บทที่2ตอนที่2

「ขออนุญาติค่ะ มีนักเรียนได้รับบาดเจ็บ ช่วยรักษาให้หน่อยได้ไหมคะ?」

ไอริสดิน่า・ ฟรานซิสเธอโอบไหล่นักเรียนที่น่าจะบาดเจ็บมา

เมื่อมองไปทางด้านหลังก็พบกับทิม่า ・ไลม์ เพื่อนสนิทของไอริสดูเหมือนเธอจะหิวกระเป๋าของไอริสมาด้วย

「เข้าใจแล้ว ก่อนอื่นก็ให้นักเรียนนั่นนั่งเก้าอี้ก่อน」

นอร์นวิ่งเข้าไปหานักเรียนคนนั้นทันทีและโนโซมุเองก็ช่วยหยิบอุปกรณ์การแพทย์ให้

「เกิดอะไรขึ้นเหรอ~~~~」

อันริกำลังนั่งฟังคนอื่นๆและมองสถานการณ์รอบตัวด้วยความงงงวย

เห็นได้ชัดว่าแผลนั่นเกิดจากสงครามแย่งชิงอาหารสุดฮ็อต

「อืม ขาเคล็ดน่ะ แต่กระดูกยังดูปกติดีกล้ามเนื้อก็โอเครพักผ่อนสักสองสามวันก็น่าจะหาย ถ้างั้นมาทาครีมก่อนนะ」

หลังจากเช็คอาการเสร็จแล้วอาจารย์นอร์นก็หยิบอุปกรณ์จากมือของโนโซมุไป เป็นตอนนั้นเองที่โนโซมุไปสบตากับทิม่า ไลม์เข้า

「!!」

ทันทีที่เธอสบตากับโนโซมุเธอรีบเอาตัวไปอยู่ด้านหลังไอริสดิน่าทันที

(…………เอะ นี่ข้าทำอะไรลงไป?)

โนโซมุตกใจเล็กน้อย กับท่าทางของทิม่า ไลม์ที่จู่ๆก็หลบหน้าเขา แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจและคอยช่วยอาจารย์นอร์นอยู่

「แค่นี้ก็น่าจะพอแล้ว ที่เหลือก็พักผ่อนให้เยอะๆ」

「「ขอบคุณมากๆค่ะ」」

นักเรียนคนนั้นกับไอริสดิน่าก้มหัวขอบคุณ นอร์นที่รักษาแผลให้จนเสร็จ ดูเหมือนว่าข้าจะไม่ต้องช่วยอะไรมาก เธอคนนั้นพาคนเจ็บมาที่ห้องนี้ สมแล้วเธอเป็นคนใจกว้างน่าดู

ไอริสดิน่า เป็นลูกสาวของตระกูล ฟรานซิส ซึ่งเป็นตระกูลนักธุรกิจรุ่นเก๋าในอาณาจักรฟอร์ซิน่า ที่มีอำนาจมากทางตะวันตกของทวีป เธอเป็นคนขยันขันแข็งแม้แต่อาจารย์ก็ยังชื่นชม

「อืม ก็อย่างที่อาจารย์บอกค่ะ ช่วยนอนพักสักพักเถอะนะคะ」

「คะ ค่ะ!! ขอบคุณมากนะคะ!!」

นักเรียนคนนั้นตอบกลับไอริสดิน่าด้วยใบหน้าแดงแจ๋

รูปลักษณ์และความสามารถอันโดดเด่น เธอมีบุคลิกที่ดูเป็นผู้ดีจนถูกเรียกว่า “เจ้าหญิงเทพธิดาทมิฬ” เธอโดนนักเรียนหลายคนเข้าไปสารภาพรักแต่เธอก็บอกปัด

ยังไงก็ตามลิซ่า เฮาวน์ เพื่อนสมัยเด็กของผมก็ต่อสูกับเธอได้อย่างสูสี เธอคนนั้นก็ถูกเรียกว่า “เจ้าหญิงสีชาด” เป็นดั่งคู่ปรับกันเลยล่ะ

