ตอนเช้า เมื่อเปิดประตูห้องเรียนก็รู้สึกถึงสายตาจ้องมองมา

    ตามปกติผมจะไม่เป็นที่สนใจอะไร แต่เพื่อนร่วมชั้นแทบทั้งหมดต่างมองมา

    …..อะไร มันเกิดอะไรขึ้นรึ? แถมยัง แม้จะเป็นตอนเช้าตรู่แต่เกือบทุกคนก็มาถึงกันแล้วด้วย

    แม้ผมจะรู้สึกไม่สบายใจอย่างแรงแต่ก่อนอื่นก็กล่าวทักทายไปก่อน

 

「…..อรุณสวัสดิ์」

「เน่คิทากาว่า…..」

 

    ที่เรียกชื่อผมมาโดยไม่แม้แต่จะกล่าวตอบคำทักทายก็คือนายเบื้อกนาริคิน

    นาริคินพูดพร้อมด้วยสแยะยิ้มน่ารังเกียจ

 

「นักผจญภัย ไปเป็นมาเหรอ?」

 

    สายตาของเพื่อนร่วมชั้นเพ่งแรงขึ้นอย่างฉับพลัน เห็นได้เลยว่าทุกคนต่างหยุดคุยแล้วจ้องมาที่ผม

    …..กะแล้ว บอกไปแล้วสินะ เจ้าโอโน่ ไปป่าวประกาศให้ทุกคนรู้แล้ว

     ผมเดาะลิ้นเมื่อมองเห็นโอโน่กำลังมองมาด้วยความสนุก

    บางที ที่เพื่อนร่วมชั้นแทบทั้งหมดมาอยู่รวมกันก็คงเป็นเพราะหมอนั่น คงจะโพสลงไปบน SNS เมื่อวานว่าพรุ่งนี้เช้าจะได้เห็นอะไรดีๆ

    แล้วก็เห็นคู่หูตะวันออก-ตะวันตก กำลังมองมาด้วยสีหน้าเป็นห่วง

 

「เน่ ทำไมถึงไม่บอกกันเลยล่ะ จะว่าไปทำไมถึงไปเป็นนักผจญภัยได้เนี่ย? อะ หรือว่าจะเลียนแบบมินามิยาม่ากับโอโน่กัน」

 

    ด้วยคำของนาริคินที่เห็นได้ชัดว่าเป็นการเยาะเย้ยทางนี้ ในหมู่เพื่อนของหมอนี่ก็ 「ฟุฟุ」หัวเราะออกมาให้ได้ยิน

    เพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆต่างก็มองมาด้วยสาายตาที่ไม่สู้ดีนัก

    …..แย่จังเลยน้า คิดขึ้นแบบนั้น

    ตัวผม เป็นอะไรไปนะ หรือว่า คงเพราะการที่ได้ไปเจอกับชายเป่าขลุ่ยแห่งฮาเมลินเข้าก็เลยทำให้ประสาทพังไปแล้ว

    ถึงแม้ว่าจะมีบรรยากาศแบบนี้ ที่อยู่ห่างจากการบูลลี่ไปอีกแค่ก้าวเดียว

    กลับไม่น่ากลัวเลยซักนิด

    ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงจะถูกแรงกดดันจนทำให้ใจสั่นขาสั่นไปแล้ว กลับกันผมรู้สึกถึงพลังชีวิตแข็งแกร่งกำลังก่อขึ้นอยู่ภายใน

 

「เน่ มีการ์ดแบบไหนอยู่บ้างเหรอ เอามาดูซักหน่อยสิ」

 

    พอเห็นผมไม่ปริปากก็เลยคิดว่ากำลังกลัวจนตัวสั่น แล้วนาริคินก็ยื่นมือมาขณะที่พูดอยู่

    ผมหลบมือนั้นแล้วเอาหน้าเข้าไปให้ใกล้ที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วจ้อง

    เพราะโดนการข่มกับคนที่คิดว่าอยู่ต่ำกว่าตัวเอง ทำให้นาริคินเกิดหวาดกลัว

 

