ตอนที่ 79 ความทรงจำและชีวิตประจำวัน

เรื่องย่อจากเหตุการณ์เล่มที่แล้ว หลังจากเสร็จสิ้นการทำงานผู้ช่วยในสถาบันฮีลเลอร์ของเมืองหลวง เซนอสก็ได้รับจดหมายจากเบ็กก้าที่เขียนเกี่ยวกับเรื่องราวอาจารย์ของเขา

ณ สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในสลัมซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่ามันอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย

ที่นั่นเด็กๆต่างถูกใช้เป็นแรงงานและทาส

ไม่มีผู้ใหญ่ที่ไหนคอยดูแลและพวกเด็กๆเหล่านั้นจะได้รับประทานอาหารวันละมื้อเท่านั้น

เด็กๆแต่ละคนถูกบังคับใช้แรงงาน

เพื่อแลกกับอาหารและการมีชีวิตรอดต่อไปในอนาคต เด็กๆในสลัมจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำงานต่างๆ รวมถึงการก่ออาชญากรรมด้วยเช่นกัน บางครั้งเหล่าเด็กๆต่างก็ถูกขายไปที่ไหนสักแห่งก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัว ซึ่ง ณ ตอนนี้ ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่ที่ไหน

ในขณะเดียวกันนั้น บทบาทของเซนอสในวัยเด็กก็คือการขโมยของจากศพคนตาย

 

เกิดความสูญเสียมากมายภายในสลัมแห่งนี้

ต้องรีบกันแย่งชิงค้นหาทรัพย์สินมีค่าและขโมยของที่ดูมีราคาเพื่อเอาตัวรอด

 

อย่างไรก็ตาม เซนอสที่ขโมยของจากศพคนตายก็ไม่ได้พึ่งพอใจนักจึงได้ขุดหลุมฝังศพให้พวกเขา แต่สุดท้ายก็โดนดุต่อว่าเนื่องจากทำเรื่องไม่จำเป็น

ในเมืองที่จะล่มสลายแห่งนี้ จะยังคงมีความเป็นไปได้ที่วันพรุ่งนี้จะมาถึงหรือไม่?

 

ตอนแรกก็ทำไปเพราะความสงสาร

เพราะแบบนั้นตายจึงถูกพรากสิ่งสำคัญไป

ถ้าอย่างนั้นทำไมจึงไม่สร้างมันขึ้นมาใหม่ล่ะ?

เพราะแบบนั้นเองเซนอสจึงได้ศึกษาโครงสร้างร่างกายของทุกเผ่าพันธุ์โดยสังเกตจากซากศพของพวกเขาและจ้องมองตรวจสอบศพจำนวนมากพร้อมกับศึกษาภายในหนังสือเวทย์ที่เก็บมาได้จากข้างถนน  

จากนั้นเขาก็พยายามชุบชีวิตคนตาย

ทุกวันเขาต่างเฝ้าภาวนาให้คนตายได้ฟื้นคืนชีพ แต่ทุกครั้งล้วนล้มเหลว

แต่ว่าทุกๆครั้งที่ร่ายเวทย์ก็จะมีแสงสีขาวปกคลุมศพ

และมีบางวันที่คิดว่าในที่สุดวันนี้น่าจะทำได้สำเร็จอย่างแน่นอน

แสงไฟนั้นเริ่มเติบใหญ่และสั่นสะเทือน ขณะนั้นก็รู้สึกว่านิ้วของศพเริ่มจะขยับ

ในเวลานั้นเองเขาก็โดนเขกหัวอย่างรุนแรง

แสงที่เติบใหญ่ก็ได้จางหายไป

เมื่อมองย้อนกลับไป ชายที่มีหนวดเคราแต่งตัวสกปรกกำลังจ้องมองมาทางนี้ด้วยท่าทางน่ากลัว

ชายคนนั้นกล่าวไว้ว่า

「อย่าได้ริอาจใช้พลังเหล่านั้นกับคนตายจงใช้มันรักษาคนที่ยังมีชีวิตอยู่ซะ」

นั่นคือการพบกันระหว่างเซนอสและอาจารย์ของเขา

 

 ――……

「เซนอส?」

หลังจากถูกลิลลี่เรียกเซนอสก็เงยหน้าขึ้น

「มีอะไรงั้นเหรอ?」

「เอ่อคิดอะไรอยู่งั้นเหรอคะ?」

「อืมมม พอดีกำลังทบทวนเนื้อหาที่ได้จากคุณเบ็กก้า?」

「เอ๋ งั้นเหรอคะ」

ณ คลินิกรักษาในเมืองร้าง

เซนอสนั่งอยู่ที่โต๊ะตรวจอาการและมองไปที่จดหมายที่ได้รับจากเบ็กก้าเมื่อออกจากเมืองหลวง

จดหมายนั้นเขียนเกี่ยวกับอาจารย์ของเขาเอาไว้

อย่างไรก็ตาม แม้แต่เบ็กก้าที่เป็นคนใกล้ชิดกับอาจารย์ก็ไม่สามารถจดจำชื่อและใบหน้าของเขาได้

เบ็กก้ากล่าวว่าบางทีอาจจะเป็นเพราะคำสาป

 เป็นสิ่งที่อาจารย์เคยกล่าวไว้วว่ามันจะเป็นคำสาปแก่ผู้ที่แตะต้องกับเวทย์ชุบชีวิต――

