เอเลนอร์ คลอส หรือที่ทุกคนรู้จักกันในชื่อจักรพรรดินีธนู ซึ่งเป็นหนึ่งในจักรพรรดิหญิงที่หายากและมีอยู่เพียงไม่กี่คนบนโลกนี้

ก่อนหน้านี้ เธอเป็นหนึ่งในคนที่ใช้ธนูระหว่างที่อยู่ในกองทัพ ภายในสงครามนั้นไม่ค่อยมีคนใช้ธนูมากเท่าไหร่นัก เนื่องจากประสิทธิภาพในการรบที่ต่ำของมัน

เรื่องราวของเธอนั้นถือว่าเป็นตำนานได้เลย เธอมาจากตระกูลขุนนางนักดาบ ในนามของผู้สืบเชื้อสายนั้นเธอกลัยไม่มีพรสวรรค์ในด้านวิชาดาบเลย ซึ่งถือเป็นระเบิดครั้งใหญ่สำหรับเธอเลย

โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่าตั้งแต่อายยุยังน้อยนั้น เอเลนอร์ไม่เคยสนใจเรื่องดาบเลย เธอตกหลุมรักธนูเข้าเต็มเปา

เธอเริ่มออกเดินทางในฐานะนักผจญภัยและสร้างตำนานไว้มากมายระหว่างทาง เธอได้สร้างเส้นทางแห่งธนูด้วยตัวเอง ซึ่งทำให้สายตาคนรอบข้างที่เคยวิจารณ์เธอเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ

‘อืมมม ได้เวลาเริ่มการแสดงแล้ว!!’

ผมทำตัวเหมือนเด็กที่หลงรักธนู โดยเริ่มจากตรวจสอบธนูแต่ละอันในร้านด้วยความชื่นชม

“ว้าว ธนูอันนี้สุดยอดไปเลย” ผมชี้ไปที่ธนูแบบมั่วๆ ก่อนจะอุทานออกมา

“มีอา ในอนาคตผมจะต้องเป็นนักธนูให้ได้เลย! ธนูนี่วิเศษไปเลยนะ”

“ผมอยากเป็นเหมือนจักรพรรดินีธนูในตอนที่ผมโตแล้ว”

หลังจากนั้นผมก็เดินไปรอบๆ ธนูแต่ละอันก่อนจะสัมผัสพวกมันราวกับว่าผมกำลังหมกหมุ่นอยู่กับมันโดยไม่สนใจอย่างอื่น ในขณะที่คอยแอบเหล่มองจักรพรรดินีธนูไปด้วย

ผมเห็นได้ว่าเธอเริ่มสนใจผมตั้งแต่ที่ผมบอกว่าอยากเป็นเหมือนเธอ ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการแจ้งเตือนขึ้นเหนือหัวของเธอเพื่อยืนยันสิ่งที่ผมคิดอีกด้วย

+10 ความชอบ

+12 ความชอบ

+10 ความชอบ

ค่าความชอบของเธอที่มีต่อผมเพิ่มขึ้นทีละเล็กทีละน้อย หลังจากนั้นไม่นานในที่สุดเธอก็เริ่มเคลื่อนไหว

“เธอคิดว่าธนูแข็งแกร่งรึเปล่า?”

ในที่สุดจักรพรรดินีธนูก็พูดขึ้นมาด้วยเสียงที่ไพเราะของเธอ เสียงของเธอนั้นได้หยุดการกระทำของผมก่อนที่ผมจะหันไปมองเธอ

“แน่นอนครับ!! ธนูนี่แหละดีที่สุดแล้วครับ” ผมพูดพร้อมกับยิ้มอย่างไร้เดียงสาให้เธอ

+20 ความชอบ

“ทำไมเธอถึงอยากได้ธนูหล่ะ?”

“เพื่อที่ผมจะได้ปกป้องครอบครัวของผมได้ครับ” ผมแสดงสีหน้ามุ่งมั่นในขณะที่ตอบเธอ

คำตอบของผมต้องทำให้เธอประหลาดใจแน่ๆ เพราะเธอถึงกับเลิกคิ้วให้กับคำตอบของผมก่อนจะถามต่อ

+25 ความชอบ

“ทำไมถึงต้องเป็นธนูหล่ะ?”

“เพื่อที่ผมจะได้อยู่เคียงข้างพวกเขาเสมอและถ้าอันตรายมันได้มาถึงพวกเขาแล้วหล่ะก็ ผมก็จะสามารถใช้ตัวเองปกป้องพวกเขาได้อีกด้วย”

ผมตอบเธอโดยมองตรงไปที่ดวงตาของเธอ สักครู่หนึ่งความเงียบที่ครอบคลุมไปทั่วทั้งร้าน

พวกผู้ใหญ่ต่างอึ้งกับคำพูดที่กล้าหาญจากเด็กอายุ 8 ปี คนนี้

หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเอเลนอร์ก็วางหนังสือลงจากมือของตัวเองก่อนจะมองลึกเขามาในดวงตาของผมและเมื่อเธอทำแบบนั้นผมก็สังเกตเห็นได้ว่าสีหน้าอันเย็นชาของเธอกลับถูกแทนที่ด้วยความตกตะลึงไปซะแล้ว

ดวงตาของเธอเบิกกว้างพร้อมกับบรรยากาศรอบตัวของเธอที่เริ่มแปรปรวนราวกับว่าเธอไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เธอเห็น ในตอนนั้นเองเหล่าทหารที่ผมพามาด้วยต่างก็ใช้ตัวของพวกเขามาบังผมไว้เพื่อพยายามปกป้องผม

‘เกิดอะไรขึ้นกัน?? ผมก็รู้นะว่าเธอน่าจะประหลาดใจแต่ทำไมมันถึงรุนแรงขนาดนี้กันเนี่ย?’