「เน่ นายกับผม เป็นเพื่อนกันเหรอ?」

「เอ๋ อะ…..?」

「ไม่ใช่ใช่ไหม อย่างน้อยผมก็รู้สึกไม่ชอบนายล่ะนะ」

「อุ…..」

 

    นาริคินเป็นคนขี้กลัว บางทีที่ไม่ชอบหน้ากันก็คงจะเป็นกันทั้งคู่ แต่พอมีคนมาบอกว่าไม่ชอบเอาซะต่อหน้าจึงทำให้ไม่มีแรงที่จะตอบกลับทันที อย่างน้อยก็เกิดการลังเลเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับ จะต้องทำการรุกใส่ต่อตรงนี้

 

「อย่ามาทำเป็นตีสนิทกันล่ะ」

 

    พอผมออกแรงผลักไปที่ไหล่ของเขาแบบเดียวกับตอนเรียนพละ สายตาของนาริคินก็เริ่มเลิ่กลั่ก

    ผมรู้สึกประหลาดใจจริงๆกับหมอนี่ที่ทำเป็นเก่งได้แค่กับคนที่อ่อนแอกว่าจริงๆเท่านั้น

    …..ก็นะ มันก็คงเป็นกันหมดทุกคนแหละ รวมทั้งผมด้วย

 

「……….」

 

    ผมมองเพื่อนร่วมชั้นรอบๆ ไปผ่านๆ

    เพื่อนร่วมชั้นหลายคนรู้สึกตกใจนิดหน่อยกับการตอบโต้กลับของผม หนึ่งในนั้น เจอกับเด็กผู้ชายชื่อโคกะที่ใจไม่แข็งนักและเคยคุยกับผมมาก่อน ผมถามคำถามเขา

 

「โคกะ ได้ยินเรื่องที่ผมเป็นนักผจญภัยมาจากใครเหรอ?」

 

   แน่นอนว่ารู้คำตอบอยู่แล้ว นี่แค่มีเป้าหมายเพื่อให้เพื่อนร่วมชั้นได้บอกชื่อของตัวการออกมา

 

「เอ๋ อา โอโน่คุง น่ะสิ」

「โอโน่เหรอ? บอกไปว่าอะไรละ?」

「เมื่อวานใน Line บอกว่าถ้ามาพรุ่งนี้แต่เช้าจะมีเรื่องน่าสนใจเกิดขึ้น」

「ฮ่าาา…..」

 

    ผมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ แสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจด้วยร่างกาย

 

「โอโน่ นี่มันอะไร ผม ไปทำอะไรให้นายงั้นเหรอ?」

 

    ทำสีหน้างุนงงแล้วถามโอโน่ แกล้งทำเป็นงุนงงกับความมุ่งร้ายที่เกิดขึ้นกะทันหัน

 

「แหม ‘โทษที ไม่นึกเลยว่าบรรยากาศมันจะเป็นแบบนี้ เมื่อวานพอรู้ว่าคิทากาว่าคุงก็เป็นนักผจญภัยก็เลยดีใจแล้วไปบอกต่อเท่านั้นเอง」

 

    โอโน่ตอบสนองอย่างรวดเร็ว เริ่มด้วยการขอโทษ แล้วพยายามแสดงออกให้เห็นว่าไม่มีเจตนาร้าย…..ฉลาดนัก

    โอโน่จากกลุ่มเรียจูทำการขอโทษ ต่อให้รู้เต็ม 100% ว่าเป็นการโกหก แต่ถ้ายังรุกใส่แบบนี้ต่อไป มันจะกลายเป็นว่าผมไปใส่ร้าย นี่ก็คือความแตกต่างของชนชั้นห้องเรียน

 

「เอาเถอะ ก็ไม่คิดว่าเป็นเรื่องตั้งใจหรอก แต่ที่ปิดเอาไว้มันก็ต้องมีเหตุผลใช่ไหม? มันไม่มีใครชอบหรอกนะที่เอาเรื่องที่คนอื่นปิดบังไว้มาป่าวประกาศให้ทุกคนรู้….. นะ?」

