ห้องประชุมใหญ่ของโรงเรียนเวทมนตร์หญิงโอโตริ

ที่นั่งสีแดงเรียงกันเป็นชั้น ๆ อยู่รายรอบ โพเดียม ดูเหมือนกับโรงละครโอเปร่า มีภาพวาดทางความเชื่อที่ดูงดงาม อยู่รอบ ๆ มีกำแพงที่เป็นทรงกลม และมีห้องส่วนตัวที่ล้อมด้วยผ้าม่านสีแดง

ห้องส่วนตัวนั้นเป็นห้อง VIP สำหรับคนที่ได้คะแนนสูง…หรือก็คือนักเรียนดีเด่นและมีนักเรียนที่ดูเหมือนจะเป็นรุ่นพี่กำลังนั่งคุยกันพร้อมจิบชาหรู ๆ ไปด้วย

หลังเสร็จพีธีปฐมนิเทศได้อย่างราบรื่น ก็ต้องมุ่งหน้าไปที่หอประชุมใหญ่

ในห้องประชุมนั้นมีแสงสลัว และอาจารย์มารีน่าที่เดินนำกลุ่มก็ได้ล้มลงไป ใบหน้าของเธอที่ดูเหมือนกำลังจะร้องไห้นั้น ทำให้นักเรียนหลาย ๆ คน พยายามที่จะปลอบเธอ รวมกับบรรยากาศของห้องแล้ว มันออกมาดูเหมือนภาพเศร้า ๆ ยังไงชอบกล

“อะ…เอ่อ…จากตรงนี้ไปจนถึงตรงนั้น! จะเป็นที่นั่งของคนในคลาส A ฉะนั้นวันนี้ก็เชิญนั่งที่ที่ตัวเองชอบได้เลยค่ะ! จากนี้ไป ผู้ดูแลหอพักทั้งสามคนก็จะเริ่มแนะนำหอพักกันแล้ว ฉะนั้นก็ช่วยอยู่ในความสงบด้วยนะคะ!”

ผมนั่งลงบนที่นั่งของตัวเอง

“……”

จากนั้น เพื่อนร่วมชั้นของผมก็ค่อย ๆ สลายตัวกันไปราวกับคลื่น

ผมจึงปรบมือกับการกระทำแบบนั้นอยู่ในใจ

ปกติแล้ว การมีอยู่ของผู้ชายเนี่ย มันก็ถือว่าเป็นมลพิษแล้ว เพราะงั้น เวลาที่ผมนั่งลงไปเหล่าสาว ๆ จึงเปลี่ยนที่นั่งกันหมด

รีแอ็คชั่นของพวกเธอนี่ก็สุดยอดเลยทีเดียว

แต่กลับกันเลย ที่ลาพิส เรย์ กับคนอื่นๆ ดันเอาตัวเองเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคนแปลก ๆ

ในขณะที่ผมที่กำลังนั่งอยู่อย่างโดดเดี่ยว และพยายามจะงีบหลับ จู่ ๆ ก็มีคนมานั่งลงข้างผม

“สวัสดีจ้ะ”

กลิ่นอันหอมหวาน

สึกิโอริ ซากุระ ที่นั่งลงที่นั่งข้าง ๆ ผม เปรียบราวกับพระจันทร์ที่ส่องยิ้มอันงดงามมาให้ผม

“…จะดีเหรอ ที่มานั่งข้างฉันแบบนี้น่ะ”

“เธอน่ะ เรียนวิชาดาบหรืออะไรมางั้นเหรอ?”

เฮ้ยๆๆ!! ฟังที่คนอื่นพูดหน่อยสิครับ!!

