ฮารุโตะหลั่งเหงื่อที่โรงฝึกจนถึงช่วงเกือบเที่ยง จังหวะที่เปลี่ยนชุดฝึกเป็นชุดธรรมดาเสร็จแล้วเตรียมตัวจะกลับบ้าน อิชิกุระก็เรียกให้หยุด
「ฮารุโตะ มีเรื่องจะขอร้องนิดหน่อยน่ะ」
เขาพูดแบบนั้นพร้อมในมือถือกล่องสีขาวราวกับใส่เค้กข้างใน
「หืม? มีอะไรเหรอครับ?」
「แบบว่า เจ้านี่น่ะ อ๊ะ ซิซึคุ! เธอเองก็มานี่ด้วย」
อิชิกุระรั้งซิซึคุที่กำลังเดินผ่านด้วยอีกคน
「มีอะไรเหรอคะรุ่นพี่คาซึ?สารภาพรักเหรอคะ?ขอโทษนะคะพอดีฉันเป็นของรุ่นพี่ฮารุไปแล้วน่ะค่ะ」
ฮารุโตะยิ้มเจื่อนให้รุ่นน้องผู้พูดจาด้วยสีหน้าเรียบเฉย
「ถ้าพูดแล้วทำหน้าเขินสักหน่อยฉันก็คงหวั่นไหวอยู่หรอกแต่ พูดอย่างกับขอไปทีด้วยหน้าตาจริงจังแบบนั้นมันก็อีกเรื่อง」
พอฮารุโตะพูดพร้อมถอยหายใจ ซิซึคุก็บิดเอวเล็กน้อยเอียงคอทำท่าเย้ายวน ช้อนตาขึ้นมองฮารุโตะ
「เป็นไงคะ? โดนใจรึยังคะ? ใจสั่นรึเปล่าคะ?」
「……ชิซึคุ ไปฝึกกล้ามเนื้อบนหน้าก่อนเถอะค่อยมาโพสท่า」
「รุ่นพี่ฮารุ เป็นคนประเภทที่ถ้าไม่ทำให้ผู้หญิงกลายเป็นแบบที่ตัวเองชอบก็จะไม่พอใจสินะคะ เอาใจยากซะจริง」
「โอ้ーย พวกแก หยุดเรื่องไร้สาระพรรค์นั้นแล้วฟังคำขอของฉันทีเถอะ」
อิชิกุระขัดจังหวะการสนทนาของฮารุโตะและชิซึคุด้วยสีหน้าเอือมระอา ฮารุโตะทำหน้าจริงจังหันไปมองเขา
「ถ้าเป็นคำขอของรุ่นพี่คาซึล่ะก็ผมยอมทำตามทุกอย่างเลยครับ แล้ว ครั้งนี้จะไปถล่มกลุ่มไหนล่ะครับ?」
「โปรดสั่งมาได้ตามต้องการเลยค่ะ หัวหน้า」
ชิซึคุก็คล้อยตามการล้อเล่นที่ออกจะเลยเถิดของฮารุโตะอย่างกระตือรือร้น
โดยปกติ เธอก็มักถูกเข้าใจผิดอยู่บ่อยๆเพราะสีหน้าไร้อารมณ์แต่ ด้วยบุคลิกที่ค่อนข้างร่าเริง เธอจึงเข้ากับความขี้เล่นของฮารุโตะได้อย่างลงตัว
「พวกแกนี่นะ……หยุดล้อเล่นซักทีจะได้มั้ย?」
อิชิกุระแสดงท่าทีอันสุดยอดใส่รุ่นน้องทั้งสองที่หยอกล้อตัวเอง หากเป็นคนที่ไม่รู้จักได้มาเห็นท่าทีอันดุดันของเขา อย่าว่าแต่เด็กแม้แต่ผู้ใหญ่ยังต้องหลังน้ำตา มีอนุภาพถึงเพียงนั้นเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ฮารุโตะและชิซึคุที่รู้จักตัวเขามาตั้งแต่เมื่อก่อนนั้นทำหน้าไม่สะทกสะท้านพร้อมปล่อยผ่านการจ้องเขม่นของอิชิกุระ