 

    ทำการถามกับทุกคน

    ทุกคนล้วนต้องมีความลับซักเรื่องสองเรื่อง มันไม่ใช่เรื่องที่ทุกคนจะยอมทน กับการที่เอามันออกมาเพียงเพราะเป็นกลุ่มเรียจู

    การตอบสนองโดยรวมของเพื่อนร่วมชั้นเห็นด้วยกับผม

 

「แหม ต้องขอโทษจริงๆ ต่อไปจะไม่ทำเรื่องให้ประหลาดใจแบบนี้อีกแล้ว」

 

    โย้ช ยกแรกตรงนี้ถือเป็นชัยชนะของผม

    จากโอโน่ ได้รับคำขอโทษและสัญญาว่าจะไม่เอาความลับไปเปิดเผยอีก

    เท่านี้ ถ้าเกิดว่าเขาไปทำซ้ำใครอีกในอนาคต ทุกคนจะสามารถยกคำสัญญานี้ขึ้นมาได้

    เหล่าเพื่อนร่วมชั้น「จัดให้แน่」ในดวงตารู้สึกได้แบบนั้น

    ทว่าโอโน่ก็ไม่ปล่อยไปง่ายๆ

    ขณะที่กำลังก้มหัวอยู่ โอโน่ก็มองมาที่ผมแล้วยิ้ม

 

「—-จะว่าไปแล้ว ทำไมคิทากาว่าคุงถึงปิดเรื่องที่เป็นนักผจญภัยไว้ล่ะ? คิดว่าไม่ใช่อะไรที่ต้องปิดบังไว้ซักหน่อยนะ」

「…………………」

 

    ไอ้เจ้าเบื้อกนี่ รุกใส่อย่างไว้เชียว แถมยังเข้าใจจุดที่ผมไม่อยากให้โดนมากที่สุดด้วย

    ความจริงแล้วไม่ได้อยากจะปิดบังเลยด้วยซ้ำ แต่ที่พูดไม่ได้ก็เพราะโอโน่เป็นนักผจญภัยก่อน คงจะรู้สึกตัวก็เลยพูดแบบนี้ออกมา

    แต่ว่าจะทำยังไงดี จะบอกว่าไม่อยากจะพูดตรงนี้ไปมันก็ได้ แต่แบบนั้นมันจะรู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อย

    แต่พูดก็พูดเถอะ ป่านนี้แล้วทำไมหมอนี่ถึงรุกใส่ผมเยอะขนาดนี้?

    อย่างนาริคินยังพอเข้าใจได้ว่าพยายามรั้งตัวผมเอาไว้ ถ้าเกิดผมได้เป็นเรียจูขึ้นมา มันจะเป็นเรื่องขัดหูขัดตาของหมอนั่นเอาได้

    แต่ว่าโอโน่เป็นสมาชิกในกลุ่มเรียจูอยู่แล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องขัดขาคนอื่น…..

    ไม่สิ ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องแบบนั้น ยังไงก่อนอื่นก็ตอบอะไรกลับไปบ้างก่อน

 

「…..อาจจะเพราะยังอ่อนประสบการณ์อยู่ ก็เลยอายจะจะบอกล่ะมั้ง」

 

    โอโน่ไม่พลาดโอกาศในคำพูดที่ผมพยายามเค้นออกมา

 

「หืม? นั่นมันหมายความว่ายังไง? หรือจะดูถูกพวกเราที่ยังอ่อนประสบการณ์ว่าเป็นพวกน่าอายงั้นเหรอ?」

「!」

 

    อุ แย่แล้ว มาแบบนี้งั้นเหรอ จริงอยู่ว่าเมื่อกี้มันเหมือนกับว่าผมดูถูกมินามิยาม่ากับโอโน่ ทั้ง 2 คนที่เป็นสมาชิกกลุ่มเรียจู

    จากเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ โอโน่ไม่ได้มีสีหน้าที่เคร่งเครียด แต่เริ่มมีบรรยากาศกดดันออกมา

