บทที่2ตอนที่3

หลังเลิกเรียนโนโซมุก็มุ่งหน้ามายังสวนสาธารณะในเมืองอาร์คาซัม

สวนสาธารณะถูกสร้างขึ้นรอบๆสถาบันเพื่อจะให้นักเรียนได้ผ่อนคลายในวันธรรมดาๆและมีแผงขายของต่างๆมากมายในวันหยุดเป็นสถานที่พักผ่อนสำหรับเหล่าประชาชนในเมือง

เหตุผลที่โนโซมุมาที่สวนแห่งนี้ก็เพื่อคิดเรื่องต่างๆที่ผ่านมา

ขณะที่นอนอยู่บนม้านั่งในสวนนั้น ข้าก็คิดทบทวนทุกสิ่งทุกอย่างอยู่หลายครั้ง

ตัวตนในอดีตของข้าและเส้นทางในอนาคต คำพูดสั่งเสียของอาจารย์และพลังของดราก้อนสเลเยอร์ในตัวเขา ความสัมพันธ์กับลิซ่า

แต่ไม่ว่าจะคิดมากแค่ไหนโนโซมุก็ไม่รู้จะทำยังไงต่อไป แน่นอนสำหรับเขาใน “ตอนนี้”

เมื่อมองย้อนกลับไปการที่ข้าหนีมันมาตลอดแบบนี้ ต่อให้หนีต่อไปก็ไม่มีประโยชน์…………

โนโซมุย้อนนึกถึงเทียแมทที่สถิตอยู่ในร่าง ตัวตนที่สามารถกลืนกินและทำลายตัวตนของเขาได้ แม้หลังจากการต่อสู้กับชิโนะ มันก็ยังแสดงพละกำลังอันมหาศาลอยู่ภายในตัวเขา

ใบหน้าของโนโซมุนั้นบิดเบี้ยว สีหน้าที่ดูเจ็บปวดนั่น มองจากภายนอกก็รู้ได้

ตัวตนที่สถิตย์อยู่ในร่างของข้ามันมีพลังอันแข็งแกร่งเกินไป จนไม่รู้ว่าข้าควรจะทำยังไงต่อไป ได้แต่คิดแล้วก็สงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวข้าในอนาคต

สถานบันโซมินาติเองก็เป็นสถานบันที่ได้รับสนุนจากทุกประเทศเพื่อสรรหาทรัพยากรบุคคลที่กล้าแกร่ง หากตัวตนที่มีพลังอันท้วมท้นอย่างข้าเผลอหลุดปล่อยพลังสู่สาธารณชนอย่างที่อาจารย์บอกมันจะกลายเป็นปัญหาระดับประเทศ จะต้องเกิดการห่ำหั่นเพื่อแย่งชิงตัวกันเป็นแน่

 ตัวตนของดราก้อนสเลเยอร์ที่หายไปหลายร้อยปีกลับมาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งละก็………。

สำหรับโนโซมุแล้ว เทียแมทนั้นเป็นปัญหาอันยิ่งใหญ่ ไม่ใช่ปัญหาเพียงแค่ด้านพลังกายของเขา แต่รวมไปถึงตัวจิตใจของเขาด้วยเช่นกัน

◇◆◇

「คุณโนโซมุทำอะไรอยู่เหรอคะ?」

 

ทันใดนั้นเองก็มีเสียงเรียกโนโซมุที่กำลังคิดไม่ตก

 

ด้านข้างเขาคือเด็กผู้หญิงอายุ 10 ขวบ กำลังโอบกอดแมวดำที่อยู่ในอ้อมแขนของเธอ

 

「ดูเหมือนว่าเธอน่ะ จะมีเรื่องทุกข์ใจมากเลยนะคะ」

 

สาวน้อยคนนั้นดูท่าทางกังวลเป็นอย่างมาก โนโซมุรีบเปลี่ยนสีหน้าทันทีพร้อมกับยิ้มให้เธอ

 

「ฮะฮะฮะฮะ ไม่เป็นอะไรหรอกครับ โซเมียจัง」(TN:เป็นชื่อย่อของน้อนโลลินะ)

 

เธอมีชื่อว่าโซลมิเลียน่า

 

การพบกันครั้งแรกของโนโซมุก็คือตอนที่โนโซมุสอบขึ้นชั้นปี 3 ได้นั่นเอง

 