ตรงจุดนั้น ชิซุคุกลับหยอกล้อเขาหนักกว่าเดิมด้วยซ้ำ
「รับทราบรุ่นพี่คาซึ ผู้มีใบหน้าดุดันที่สุดในญี่ปุ่น!」
「ว่าใครหน้าดุกันฮะ! เอาเถอะ……ช่างมันแล้วกัน เอาเป็นว่าทั้งคู่ช่วยกินเจ้านี่หน่อย」
อิชิกุระพูดแบบนั้นพร้อมหยิบทาร์ตไซด์มินิรสผลไม้ออกจากกล่องที่ถืออยู่
「เอ๊ะ? กินได้จริงๆเหรอครับเจ้านี่?」
「รุ่นพี่คาซึ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายถึงขั้นโดนของพรรค์นั้นล่อได้หรอกนะคะ」
「โอ้ว ลองกินดูหน่อยเถอะ ว่าแต่ กินเข้าไปแล้วไม่ใช่รึไงชิซึคุ ยัยผู้หญิงใจง่ายเอ๊ย!」
ชิซึคุที่เคี้ยวทาร์ตผลไม้ตุ่ยๆอยู่ข้างๆทำตาเป็นประกาย ฮารุโตะเองก็หยิบขึ้นแล้วลองกิน
「――อึก!? เจ้านี่อร่อยสุดๆเลยไม่ใช่เหรอครับ! ไปซื้อจากร้านไหนมาครับเนี้ย!?」
ความอร่อยนั้นทำเอาฮารุโตะเบิกตาโพลง
คัสตาร์ดครีมรสสัมผัสหวานละมุน ที่พอเอาเข้าปากรสชาติอันเข้มข้นของไข่ก็ฟุ้งกระจายเตะจมูก ตามด้วยรสเปรี้ยวปานกลางของผลไม้ที่ช่วยตัดเลื่อนความหวานของครีม ทำให้หลงเหลือความสดชื่นหลังจากทานเข้าไป เนื้อสัมผัสกรุบกรอบของแป้งทาร์ตก็ช่วยเพิ่มอรรถรสในการกิน จนฮารุโตะกินหนึ่งชิ้นหมดในพริบตา
พอหันไปดูข้างๆ ก็เห็นชิซึคุกำลังกินชิ้นที่สองเกือบหมดแล้ว
「ร้านเค้กแถวนี้มีทาร์ตผลไม้แบบนี้ขายด้วยเหรอ?」
「อา〜 คือว่า ที่จริงแล้วเจ้านี่น่ะ ……ฉันทำเองแหละ」
「เอ๊ะ?」
「กุฟุ!!」
ฮารุโตะอ้าปากหวอ ตอบสนองต่อถ้อยคำที่อิชิกุระกล่าวออกมา ชิซึคุรีบกลืนทาร์ตผลไม้ชิ้นที่สามลงคอ
「เอ๊ะ!? ถามจริง!? เจ้านี่น่ะนะ? รุ่นพี่คาซึทำเอง??」
「รุ่นพี่คาซึที่หน้าตาชั่วร้ายจนเหมือนจะเปลี่ยนน้ำตาลเป็นเกลือได้คนนั้นน่ะนะ ของแบบนี้ ทำของแบบนี้ ……」
「ไม่ได้หน้าตาชั่วร้ายเว้ย แล้วฉันก็ไม่มีความสามารถพิเศษแบบนั้นด้วย!!」
อิชิกุระขึ้นเสียงอย่างฉุนเฉียวตอบโต้เหล่ารุ่นน้องผู้หยาบคาย
「ว่าแต่รุ่นพี่คาซึ เจ้านี่อร่อยมากเลยนะครับ คุณภาพระดับวางขายหน้าร้านได้เลยนะครับ」
「โอะ โอ้ งั้นเหรอ?」
ถ้อยคำของฮารุโตะ ทำให้อิชิกุระหายโกรธอย่างรวดเร็ว