「……」  

ทำเอาชั้นนึกถึงรูปร่างที่เหมือนกับยักษ์ของอาจารย์ตอนที่พยายามห้ามชั้นที่พยายามใช้เวทย์ชุบชีวิต

เซนอสยังคงจำอาจารย์ได้ดี

อาจจะเป็นเพราะยังไม่รู้จักอาจารย์ก่อนช่วงที่คำสาปจะเกิดขึ้นรึเปล่า

ในจดหมายของเบ็กก้าเขียนไว้ว่าหากต้องการรู้เรื่องราวอย่างละเอียดให้ตามหาบันทึกของอาจารย์

「บันทึกยังงั้นเหรอ……」

เมื่อเซนอสพึมพำ ลิลลี่ก็แอบมองจดหมาย

「เอออออออออออ๋ คุณเซนอสเป็นเพื่อนกับคุณเบ็กก้าเหรอคะ」

「เอ๋ เห็นเป็นแบบนั้นเหรอ?」

「ดูสิคะมันเขียนเอาไว้ตรงนี้」

ในตอนท้ายของจดหมายเบ็กก้าระบุไว้ว่า

 

ขอให้เซนอสคุงประสบความสำเร็จในเส้นทางการเป็นฮีลเลอร์ผู้ยิ่งใหญ่นะครับ

 ในฐานะเพื่อน――

「เขียนไว้อย่างชัดเจนเลยอย่างงั้นเหรอเนี่ย เพื่อนงั้นเหรอเนี่ย……」

「ใช่ค่ะ……」

「ก็ไม่รู้หรอกนะว่าเพื่อนมันคืออะไรแต่ชั้นไม่เคยมีมันล่ะ」

แอสตรอนเป็นสมาชิกในปาร์ตี้แต่ไม่ใช่เพื่อน

โซเฟีย และเผ่ากึ่งมนุษย์คนอื่นๆก็สนิทกันแต่ก็เป็นคนไข้ของชั้นด้วย

อาจารย์ก็เป็นอาจารย์ และยูมินกับเครย์สันก็ไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ไม่ใช่เพื่อน

「อย่างงั้นเหรอคะ คุณเซนอสไม่มีเพื่อนเลยสินะคะ」

「แววตาแบบนั้นมัน ……ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลยนะ」  

ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่มืดครื้ม ความทรงจำเกี่ยวกับความหิวและการอยู่ร่วมกันระหว่างคนในสลัม

 แต่ตอนนั้นเอง――

 

จากนั้นลิลี่ก็ยืนหน้าเซนอสและพูดว่า

「สำหรับหนูเป็นอะไรกับคุณเซนอสเหรอคะ?」

「หืม? อ่านั่นสินะ….ลิลี่เป็นเหมือนครอบครัวคนสำคัญเลยล่ะ」

「เอ๊ะะะะะะะะ!!」

「เอ่อ จะว่ายังไงดีล่ะชั้นเองก็ไม่เคยมีครอบครัวมาก่อนเลยด้วย」

ลิลี่หน้าแดงและเข้าใกล้เซนอส

 

「งั้นเหรอคะ ครอบครัวที่ว่านี่หมายถึงศรีภรรยาสินะคะ!!」

「เอ๊ะ เป็นแบบนั้นเหรอ?」

「อืม ใช่แล้วค่ะ คุณเซนอส ลิลี่เป็นศรีภรรยาของคุณเซนอสค่ะ!!」

「หุหุหุ……ก้าวข้ามขั้นกันไปใหญ่แล้วนะ…ลิลี่」

คาร์มิล่าปรากฏตัวที่ชั้นสองและเตือนลิลี่ให้อยู่นิ่งๆ

ลิลี่ครางและอ้าปากค้างออกมากะทันหัน

「เอ่อคือว่าแล้วคุณคามิลล่าเป็นอะไรเหรอคะ?」

「เอ่อ…..ผู้พิทักษ์ละมั้ง?」

「อย่ามาพูดบ้าๆน่าไอ้หมอนี่! เรธจะมาเป็นวิญญาณผู้พิทักษ์เนี่ยนะ ตลกชะมัด!」

「ล้อเล่นน่า คาร์มิล่าเองก็เป็นครอบครัวคนสำคัญเหมือนกัน」

「บะบะบะบะบะบา……」

คาร์มิล่าพูดตะกุกตะกักแล้วก็หายขึ้นไปบนชั้นสอง

「……เป็นอะไรของยัยนั่นเนี่ย?」

「ต้องกำลังเขินอายอยู่แน่เลยค่ะ คุณคามิลล่าน่ะ」

「อะไรกัน มันฟังดูตลกขนาดนั้นเลยเหรอ?」

「ริงก้าแจมด้วยยยยยยยยยน้าาาาาา」

「โดนลืมแบบนี้ก็แย่กันละสิ」

「ไม่แล้วทำไมพวกเธอถึงมาที่นี่กันด้วยล่ะเนี่ย?」

เหล่าผู้นำของแต่ละเผ่าพันธุ์ต่างเดินเข้ามาในศูนย์รักษาตามธรรมชาติ

หลังจากการไปทำงานที่ศูนย์รักษาหลวงค่อนข้างจะนาน เซนอสก็ได้กลับมาใช้ชีวิตปกติที่ศูนย์รักษาของเขา