ตอนที่ 13 ชีวิตประจำวันของอัศวินดำ

อัศวินดำคุงไม่อยากเป็นเซ็นไต

ตอนที่ 13 ชีวิตประจำวันของอัศวินดำ

「ฉันก็บอกนายไปแล้วใช่ไหมล่ะคัตสึมิ? โอเมก้ามันก็ไม่ได้มีความหมายอะไรเป็นพิเศษหรอก」

เสียงกระซิบดังขึ้นข้างหูฉัน

แต่ฉันก็ไม่สามารถลืมตาขึ้นมาได้

「ฉันก็แค่ค้นพบและเลือกนายเท่านั้นเอง」

ตัวฉันที่พยายามจะดึงสติซึ่งตกอยู่ในภวังระหว่างความจริงและความฝัน เสียงกระซิบก็ดังขึ้นอีกครั้ง

「ไม่ใช่ว่าต้องเป็นผู้แข็งแกร่งถึงถูกเลือกอะไรนั่นหรอก…แน่นอนว่า หากไม่ต้องการมันจะปฏิเสธก็ได้….」

มีอะไรบางอย่างสัมผัสอยู่บริเวณหัวของฉัน

「แต่ที่นายทำมาทั้งหมดก็เพื่อปกป้องฉันใช่ไหมล่ะ? แต่พอคุยกับนายไม่ได้แบบนี้…แอบรู้สึกเหงาจัง」

สัมผัสที่เหมือนกับการกอดอย่างนุ่มนวล เธอกระซิบข้างหูของฉันไม่หยุด

「ฉันอัลฟ่า และนาย…โอเมก้า แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ฉันก็ขอใช้เวลาตรงนี้อีกสักหน่อยนะ」

จิตสำนึกของฉันค่อยๆ จมลงสู่ห้วงลึก

เมื่อเวลาผ่านไป จิตสำนึกของฉันก็เริ่มกลับมาราวกับความเป็นจริงได้ดึงฉันกลับมา

「———คุ!!」

ฉันลืมตาขึ้นมาและเด้งจากเตียงทันที ภายในห้องยังคงมืดสนิท

ทว่าความแปลกของมันก็คงจะอยู่ที่รอบๆ ห้องนั้นเต็มไปด้วยของตกแต่งมากเสียจนไม่คิดว่าเป็นห้องขัง

「อัลฟ่า……」

「ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ ฉันก็จะอยู่เคียงข้างนายเสมอนะ」

ฉันพูดชื่อของเธอขึ้นมา

รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงกระซิบของเธอเลย

แม้ว่าจะเป็นตัวฉันที่ฆ่าเธอเองกับมือ

ถึงเธอจะไม่ได้สร้างความเดือดร้อน อาฆาตแค้นทำร้ายใคร แต่ฉันก็เลือกจะฆ่าเธอ

เพราะมันคือสิ่งที่ควรจะทำ

ฉันพยายามบังคับให้ใจของตัวเองยอมรับกับมัน ก่อนจะเอามือแตะหน้าผาก

「……ช่วงนี้ ไม่ค่อยฝันร้ายแล้วแฮะ」

ฉันเริ่มฝันร้ายน้อยลง ตื่นมาก็ไม่จำเป็นต้องลุกไปอ้วกบ่อยๆ

จะว่าเป็นสัญญาณที่ดีก็ได้มั้ง

「……นอนต่อละกัน」

ฉันนอนลงบนเตียงอีกครั้ง พร้อมกับหาวออกมาและหลับตาลง

นี่ก็ผ่านมาหนึ่งเดือนแล้วตั้งแต่ที่ฉันต่อสู้กับโลกา

ระหว่างนั้นไม่รู้เพราะอะไรฉันถึงถูกจำกัดสิทธิ์ในการท่องเน็ต แต่อย่างน้อยก็มีโอกาสได้ดูหนังหลายเรื่องแทน ดังนั้นฉันเลยไม่บ่นอะไร

「พวกหล่อนไม่มีเพื่อนกับเขาหรือไง? 」

「ก็มีนะ…ทำไมเหรอ? 」

「แล้วทำไมต้องมาอยู่ห้องฉันแม้กระทั่งวันหยุดฟะ!」

ทั้งที่เสาร์ อาทิตย์มันเป็นวันหยุด

แต่ไม่รู้ทำไมเรดกับบลูถึงได้โผล่มาแต่หัววัน

「ก็มาดูสภาพนายนั่นแหละ หากเกิดตายขึ้นมาตามลำพังคงเหงาแย่」

「เห็นฉันเป็นกระต่ายหรือไงฟะ……? 」

นี่หล่อนคิดว่าจิตใจของฉันมันอ่อนแอขั้นไหนเนี่ย….