สิ่งที่ออสตินไม่รู้ก็คือแม้ว่าจะเป็นเรื่องยากมากที่จะสร้างรากฐานได้ก่อนอายุ 10 ปี แต่รากฐานของเขาไม่ได้เป็นอย่างนั้น ไม่เพียงแต่รากฐานของเขาจะแข็งแกร่งอย่างผิดธรรมชาติแล้ว เขายังอยู่ในระดับ Tier 3 แล้วด้วยตอนนี้!!!

เมื่อเด็กสร้างรากฐานของพวกเขาเองตามธรรมชาติ การเติบโตของ Tier จะแสดงถึงรูปแบบสุดท้ายของรากฐานนั้นๆ แต่วิธีที่ออสตินใช้นั้นคือการใช้แต้มซื้อเพื่อเป็น Tier 3 โดยตรงเลย

เหตุผลเดียวที่ออสตินไม่รู้สึกอะไรนั่นก็เพราะเขาไม่รู้ถึงความแตกต่าง  โดยพื้นฐานแล้วสิ่งที่เอเลนอร์เห็นนั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ คุณไม่สามารถตำหนิเธอที่ตอบสนองแบบนั้นหลังจากที่เห็นออสตินได้

หลังจากผ่านไปไม่นานเธอก็เริ่มสงบลง สุดท้ายแล้วเธอก็เป็นถึงจักพรรดินีธนู เธอได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่างที่คนอื่นไม่เคยได้เห็น ดังนั้นเธอจึงสามารถดึงตัวเองกลับมาได้อย่างรวดเร็ว

เธอหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะมองไปที่เด็กชายตรงหน้า เด็กคนนั้นอายุประมาณ 8 ปี มีดวงตาสีม่วงและผมสีเงิน ใบหน้าน่ารักของเขาตอนนี้แสดงถึงความสับสนแทนที่จะเป็นความกลัว

‘ดูเหมือนว่าฉันจะพบสิ่งที่ตามหาแล้ว’

เธอยิ้มเยาะขณะคิดว่าเธอจะอวดลูกศิษย์ให้พวกเพื่อนๆ ของเธอฟังยังไงดี

“เจ้าหนู เธออยากเรียนการใช้ธนูไหม?”

‘โอ้ววว ในที่สุดเธอก็ถามผมซักที ผมกลัวว่าจะมีอะไรผิดพลาดไปแล้วซะอีก’

“คุณช่วยสอนผมให้ยิ่งใหญ่เทียบเท่ากับจักรพรรดินีธนูได้ไหมครับ?” 

ผมถามอย่างคาดหวัง

“ฉันสามารถสอนเธอให้เก่งกว่าเธอได้ด้วยซ้ำ”

“นายน้อยคะ อย่าไปฟังผู้หญิงคนนี้เลยค่ะ เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอเป็นใครกันแน่”

มีอายืนบังหน้าผมเอาไว้ ในขณะที่ทหารคนอื่นๆ ก็ชักดาบออกมาเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้

“โอ้ววว เธอคงจะเป็นบุตรชายของดัชเชสเกรซสินะ?”

ผมพยักหน้าให้กับคำถามของเธอ

“ดี ถ้างั้นเธอก็ออกไปได้แล้ว ฉันจะไปหาเธอทีหลัง”

พวกทหารดูโกรธอย่างเห็นได้ชัดจากคำพูดของเธอและเหมือนกับว่าการต่อสู้กำลังจะปะทุขึ้นแล้ว ผมจึงกระโดดไปขวางหน้าพวกเขาเอาไว้ซะก่อน

“นายน้อย!!!”

“นายน้อยโปรดถอยออกไปด้วยครับ ผู้หญิงคนนี้อาจจะเป็นคนอันตรายก็ได้นะครับ”

พวกทหารพยายามเกลี้ยกล่อมให้ผมถอยออกไป

‘ไอ้พวกงี่เง่า คนที่ผมปกป้องคือพวกนายต่างหาก!! แถมพวกคุณไม่คิดเหรอว่าผมควรจะใช้โอกาสนี้เพื่อเพิ่มค่าความชอบของเธอ’

“อย่าสู้กันเลยครับ พี่สาวคนนี้ไม่ใช่คนไม่ดีหรอกครับ”

ผมพูดขึ้นด้วยความมั่นใจเพราะตอนนี้ผมเป็นเจ้านายของพวกเขาอยู่ หลังจากนั้นผมก็หันกลับไปพูดขอโทษเธอ

“ขอโทษที่ทำให้วุ่นวายนะครับ”

หลังจากที่ผมพูดอย่างนั้นเธอก็เดินมาข้างหน้าผมและลูบหัวของผม

“ไม่ต้องห่วง พี่สาวไม่โกรธหรอกนะ”

ผมรู้สึกมีความสุขและย่ามใจเล็กน้อยเมื่อเธอพูดคำว่าพี่สาว

‘จุ๊ๆ ผู้หญิงนี่นะ’ ผมกลอกตาในใจ

หลังจากสนทนาต่อกันอีกเล็กน้อย ผมกับเหล่าทหารก็ออกจากร้านไป

“นายน้อย ตอนนี้อยากไปที่ไหนต่อเหรอคะ?”

“ตอนนี้เหรอครับ?”

ผมมองไปยังรอบๆ ก่อนจะยิ้มในใจ

“หาของกินครับ”

 

 

 

-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy 
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต