ตอนที่ 10 โลลิโตในฤดูหนาว

คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน

10 จุดเปลี่ยนในฤดูหนาว

ดูเหมือนว่าสถาบันการศึกษาอาร์ตัวร์จะปิดเทอมหน้าหนาวในเร็ว ๆ นี้

วันนี้ยังคงมีอาหารเช้าวางเรียงรายอยู่บนเตียงอย่างเช่นเคย

พี่นีลที่วันหยุดฤดูร้อนสิ้นสุดลงและกลับไปที่สถาบันการศึกษากำลังจะกลับมาที่บ้านเร็ว ๆ นี้อีกครั้ง

“คุณหนู น่าจะได้เวลากลับไปที่โต๊ะเร็ว ๆ นี้แล้ว คิดว่าดีไหมคะ?”

――ช่วงนี้อากาศหนาวขึ้นเรื่อย ๆ อาจถึงเวลาต้องฝึกร่างกายอย่างจริงจังแล้ว

คำพูดของริโนกิสแทรกเข้ามา ขณะที่ฉันกำลังคิดแบบนั้น

กลับไปที่โต๊ะ

ฉันเดาว่าน่าจะหมายถึง กลับไปนั่งร่วมโต๊ะกับครอบครัว

อาหารในเมนูส่วนใหญ่ได้เปลี่ยนเป็นวัตถุดิบแข็งอย่างสมบูรณ์เพื่อไล่ตามการย่อยอาหารที่ดีขึ้น

ฉันคิดว่าอาหารที่กินมีปริมาณและสารอาหารเพียงพอสำหรับเด็กอายุห้าขวบที่พึ่งฉลองวันเกิดไปเมื่อเดื่อนก่อนอย่างฉัน

ล่าสุด อาการไอที่คุกคามชีวิตได้หายไปเกือบหมด

ตอนนี้ฉันสามารถเดินไปมาภายในรอบ ๆ คฤหาสน์ได้แล้ว

ร่างกายของฉันยังอ่อนแรงอยู่ แต่ต่อจากนี้ไปก็เป็นแค่เรื่องของการฝึกฝน

พูดให้ชัด

ตอนนี้ฉันไม่ใช่เด็กป่วยอีกต่อไปแล้ว

เป็นเด็กที่ร่างกายอ่อนแอที่พึ่งเอาชนะอาการป่วยมาได้

นอกจากนี้โรคที่ขัดขวางการไหลเวียนของ「คิ」ก็หายไปแล้ว

ในสภาพปัจจุบัน ฉันคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรที่จะกลับไปใช้ชีวิตปกติ

―― ในที่สุดเนีย・ลิสตันก็สามารถเอาชนะความเจ็บป่วยของเธอได้แล้ว ใช่ไหม

อย่างน้อยก็ไม่ได้ตายจากความเจ็บป่วย

ความเข้มแข็งนั้นเป็นบาป อ้า อยากพ่ายแพ้เหลือเกิน

ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตของฉันมากนัก ตั้งแต่ที่ได้รับภาพสะท้อนเวทมนตร์และแผ่นคริสตัลเวทมนตร์ที่พี่ชายนำมาให้ในฤดูร้อน

ขณะมองดูสวนที่ค่อย ๆ เปลี่ยนสีสันไปตามฤดูกาล

รักษาด้วย「คิ」ซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกวัน และเสริมสร้างร่างกายที่อ่อนแอทีละน้อยด้วยอาหาร

ผลลัพธ์จากการจดจ่อกับเรื่องนั้นเพียงอย่างเดียว ในที่สุดโรคร้ายก็พ่ายแพ้

ถ้าฉันได้รับการวินิจฉัยว่าไม่มีปัญหาใด ๆ ในการไปพบแพทย์ครั้งต่อไป อาจเป็นความคิดที่ดีที่จะยุติการดำเนินชีวิตในการต่อสู้กับโรคร้าย

“ถ้าได้รับอนุญาตในการตรวจร่างกายครั้งต่อไป มาย้ายออกจากเตียงผู้ป่วยกันเถอะ”

เมื่อฉันพูดเห็นด้วยกับคำแนะนำของริโนกิส เธอก็ตอบอย่างมีความสุขว่า”ดิฉันจะแจ้งให้นายท่านทราบเองค่ะ”

“แล้วก็ คือว่า……วันนี้เองก็อยากดูนั้นเหมือนเดิมค่ะ…….”

“ไว้ทีหลังน่ะ”

ยังไงก็ตาม ได้เวลาอาหารเช้าแล้ว

ถ้าไม่ทานให้เสร็จโดยเร็ว ฉันก็จะไปส่งพ่อแม่สาย

ฉันเปิดใช้งานภาพสะท้อนเวทมนตร์ที่ลอยอยู่ด้านข้างของเตียง การทานอาหารเช้าพร้อมดู「สารคดีท่องเที่ยวดินแดนลิสตัน」ที่ออกฉายในเวลานี้ ได้กลายเป็นกิจวัตรไปแล้ว

……โอ้ วันนี้ไม่ใช่การฉายซ้ำล่ะ นักแสดงที่มีใบหน้าฉูดฉาดพูดด้วยน้ำเสียงสงบขณะเดินไปตามถนนในชนบท

“อะ ที่นี่อยู่ใกล้บ้านเกิดของดิฉันเองค่ะ”

เห๋~~

――《อ้า นี่อร่อยจริง ๆ》

ชายวัยกลางคนหน้าฉูดฉาดมีความสุขที่ได้ดื่มเหล้าท้องถิ่นจากชนบทที่เป็นบ้านเกิดของริโนกิส