「ต้องขอบคุณด้วยนะคะที่คอยช่วยด้วยน่ะ」

ไอริสขอบคุณโนโซมุ

「เอะ เอ่อ ข้าแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ」

การตอบสนองของโนโซมุที่ทำท่าทางแปลกๆ ทำให้เธอจ้องมองมาที่เขา

「อ่า ถึงเวลาเข้าเรียนแล้วละ…………」

ทันใดนั้นเองทิมาซึ่งอยู่ด้านหลังก็พูดขึ้นมา แน่นอนว่าใกล้ถึงเวลาเข้าเรียนคาบบ่าย

「อะ อืม ถ้างั้นไปกันเถอะ ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ」

「เข้าใจแล้ว โนโซมุ เธอเองก็รีบกลับไปที่ชั้นเรียนเถอะนะ」

ดูเหมือนจะไม่มีเวลาเหลือให้ทานอาหารกลางวันต่อแล้ว

「เอาล่ะกลับห้องเรียนกันเถอะครับ」

โนโซมุพูดเช่นนั้นพร้อมกับกับห้องไป

◇◆◇

ที่โถงทางเดินระหว่างกลับห้องเรียน ฉัน ไอริสดิน่า ถามเพื่อนสนิทเกี่ยวกับการปรากฏตัวของเขา

 

「ทิม่าก็รู้อยู่หรอกนะว่าไม่ค่อยชอบผู้ชาย แต่ฉันว่าเธอดูอคติกับเขาเกินไปหน่อยไหม」

 

สิ่งที่ฉันพูดคือท่าทางของทิม่าที่แสดงท่าทีต่อโนโซมุในห้องพยาบาล ทิม่าไม่ค่อยถูกกับเด็กผู้ชาย

 

 แต่ว่าเธอดูอคติกับเขาเป็นพิเศษ

 

「ขะ -ขอโทษด้วยนะ แต่ว่าหมอนั่นน่ะ เห็นลิซ่าเป็นของเล่นไม่ใช่เหรอ…………」

 

ลิซ่าเป็นนักเรียนที่อยู่ห้องเดียวกันกับฉัน เป็นนักเรียนแรงค์ A เช่นเดียวกับฉันและเป็นอีกหนึ่งในไม่กี่คนที่สู้กับฉันได้อย่างสูสี

 

 ยังไงก็ตามตอนที่ฉันอยู่ ปี 1 ก็ได้ยินข่าวลือแบบนี้มาเหมือนกัน เธอที่คบกับเพื่อนสมัยเด็กและได้ยินว่าเธอโดนเขานอกใจ เป็นเขาคนนั้นจริงๆนะเหรอ?

 

「แต่ว่าเท่าที่ได้ยินมาเหมือนว่าข่าวลือนั่นไม่เหมือนกับตัวเขาเลยนะ」

 

เขาไม่น่าจะใช่คนแบบนั้น เขาที่เป็นทั้งคนเตรียมยาและช่วยเหลือคนเจ็บเช่นนั้นอะนะ

 

「ก็ใช่ แต่ว่าฉันกลัวนี่หน่า……」

 

ทิม่าหมดแรงจนเข่าอ่อน เธอเองก็เป็นคนที่มีจิตใจดี แต่ขี้อายไปหน่อย ฉันเลยต้องคอยดูแลอยู่เรื่อย

เธอที่ได้ยินข่าวลือเช่นนั้นก็ตอบสนองกับเขาซะเวอร์วัง

 

「อืม ถ้าเจอกันคราวหน้า แค่ขอโทษเขาอย่างจริงใจก็จบแล้วละนะ เพราะงั้นอย่ากังวลมากนักเลย」

 

「…………อืม」

 

คาบเรียนกำลังจะเริ่ม พวกเราจึงรีบไปที่ห้องเรียน

◇◆◇

「ฮะ~~ฮ้าววววววววว。มาเริ่มคาบเรียนตอนบ่ายกันเถอะน้าาาา~~」

 

อันริส่งเสียงเหนื่อยหน่ายทั่วสนามฝึก

 

คาบเรียนตอนบ่ายของห้อง 10 ก็คือการฝึกภาคสนาม

ไม่ใช่การต่อสู้ตัวต่อตัวอีกต่อไปคาบนี้ให้เน้นไปที่การตั้งปาร์ตี้ในการต่อสู้ เพื่อเช็คการทำงานเป็นทีมและการประสานงานกัน

 

ในตอนแรกการต่อสู้กับสัตว์อสูรตามลำพังมันก็เสี่ยงพอแล้ว สำหรับพวกมีประสบการณ์ก็คงจะสบายหน่อยแถมได้รางวัลโดยไม่ต้องแบ่งใคร แต่สำหรับผู้อ่อนแอก็จะต้องช่วยกันกำจัดศัตรูและหารค่าตอบแทน บางครั้งก็ต้องช่วยกันประสานงานจัดการสัตว์อสูรเก่งๆด้วยเช่นกัน