「ว่าแต่เยลโล่มาไม่กับเขาเหรอ」

「ถ้าเป็นคิราระ เธอกำลังมาน่ะ เห็นว่าจะเอาขนมที่ทำเมื่อวานมาให้นายด้วย」

「เพื่อ……? 」

ฉันยอมรับในฝีมือการเข้าครัวของเธอนะ

แต่ทำไมต้องเอาขนมมาให้ฉันด้วยล่ะ!

ทั้งที่เธอก็มีเจ้าสองตัวแสบนั่นอยู่ด้วยแท้ๆ ไปให้เจ้าพวกนั้นกินสิเห้ย!

「อ้อ จริงสิ! นายจะออกไปข้างนอกก็ได้นะ」

「หา? ได้เหรอ? 」

「อื้มๆๆ!」

เรดพยักหน้าให้กับฉันที่สงสัย

ออกไปข้างนอก….อ้อ ที่เรมะบอกเมื่อวานนี่นา

「คัตสึมิคุง นายออกจากที่นี่ได้แล้วนะ!」

「……เข้าใจแล้ว ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา」

「ม่ายช่ายแบบน้านนน!!」

ฉันละเสียดายจริงๆ ที่พลาดโอกาสก่ออาชญากรรมระหว่างอยู่นี่

สถานที่แห่งนี้คือสำนักงานใหญ่ของจัสติสครูเซเดอร์ พอเวลาผ่านไปสักพักพวกเขาก็บอกว่าจะทำการปล่อยตัวฉันเพราะฉันไม่ได้ไปก่อเรื่องอะไร

ยิ่งไปกว่านั้นความเสียหายจากเรื่องทากไฟฟ้ากลับถูกปล่อยผ่านไป แม้ว่าฉันจะพยายามแย้งด้วยเรื่องที่ฉันเคยก่อมานับตั้งแต่การแปลงร่างครั้งแรกก็ไม่เป็นผล

「อัศวินขี่ม้าขาวคุงเนี่ยนะ ถามจริง….」

แต่พอคุยไปคุยมาก็เลยรู้ถึงสถานการณ์ของฉันและเข้าใจว่าสภาพจิตใจของฉันยังไม่คงที่ก็เลยต้องอยู่ที่นี่ต่อไปก่อน