「จริงอย่างที่ว่า เจ้านี่ระดับเปิดร้านเองได้เลยนะคะ ส่วนชื่อร้านก็เอาเป็น『แก็ปออฟไลนิ่ง893』」
「เอาล่ะชิซึคุ มาเป็นคู่ซ้อมให้ฉันสักยกหน่อยเป็นไง」
「อ๊ะ ฉันต้องไปช่วยงานที่บ้านนี่นา」
ชิซึคุสับส้นเท้าเข้าไปในบ้านซึ่งอยู่ติดกับโรงฝึก ราวกับหนีจากอิชิกุระที่เดินเข้าหา
「ให้ตายสิยัยนั่น ถ้าอยู่เงียบๆก็ออกจะน่ารักแท้ๆ เสียของซะจริง」
「ก็นะ สมเป็นยัยนั่นดีแหละครับ กลับกันถ้าเกิดไม่พูดเรื่องไร้สาระแล้วทำตัวสมเป็นผู้ใหญ่ล่ะก็ แบบนั้นคงหน้ากลัวนิดหน่อย」
「ก็จริง」
อิชิกุระเองก็เห็นด้วยกับความคิดเห็นของฮารุโตะ
「ว่าก็ว่าเถอะ ทาร์ตผลไม้ของรุ่นพี่คาซึอร่อยมากเลยนะครับ ทำขนมเก่งขึ้นขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันครับ?」
ฮารุโตะผู้รู้ว่างานอดิเรกของอิชิกุระคือการทำขนมและรู้ว่าขนมที่เขาทำนั้นอร่อยมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่รู้สึกว่าของที่ได้กินวันนี้คุณภาพสูงกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่า
「ก็นะ ในยุคนี้ ถ้าลองค้นในเน็ตก็เจอสูตรแล้วล่ะ แถมมีวิดีโอให้ดูด้วยใช่มั้ยล่ะ? ก็เลย ลองเรียนทำขนมแบบจริงจังดูสักตั้งน่ะ」
「เห๋ สุดยอดเลยนะครับ คราวหน้าช่วยสอนผมทำขนมหน่อยสิครับ พอดีผม ไม่ค่อยมีประสบการณ์ทำขนมตะวันตกเท่าไหรน่ะ」
「โอ้ว เอาดิ คราวหน้าลองทำเค้กด้วยกันดูมั้ยล่ะ」
「ดีเลยนะครับนั่นน่ะ โอ๊ะ ผมเองก็ต้องรีบกลับแล้วสิ หลังจากซื้อของเข้าบ้านเสร็จต้องไปทำพาร์ทไทม์อีก」
ฮารุโตะกล่าวขณะมองดูนาฬิกาที่แขวนอยู่ตรงผนังโรงฝึก
หลังแวะซื้อนัตโตะที่รับปากกับยายไว้ตอนเช้า ตอนเย็นก็ต้องไปทำงานที่บ้านโทโจ
「งั้นเหรอ ฮารุโตะพึ่งเริ่มทำพาร์ทไทม์ช่วงวันหยุดฤดูร้อนสินะ」
「ใช่แล้วครับ ถ้างั้นไว้เจอกันครับรุ่นพี่คาซึ」
「โอ้ พาร์ทไทม์ก็พยายามเข้าล่ะ」
หลังฮารุโตะกล่าวลาอิชิกุระ ตัวเขาก็ออกจากโรงฝึก
ระหว่างทางจากโรงฝึกไปซุปเปอร์ ฮารุโตะนึกย้อนถึงทาร์ตผลไม้ฝีมืออิชิกุระที่ตนทานเข้าไปเมื่อครู่
「ถ้าทำทาร์ตให้ เรียวตะคุงคงดีใจน่าดู」
สภาพเรียวตะที่หัวเราะอย่างไร้เดียงสะ ทำเอาฮารุโตะผุดยิ้มมุมปาก
「อย่างไข่ตุ๋น ไม่ก็โอฮากิก็พอมั่นใจอยู่ว่าทำออกมาได้อร่อยแต่ พวกขนมตะวันตกเนี่ยไม่ค่อยมั่นใจเลยน้า」
แม้ตัวเองจะรู้วิธีทำขนมประเภทเค้กแต่ ฮารุโตะก็รู้ดีว่าการที่จะทำของหวานออกมาให้อร่อยมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
「ทั้งที่กินออกจะง่ายขนาดนั้นแท้ๆ」
ฮารุโตะพึมพำเรื่องที่ช่วยไม่ได้พลางมุ่งหน้าไปซุปเปอร์
ช่วงบ่ายของกลางฤดูร้อน ท่ามกลางแสงแดดแรงจ้าที่สาดส่องอย่างไร้ปราณี ฮารุโตะมาถึงซุปเปอร์พร้อมเหงื่อท่วมตัว
พอหยิบตะกร้าใส่ของตรงหน้าทางเข้าแล้วเข้าไปในซุปเปอร์ อากาศเย็นสบายก็เข้ารายล้อมทันที จนฮารุโตะเผลอสูดหายใจเข้าสุดปอด
「หืม? คนเยอะกว่าที่คิดอีกนะ」
ตามภาพจำของฮารุโตะ ซุปเปอร์ในช่วงเที่ยงนั้นมักคนน้อยแต่ เพราะตอนนี้เป็นช่วงปิดเทอมฤดูร้อนกระมัง คนถึงได้เยอะกว่าปกติ
พอฮารุโตะเดินเข้าร้านเพื่อซื้อนัตโตะตามจุดประสงค์ ก็เหลือบไปเห็นใบประกาศแผ่นหนึ่งเข้า
「โอ๊ะ? ไทม์เซลงั้นเหรอ เพราะงั้นคนเลยเยอะสินะ」
นี่อาจเป็นกลยุทธ์ที่ทางซุปเปอร์ใช่เพิ่มพลังดึงดูดลูกค้าโดยการลดราคาสินค้าในช่วงที่คนน้อย
「ไหนๆ มีอะไรดีๆบ้างมั้ยเอ่ย?」
ฮารุโตะเข้าเช็คใบประกาศที่อยู่ใกล้ๆ
ดูเหมือนไทม์เซลของครั้งนี้จุดขายหลักจะเป็นเนื้อ
「ซี่โครงวัวสับ100gราคา128เยนเหรอ ……อื〜ม ถูก ถึงจะถูกก็เถอะแต่ ก็ไม่ได้ถึงขั้นต้องพุ่งเข้าหา ……」
ฮารุโตะรู้สึกว่าสินค้าในใบประกาศไม่น่าดึงดูดเท่าไหร่
บางทีอาจเป็นเพราะสูญเสียความอยากอาหารจากการเดินท่ามกลางความร้อนระอุก่อนหน้านี้ จนตัวเองรู้สึกว่า เนื้อไม่น่าดึงดูด
「มีอย่างอื่นอีกรึเปล่า ……อา เครื่องปรุงก็ถูกลงด้วยเหรอ รู้งี้เช็คเครื่องปรุงที่เหลือในบ้านก่อนก็ดี …หืม? หืมๆ!?」
ระหว่างที่กำลังพูด ฮารุโตะก็เหลือบไปเห็นจุดหนึ่งในใบประกาศ จนต้องเบิกตาโพลง
「น้ำมันงา78เยน……เรอะ?」
ถูก ถูกเกินไป
สำหรับฮารุโตะผู้มองว่า น้ำมันงานั้นเป็นหนึ่งในสินค้าระดับสูง
แม้แต่ของระดับต่ำอย่างยี่ห้อต้นตำหรับราคาก็ปาไปตั้ง200ถึง300เยนแล้ว เป็นที่รู้กันดีว่าถ้าจะซื้อของมียี่ห้อละก็เหรียญ500เยนในมือได้ปลิวหายในพริบตาแน่