ดังนั้นเพื่อพัฒนาความสามารถในการตัดสินใจและการตอบสนองแต่ละบทบาทบทเรียนการต่อสู้ของปีที่ 3 คือการต่อสู้แบบกลุ่มนั่นเอง

 

อย่างไรก็ตามเพื่อนร่วมชั้นต่างเริ่มจับปาร์ตี้กันแล้วแต่มีเพียงโนโซมุที่ยังคงโดดเดี่ยว

 

(เฮ้อก็รู้อยู่หรอกว่า ตัวข้ามันไม่ดี)

 

ชั้นเรียนนี้สำหรับข้าแล้วมันไม่มีความหมายอะไรเลย เพราะยังไงข้าที่ไร้ซึ่งสหายก็ไม่สามารถจับกลุ่มกับใครได้

 

(ไม่เหมือนกับคลาสก่อนๆเลยแหะ)

 

เพราะฉะนั้นแล้วสำหรับโนโซมุที่ไม่สามารถหาปาร์ตี้ได้ก็ไม่มีอะไรทำ

 

ยังไงเสียก็ดีเพื่อนร่วมชั้นก็คงไม่มีใครอยากให้โนโซมุเข้าร่วมอยู่แล้ว

 

「นะนี่ ถ้ายังไม่มีปาร์ตี้ละก็มากับพวกเราไหมละ?」

 

ในตอนนั้นก็มีคนๆหนึ่งเรียกโนโซมุ

 

เป็นมาร์นั่นเองที่เรียกข้า ทุกคนต่างตกใจ

 

「ฮะ เฮ้ย มาร์เอาจริงดิ」「ทำไมต้องไปชวนมันด้วยฟะ ไร้ประโยชน์จะตายชัก」

 

เป็นท่าทางตอบสนองตามปกติ แต่มาร์เป็นคนเดียวที่ยังคงมองมาที่โนโซมุ

เขาเป็นคนแรกที่คัดค้านการมีตัวตนอยู่ของโนโซมุ แต่ตอนนี้เขากลับมาขอให้โนโซมุเข้าร่วมด้วย

 

คนติดตามของมาร์ก็เอาแต่บ่น แต่มาร์ไม่ได้สนใจ

 

โนโซมุจ้องมาร์กลับ โนโซมุไม่รู้หรอกว่ามาร์คิดอะไรอยู่ แต่เขาไม่มีทางเลือก

 

「…………เข้าใจแล้ว จะร่วมด้วยก็ได้」

 

「……เออต้องแบบนี้ดิ」

 

ด้วยเหตุนั้นเองปาร์ตี้ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ ปาร์ตี้ก๊วนฮาแตกระหว่างโนโซมุกับมาร์ก็ได้เริ่มต้นขึ้น

◇◆◇

คลาสเรียนยังคงเป็นการต่อสู้จำลองอยู่ ในปาร์ตี้ของมาร์กับโนโซมุ และอีกสี่คนในปาร์ตี้ตรงข้าม ปาร์ตี้ที่มีผู้ชายใช้ดาบสองคน ชายคนหนึ่งที่ใช้หอก และผู้หญิงที่ใช้มีดสั้นสองมือ

 

คนติดตามของมาร์ใช้ธนูและเวทย์

 

พร้อมกับสัญญาณการต่อสู้นักดาบฝ่ายตรงข้ามกับผู้ใช้หอกร่ายเวทย์เสริมพลังให้แก่ตนเองและเริ่มเผชิญหน้ากับมาร์

 

「ย๊ากกกก!」

 

มาร์ดึงดาบใหญ่ออกมาและโจมตีทั้งสอง เสียงโลหะกระทบกันเกิดเสียงแหลมสูง การโจมตีของฝั่งโน้นรุนแรงเพราะเสริมพลังด้วยเวทย์ แต่มาร์ก็ไม่หวั่นเพราะทางนี้ก็เสริมพลังด้วยคิเช่นกัน

 

โนโซมุพยายามโจมตีทั้งสองคนเพื่อหยุดการเคลื่อนไหว แต่ทันใดนั้นดาบแห่งวายุก็ตัดผ่านหน้าเขาและการโจมตีก็ถูกขัด เมื่อมองไปทางคมดาบวายุก็เจอคนถือมีดสั้นกำลังร่ายเวทย์

