เรื่องที่อายานะเล่าให้ฉันฟังเกี่ยวกับอดีตของเธอคือเรื่องที่ฉันไม่เคยรู้

ฉันสงสัยว่าโลกนี้เล็กแค่ไหนสำหรับอายานะเวลาที่เธออยู่กับชูและครอบครัวของเขาตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก และวิธีที่แม้แต่แม่ของเธอยังบังคับให้เธอทำสิ่งต่างๆ

“ฉันขอโทษที่พูดถึงเรื่องเก่าๆนะ แม้ว่านายจะรู้เรื่องนี้มาบ้างแล้วก็เถอะ”

“ไม่เป็นไร….จริงๆนะ”

ฉันไม่แปลกใจที่เธอพูดแบบนั้น

ฉันตกตะลึงกับเรื่องราวของเธอจริงๆ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง หัวใจของฉันกลับไม่ตกใจและกำลังประมวลผลข้อมูล

เหมือนกับว่าหัวใจของโทวะรู้เรื่องนี้อยู่แต่แรกแล้ว

(……อะไรกัน?……)

ขณะที่ฉันฟังเรื่องราวของอายานะฉันก็เข้าไปกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขนของฉันในตอนที่ฉันฟังจบแล้ว ความทรงจำบางอย่างก็ผุดขึ้นในใจของฉัน

มันเป็นสิ่งที่อายานะบอกฉันก่อนหน้านี้ความทรงจำของโทวะเริ่มเข้ามาในหัวของฉัน

“……ออ จริงด้วย มันเป็นอย่างนั้นนี้เอง”

ทันใดนั้น ความทรงจำของโทวะก็เข้ามาในหัวของฉัน ฉันรู้สึกมันได้เหมือนตัวเองผ่านประสบการณ์นั้นมาด้วยตัวเอง

แม้ว่ามันจะเป็นความทรงจำของคนอื่น แต่มันก็กลายเป็นความทรงจำของฉันจนฉันเชื่อว่ามันเป็นความทรงจำของฉันจริงๆ

“โทวะคุง มีอะไรเหรอ?”

ฉันก็คือฉัน แต่อย่างที่ฉันเคยพูดไปก่อนหน้านี้ ฉันรู้สึกราวกับว่ามีบางอย่างเชื่อมโยงระหว่างฉันกับโทวะอย่างแน่นอน

บางทีนั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันถึงรู้สึกอยากปกป้องอายานะมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน

ฉันอยากให้เธอมีความสุข และอยากให้เธอยิ้มเหมือนตอนนี้จากก้นบึ้งของหัวใจ

“อายานะ”

ฉันวางมือบนแก้มของเธอ

ฉันไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงตัดสินใจทำแบบนั้น แต่เมื่อเธอเห็นมือของฉันจับแก้มของเธอ ดวงตาของเธอก็เปียกชื้นราวกับว่าเธอกำลังคาดหวังอะไรบางอย่าง

“……ฉัน…”

“เอ๊ะ?”

ฉันคิดจริงๆ ว่าพวกเขาไม่มีอะไรมากไปกว่าตัวละครในเกม……แต่มันไม่ใช่

อย่างไรก็ตาม ฉันไม่ใช่คนเดียวที่เคลื่อนไหวด้วยความตั้งใจของตัวเอง และผู้หญิงเหล่านี้ก็เป็นมนุษย์ที่อาศัยอยู่ในโลกนี้ไม่ต่างจากฉัน

“……อายานะ…”

“มีอะไรเหรอโทวะคุง?”

“เธอเป็นสาวน้อยที่น่ารักจริงๆ เธอรู้ตัวไหม”

“……ฮ่าๆ!?”

สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อยแต่มันทำให้เธอน่ารักขึ้น และเธอก็น่ารักจริงๆ

ไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอเป็นตัวละครโปรดของฉันตั้งแต่ตอนที่ฉันเล่นเกมนี้ แต่ถึงกระนั้นเมื่อฉันมองดูผู้หญิงที่ชื่อ โอโตนาชิ อายานะ อีกครั้ง ความประทับใจเหล่านั้นก็เข้ามาในใจของฉันอีกครั้ง

(….ตอนแรกฉันไม่ได้มองหาความหมายของการได้มาเกิดใหม่ในโลกนี้ด้วยซ้ำ แต่สิ่งเดียวที่ฉันอยากทำตอนนี้คือไม่อยากทำให้ผู้หญิงคนนี้……ไม่อยากทำให้อายานะร้องไห้)

ฉันคิดว่า ฉันคิดเกี่ยวกับความหมายของการเกิดใหม่ในโลกนี้มานานแล้ว

ฉันคิดว่ามันคงจะมีความหมายอะไรสักอย่างที่ทำให้ฉันมาเป็นโทวะ แต่ฉันมั่นใจว่าถ้าทำแบบนี้ต่อไปก็คงเหมือนกับตอนจบของเกมนี้แน่ ฉันเลยคิดว่าจะพาเธอไปสู่จุดจบที่มีความสุข

(ฉันคือ ยูกิชิโระ โทวะ……ฉันเป็นตัวละครในโลกนี้ และฉันจะทำในสิ่งที่ฉันอยากทำ ฉันอยากจะปกป้องทุกคนที่ฉันรัก ฉันอยากจะปกป้องพวกเธอด้วยมือของตัวเอง ฉันอยากได้อายานะ เพื่อที่เธอจะยิ้มได้ต่อไป)

และถ้าฉันขอเห็นแก่ตัวอีกสักเรื่องคงเป็น…ฉันอยากจะอยู่กับผู้หญิงคนนี้

“…..อา นั้นสินะ”

เมื่อฉันคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ นี่อาจเป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกได้ถึงความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะอยู่เคียงข้างเธอ

แน่นอนว่า ฉันได้รับอิทธิพลจากจิตใต้สำนึกของโทวะในระดับหนึ่ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันปรารถนาอย่างยิ่งที่จะอยู่เคียงข้างเธอด้วยความสมัครใจของตัวเอง

หลังจากจ้องมองอายานะอยู่สักพักฉันคิดจะสงบสติอารมณ์ลงเล็กน้อยด้วยการเดินไปที่ตู้เย็นเพื่อดื่มเครื่องน้ำ

“……อะ”

ฉันพยายามลุกขึ้นแต่กลับล้มลง ผลักอายานะลงไปกับโซฟา

“ฉ-ฉันขอโทษนะ อายานะ…..?!”

ฉันขอโทษทันทีและมองหาว่าเธอได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า แต่สัมผัสที่มือขวาของฉันก็หยุดฉันไว้

ฉันสัมผัสได้ถึงความนุ่มและอบอุ่นบนฝ่ามือของฉัน……

มือขวาของฉันได้วางอยู่บนหน้าอกของอายานะ

“……โทวะคุง”

“……”

ฉันคิดว่าจะปล่อยมือ แต่มือของฉันก็ไม่ออกจากอกของอายานะ

เมื่อมือของฉันสัมผัสหน้าอกของเธอแบบนี้แม้แต่เสียงหัวใจที่เต้นแรงของเธอก็ยังสัมผัสได้ผ่านฝ่ามือของฉัน

มันอาจจะแปลกที่คิดอะไรแบบนี้ในเวลานี้ แต่มันก็ทำให้ฉันรู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ เธอยังอยู่ตรงนี้

“อายานะ ฉันต้องการเธอ”

ถึงฉันจะพูดแบบนั้นออกไปแต่กับรู้สึกหงุดหงิดตัวเองเหมือนกันนะ

ฉันพยายามพูดแก้ตัวและถอยออกจากเธอ โดยคิดว่ามันไม่ถูกต้องที่จะพูดอะไรแบบนี้หลังจากผลักเธอล้มลงเพราะอุบัติเหตุ แต่…… ฉันยังไม่อยากจะถอยห่างจากเธอ