 

โนโซมุที่ออกไปเดินเล่นภายในเมืองช่วงวันหยุดเนื่องหลังจากการสอบย่อยถึงสามครั้ง สถานการณ์ในตอนนั้นเรียกได้ว่าลำบากแทบแย่กว่าจะผ่านมาได้

เขาที่แวะพักซื้อของแผงลอยในสวนสาธารณะ ก็ซื้อขนมปังยัดไส้ผักกับเนื้อ

ขณะที่กำลังเดินอยู่นั่นเองก็พบก็เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังมองไปบนต้นไม้สวนสาธารณะ

 

ไม่มีใครอยู่รอบตัวเธอคนนั้นเลยแม้แต่น้อย และดูท่าเด็กคนนั้นจะมีท่าทางกังวลเป็นอย่างมาก

ไม่มีทางเลือกอื่นโนโซมุเลยเดินเข้าไปหาเธอ พร้อมกับตะโกนเรียก

 

「เป็นอะไรไปงั้นเหรอครับ?」

 

「เอ่อ คือว่า」

 

เด็กสาวคนนั้นสังเกตเห็นโนโซมุก็จ้องมาทางเขา เธอดูท่าทางอายุราว 10 ขวบและมีผมสีดำขลับตัดสั้น ดวงตาสีดำที่ชวนน่าหลงใหล

 

อย่างไรก็ตามเธอเป็นคนที่ดูน่ารักสมวัยดีนั่นละ

 

「คือว่าจริงๆแล้วหนูกำลังเล่นอยู่กับคุโระจังค่ะ……」

 

เธอพูดเช่นนั้นพร้อมกับมองขึ้นไปบนต้นไม้

เมื่อโนโซมุมองขึ้นไปบนต้นไม้ก็พบกับแมวดำอยู่บนกิ่งไม้ ดูเหมือนว่าแมวดำตัวนั้นจะอยู่บนกิ่งไม้นั่นและเล่นกับอะไรบางอย่างอยู่

 

「เอ่อคือนั่นน่ะเป็นเครื่องประดับแขนของหนู แล้วหนูก็ชอบคุโระจังมาก อยากให้คุโระกลับลงมาจังเลยค่ะーーーー」

 

ดูเหมือนว่าเจ้าแมวดำตัวนั้นจะชอบเครื่องประดับแขนของเธอมากและเผลอคาบเครื่องประดับนั่นไปสินะ  

 

「ช่วยไม่ได้นะครับ」

 

โนโซมุกัดขนมปังเข้าไปครึ่งคำและเริ่มปีนต้นไม้ แมวดำที่เห็นเช่นนั้นก็ตั้งหางชูชันราวกับกำลังขู่

 

「น่าอยู่นิ่งๆและเอาคืนมาเถอะนะ」

 

โนโซมุปีนขึ้นไปเหนือเจ้าแมวดำนั่นและพยายามจะจับตัวมันไว้แต่ว่า「เมี้ยวววววーーー」มันขู่พร้อมกับเอากรงเล็บมาข่วน

 

「นี่!! อย่าตื่นตระหนกไปสิ!!」

 

「เมี้ยววววว!」

 

แมวดำพยายามต่อต้านมากขึ้นและในที่สุดมันก็กระโดดเข้าหาเขา โนโซมุโดนเจ้านั่นข่วนเข้าให้

 

「จะจะจะจะจะจะเจ็บ!!! หนอยแน่ เจ้าแมวบ้า!!!!」

 

การดวลเดือดครั้งใหญ่ระหว่างโนโซมุกับเจ้าแมวได้เริ่มขึ้นแล้ว แมวดำนั่นวิ่งไปบนกิ่งไม้แคบๆ และดูเหมือนว่ามันจะเคลื่อนไหวไม่ได้แล้ว โนโซมุพยายามจะเข้าไปจับแต่ทว่ากิ่งไม้เริ่มเสียสมดุล

ความสมดุลกำลังหายไปกิ่งไม้เริ่มแตกออกและในที่สุดก็เกิดเรื่องบ้าๆขึ้นนั่นคือกิ่งไม้หักนั่นเอง

 

「อูววววววว!!」

 

「เมี้ยวเมี้ยว!!!」

 

ด้วยแรงโน้มถ่วงทั้งโนโซมุแล้วแมวดำตัวนั้นต่างร่วงลงมา

 อย่างไรก็ตามดูเหมือนเจ้าแมวดำนั่นจะปรับตัวได้ทันและรีบกระโดดเข้าสู่อ้อมอกของเด็กสาวคนนั้น ส่วนทางโนโซมุก็ล้มลงก้นจ้ำเบ้า เขาลงไปคลานกับพื้นแต่เจ้าแมวก็ยัง「เมี้ยว!」

ทำท่าจะขู่โนโซมุอยู่

 

「……อาาาา เอิ่ม…………เป็นอะไรไหมค่ะ?」

 

「…………หะหะหะ……ไม่เป็นไร」

 

โนโซมุลุกขึ้นพร้อมกับตอบเธอไปด้วยน้ำเสียงอ้อนแอ่นเล็กน้อย เธอมองมาที่ข้าด้วยความกังวลและดูเหมือนว่าโนโซมุจะนึกเรื่องสำคัญได้ขึ้นมาว่าทำอะไรลงไป

 

「เอ่อแล้วเครื่องประดับแขนของเธอล่ะ เป็นอะไรรึเปล่า?」

 

แมวดำนั่นยังคงคาบเครื่องประดับแขนของเธอไว้อยู่ ดูเหมือนจะไม่เป็นไร

 

「ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณที่ช่วยนะคะ」

 

เธอดูท่าทางโล่งอกเป็นอย่างมากรอยยิ้มนั่นเหมือนดอกไม้แรกแย้ม โนโซมุก็ยิ้มตอบเธอตามปกติ ท่าทางอันแสนบริสุทธิ์และไร้เดียงสานั่นนานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้เห็นแบบนี้ โนโซมุก็หวนนึกถึงชิโนะที่มีรอยยิ้มแบบนั้นเช่นเดียวกันก่อนที่เธอจะจบชีวิตลง

 

「อะ ขอโทษนะค้าาา ลืมแนะนำตัวเลยค่ะ หนูชื่อโซลมิเลียน่า เพื่อนๆต่างเรียกหนูว่าโซเมียค่ะ!」

 

「อะ ข้าเองก็ด้วยขอโทษด้วยนะ ข้าชื่อ โนโซมุ・เบลาตี้ จะเรียกว่าโนโซมุก็ได้นะ เอ่อว่าแต่ว่าข้าจะขอเรียกว่าโซเมียจังได้ไหม?」

 

「ค่ะ!ยินดีที่ได้รู้จักนะคะคุณโนโซมุ!」

 

「ทางนี้ก็ด้วยฝากตัวด้วยนะ」

 

หลังจากแนะนำตัวเองทั้งคู่แล้วโฯโซมุก็สังเกตเห็นได้ว่า เสื้อของเธอเป็นเครื่องแบบของสถาบันอีคอร์ส

อีคอร์สเป็นสถาบันในเครือของสถาบันโซลมินาติเป็นสถาบันของเด็กที่มีอายุราวๆ 10 ขวบ

จุดประสงค์ที่ก่อตั้งก็คือเพื่อให้การศึกษาแก่เด็กที่มีความสามารถเพื่อเสริมสร้างให้เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีความสามารถสูง ซึ่งรวมรวมมาจากทั่วทุกแห่งมาศึกษาที่สถาบันแห่งนี้

 

「โซเมียจังเป็นนักเรียนของสถาบันอีคอร์สเหรอครับ」

 

「ใช่แล้วค่ะ!สำหรับตอนนี้ก็ขึ้น ปี 5 แล้วนะคะ」

 

อีคอร์สนั่นมีถึงปี 6 นั่นหมายถึงว่าเธอเรียนอยู่ที่นั่นเป็นระยะเวลาประมาณ 5 ปีแล้ว

 

การจะเข้าสู่สถาบันอีคอร์สได้แน่นอนว่าต้องเป็นคนที่มีพรสวรรค์ที่ถูกส่งตัวมาจากแต่ละประเทศ สำหรับโนโซมุแล้วมันเป็นที่ๆห่างไกลจากตัวเขาไปแบบหลุดโลกเลย

 