“พอดีว่ามีอาจารย์ แล้วก็ดันเกิดอุบัติเหตุขึ้นนิดหน่อยน่ะ…คือฉันเกือบตายเพราะเวทย์จะหมด ตอนนี้ก็เลยยังไม่ได้เรียนวิชาดาบอะไรเลยซักนิด”

“เรียนรู้ด้วยตัวเองงั้นสินะ”

เธอยิ้มและเอนตัวลงพิงที่นั่งว่าง ๆ ข้างหน้าเธอ

“สุดยอดเลยนะ สุด ๆ ไปเลย”

ตัวละครสุดโกงมาพูดแบบนี้ ฟังเหมือนประชดยังไงก็ไม่รู้…แต่พลังเวทย์ของผมกับคุณน่ะ มันเหมือนกับเอาสระว่ายน้ำมาเทียบกับแก้วน้ำเลยนะครับรู้มั้ย?

ถึงจะไม่รู้ว่าทำไมจู่ ๆ ถึงมาพูดแบบนี้กับผมก็เถอะ แต่ผมก็คิดว่ามันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นเพื่อนกับสึกิโอริ ซากุระเลยน่ะนะ นั่นก็เพราะว่าตัวแทงค์ตามธรรมชาติอย่างฮิอิโระเนี่ย ยิ่งมีคนสนใจมากเท่าไหร่ ช่วงเวลาอันมีค่าระหว่างสึกิโอริกับเหล่านางเอกก็จะยิ่งสูญเปล่าเท่านั้นนั่นเอง

สำหรับสึกิโอริแล้ว ก็ควรมีอีเวนต์เยอะ ๆ ถ้าเป็นไปได้ก็ควรเข้ารูทฮาเร็มไปเลยก็จะดีมาก…

เพราะงั้นก็รีบไปเข้าหาลาพิสกับเรย์ได้แล้วเฟ้ย

“……”

ผมหลับตาลงเพื่อที่พยายามจะจบบทสนทนา

“นี่ เคยไปดันเจี้ยนบ้างรึเปล่า?”

“……”

“ไปด้วยกันมั้ย? หลังเลิกเรียนพอจะมีเวลาว่างรึเปล่า?”

“……”

“พักอยู่ที่ไหนเหรอ? จะย้ายเข้าอยู่ที่หอพักใช่มั้ย? คิดจะพักที่หอไหนงั้นเหรอ?”

“……”

อะไรของยัยนี่ฟะเนี่ย!?

ทำไมถึงมายุ่มย่ามด้วยขนาดนี้ฟะเนี่ย!? เธอเป็นตัวละครแนวคูล ๆ ไม่ใช่เรอะ!? แล้วทำไมถึงเอานิ้วมาจิ้ม ๆ แขนผมอยู่แบบนี้กันเนี่ย!? สนใจอะไรฉันขนาดนั้นกันล่ะเนี่ย!? แล้วก็ช่วยหยุดจิ้ม ๆ แก้ม ของคนที่เพิ่งจะเคยเจอกันครั้งแรกทีได้มั้ยเนี่ย!?

“…เฮ้ย”

“อะไรกัน ตื่นอยู่จริง ๆ ด้วยนี่นา”

สึกิโอริ มองมาที่ผมด้วยแววตาสีดำคู่นั้น

เป็นดวงตาที่สวยมากอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

ในพริบตานั้น ผมถูกสายตาคู่นั้นดึงดูดไปชั่วขณะด้วยความรู้สึกที่ลึกล้ำ แต่แล้วผมก็กลับมาได้สติ

“อุตส่าห์ได้ใช้ชีวิตในรั้วโรงเรียนทั้งที แต่มาคบค้าสมาคมกับผู้ชายแบบนี้มันจะดีเหรอ ทั้งที่มีผู้หญิงน่ารัก ๆ อยู่ตั้งเยอะเลยแท้ ๆ นี่เธอคิดจะจิ้ม ๆ แก้มของผู้ชายไปตลอดชีวิตวัยเรียนเลยรึไง”

“ก็เด็ก ๆ พวกนั้นอ่อนแอน่ะนะ”

เธอพูดเบา ๆ ด้วยสีหน้าอันเย็นชา

“พอดีว่าฉันชอบคนที่ทัดเทียมกับฉันน่ะ”