    …..เลี่ยงไม่ได้แล้ว เดาว่าคงไม่มีทางเลือกนอกจากทางนั้นแล้ว

    ผมทำสีหน้าอายๆแล้วพูดออกไป

 

「อา เปล่าหรอก ไม่ได้หมายถึงอย่างนั้น ขอโทษที่ที่ทำให้สับสน ผมมุ่งมั่นที่จะเป็นโปร เพราะงั้นก็เลยหมายความว่าตอนนี้ยังอ่อนประสบการณ์อยู่เท่านั้นเอง」

「โปร!?」

 

    เพียงแค่พริบตาหนึ่ง โอโน่มีสีหน้าที่ตกใจของแท้ เหล่าเพื่อนร่วมชั้นเองก็ส่งเสียงดัง

    แน่นอนว่าโกหก การเป็น 2 ดาวมันสามารถหาเงินได้เพียงพอแล้ว ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องเป็นมือโปร ในความจริง มันเป็นแค่การเพิ่มโอกาศที่จะเสียชีวิตเท่านั้นด้วยซ้ำ

    เพื่อซ่อนความขัดแย้งที่พูดไปเมื่อครู่ที่เกี่ยวกับเรื่องอายเพราะอ่อนประสบการณ์ จึงไม่มีทางเลือกนอกจากปิดเอาไว้ด้วยการพูดเป้าหมายให้อยู่สูง

 

「ห-เห สุดยอดไปเลยนะ แต่ไม่ใช่ว่าคิทากาว่าคุงเองก็เริ่มตอนช่วงเวลาเดียวกันกับผมหรอกเหรอ?」

「ก็คงจะเริ่มพร้อมๆกันนั่นแหละ น่าจะประมาณ 1 เดือนได้」

「แล้วบอกว่าจะเป็นโปร ไม่ดูใจร้อนไปหน่อยเหรอ? ยังไม่ได้เป็น 2 ดาวเลยด้วยใช่ไหมล่ะ?」

 

    แม้จะยังเพิ่งเริ่มเป็นนักผจญภัยมือใหม่ แต่ก็เป็นพวกสำคัญตัวผิดแล้วมุ่งจะเป็นมือโปร ที่โอโน่พูดมาสามารถบอกเป็นนัยๆได้แบบนั้น

    สายตาของเหล่าเพื่อนร่วมชั้นเองก็เริ่มจะทิ่มแทงมา

    …..ตรงนี้แหละ ไม่มีทางอื่นนอกจากหงายไพ่ออกมาแล้ว!

    ผมพูดออกไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย

 

「ไม่นิ ได้เป็น 2 ดาวแล้วนะ」

『นะ1?』

 

    เสียงประหลาดใจหลายเสียงดังขึ้น

 

「โกหก!」

 

    เป็นมินามิยาม่าที่ลุกขึ้นแล้วตะโกน โอโน่ที่เห็นดังนั้นก็ทำหน้ามุ่ยเล็กน้อย…..จนถึงตอนนี้ก้คิดอยู่ว่าเงียบมาก โอโน่ทำอะไรเพื่อห้ามเอาไว้งั้นรึ?

 

「มินามิยาม่าคุง ตอนนี้ปล่อยให้ผมเอง」

「ถ้าเป็นนักผจญภัย 2 ดาวจริงๆ ก็เอาใบอนุญาตออกมาให้ดูหน่อยสิ!」

 

    บางทีคงจะไม่ได้ยินที่โอโน่พูดเบาๆ มินามิยาม่าเข้ามาใกล้ผมด้วยความร้อนรน

 

「อา งั้นก็ได้」

 

    ผมเอาใบอนุญาต 2 ดาวที่เพิ่งได้มาเมื่อวานออกมา ขณะเดียวกันก็พยายามกลั้นยิ้มไม่ให้แสดงออกมา

    มินามิยาม่ารีบคว้าไปราวกับฉก แล้วก็ตัวแข็งทื่อ

 