「แต่ว่าเท่าที่ดูแล้วคุณโนโซมุเองก็เป็นนักเรียนของสถาบันโซลมินาติสินะคะ!」

 

เธอมองมาพร้อมกับรอยยิ้มอันสดใส

 

「อืม ข้าน่ะยังอ่อนด้อยอยู่เลยเป็นคนไร้ความสามารถก็ว่าได้ อยู่ห้องเรียนต่ำสุด ห้อง 10 น่ะ」

 

「เอาจริงๆ คุณโนโซมุเนี่ยเหมือนกับหนูเลยนะ!นอกเหนือจากนั้น!」

 

โซเมียตอบมาด้วยท่าทางเขินอายและแลบลิ้นออกมา เธอเป็นคนกล้าแสดงออก และเมื่อโนโซมุมองไปที่รอยยิ้มของเธอนั่นมีแรงดึงดูดแปลกๆ

 

(ดูเหมือนว่าโซเมียเนี่ยถ้าจะเข้ากับอันริได้อย่างดีเลยล่ะนะ。)

 

โนโซมุนึกถึงอาจารย์ประจำชั้นคนนั้น บุคลิกที่ดูเรียบๆ แต่ร่าเริงและสดใส โซเมียที่เปรียบเสมือนดอกทานตะวันน่าจะเข้ากับเธอได้เป็นอย่างดี

 

 

「อย่างไรก็ตามโซเมียน่ะมีเป้าหมายแล้วใช่ไหมว่าจะทำอะไรต่อน่ะ?สำหรับข้าแล้วตัวเองน่ะยังคง “อยู่กับที่” ไม่ยอมไปไหนสักทีเลยเนี่ยสิ」

 

「อ่าใช่แล้วละคะ! พี่สาวของฉันเนี่ยแหละคือเป้าหมายของหนูค่ะ!」

 

เมื่อถามเกี่ยวกับ”พี่สาว”โซเมียก็พูดเก่งขึ้นไปอีกและดูเหมือนเธอจะมีความสุขมากขึ้น 50%เลยนะจะบอกให้

 

 

“พี่สาวหนูน่ะแข็งแกร่งนะ” “แถมยังเป็นคนสวยอีกต่างหาก” “แถมยังเป็นคนใจดีมากๆด้วย”

 

 

เห็นได้ชัดว่าโซเมียน่าจะรัก “พี่สาว”ของเธอมากๆเลยล่ะก็เล่นอวยพี่สาวซะหัวชนฝาขนาดนี้

ในขณะเดียวกันข้าก็กังวลว่าโซเมียจัง จะถูกพวกคนแปลกหน้าลักพาตัวหรือโดนลอบทำร้าย

 

เท่าที่ฟังแล้วตัวเธอเองกับ “พี่สาว”มีหลายๆส่วนที่คล้ายกันอย่างมาก เธอบอกมาแบบนั้น

 

「แล้วเจ้าแมวดำตัวนี้ละ เล่นกับมันบ่อยเหรอครับ」

 

โนโซมุจ้องมองไปยังแมวดำที่อยู่ในอ้อมแขนของโซเมีย เจ้าแมวดำยังคงเล่นเครื่องประดับของเธอ ดูเหมือนว่าเครื่องประดับนั่นจะมีกระดิ่งเล็กๆติดไว้อยู่ด้วย แม้ว่าจะเป็นมือสมัครเล่นแต่ดูแล้วน่าจะเป็นของมีค่าน่าดู

 

「เครื่องประดับแขนนั่นดูมีค่ามากเลยน่ะ มันคืออะไรงั้นเหรอครับ?」

 

「เอ่อ คือว่าเครื่องประดับแขนนี่น่ะเป็นของที่ส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่นค่ะ มันเป็นเหมือนตัวแทนสายสัมพันธ์กับครอบครัวที่มีมาแต่ช้านาน เป็นเครื่องรางที่บ่งบอกว่าไม่ว่าจะห่างไกลกันขนาดไหนพวกเราก็จะได้กลับมาพบกันอีกค่ะ」

 

「อืมมมม ฟังแล้วดูเป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับเธอมากๆเลยะสินะ เรื่องเล่านี่เองก็พลอยทำให้ข้าอมยิ้มไปด้วยเลย」

 