คมดาบวายุเข้ามาโจมตีอีกครั้งและมันแยกข้าออกจากมาร์ หลังจากโดนแยกได้สำเร็จ มาร์กับโนโซมุก็เข้าไปประกบอีกฝ่ายเป็นการดวล 1 ต่อ 1 แต่ว่าการที่ทำแบบนั้นมันเข้าทางมาร์มากกว่าเพราะมาร์เป็นผู้ใช้ดาบใหญ่ สามารถอาละวาดได้ตามใจชอบแล้ว

นักดาบของอีกฝ่ายพุ่งเข้ามาโนโซมุ

 

「เสร็จฉันล่ะ!!」

 

โนโซมุชักดาบออกมาทันทีและปัดดาบของคู่ต่อสู้ออกไปแรงผลักนั่นรุนแรงมากเพราะการเสริมพลังนั่น แต่การตั้งท่าของหมอนั่นก็แหลกสลายไปเพราะการโจมตีของโนโซมุ

โนโซมุพยายามไล่ต้อนไปทันที แต่ทันใดนั้นก็มีบอลเพลิงพุ่งเข้ามาจากด้านหลังและมันก็ระเบิดออก

 

「อั่ก!」

 

「เฮ้ย ไม่เป็นไรใช่ไหม ไหวรึเปล่า」

 

「ช่างมันเหอะน่า หมอนั่นมันใช้การไม่ได้ปล่อยเป็นตัวล่อไปนั่นละ。」

 

เป็นผู้ติดตามของมาร์เองที่ยิงบอลเพลิงเข้าใส่โนโซมุ โนโซมุเป็นตัวล่อจริงๆแต่ว่ามันก็ดันพลาดเป้าไปโดนโนโซมุจนได้

 

「อึก!」

 

 โนโซมุลุกขึ้นและตั้งท่า แต่ในไม่ช้านักดาบฝ่ายตรงข้ามก็พุ่งเข้ามา พร้อมกับผู้ใช้มีดสั้นอีกคนโนโซมุทำได้แค่ตั้งรับ ในขณะที่ปัดป้องการโจมตีทั้งสาม สองคนนั้นโจมตีซ้ำมาเรื่อยๆ และโจมตีไม่พร้อมกันเลย……

 

「นี่แหนะ!」

 

「ฮะฮะฮะ! เป็นเหยื่อชั้นดีเลยนี่หว่า!」

 

ทั้งสองที่ล้อมรอบโนโซมุยังคงโจมตีด้วยเวทย์และธนู เฮ้อช่วยไม่ได้ การโจมตีพวกนั้นถูกปัดออกไปด้วยเวทย์ของชายคนนั้นและอีกคนก็ยิงธนูอย่างแม่นยำ

การโจมตีของผู้ติดตามทั้งสองคนนั้นเข้ากันได้ดีอย่างมากแต่ว่ามันยังมีช่องว่างระหว่างที่กำลังหยิบลูกธนูนั่นเอง

ในสถานการณ์  1 ต่อ 4 โนโซมุไม่มีทางรับมือได้ แต่ถ้าเขาพยายามจัดการผู้ติดตามของมาร์ที่ต้องการจะโจมตีข้าไปพร้อมกันด้วย ดังนั้นข้าเลยอยู่ในสถานการณ์แบบโดนฝ่ายตัวเองหักหลังด้วยนั่นเอง

 

อย่างไรก็ตามสถานการณ์เริ่มแย่ลง โนโซมุที่รู้สึกได้ถึงอันตรายก็กระโดดถอยหลัง

มาร์แกว่งดาบใหญ่เข้ามาให้โนโซมุเห็น มาร์จัดการกับศัตรูโดยพุ่งเข้าใส่ฝ่ายตรงข้าม โนโซมุที่ยังคงสับสนก็เริ่มเคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็ว

มาร์ที่ติดตั้งคมดาบวายุฟันมาด้วยพลังทั้งหมดที่มี ด้วยความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้น ทำให้บริเวณรอบๆถูกกวาดออกไป อีกสองคนที่เหลือก็โดนการโจมตีนั่นพัดไปจนการต่อสู้จบลง

◇◆◇

โนโซมุและมาร์จ้องหน้ากันอย่างเงียบๆ โนโซมุโกรธมาร์มากเพราะพยายามโจมตีไม่สนพวกตัวเองเลยแม้แต่น้อย

จนถึงตอนนี้โนโซมุนั้นละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างจากสถาบันแห่งนี้ เขาที่กลับมายอมรับตัวเองได้แล้ว

โนโซมุที่ไม่รู้ถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเลยแม้แต่น้อย ทุกๆอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป

 