「อุ ป-เป็นใบอนุญาต 2 ดาวจริงๆด้วย…..」

「ด-เดี๋ยวขอผมดูด้วย อุ จริงด้วย ถ-แถมยังมีแม้แต่บันทึกว่าจัดการกับอิเรกูลาร์เอ็นเคาเตอร์ได้ด้วย!?」

 

    เสียงตกใจของโอโน่ที่เผลอส่งเสียงดังออกมา สร้างความปั่นป่วยแก่เหล่าเพื่อนร่วมชั้น

    อิเรกูลาร์เอ็นเคาเตอร์ ทั้งชื่อและความอันตรายของมัน ไม่มีใครในที่นี่ที่จะไม่รู้

    เหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นจากอิเรกูลาร์เอ็นเคาเตอร์ ปรากฏขึ้นหลายต่อหลายครั้งทั้งใน TV และหนังสือ

    แม้ว่ามันจะเป็นอิเรกูลาร์เอ็นเคาเตอร์ในเขาวงกตแรงค์ F ที่อ่อนแอที่สุด แต่ความจริงที่ว่าจัดการมันลงได้ก็เพียงพอที่จะบ่งบอกว่ามีดีในตัวอยู่บ้างแล้ว

    นั่นทำให้ที่บอกว่ามุ่งจะเป็นมือโปรมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น

    พอผมยื่นมือออกไปพร้อมรอยยิ้มจางๆบนใบหน้า โอโน่ก็ยื่นบัตรคืนกลับมาพร้อมสีหน้ากระตุก

    …..ฟุ ชนะแล้ว

 

「…..แหม คิทากาว่าคุงเป็นคนที่สุดยอดไปเลยนะ พวกผมเองที่เป็นนักผจญภัยเหมือนกันยังรู้สึกประทับใจเลย」

「ก็นะ ทั้งหมดก็ต้องขอบคุณความบังเอิญนั่นแหละ」

「ไม่หรอกไม่หรอก โชคเองก็เป็นส่วนหนึ่งของความสามารถ แต่ว่าก็น่าอิจฉานะ」

「หืม? อะไรล่ะ?」

 

    พอผมเอียงคอ โอโน่ก็ยิ้ม

 

「แหม ก็การที่ได้เป็น 2 ดาวในระยะเวลาสั้นๆก็แสดงว่าต้องมีการ์ดที่แข็งแกร่งมากแน่ๆเลยใช่ไหมล่ะ? การที่มีพ่อแม่ที่เข้าใจได้ขนาดนี้มันน่าอิจฉาจริงๆ ผมที่ใช้เงินจากการทำงานพิเศษซื้อการ์ดมามีแต่อ่อนแอ๊อ่อนแอนะสิ」

「!!!」

 

    คำพูดของโอโน่ทำให้สายตาของเหล่าเพื่อนร่วมชั้นที่มองมาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

    จากเพื่อนร่วมชั้นที่มุ่งเป้าจะเป็นนักผจญภัยมือโปร กลายเป็นนักผจญภัยที่เกาะเงินพ่อแม่กิน

    เพียงชั่วพริบตา รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนไปในความประทับใจที่มีต่อผม

    พอเป็นแบบนี้แล้ว ทั้งความประทับใจจากใบอนุญาต 2 ดาวกับอิเรกูลาร์เอ็นเคาเตอร์จะเปลี่ยนไปอย่างมาก

 

「ถ้าไม่ว่าอะไร ขอดูการ์ดของคิทากาว่าคุงหน่อยได้ไหม?」

 

    การรุกใส่ของโอโน่รุนแรงมาก

    แย่แล้ว…..ถ้าตอนนี้เอาพวกเร็นกะออกมาให้ดูล่ะก็ ไม่มีทางที่ใครจะเชื่อว่าผมได้มาด้วยกำลังของตัวเองแน่ๆ ถ้าอยากจะซื้อเร็นกะจากที่ร้านล่ะก็อาจจะต้องใช้เงินถึง 10ล้านเยนได้เลย ไม่มีทางที่นักผจญภัยเด็กม.ปลายจะสามารถได้การ์ดแบบนั้นมา มั่นใจว่าจะต้องได้พ่อแม่รวยพอแล้วซื้อมาให้

    จะมีซักกี่คนที่เชื่อข้ออ้างที่ว่าได้มาจากแพ็ค 1 ล้านในครั้งเดียว อย่างน้อยก็มีผมนี่แหละที่ไม่เชื่อ…..