「ใช่ไหมละคะ!หนูน่ะเคยไปเจอมันอยู่ในโกดังของบ้านน่ะ แต่ว่าพี่สาวก็เป็นคนเอามาให้หนู! พี่สาวบอกว่านี่จะเป็นตัวแทนความสัมพันธ์ระหว่างสองเราแม้ต้องแยกจากกันก็ตามค่ะ」

 

เธอเล่าเรื่องของเครื่องประดับแขนนั่นด้วยท่าทางมีความสุขมาก อาจจะเป็นเหมือนธรรมเนียมประจำบ้านของเธอที่จะส่งต่อสิ่งของต่างๆจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อแสดงถึงสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น

 

เธอที่กำลังพูดเช่นนี้นั้นก็หยิบเครื่องประดับแขนมาจากแมวดำนั่น เจ้าแมวดำตัวสั่นเล็กน้อย

 

「โถ่ว คุโระจังต้องแบบนี้สิ เด็กดีๆ」

 

เมื่อเธอหยิบเครื่องประดับแขนนั่น เจ้าแมวดำก็ทำท่าทางเหมือนจะงอแงเล็กน้อย แต่ก็คืนให้กับเธอแต่โดยดี

 

「ยังไงก็ตามเป็นแมวตัวผู้ที่ซนน่าดูเลยนะ」

 

「เออออ๋!」

 

「เพราะว่าหยิบของๆเจ้าของมาเล่นแบบนี้ แต่ก็ยังไม่พอใจเลยนี่น่ะ……」

 

「……เอ่อคือว่า…………」

 

โซเมียพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง

 

「เอ่อคือว่างี้นะคะ คุณโนโซมุ คุโระจังน่ะ……เป็นผู้หญิงน่ะ…………」

 

「…………เอ๋?」

 

「ก็บอกแล้วไงละคะ ว่าคุโระจังนะเป็นผู้หญิงนะ」

 

ดูเหมือนว่าเจ้าแมวดำตัวนี้จะเป็นตัวเมีย แต่ว่าท่าทางซุกซนของมันและดูใจกล้านั่นทำให้โนโซมุหลงผิดคิดว่าเป็นตัวผู้ซะอีก

 

(แล้วก็นะชื่อคุโระเนี่ยมันเป็นชื่อของผู้ชายไม่ใช่เหรอ)

 

「เอโตะ……ทำไมถึงตั้งชื่อให้มันว่าคุโระล่ะ?」

 

「เอ๋ ทำไมถามแบบนั้นล่ะคะ ก็เพราะว่าชื่อนี้มันฟังดูน่ารักดีนี่คะ?」

 

「…………อ่า นั่นสินะ」

 

เห็นได้ชัดเลยว่าเซนต์การตั้งชื่อของเธออยู่ในขั้น….

 

「โอ้ว แล้วก็เจ้าของๆคุโระจังไม่ใช่หนูหรอกนะคะ แต่คิดว่าน่าจะเป็นแมวไร้บ้านค่ะ」

 

จากที่เธอเล่ามาเธอพบมันแถวๆสถาบันอีคอร์สเป็นครั้งคราว จากนั้นเธอก็เริ่มเข้าไปเล่นกับมัน

 

「เอ๋ แมวไร้บ้านงั้นเหรอ? แต่ว่าดูเหมือนว่ามันจะชอบโซเมียจังมากๆเลยนี่ ดังนั้นก็เลยคิดว่าเป็นแมวของโซเมียจังซะอีก…………」

 

ตอนนั้นเองที่โนโซมุพยายามจะจับคุโระ

 

「เมี้ยววววววววーーー!!!!」

 

「จะเจ็บ!!」

 

ทันใดนั้นคุโระก็ข่วนมือของโนโซมุ

 

「อ่าาา เป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ? คุโระจังไม่ค่อยคุ้นชินกับผู้ชายเท่าไรนอกจากหนูก็เลย」

 

「งั้นเองเหรอเนี่ย?」

 

「ค่ะ คุโระจังน่ะไม่ยอมเข้าใกล้กับผู้ชายคนไหนเลย แต่ถ้าเป็นผู้หญิงละก็เธอโอเคนะคะ…………」

 

(ไม่ถูกกับผู้ชายงั้นเหรอเนี่ย……)

 

ดูเหมือนว่าเจ้าคุโระจะเข้าหาเฉพาะผู้หญิง เมื่อโนโซมุจ้องมองคุโระที่อยู่ในอ้อมแขนของโซเมียจังท่าทางมันดูสงบดี

เมื่อคุโระเห็นว่าโนโซมุพยายามจะเข้าใกล้ก็ “ขู่”ทันทีเลย

 

(หะหะ เจ้าแมวนี่!)

