว่า พอคิดย้อนไปถึงเรื่องที่ได้ทำกับโอสึกคุงจนถึงตอนนี้ ก็รู้สึกว่ามีตอนที่ใจเต้นตึกตักอยู่บ้างก็เถอะแต่ ก็ไม่มีอะไรมารับรองว่าได้ตกหลุมรักไปแล้ว ……หืม?

จะว่าไปฉัน เมื่อกี้ตอนที่เข้าใจผิดไปว่าโอสึกิคุงจะสารภาพรัก ตอนเขาพูดว่า『ขอความร่วมมือช่วยซื้อน้ำมันงาหน่อยครับ』ฉันก็เผลอตอบกลับไปว่า『ค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ』ทันทีเลยไม่ใช่เหรอ?

……นั่นน่ะ ถ้าเกิดว่าตอนนั้นโอสึกคุงสารภาพรักจริงๆล่ะ หมายความว่าฉันตอบรับไปแล้วเหรอ? เอ๊ะ? นั่นน่ะหมายความว่ายังไงอะ? เอ๊ะ? ยังไงกันนะ? เอ๊ะ? ทำยังไงดี!?

ว่าแล้วเชียวฉันกับโอสึกิคุงแล้ว……ไม่รู้! ไม่รู้ด้วยแล้ว!! ไม่เห็นจะเข้าใจความรู้สึกของตัวเองเลย!!

ทั้งทีหัวใจของฉันยุ่งเหยิงราวกับใต้ฝุ่นแท้ๆ แต่โอสึกิคุงกลับผลิยิ้มให้ฉันอย่างไร้ปรานี

「ถ้างั้น พวกเราไปโฮมเซ็นเตอร์ด้วยกันเนอะ」

「คะ ค่ะ รบกวนด้วยค่ะ」

ฉันที่ไม่สามารถจัดระเบียบความรู้สึกของตัวเองได้ ได้แค่ตอบกลับอย่างแผ่วเบาพร้อมก้มหน้ามองพื้นเพื่อไม่ให้โอสึกิคุงเห็น

*ไซเคียวยากิ

คุณอายากะนี่ไปไม่หยุดฉุดไม่อยู่แล้วล่ะ