คำพูดที่เธอพูดมามันก็มีเหตุผลอยู่

เดิมทีแล้วสึกิโอริ ซากุระนั้นได้เข้าสู่โรงเรียนเวทมนตร์หญิงโอโตริ ก็เพื่อที่จะตามหาความแข็งแกร่ง ซึ่งเป้าหมายของเธอก็คือการทำลายคอร๋ของดันเจี้ยนทั่วญี่ปุ่น และสาเหตุที่เธอเข้าเรียนที่โรงเรียนหญิงแห่งนี้ได้แม้เธอจะเป็นแค่สามัญชน นั่นก็เป็นเพราะว่าเธอได้รับการยอมรับว่าทักษะด้านเวทมนตร์ที่สุดยอดนั่นเอง

และพอได้เจอกับเหล่านางเอก หัวใจที่แข็งทื่อของเธอค่อย ๆ คลายลงทีละนิด จนสุดท้ายเธอก็จะพูดว่า “ดันเจี้ยนน่ะ จะเป็นยังไงก็ช่างมัน!! ฉันจะใช้ชีวิตแบบมีความสุขด้วยกันกับเหล่าสาว ๆ นี่แหละ!!” จนกลายมาเป็นความรักในที่สุด

เอาเถอะ แต่นี่มันก็เพิ่งเริ่มเองนี่นะ…แต่ยังไงในที่สุดเธอก็จะจูบกับเหล่าสาว ๆ อยู่ดี (อนาคตที่แน่นอน)

ในขณะที่ผมกำลังนั่งคิดเกี่ยวกับการแสดงออกของสึกิโอริอยู่ ลาพิสก็เข้ามานั่งที่ด้านซ้ายของผม

ผมก็เลยยืนขึ้นและเดินไปนั่งข้างหลังโดยที่ไม่พูดอะไร

“……”

“……”

แล้วพวกเธอก็เดินตามมานั่งข้างผมพร้อมกันทั้งคู่

ยัยพวกนี้ คิดจะเชือดผมในระหว่างที่ผมอยู่ท่ามกลางยูริงั้นเรอะ…?

“คือว่า”

เรย์เข้ามาคุยกับสึกิโอริด้วยรอยยิ้ม

“ช่วยเปลี่ยนที่นั่งกันหน่อยได้รึเปล่าคะ? เพราะคนที่นั่งอยู่ทางด้านซ้ายของคุณคือท่านพี่ของฉันน่ะค่ะ…แต่ถึงจะเรียกว่าท่านพี่ แต่เขาก็เป็นญาติห่าง ๆ ไม่ได้มีความสัมพันธ์กันทางสายเลือดจริง ๆ หรอกนะคะ เพียงแต่ท่านพี่เค้าเกิดเร็วกว่าฉันนิดหน่อย ฉันก็เลยแสดงออกเหมือนเป็นน้องสาวน่ะค่ะ แล้วเมื่อวันก่อน ท่านพี่ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อที่จะช่วยฉัน เพราะงั้นเพื่อที่จะได้ตอบแทนความรับผิดชอบในฐานะผู้ชายของพี่ชายที่ต้องช่วยฉันในยามลำบากแล้ว ช่วยเปลี่ยนที่นั่งกับฉันทีจะได้มั้ยคะ?”

“……”

“ช่วยเปลี่ยนที่นั่งกับฉันทีจะได้มั้ยคะ?(กดดัน)”

“……”

สึกิโอริ เมินเฉย และยิ้มหันมายิ้มให้ผม

“เอาหมากฝรั่งหน่อยมั้ย?”

นี่สติเธอยังดีอยู่ปะเนี่ย…?

เรย์ที่เหมือนจะทำหน้าสื่อว่าช่วยไม่ได้ จึงได้นั่งลงที่เก้าอี้ด้านหน้าผม

จากนั้นเธอก็หันกลับมาจ้องผมพร้อมกับผมสีดำสลวย

“ท่านพี่คะ”

“อ๊ะ ครับ”

“คงจะไม่ย้ายมาอยู่ที่หอพักหรอกใช่มั้ยคะ? ก็มีบ้านพักตระกูลซันโจอยู่แล้วนี่นา?”