 โนโซมุจ้องมองไปยังคนเจ้าปัญหาตัวนี้(แมวนะเหรอ?)ตอนนั้นเองข้าก็ไม่สนใจและเริ่มมองไปดูที่เครื่องประดับแขนของเธอ พยายามจะติดมันกลับที่เดิม

 

「 โม่ว คุโระจังละก็ หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะคะ!」

 

ดูเหมือนแมวก็มีสัญชาตญาณของมันเองสินะ

 

 ระหว่างนั้นเองสงครามครั้งใหญ่ระหว่างที่โนโซมุพยายามติดประดับแขนให้กับโซเมียจังและคุโระที่อาละวาดไม่ยอมให้เข้าใกล้ กลายเป็นซึ่ง 2คน(1คน1สิ่งมีชีวิต)จะเข้าขากันน่าดู

◇◆◇

นี่คือการพบกันระหว่างโนโซมุและโซเมีย หลังจากนั้นข้าก็พบกับเธอบ่อยครั้งและได้พูดคุยกันเป็นครั้งคราว อย่างไรก็ตามทุกๆครั้งที่เจอกันศึกไฝว้ระหว่าง 1 คน 1 สัตว์ก็ยังคงดุเดือดทุกที

 

「พูดถึงเรื่องนี้แล้ว โซเมียใกล้วันเกิดเธอแล้วล่ะ」

 

「นั่นสินะคะ! หนูจะอายุ 11 ขวบแล้วค่ะ!」

 

เธอยิ้มอย่างมีความสุขแต่ในวินาทีถัดมารอยยิ้มก็จางหายไป

 

「แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นวันเกิดของหนู แต่ท่านพ่อก็ยังไม่กลับมาเลยค่ะ」

 

จากที่ได้ยินมาพ่อของเธองานยุ่งมากและไม่ค่อยกลับมาที่บ้านเท่าไร ดูเหมือนว่าแม่เธอจะเสียชีวิตไปแล้วและเธอเหลือพี่สาวเพียงคนเดียว

 

「แต่ว่าพี่สาวก็จัดงานวันเกิดให้นะคะ!」

 

และโซเมียก็กลับมายิ้มอีกครั้งโดยเก็บความเหงานั้นไว้ในอกและทำตัวร่างเริงตามปกติ

(……เป็นเด็กที่เข้มแข็งจริงๆเลยนะ……)

 

เมื่อข้าคิดได้เช่นนั้นตอนที่ข้าอยู่กับเธอ เธอคงจะได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่าพวกพ่อแม่ก็ได้ ดูจากบรรยากาศของเธอแล้ว โนโซมุที่เห็นทั้งด้านที่น่าประทับใจและเศร้าสร้อยในเวลาเดียวกันของตัวเธอเองนั้น เห็นแล้วมันช่างปวดใจ ไม่มีใครอยู่เคียงข้างเธอยามที่เธอต้องการได้

 

 

โนโซมุย้อนนึกถึงตัวเอง เขาเองก็เป็นพวกโดดเดี่ยวในสถาบัน ไว้ใจใครไม่ได้ ทุกคนต่างเมินหนีข้าไปหมด และต่างโดนกรนด่าและยั่วยุมากมาย

 

ทุกๆครั้งที่เป็นแบบนั้นยามใดที่ข้าเศร้าสร้อยข้าจะนึกถึงคำๆนั้นเสนอ คำที่อาจารย์พูดออกมาว่า「ยินดีต้อนรับกลับนะ เจ้าศิษย์โง่」ที่คอยเป็นกำลังใจให้กับข้า

 

ข้าจดจำคำพูดเหล่านั้นไม่มีวันลืมเลือน

 

หัวใจของข้าที่แข็งกร้าวเหมือนน้ำแข็งลูกใหญ่ ถูกละลาย และทำให้ข้าร้องไห้ออกมา

 

 