――《ทางนี้คือ? ชีส? โฮ๊โฮ~ เพียงแค่กลิ่นก็สามารถบอกได้เลยว่าอร่อยแน่นอน》

หนวกหูจริงหมอนี้ แถมยังดื่มแต่เช้าอีก

“คนนี้ เอาแต่ดื่มแต่แอลกอฮอล์อย่างเดียวเลยนะคะ”

หลัง ๆ มานี้ฉันรู้สึกเหมือนได้ดูภาพสะท้อนประเภทนี้บ่อยมากจริง ๆ มีฉากสองในสามที่จะดื่มเหล้าใช่ไหมน่ะ

อิจฉา ไม่สิ ไม่ถูกต้อง ………อิจฉา

ฉันก็อยากดื่มเหมือนกัน แบบไม่สนความรู้สึกของผู้คน

อย่างที่คาดไว้ฉันต้องรออีกสิบปีเพื่อให้ดื่มได้ในชีวิตนี้

ชีส เหล้า เหล้า ชีส รินเหล้ากับสาวสวย ชีส เหล้า เหล้า ชีส เลือกของที่ระลึกให้ตัวเองที่หน้าแดง สาวสวย สาวสวย คุณป้า นั่นคือทั้งหมดที่ชายฉูดฉาดทำตามที่ต้องการไม่หยุด

ทำอะไรตั้งแต่เช้ากัน อิจฉา อิจฉา!

“ดูเหมือนว่ามูลค่าของผลิตภัณฑ์จะเพิ่มขึ้นเพียงแค่ได้ออกในภาพสะท้อนเวทมนตร์ค่ะ”

ผู้ที่ได้รับชมรายการออกอากาศนี้ คงรู้สึกอยากซื้อเหล้ากับชีสมากตามที่ต้องการ

สิ่งที่เรียกว่าเอฟเฟกต์โฆษณาสามารถคาดหวังได้

…….แน่นอนว่าเมื่อฉันเห็นชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าฉูดฉาดดื่มเหล้าอย่างอร่อย ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าฉันเองก็อยากดื่มเหมือนกัน

“คิดว่าท่านพ่อจะโอเคกับนี่ไหม”

ฉันทานอาหารเช้าเสร็จ ในขณะที่ดูเขาเพลิดเพลินกับเหล้าและชีสในขณะที่บ่นไปเรื่อย

วันนี้ได้เริ่มต้นด้วยการไปส่งพ่อแม่เหมือนทุกวัน

และ เวลากลางคืนก็มาถึง

เมื่อมองย้อนกลับมาในภายหลัง วันนี้ในฤดูหนาวก็เป็นจุดเปลี่ยนของหลาย ๆ อย่าง

“~~เนีย”

กลางคืน พ่อแม่มาที่ห้องของฉันเช่นเคย

ดูเหมือนพวกเขาจะมาดูสภาพของฉันหลังได้ยินเรื่องจากริโนกิส

“คิดหลังฟังมาแล้วแต่―― “

โม๊ว ฉันหายจากอาการป่วยแล้ว

ฉันบอกพวกเขาว่าฉันไม่ได้กินอะไรที่ดูเหมือนอาหารเหลวอีกต่อไปแล้ว และบอกไปตรง ๆ ว่าคิดว่าใกล้หายป่วยแล้ว

“หนูรู้ว่าท่านพ่อกับท่านแม่มีงานยุ่งทุกวัน หนูไม่อยากจะให้กังวลไปมากกว่านี้แล้วค่ะ”

วันนี้เองพ่อแม่กลับบ้านดึกเช่นเคย

ทั้งสองคนได้ฟังข้อความของฉันที่หน้าประตูจึงทำให้มาที่ห้องของฉันทันทีในชุดทำงานโดยไม่คิดเปลี่ยนเสื้อผ้า

ไปทำงานแต่เช้า และตอนนี้เป็นเวลากลางคืน

นอกจากนี้ วันนี้ก็ยังเร็วกว่าปกตินิดหน่อย

เนื่องจากกังวลว่าฉันอาจป่วยจากโรคติดต่อ ทำให้ถึงอยากเจอฉันมากแค่ไหนก็พยายามปฏิเสธการเข้าเยี่ยมมากเท่าที่จำเป็น

ฉันไปส่งพวกเขาทุกวัน แต่กลับกันแทบไม่มีการติดต่อมากไปกว่านั้น

ฉันอยากเลิกใช้ชีวิตแบบนี้ และ

ทำให้ชัดเจนกับตัวเอง

พ่อกับแม่มองหน้ากันแล้วพยักหน้า

“ถ้าเนียตัดสินใจแบบนั้นแล้ว ก็คงไม่มีทางอื่น”

“พวกเราเคารพการตัดสินใจของลูก ถ้าคิดว่าไม่เป็นไรก็มาลองกันดูเถอะ”

เราสองคนนั่งลงทางด้านซ้ายและด้านขวาของเตียง และกอดฉันที่นั่งตัวตรงจากทั้งสองข้าง

―― ฉันเสียใจนิดหน่อยที่ฉันเป็นคนที่ได้รับความรักนี้ ไม่ใช่เนีย

“ว่าแต่ว่าเนีย ยังจำเรื่องที่คุยก่อนหน้านี้ได้ไหม ไม่เป็นไรจริง ๆ ใช่ไหม?”

แน่นอนว่าฉันจำได้

และตั้งใจแน่วแน่แล้ว

“เรื่องที่หนูจะปรากฎตัวในภาพสะท้อนเวทมนตร์ใช่ไหมคะ? ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”

เมื่อฉันตอบเช่นนั้น ด้วยเหตุผลบางอย่างริโนกิสก็ส่งเสียง「กรี๊ด」ดีใจเบา ๆ ……ฉันเดาว่าเธออยากไปออกภาพสะท้อนเวทมนตร์เด็กจริง ๆ