น้ำมันงานั้นมีประโยชน์มากมาย
กลิ่นหอมของน้ำมันงามีพลังในการกระตุ้นความอยากอาหารที่แม้จะอยู่ในช่วงฤดูร้อนที่ความอยากอาหารลดลง แค่เติมลงในผัดผักหรือข้าวผัดก็ทำให้อร่อยขึ้นหลายเท่าแล้ว
ในค่ำคืนที่อากาศร้อนอบอ้าว เต้าหู้เย็นที่ราดกิมจิแล้วราดน้ำมันงาข้างบนนั้นอีกที ก็นับเป็นหนึ่งในเมนูที่สุดยอดเช่นกัน
「ซื้อเจ้านี่ล่ะ!!」
ฮารุโตะรีบมุ่งหน้าไปยังร้านที่ขายน้ำมันงา
ฮารุโตะยืนอยู่หน้าน้ำมันงาที่ตั้งโชว์อยู่บนชั้นวางสินค้าพร้อมหายใจอย่างติดขัด สิ่งที่สะท้อนในดวงตาของเขาคือ ตัวเลข78ขนาดใหญ่ที่เขียนอยู่บนกระดาษสีเหลืองอย่างไม่ผิดเพี้ยน
「โอ้ย……โอ้ย เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันเนี่ย」
ฮารุโตะช็อคกับราคาอันน่าตกใจ
「ไม่มีทางที่น้ำมันงาจะถูกขนาดนี้ ……ฮะ! ที่นี่มันต่างโลก! นี่น่ะเหรอไอ้เจ้า เกิดใหม่ต่างโลก ที่เขาว่ากันน่ะ!!」
ฮารุโตะพึมพำเรื่องงี่เง่าพลางเอื้อมมือไปหยิบสินค้าที่ถูกตั้งโชว์แต่ พอสังเกตเห็นสิ่งหนึ่งมือนั้นก็หยุดชะงัก
สายตาของเขาเหลือบไปเห็นตัวอักษรหนึ่งที่เขียนสลักอยู่ข้างล่างราคาในใบประกาศ
「จำกัดหนึ่งชิ้นต่อหนึ่งท่าน……คุ แกอีกแล้วเรอะ」
ฮารุโตะจ้องตัวอักษรด้วยท่าทีรังเกียจออกนอกหน้า ราวกับผู้กล้าที่กำลังเผชิญหน้ากับจอมมาร
『จำกัดหนึ่งชิ้นต่อหนึ่งท่าน』สัตรูคู่อาฆาตของเหล่าแม่บ้านทั้งมวล
เพื่อที่จะโค่นเจ้าสัตรูตัวฉกาจนี้ เหล่าแม่บ้านทั่วทั้งโลกจำเป็นต้องอัญเชิญเหล่าเครือญาติและพวกพ้องเข้าต่อกร
ฮารุโตะรีบควักเอามือถือออกจากกระเป๋ากางเกงอย่างเร็วและกดปุ่มโทรออกอย่างไม่ลังเล เพื่ออัญเชิญผู้ช่วย
หลังจากเอามือถือแนบกับหู เสียงเรียกเข้าก็ดังก้องอย่างเอ้อระเหยตรงข้ามกับอารมณ์อันเดือดพล่านของฮารุโตะ
ตอนนี้ เหล่าแม่บ้านน่าจะกำลังจดจ่อกับสินค้าหลักอย่างซี่โครงวัวสับอยู่
ระหว่างนั้นไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็อยากเอาน้ำมันงานี้มาครองให้ได้
ฮารุโตะที่พยายามสงบสติอารมณ์อันเร่งรีบ รออีกฝ่ายรับสาย