 “เจ้าไม่ได้ตัวคนเดียว”ข้ารู้สึกเช่นนั้นอยู่ตลอดเวลา

 

 

ต้องขอบคุณอาจารย์จริงๆที่ยอมรับตัวข้า ดังนั้นข้าเลยพอที่จะตอบรับความคาดหวังของคนอื่นๆได้บ้างแล้ว

ข้าจะพูดคุยกับคนอื่นๆด้วยความแข็งแกร่งที่ข้ามี เผชิญหน้าอย่างตรงไปตรงมา ด้วยความจริงใจ

 

 

และอาจารย์เองก็ได้สอนบางสิ่งที่สำคัญที่สุด……………นั่นคือการที่ให้ข้าก้าวเดินไปข้างหน้า

◇◆◇

「ถ้าถึงวันเกิดโซเมีย โซเมียอยากจะได้อะไรเป็นของขวัญงั้นเหรอ?」

 

「เอ่อ นั่นสินะคะ!!」

 

เธอถามออกมาด้วยรอยยิ้ม บางทีเธอไม่คิดว่าโนโซมุจะเตรียมของขวัญให้

 

「อืมมมม ข้าเองก็ให้อะไรที่มันใหญ่ๆไม่ได้ แต่ก็มีของดีๆจะให้นะ」

 

「จริงเหรอคะ! หนูจะตั้งตารอนะคะ!!」

 

ใบหน้าของเธอไร้ซึ่งความเงียบเหงาอีกต่อไป ตอนนี้ตัวเธอเปล่งประกายดั่ง “ดวงอาทิตย์”

 

 

(ดีแล้วล่ะนะ ไม่มีใครอยากเห็นเธอที่เข้มแข็งต้องมาเศร้าหรอกนะ)

 

โนโซมุโล่งใจเและรู้สึกสบายใจเมื่อเห็นรอยยิ้มนั่น

◇◆◇

「ยังไงก็ตามวันนี้จะเอายังไงดีล่ะ?」

 

ถึงเวลาเลิกเรียนของสถาบันอีคอร์สและโนโซมุก็ไม่เข้าใจว่าทำไมโซเมียถึงมาอยู่ที่นี่

 

「อื้อคือว่านะ วันนี้หนูจะมารับพี่สาวค่ะ!」

 

(เอ่อจะว่าไปก็เคยได้ยินเรื่องพี่สาวเธอมามากเหมือนกัน คนที่เธอชื่นชมเอามากๆนั่น แต่ว่าข้าก็ไม่เคยได้ยินรายละเอียดอย่างชัดเจนเลย)

 

เห็นเธอออกมาจากสวนสาธารณะของสถาบันเช่นนี้ก็คิดได้ว่าตัวพี่สาวเธอต้องอยู่ในสถาบันนี้แน่ๆ

 

「โซเมียจัง พี่สาวอยู่ที่สถาบันโซลมินาติเหรอครับ?」

 

「อืม พี่สาวน่ะเป็นนักเรียนที่สถาบันโซลมินาติเหมือนคุณโนโซมุล่ะ!」

 

「งั้นเหรอ(เอะ เดี๋ยวก่อนนะ)」

 

โนโซมุจ้องไปยังโซเมีย ผมสีดำนัยน์ตาสีดำขลับและภาพลักษณ์ที่ดูมีความเป็นกุลสตรี โนโซมุเหมือนเคยเห็นภาพแบบนี้ที่ไหนในสถาบันนะ

 

「นี่โซเมียจังหรือว่าพี่สาวของเธอคือ「โซเมีย ขอโทษที่ทำให้รอนะจ้ะ」」

 

เมื่อโนโซมุหันไปตามเสียงก็ตัวแข็งทันที

 

ผมสีดำขลับยาวตรงจนถึงเอว ท่าทางที่ดูเรียบร้อยสมหญิงและดวงตาสีดำสนิทชวนน่าหลงไหล ใบหน้านั้นดูสง่างามและรูปลักษณ์ที่ดูได้รูปนั่นราวกับได้รับพรจากเทพธิดาก็มิปราณ

 

 

นั่นคือ ไอริสดิน่า・ฟรานซิส ซึ่งเป็นนักเรียนอันดับหนึ่งของปี 3 แห่งสถาบันโซลมินาติ