    จากจุดนี้ อะไรที่สามารถพลิกกลับมาได้…..

    ……………ม-ไม่มี ไม่มีเลย คิดอะไรไม่ออกเลย…..

 

「หืม? เป็นอะไรไปเหรอ?」

 

    ในตอนนั้นเองขณะที่โอโน่กำลังยิ้มและจ้องมองมาที่ผมด้วยสายตาแห่งชัยชนะ

 

「—-มาโระจิทำงานพาร์ทไทม์สะสมเงินเอานะ」

 

    เสียงนั้นตัดผ่านความเงียบ

    หันควับไปมองทางนั้น

    เจ้าของเสียงนั้นก็คือชิโนมิยะซัง เอาใช้มือเท้าคางกับโต๊ะของเธอแล้วมองมาทางนี้

 

「คิดว่าน่าจะซักครึ่งปีก่อนได้ล่ะมั้ง เห็นกำลังทำงานเหงื่อท่วมอยู่ที่ซุปเปอร์ทุกวันเลย เนอะ ชิซุกะ?」

 

    ชิโนมิยะซังถามอุชิคุระซังที่อยู่ข้างๆ

 

「อือ มีแค่ไม่กี่วันที่จะไม่เจอเขาก็เลยคิดว่าทำงานทุกวันจริงๆ ได้แวะไปทุกเวลาตั้งแต่โรงเรียนเลิกจนถึงเวลาปิด เคยคิดว่าขัดสนเรื่องเงินแต่ว่าคงเป็นเพราะเรื่องความฝันสินะ」

 

    ด้วยคำของทั้งคน 2 คนที่มีอิทธิพลอย่างสูงในหมู่เด็กผู้หญิงกลุ่มเรียจู ทำให้บรรยากาศในชั้นเรียนเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

 

「ฮ-ฮะฮะ อะไรกันล่ะนั่น พวกชิโนมิยะซังพูดเหมือนรู้จักเกี่ยวกับคิทากาว่าคุงเป็นอย่างดีเลย หรือว่ามีใครระหว่างคุณคบกับเขาอยู่เหรอ?」

「—-หะ?」

 

    ที่ได้รับกลับมาจากคำพูดหยอกอย่างแรงก็คือสายตาเย็นยะเยือก

 

「โอโน่ เรื่องแบบนั้นมันน่าเบื่อนะ」

 

    เพียงแค่พริบตาเดียว สีหน้าของโอโน่บิดเบี้ยวไปอย่างมาก อะไรกัน? คำว่าน่าเบื่อมันกวนใจมากขนาดนั้นเลย?

 

「พูดก็พูดเถอะ ที่ใช้เงินของพ่อแม่ไม่ใช่จากงานพาร์ทไทม์มันโอโน่เองไม่ใช่เหรอ? หลักเลิกเรียนไม่ว่าตอนไหนก็เห็นอยู่กับใครซักคนตลอด」

「! ห-แหม ที่เห็นเป็นแบบนั้นเพราะทำงานตอนช่วงวันหยุดกับตอนปิดเทอมเป็นหลักนะสิ」

「หื้ม ช่างเถอะ แล้วก็นะ ที่ทำท่าทางขัดขวางคนอื่นที่ทำงานหนักนั่นน่ะ เลิกได้ไหม? เรื่องแบบนั้นเห็นทีไรก็รำคาญจริงๆ」

 

    พอพูดจบ ชิโนมิยะซังก็เริ่มเล่นกับสมาร์ทโฟนราวกับว่าไม่สนใจอะไรแล้ว

 

「……………นั่นสินะ แบบว่า รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาแปลกๆช่วงกลางทาง ขอโทษนะคิทากาว่าคุง」

「อะ อา」

 

    โอโน่ก้มหัวลงอย่างต่ำให้ ส่วนผมก็พอจะพยักหน้ากลับได้

    ในหัวยังไม่กลับมาในสภาพปกติจากสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหัน

    …..อะไร เกิดอะไรขึ้น? ชิโนมิยะซัง เข้ามาช่วยผมไว้งั้นเหรอ

    ชิโนมิยะซังคนนั้นอะนะ? ที่เป็นท็อบของกลุ่มสาวแกล, ที่มีหน้าตาราวไอดอล, เธอที่เป็นโมเดลมือสมัครเล่น…..กับผม?