“ย้ายสิ”

ทันใดนั้นเอง จู่ ๆ สึกิโอริก็เข้ามาขวางระหว่างพวกเรา

“พอดีเมื่อกี้สัญญากันไว้แล้วว่าจะย้ายไปอยู่หอเดียวกันน่ะนะ”

ไม่เคยสัญญานะเฟ้ย!! แล้วก็อย่ามาแสร้งยิ้มด้วยนะเห้ย!!

“หา!? นี่นายจะย้ายเข้าหอพักเหรอ!? ไม่เห็นจะเคยบอกกันเลยนี่!? แล้วจะทำยังไงกับบ้านหลังนั้นกันเล่า!? แบบนี้แอสเทมีร์กับเหล่าหน่วยเงาก็ลำบากน่ะสิ!? จะว่าไปแล้ว เรื่องสำคัญขนาดนี้ก็ช่วยเอามาปรึกษากันก่อนสิ!!”

“ท่านพี่น่ะจะอาศัยอยู่ที่บ้านหลังหลักของตระกูลซันโจต่างหากล่ะคะ เมื่อกี้ก็สัญญากันแล้วด้วย”

“เอ๊ะ? แต่เมื่อกี้บอกว่าสัญญาไปว่าจะอยู่หอพักไม่ใช่เหรอ?”

“อืม เมื่อกี้สัญญากันแล้วว่าจะเข้าหอพักน่ะ”

นะ…น่ากลัวง่ะ การบิดเบือนความจริงที่มาจากทั้งสามทาง ทำให้ความเป็นจริงแทบไม่เหลืออยู่อีกต่อไปแล้ว…

ถึงจะว่าแบบนั้นก็เถอะ…

ในขณะที่ทั้งสามคนกำลังทะเลาะกันเจี๊ยวจ๊าว ผมก็ก้มหน้าลงที่แขนทั้งสองข้าง

ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้กันล่ะ…แบบนี้มันแนวโรแมนติกฮาเร็มทั่วไปชัด ๆ เลยนี่…นี่ผมกลายเป็นเป้าดึงดูดแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน…มันก็ยังดีอยู่หรอกที่เป็นแค่ความรู้สึกขอบคุณไม่ใช่ในทางโรแมนติก…แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี…

ผมกำลังคิดหนักเลยว่าจะลดความชอบต่อผมของทั้งสามคนให้กลายเป็น 0 ในทีเดียวได้ยังไง

“……”

อึใส่กางเกงมันตรงนี้ซะเลยดีมั้ยนะ…ไม่สิ แต่จะใช้วิธีอื่นมันก็…

“……”

ว่าแล้วอึก็ใส่กางเกงไปเลยดีกว่ามั้ยหว่า?

“……”

ไม่ว่าจะคิดยังไง ตอนนี้ก็มีแต่ต้องอึใส่กางเกงเท่านั้นแล้วล่ะนะ…(สิ้นหวัง)

เมื่อผมตัดสินใจที่จะละทิ้งศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ไปเพื่อยูริได้แล้ว จู่ ๆ โดยรอบก็มืดลง และมีแสงสปอร์ตไลท์ส่งลงไปทีโพเดียม

รู้สึกได้เลยว่า การแนะนำหอพักโดยผู้จัดการ 3 คนกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว

การปรากฏตัวของผู้ดูแลหอพักทั้ง 3 หอพักนั้น ก็หมายความว่า…

เธอคนนั้นก็กำลังจะถูกแนะนำให้รู้จักด้วย

ในขณะที่ทั้งสามคนกำลังทะเลาะกัน จู่ ๆ ก็กลับมาเงียบและเพ่งความสนใจไปที่โพเดียม

นางเอกคนที่สาม–ได้ปรากฎตัวแล้ว