เรมะก็คงรู้แหละว่าฉันอยู่ในสถานที่แบบไหนมาก่อน

บอกตามตรงว่าที่นี่มันสบายกว่าอพาร์ทเมนท์โทรมๆ ที่ฉันอยู่หลายขุม

「ถึงนายจะต้องมีคนติดตามไปด้วยแต่ได้ออกไปข้างนอกเลยนะไม่ดีเหรอ? 」

「ไม่อ่ะ บอกตามตรงฉันอยู่ในห้องนี้สบายกว่าเยอะ…มีหนังให้ดูด้วย」

「ก็แบบว่าข้างนอกมีขนมอร่อยๆ ด้วยนะ!」

「เดี๋ยวก็มีคนเอามาให้เองแหละ」

「อึก โถ่วววว……!」

จากนั้นเรดก็หยิบนิตยสารออกมาจากกระเป๋าของเธอ

ก่อนจะพลิกหน้าที่เกี่ยวกับขนมหวานมาให้ฉันดู

「เจอแล้ว! ไอ้นี่ไง! โมจิวาราบิสามสีที่ขายเฉพาะร้านนี้เท่านั้น!」

「ฉันก็อยากกิน……」

บลูก็มาส่องกับเขาด้วย

….อ้อไอนั่นนี่เอง

「ถ้าเป็นขนมนี่พวกเจ้าหน้าที่เอามาฝากฉันวันก่อนแล้ว」

「ถามจริง นี่พวกเขาไม่เลี้ยงนายดีไปหน่อยเหรอ?!」

「ทั้งที่ต้องไปต่อคิว เป็นชั่วโมง」

ถามจริง

แบบนี้คงต้องไปขอบคุณพวกเขาทีหลังละสิ

「เอาเถอะ ไม่เป็นไร วันนี้ฉันเอาเกมมาเล่นฆ่าเวลาด้วย」

「อะไรล่ะ บอยแอดวานซ์? หรือจะเป็นนินDS? 」

「นายมาจากยุคไหนเนี่ย…? ไอ้นี่ต่างหาก」

เรดหยิบวัตถุทรงสี่เหลี่ยมออกมาจากกระเป๋าและเริ่มจัดเรียงอะไรบางอย่าง

ชักคาดหวังละสิหรือว่ามันจะเป็น PS 3 ในข่าวลือ―――

……。

「ไอ้นี่มันเก่ากว่าที่ฉันพูดอีกไม่ใช่เรอะ!! 」

「ก็อย่างที่นายบอก คัตสึมิคุงเล่นเป็นหรือเปล่า」

「ให้ตายสิ ฉันเล่นเป็นอยู่หรอก แต่ทำไมถึงไม่หาอะไรทันสมัยอย่าง PS3 หรืออะไรทำนองนั้นมาแทนล่ะ?!」

「!? 」

ทำไมต้องหมากรุกฟะ?!

จะเกมไพ่ ฮานาฟุตะ หรืออะไรก็มีให้เลือกตั้งเยอะ!

「……คัตสึมิคุง」

「อะไรล่ะบลู ฉันกำลังจะบ่―――、」

บลูดึงแขนเสื้อผมแล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

「PS 3 มีนานแล้ว」

「หา? 」

「ตอนนี้เขาเล่น PS 5 กันแล้ว….!」

เดี๋ยวนะ PS 3 ล้าสมัยเหรอ?

อีกทั้ง พวกเขาข้าม 4 ไป 5 เลยเหรอแปลกชะมัด

「เอ่อ…ดะดะดะเดี๋ยวก่อนนะ ฮ่ะๆ พวกเธอแกล้งฉันอยู่ใช่ไหมล่ะ….」

พอเถอะ คัตสึมิคุง! อย่าฝืนตัวเองเลย….!」

「ไม่รู้แล้วเฟ้ย มาเล่นหมากรุกกัน」

ชะชะชะใช่แล้ว

ตอนนี้ต้องเล่นหมากรุกเพื่อสงบสติก่อน

ฉันนั่งลงบนเก้าอี้แล้วมองกระดานหมากรุก

「พวกเธอคงไม่ได้คิดอะไรแปลกๆ ใช่ไหม? 」

「「เอ๋? 」」

ยัยพวกนี้คิดจะทำอะไรแปลกๆ แน่ๆ เรื่องโกงแข่งตอบคำถามคราวก่อนก็ด้วย

ถึงหลังจากนั้นยัยพวกนี้จะขอโทษฉันด้วยซูชิที่แสนอร่อยจนฉันไม่คิดว่าจะมีอยู่บนโลกนี้ก็เถอะ แต่ฉันไม่ยกโทษให้หรอกนะ

「ไม่ๆๆ เป็นไปไม่ได้หรอก หมากรุกจะไปโกงได้ยังไงกัน? 」

「พวกเธอ……」

「พวกเรา? 」

「ไม่ได้จะแกล้งฉันแน่นะ」

「หา!? 」

ดวงตาของเรดเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะยิ้มออกมาทันที

「ไม่ใช่หรอก นอกจากนี้ฉันก็เคยเล่นแค่ครั้งสองครั้งเท่านั้นเอง ฉันเลยมองว่าเป็นโอกาสดีน่ะที่จะหยิบมาเล่นอีกสักรอบ」

「……ม-ไม่ได้หลอกกันใช่ไหม? 」

「……ก็ต้องไม่อยู่แล้วสิ อย่ากังวลไปเลย ออกมาจากหลุมได้แล้วน่า」

เรดกวักมือเรียกฉันด้วยรอยยิ้มแปลกๆ ขณะดูฉันที่มีแผลใจกับเรื่องคราวก่อน

แปลว่าคราวนี้จะแข่งการอย่างตรงไปตรงมาสินะ?