    แบบว่ายังไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง ยังไม่เข้าร่องเข้ารอยดี

    ขณะที่ผมยังมึนๆอยู่ โอโน่ก็ยกหัวกลับขึ้นมาแล้วก็พูดขึ้น

 

「—-จะว่าไปแล้วคิทากาว่าคุงตั้งเป้าจะเป็นโปร ถ้างั้นคงจะเข้าร่วมงานแข่งนั้นด้วยใช่ไหม?」

 

    งานแข่งนั้น?

    โอโน่ที่เห็นสีหน้างุนงงของผมก็แสดงสีหน้าตกใจออกมา

 

「อะไรกัน ไม่รู้เรื่องเหรอ? คริสต์มาสที่จะถึงนี้มันจะมีงานแข่งมอนโคโลสำหรับนักเรียนเท่านั้น แถมยังถ่ายทอดออกทางทีวีอีกด้วย」

 

    พอโอโน่พูดเสร็จก็เปิดใช้งานสมาร์ทโฟนแล้วโชว์ให้ดู

    ไหนไหน? 『มารวมกัน นักเรียนนักผจญภัย! ใครกันที่จะได้เป็นซุปเปอร์โนวา!』เหรอ

    ซุปเปอร์โนวานี่มันช่วงที่ดาวเคราะห์แตกสลาย…..ช-ช่างเถอะ

    มีอยู่ด้วยกัน 2 หมวดหมู่คือ นักศึกษาหมาวิทยาลัยกับนักเรียนมัธยมปลาย ทั้งคู่ต่างจำกัดไว้ให้มือสมัครเล่นระดับตั้งแต่ 3 ดาวลงมา

    กติกาเป็นแบบมาตรฐาน 3 ต่อ 3 งานจะจัด 3 วันตั้งแต่ วันที่ 21/12 ถึงวันที่ 23 วิดีโอที่ถูกตัดต่อแล้วจะถูกถ่ายทอดเป็นรายการพิเศษช่วงคริสต์มาสของมอนโคโล

    เส้นตายสำหรับการสมัครคือ 1 อาทิตย์ก่อนวันแข่ง วางแผนรวบรวมจนถึงนาทีสุดท้ายเลยสินะ

    รางวัลสำหรับผู้ที่เข้าร่วมคือโพชั่น สำหรับผู้ที่ไปถึงรอบ 4 คนสุดท้ายจะได้การ์ดแรงค์ D 1 ใบ ส่วนรางวัลชนะเลิศ—-

 

「การ์ดแรงค์ C, แวมไพร์ แถมยัง…..การ์ดเด็กผู้หญิงด้วย!」

 

    ที่ตรงนั้นมีรูปประกอบของแวมไพร์สาวสุดเย้ายวนผมสีดำในชุดเดรส

 

「นี่มัน สุดยอดเลยไม่ใช่รึไง? แวมไพร์ผู้หญิงเลย แวมไพร์ผู้หญิงเชียวนะ! อยากได้สุดๆ」

「อ-อา」

 

    จริงอยู่ว่าอยากได้ แต่เรื่องนั้นมันก็เป็นกันทุกคน นักเรียนนักผจญภัยจะต้องมารวมตัวกันจากทั่วประเทศแน่ๆ ในหมู่นั้นคงจะมีระดับ 3 ดาวด้วย

    ในเงื่อนไขแบบนั้นต้องอยู่ในรอดแล้วชนะเลิศ เป็นเรื่องที่ยากเอามากๆ ยิ่งกว่านั้นยังมีโอกาศที่จะสูญเสียการ์ดไป จำเป็นที่จะต้องเสี่ยงขนาดนั้นเพื่อเข้าร่วมเลยงั้นเหรอ…..