อายานะหน้าแดงและดูผิดปกติกว่าก่อนหน้านี้ แต่เมื่อเธอได้ยินคำพูดของฉัน เธอก็จับฉันไว้ด้วยแขนทั้งสองข้างของเธอ

“ไม่เป็นไรโทวะคุง ถ้าเป็นตอนนี้นายสามารถทำทุกอย่างได้เท่าที่นายต้องการได้เลย”

ท่าทางของอายานะเซ็กซี่มากเมื่อเธอพูดแบบนั้น

ฉันตื่นเต้นมากเมื่อเห็นหน้าของอายานะ และอดไม่ได้ที่จะสังเกตเห็นว่าเธอมีสีหน้าอ่อนโยนและผ่อนคลายแค่ไหน ราวกับว่าเธอพยายามจะโอบกอดฉัน

ฉันเอาหน้าเอาใกล้ริมฝีปากของอายานะ ขณะที่เธอจ้องมองมาที่ฉันและฉันก็จูบลงบนริมฝีปากนุ่มๆของเธอ

“…..อุ…..ชู่”

ฉันจำไม่ได้ว่าชาติที่แล้วเป็นยังไงบ้าง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันจูบผู้หญิงคนหนึ่งนานขนาดนี้

มั่นใจว่ารสเค็มเล็กน้อยกับสัมผัสนุ่มๆคงเป็นเพราะอายานะร้องไห้ตลอดจนมาถึงที่นี่

“มันเค็มนิดหน่อยแฮะ เป็นเพราะเธอร้องไห้เหรอ?”

“…… มันเป็นเพราะสิ่งที่เกิดขึ้น โทวะคุงทำให้ฉันร้องไห้ ดังนั้นได้โปรดรับผิดชอบฉันด้วย♪”

ฉันหัวเราะออกมาให้กับอายานะที่ขัดขวางการหลบหนีของฉันโดยขอให้ฉันรับผิดชอบเธอ

พูดตามตรง ยังมีอีกหลายสิ่งที่ฉันต้องรู้ และที่สำคัญที่สุดระหว่างฉันกับอายานะอาจมีเรื่องอื่นซ่อนอยู่อีกมาก

แต่ตอนนี้ฉันแค่อยากจะรักผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านี้

ฉันวางร่างของฉันไว้บนร่างของอายานะ ขับเคลื่อนด้วยความรักที่มีต่อเธอที่ล้นอยู่ในหัวใจของฉัน และทำตามความรู้สึกของตัวเองที่อยากจะปกป้องเธอ

หลังจากนั้นไม่นาน เราตั้งสองคนก็ต่างตัวเปลือยเปล่าและโอบกอดกันและกัน

“…..ฟุฟุ”

“มีอะไรเหรอ?”

“ไม่ ฉันแค่รู้สึกว่าฉันจะชอบทำอะไรแบบนี้เลย”

เอ๊ะเฮอะ อายานะหัวเราะแล้วฉันก็ลูบหัวเธอ

ฉันคิดว่าเธอเป็นเหมือนแมวตัวน้อยเมื่อฉันมองดูเธอหรี่ตาลงอย่างเป็นสุข

“เธอดูเหมือนแมวนะอายานะ”

“แมว?….เมี๊ย~ว♪”

“……”

“โอ้ นั่นได้ผลกับนายด้วยเหรอ? ฉันว่าฉันเจอจุดอ่อยของนายเพิ่มแล้วสิ?

“โน คอมเม้น”

ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของอายานะดูกระตือรือร้นมาก แต่ฉันก็หัวเราะและคิดว่า ใบหน้าของฉันในตอนนี้ก็คงไม่ต่างกัน

“อาเคมิซังยังไม่ถึงบ้านเหรอ?”