เอาวะ แค่นี้ก็สามารถเผชิญหน้าได้อย่างสบายใจสักที

「หากพวกเธอไม่ได้ใช้กลโกงขี้ขลาดอะไรก็จัดมาเลย!! เรดวันนี้แหละ ฉันจะเอาคืนเธอทบดอก!!!!」

「(เหมือนกำลังเล่นกับน้องหมาบ้าพลังเลย……)」

「(น่ารัก……)」

เกมเริ่มต้นขึ้นด้วยความดุเดือด

เมื่อเวลาผ่านไป หมากแต่ละตัวก็เริ่มเคลื่อนไหวไปในกระดาน

ฉันนั่งดูและบอกได้เลยว่า

ยัยพวกนี้เป็นมือใหม่!

เพราะการเดินหมากของพวกเธอนั้นเรียกว่ามั่วสุดๆ

ถ้าเป็นแบบนี้ละก็ไหวแน่

ฉันชนะแล้ว!

「สวัสดีเด้อ เอาขนมมาให้แล้ว」

เสียงที่สดใสของหญิงสาวได้ดังขึ้น

เยลโล่สาวน้องผมมัดเปียสีน้ำตาลเอียงหัวสงสัยเมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับกลับมา

「เอ๋ เป็นอะไรไปน่ะ คัตสึมิคุง? เอาแต่ก้มหน้าก้มตา…」

「……」

สภาพฉันตอนนี้ขนมหวานก็ขนมหวานเถอะ…

ฉันมองกระดานหมากรุกที่อยู่ตรงหน้าตัวเอง

「ตาเธอแล้ว」

「เอาล่ะ งั้นฉันจะทำสิ่งที่ควรแล้วนะ」

「อย่าคิดสงสาร แล้วจัดการซะ」

รุกฆาต

ไม่มีทางให้หนีอีกต่อไปแล้ว เหล่าหมากที่สามารถเล่นได้ก็โดนกินไปจนหมด

เหลือเพียงม้าไว้ให้ดูเล่น

อย่างน้อยนายก็เป็นทหารที่อยู่รอดได้หลังจบสงคราม….

ฉันนั่งมองดูหมากที่เหลืออยู่ด้วยสายตาอันว่างเปล่า

「อ่ะ…เอ่อ…คัตสึมิคุง…? 」

ยัยนี่เอาจริงดิ?!

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นมือใหม่

ทว่าการเคลื่อนไหวอันไร้ความหมายของเธอกลับกลายเป็นตาเดินที่ดีที่สุดและรุกจนฉันอย่างไม่ทันตั้งตัว

「โถ้เว้ย ฉันแพ้แล้ว..!」

ฉันประกาศความพ่ายแพ้อย่างอดสู

ทว่าก็ยังดีกว่าการไม่ยอมรับความพ่ายแพ้แต่โดยดี หากเป็นงั้นคงน่าสมเพช

「คือว่า….ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าจะเป็นแบบนี้ ชักรู้สึกผิดแล้วสิ……」

「อากาเนะ แต่สีหน้าของเธอมันไม่ได้บอกแบบนั้นเลยสักนิดนะ」

ฉันพ่ายแพ้

ทว่ามันก็สนุกดี

มานั่งคิดย้อนไปดูก็นานแล้วเหมือนกันที่ได้นั่งเล่นหมากรุก―――

「……」

นั่นสินะนานแล้วจริงๆ

ฉันเงยหน้าขึ้นมองเรดที่ต้อนฉันให้จนมุม

อย่างที่คิดแบบนี้สิถึงจะสมกับเป็นหัวหน้าทีมของจัสติสครูเซเดอร์

「อยู่ดีๆ ก็พกโอเทโล่มาด้วย อยากเล่นกันไหม? 」

「อะไรคืออยู่ดีๆ ก็พกมาด้วยของหล่อนฟะ….」

「เอาสิ」

เสียงดังโหวกเหวกโวยวายลั่นห้องดำเนินต่อไป

ทั้งที่ควรจะรู้สึกรำคาญมากแท้ๆ

แต่ก่อนที่ฉันจะรู้สึกตัวก็ชินชากับมันไปซะแล้วสิ….เดี๋ยวนะ ฉันเปลี่ยนไปตั้งแต่มาติดอยู่ในห้องขังนี้หรือเปล่าเนี่ย