โนโซมุโกรธมากแต่ก็มีคำถามว่าทำไมมาร์ถึงทำเช่นนั้น

มาร์โจมตีทั้งข้าและพรรคพวกของตัวเอง แต่ว่าจากที่ดูแล้วเขาไม่ได้ดูตั้งใจจะทำร้ายข้าเลยแม้แต่น้อย ข้าเลยไม่เข้าใจ แต่อย่างน้อยก็รู้ว่าเขาไม่ลังเลที่จะโจมตี

 

เมื่อคิดแบบนั้น บรรยากาศกับมาร์และโนโซมุก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ขึ้นปี 3

ข้าไม่โดนเขากรนด่าและไม่ได้กดดันข้าตอนที่เข้าชั้นเรียน

 

(เกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย?)

 

โนโซมุที่มีความโกรธอยู่ในใจ แต่ยิ่งไปกว่านั้นเขากังวลกับการเปลี่ยนแปลงของมาร์ ยังไงก็ตามพวกเขายังคงนิ่งเงียบ ผู้ติดตามของมาร์ก็เริ่มไปคุยกับมาร์ มาร์เพียงแค่มองมาทางนี้อย่างเงียบๆ

 

ในที่สุดระฆังเลิกเรียนก็ดังขึ้น โนโซมุไม่พบคำตอบกับคำถามที่ผุดขึ้นมา

◇◆◇

หลังเลิกเรียนมาร์กำลังคิดถึงการต่อสู้จำลอง

 

「หมอนั่น……มันแปลกๆ」

 

ข้าจำได้ว่าหมอนั่นมักจะเป็นคนไม่โกรธง่าย และไม่ถูกยั่วยุง่ายๆ แต่ตอนนั้นหมอนั่นจ้องราวกับโกรธข้า มันดูไม่เหมือนเขาคนก่อน

มาร์เองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหมอนั่น แต่ว่าความคิดของหมอนั่นต้องเปลี่ยนไปแน่ๆ

 

「…………ว่าแต่หมอนั่นมันฝึกแบบไหนมากันแน่?」

 

มาร์นึกถึงการต่อสู้ 4 ต่อ 1 ในการต่อสู้จำลอง เนื่องจากข้าพยายามจัดการอีกสองคนอยู่ ดังนั้นข้าก็เลยทำได้แค่มอง แต่ว่าหมอนั่นดันจัดการการโจมตีทั้ง 4 ได้โดยไม่บาดเจ็บเลย

หากเป็นข้าๆทำเช่นนั้นไม่ได้หรอกการโดนรุมถึง 4 คน การเคลื่อนไหวของหมอนั่นมันตรงจังหวะเสียจนน่ากลัว

หมอนั่นเล็งไปที่จุดอ่อนของฝ่ายตรงข้ามตลอดเวลา และหมอนั่นถนัดการต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่งมากๆ แต่ว่าการต่อสู้แบบกลุ่มเองเขาก็ไม่ได้ด้อยเลย

 

「หมอนั่นมันคุ้นชินกับการต่อสู้อย่างมาก ไปได้ประสบการณ์แบบนั้นมาจากไหน?」

 

สถานที่เดียวที่จะพบเจอแบบนั้นได้ก็คงไปรับคำขอของกิลด์และไปสู้กับสัตว์อสูร

แต่ว่าการจะรับคำขอของกิลด์จะต้องมีแรงค์ที่แน่นอนและจัดปาร์ตี้กับหลายๆคนมิฉะนั้นจะรับคำร้องจิปาถะได้เพียงอย่างเดียว นักเรียนที่ไม่เคยสู้จริงมาก่อนต้องรวมกลุ่มกัน ดังนั้นไม่น่าจะรับคำขอด้วยตัวคนเดียวได้

 

「…………โนโซมุ นี่แกฝึกในป่าด้วยตัวคนเดียวงั้นเหรอ?」

 

สถานที่เดียวที่จะได้รับประสบการณ์จริงก็คือการฝึกภายในป่า แต่ป่านั่นก็อันตรายสำหรับนักเรียนไม่มีใครกล้าเข้าไป เพราะสัตว์อสูรที่มีอยู่มากมาย  

แต่ว่าไม่ว่าอย่างไงก็ไม่มีวิธีอื่นที่จะอธิบายถึงการต่อสู้ของเขาได้อีกแล้ว

 

「…………ต้องไปตรวจสอบหน่อยละ」

 

มาร์ตัดสินใจแล้วรีบเดินไปตามทาง