“แม่บอกว่าจะมาช้านิดหน่อย ฉันคิดว่าคงจะอีกชั่วโมงหรือใกล้นั้น”

“เป็นงั้นเหรอ? นั้นฉันขออยู่แบบนี้อีกสักพักนะ”

อายานะซุกหน้าของเธอไว้ที่อกของฉันอีกครั้ง

ฉันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นร่างเปลือยเปล่าของอายานะ แต่เมื่อฉันมองหน้าเธออีกครั้ง……ฉันรู้สึกประทับใจกับเธอตอนนี้จริงๆที่เธอมีทั้งความสวยและอีโรติก

เรากอดกันอยู่สักพัก แลัวตัดสินใจแต่งตัวรอแม่กลับบ้าน

“โทวะคุง”

“มีอะไรเหรอ?”

ขณะที่เราพักผ่อนด้วยกันอยู่ อายานะก็ถามคำถามนี้กับฉัน

“นายช่วยพูดชื่อของฉันทุกชื่อเท่าที่จะนึกออกได้ไหม”

“เอ๊ะ? ……ได้สิ”

ฉันรู้สึกงุนงงกับคำถามที่ดูแปลกๆนี้ แต่ฉันทำตามคำพูดของเธอและพยายามพูดในสิ่งที่ฉันเรียกอายานะ

“อายานะ……อายานะซัง……อายานะจัง……ที่รัก?”

“……ฮาฮา!”

“อย่าหัวเราะนะ!”

ฉันรู้ว่า “ที่รัก” มันเกินไปหน่อย แต่อย่าหัวเราะนะ!

อายานะบอกว่าเธอขอโทษ แต่ไหล่ของเธอกลับสั่นเล็กๆและดูเหมือนว่าคำพูดของฉันจะโดนใจเธอจังๆ

เธอหัวเราะมากกว่าที่ฉันคาดไว้ แต่อายานะจับมือฉันแล้วพูดต่อ

“โทวะคุงก็เป็นแบบนี้มาตลอด นายไม่เคยทำให้ฉันรู้สึกเป็นคนอื่นคนไกลเลยนะรู้ไหม? ฉันรู้ว่านายอาจบอกว่าฉันแค่คิดไปเอง แต่แม้แต่การที่นายเรียกฉันยังทำให้ฉันรู้สึกว่านายคิดว่าฉันเป็นคนสำคัญ และนั่นทำให้ฉันมีความสุข”

“อ่า~……”

“ฉันจี้ถามนายมากไปหรือเปล่า……แต่นายก็ใจดีกับฉันมาเสมอ…… และฉันก็รักนายที่นายเป็นแบบนั้นเสมอ”

อายานะจูบแก้มของฉัน

แม้ว่าคำถามที่เธอเพิ่งถามฉันอาจไม่มีความหมายลึกซึ้ง แต่ฉันก็ยังดีใจที่ได้ยินอายานะพูดเเบบนั้น

เรานั่งดื่มด่ำไปกับแสงยามเย็น

และตอนนี้

ฉันรู้สึกถึงการมีอยู่ของผู้หญิงที่ฉันรัก

———————————————————————————————————————————————————–

คุยท้ายตอน

ตอนนี้แอบแปลยากเหมือนกันนะครับผมไม่ถนัดแปลฉากอย่างงั้นด้วยสิ แต่เอาเป็นว่าอายานะมีความสุขก็ดีแล้วละครับ

คือผมก็ไม่อยากจะชี้นำให้ทุกคนเกลียดไอชูหรอกนะครับ แต่ตอนหน้าเนี่ย….คือต้องอ่านซ้ำว่าจริงเปล่าวะหรือเราเข้าใจผิดไปเอง คือเรื่องฟุตบอลแบบ….เอาเป็นว่าผมแปลแบบเป็นกลางแล้วจริงๆนะครับ

ตอนต่อไป มุมมองของ ชู