ผ่านไปไม่กี่วินาที ในที่สุดก็ต่อสายติดและเสียงอันไม่ทุกข์ร้อนของเพื่อนรักก็ส่งมาถึงหูของฮารุโตะ
『โยช〜 มีไรพวก?』
「ตอนนี้ว่างมะ!? มาที่ซุปเปอร์ได้รึเปล่า!?」
『โอะโอ้ แบบว่า แรงกดดันสุดยอดเลยนะ อย่าบอกนะว่าเจ้านั่นอีกแล้วน่ะ?』
「ใช่แล้ว! วันนี้ไม่ปล่อยให้หลุดมือไปแน่!!」
ฮารุโตะได้อัญเชิญโทโมยะออกมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนเพื่อช่วยกันต่อกรกับสัตรูตัวฉกาจนาม『จำกัดหนึ่งชิ้นต่อหนึ่งท่าน』
หรือก็คือโทโมยะนั้นเป็นทั้งเพื่อนรักและสหายร่วมรบด้วย นั่นเอง
แต่ถึงกระนั้น ฮารุโตะกลับได้รับคำตอบอันน่าปวดใจจากสหายร่วมรบผู้นั้น
『อา……โทษที พอดีตอนนี้กำลังซ้อมกับเพื่อนในวงอยู่ที่สตูดิโอน่ะ……」
「……งั้นเหรอ ไม่สิ โทษทีที่รบกวน ไม่ต้องใส่ใจเรื่องของทางนี้ ตั้งใจซ้อมไปเถอะ」
『โอะ โอ้ แบบว่า โทษทีนะ』
คงจะหดหู่น่าดู โทโมยะถึงได้กล่าวขอโทษอย่างรู้สึกผิดสุดหัวใจ
「ไม่หรอก ไม่เป็นไร นายไม่ผิดหรอก แค่นี้นะ」
ฮารุโตะกดหน้าจอมือถือเพื่อวางสายพร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่
「ฮ่า〜เอาเถอะ อย่างน้อยก็ได้มาขวดนึง เพราะงั้นมีแต่ต้องยอมตัดใจแต่โดยดีล่ะนะ」
พอฮารุโตะหยิบเอาน้ำมันงาหนึ่งขวดจากชั้นวาง ก็ใส่มันลงในตะกร้าโดยยังจิตตกไม่หาย
「ฮ่า ซื้อนัตโตะแล้วกลับดีกว่า」
ฮารุโตะออกเดินอย่างโซซัดโซเซ
ทันในนั้น ก็มีเสียงเรียกเขาจากด้านหลัง
「โอสึกิคุง?」
พอฮารุโตะหันกลับไปหาเสียงนั้น ตัวเขาก็คิดบางอย่างออก
หากพูดถึง เกิดใหม่ต่างโลก ก็มักจะมีตัวตนหนึ่งที่ปรากฏขึ้นแทบทุกครั้ง
นั่นก็คือ เทพธิดา
เทพธิดาคือผู้ที่มอบพลังอันยิ่งใหญ่ให้ผู้กล้าเพื่อใช้ในการฝ่าวิกฤต
ตอนนี้ ท่านเทพธิดาองค์นั้นได้ปรากฏตัวต่อหน้าฮารุโตะแล้ว
ตรงหน้าของฮารุโตะที่เข้าท้าทายกับจอมมารนาม『จำกัดหนึ่งชิ้นต่อหนึ่งท่าน』จนสูญเสียพลังไปเกือบหมด
เทพธิดาผู้นี้จะประทานพลังให้ยืนหยัดได้อีกครั้ง
「อา! คุณโทโจ!! ท่านเทพธิดาจุติ!」
「เฮ๊ะ ฮะ!?」
ถ้อยคำที่แฝงด้วยความกระตือรือร้นอันลึกลับของฮารุโตะ ทำเอาอายากะเผลอส่งเสียงประหลาดออกมา