 

「แน่นอนว่าคิทากาว่าคุงก็จะเข้าร่วมด้วยใช่ไหม? ถ้าจะเป็นโปรก็คงต้องอยากจะได้การ์ดแรงค์ C มาไว้ซักใบแน่ๆ」

 

    อุ เหล่าเพื่อนร่วมชั้นกำลังจ้องมองผมอยู่

    …..ตรงนี้ จะบอกว่าไม่เข้าร่วมคงไม่ได้ สินะ

    ถ้าเป็นแบบนั้น คงจะสงสัยเรื่องที่จะเป็นโปร

    อันที่จริง อยากจะได้รางวัลชนะเลิศมากจนมือสั่น การได้เป็น 4 คนสุดท้ายก็มีโบนัสด้วย

    สุดท้ายของสุดท้ายแล้ว โอโน่ก็แทงโดนจนได้

    งั้นก็ได้ ถ้าหากกำลังจะลอสการ์ดแม้แต่ใบเดียวก็จะออกทันที

 

「อา แน่นอน…..เข้าร่วมสิ」

『โอ้!』

 

    เสียงเชียร์จากเหล่าเพื่อนร่วมชั้น

    โอโน่หัวเราะแล้วรับคำ

 

「แหม จะตั้งตาคอยดูเลย! เดี๋ยวตอนคริสต์มาสให้ทุกคนไปรวมกันแล้วช่วยเชียร์ แต่พอถึงตอนนั้นมันก็จบไปแล้วนี่นะ!」

 

    โอโน่ไม่คิดเลยซักนิดว่าผมจะอยู่รอดไปได้

    ยังไงซะ ก็คงจะคิดว่าระหว่างทางเกิดสูญเสียการ์ดไปซักใบได้ก็คงดี จะได้ออกไปจากการเป็นนักผจญภัย

    แต่ว่า…..นี่แหละคือโอกาศ จริงอยู่ว่าตกอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่ แต่ถ้าก้าวผ่านมันไปได้ก็จะขึ้นไปสู้ชนชั้นบนของห้องได้!

    ถ้าสามารถสร้างประวัติที่มั่นคงไว้ตรงนี้ ผมก็สามารถเข้าร่วมกลุ่มเรียจูได้

    เป็นโอกาสหนึ่งเดียวในชีวิตที่จะสามารถไปปรากฏในมอนโคโลที่ปกติจะต้องเป็น 3 ดาวเท่านั้นถึงจะเป็นไปได้

    จะต้องไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้…..!

    ผมจุดไฟสู้ขึ้นภายในจิตวิญญาณอย่างลับๆ

 

 

 

 

【Tips】มอนสเตอร์โคลอสเซียม

    ความบันเทิงรูปแบบใหม่ที่คุณสามารถดูนักผจญภัยต่อสู้กับด้วยการ์ด เดธแมตช์ ที่นักผจญภัยมือโปรที่มาสู้กันจนกว่าการ์ดอีกฝ่ายจะลอส, แคทไฟท์ ที่นำเสนอเฉพาะมอนสเตอร์สาว, แบทเทิลโรยัล ที่นักผจญภัยจำนวนมากมาสู้กันจนเหลือแค่คนเดียว, และยังมีการต่อสู้แบบทีมที่เหล่านักผจญภัยถูกแบ่งเป็นทีมขาว-แดง มีอยู่หลากหลายรายการ

    แม้จะถูกวิจารณ์ว่าป่าเถื่อนและไร้มนุษยธรรม แต่ไม่ว่าใครเห็นก็รู้ว่ามอนสเตอร์โคลอสเซียมนี่แหละเป็นตัวจุดการบูมของนักผจญภัย

    ในยุคสมัยที่ความต้องการถูกเติมเต็มไปแล้ว เหล่าผู้คนก็ยังคงมองหาความบันเทิงอย่างละครสัตว์อยู่