ตอนที่ 17 ให้คะแนนทำนายกัน~ ได้เป็นเด็กพิเศษเฉยเลยอ่ะ

ฟุเอ๊ เกิดใหม่ก็เก่งภาษาสุดๆซะแล้วค่ะ

ในที่สุดพิธีปิดภาคเรียนที่ 1 ก็จบลง และฉันกำลังเดินทางกลับบ้าน

อย่างน้อยก็อีกตั้งเป็นเดือนกว่าที่ฉันจะต้องกลับมาเรียน~

ใบเกรดก็ดูดีสุดๆ ถ้าจะให้ฉันชมตัวเอง

ตอนนี้ฉันจะทำอะไรก็ได้ โดยไม่ต้องกังวลซักนิด~

 

“คือ ช่วงหยุดภาคฤดูร้อน”

 

ภาคฤดูร้อน..?

หมายความว่าไงอ่ะ?

ยังมีอีกตั้งหลายสิ่งที่ผมยังไม่รู้เกี่ยวกับโลกนี้สินะ..

 

“ช่ายยย พวกพี่ๆ พนังงานบริษัทไม่มีหยุดฤดูร้อน สินะ ว๊ายๆ”

 

กำหมัดอยากสแมชหน้ายัยเด็กบ้าจริงๆ

คนทำงาน หน้าที่มันเยอะนี่เนอะ เฮ้อ..

อ่าว ซับของช่องลดลง อยู่ไม่ใช่หรอwwwwww

 

“อ่ะ.. ขอโทษทุกๆท่านจริงๆค่ะที่ดิฉัน เผลอ~ ไปทำความเสียหายต่อจิตใจพวกท่านเข้า ดิฉันให้กำลังทุกๆคนที่ทำงานช่วงหยุดฤดูร้อนนะคะ อิ อิ”

 

เอาจริงๆแล้วชีวิตก่อนของฉัน ก็ไม่ต่างจากพวกเขาเท่าไหร่หรอกนะ..

ฉันเข้าใจความรู้สึกของพวกเขาดีเลยล่ะ แม้แต่เวลาซักนิดที่เอามาดูแลตัวเองก็มีน้อยสุดๆ

 

ฉันไม่รู้ว่ากี่ปีแล้ว ที่จะมีหยุดยาวแบบนี้ นั่นเลยเป็นเหตุผลที่ตอนนี้ฉันตื่นเต้นสุดๆยังไงล่า~

งั้นคือ ช่วงหยุดยาว จะทำเพลงหรอ?

ขายเสียง asmr?

กวนตีนมากขึ้น?

 

“พวกนายก็โตกันแล้วแท้ๆ ยังไม่ได้หยุดอีกหรอ หืม? แม้แต่เด็กประถมยังมีเลยนะ น่าสงสารจังเลยนะ ขี้แพ้ ~”

 

หยุดได้แล้ว wwww

แล้วทำไมถึงไปหยิบเอาคอมเม้นนั้นมาเล่า!

ขอบคุณครับ tysm

 

“ถึงจะพูดอย่างงั้นก็เถอะ นะทุกคนแต่ว่าตั้งแต่พรุ่งนี้ ฉันต้องไปเรียนภาคฤดูร้อนล่ะw”

อ่าว

ทำไมยังใจเย็นกับสถานการณ์แบบนี้อ่ะ !

ทำไมถึงไม่มีหยุดภาคฤดูร้อนอ่ะ ต้องเตรียมสอบด้วยนะ..?

“เอาจริงๆแล้วก็ยังไม่รู้หรอกว่าจะสอบไหม หมายถึงแบบ มันต้องควบคู่กับการบ้านภาคฤดูร้อนไปด้วย แถมยังมีคลาสอีก มันเลยคงต้องยุ่งมากกว่าที่โรงเรียนแน่ๆ มันมีแค่การดูพวกวีทูบนั่นแหละที่ทำให้ฉันผ่อนคลายลงบ้าง เฮ้อ..”

 

เฮ้อ~ 

ยังต้องเรียนพิเศษอีกนี่เนอะ

มีการบ้านฤดูร้อนด้วยหรอ?

“ใช่แล้วล่ะ งานแม่งโครตเยอะเลยทั้งๆที่เป็นแค่เด็กประถมแท้ๆ แต่นะ ฉันว่าวันนี้ไดอารี่น่าจะเสร็จแล้วล่ะ”

ทำไมถึงรีบทำไดอารี่ให้เสร็จตั้งแต่วันแรกล่ะ?

จะแต่งเรื่องใส่ไดอารี่เอาหรอ?

จุดประสงค์ของไดอารี่ไม่ใช่ต้องเขียนทุกวันหรอ?

 

“ทำไมพวกนายไม่เอาไดอารี่ของปีก่อน แล้วก็ทำซ้ำล่ะ อ่ะ พวกนายเป็นเด็กดีนี่หน่า เพราะงั้นอย่าทำนะ”

 

???

แล้วทำไมไม่ไปทำวันสุดท้ายเอาล่ะ?

เพราะว่าปีนี้ต้องไปเรียนภาคฤดูร้อน เพราะงี้จึงต้องรีบทำสินะ lol

 

“พวกนายต้องเขียนไดอารี่ทุกวันด้วยนะ เข้าใจไหม มันเป็นการสร้างนิสัยที่ดี และทำให้เรารู้ถึงความมีค่าของเวลาด้วยนะ ผู้ใหญ่ที่ดีควรเขียนไดอารี่ทุกวันไงล่า~”

 

เหตุผลอะไรฟร๊ะ?

อย่างงี้นี่เอง ไม่เข้าใจอ่ะ

….w…

 

“แล้วเวลาที่เหลือเอาไปทำไรดีอ่ะ ทำรายงานหรอ?”

 

ผมสงสัยเกี่ยวกับการเรียนฟรีของอิโรฮะจังอ่ะ 

เกี่ยวข้องกับวีทูบแน่นอน

”งั้นมาทำรายงานด้วยกันไหมคะ?☆”

!?!?!?

อาเนโกะ…!!

อาเนโกะปรากฎตัว!

 

“เดียวนะ พี่อาเนะ..?”

คอแลปเฉยเลย

ทำไมรู้สึกคุ้นๆกับอะไรแบบนี้นะ

อย่าไปบังคับอิโรฮะจัง คอแลปเซ้

 

“อ่ะเห็นข้อความที่ส่งมาแล้วนะ งั้นเดียวจะทำในสตรีมนี้เลยก็ได้ มันเป็นโปรเจ็คคอแลปกันอ่ะนะ และพี่อาเนะก็ทำคนเดียวไม่ได้~”

 

LOL

ใช้งานเด็กประถม โหดร้ายชะมัด @Anego

อาเนโกะต้องโตมากกว่านี้นะ www

 

“ส่วนรายละเอียดจะประกาศใน X และในสตรีมตอนที่รายละเอียดโปรเจ็คเสร็จนะทุกคน อย่าลืมไปดูด้วยล่ะ~”

รอ~

ข้าไม่สามารถทำนายได้ว่าอาเนะแม่งจะทำอะไรในคอแลป..

“ฉันก็รออยู่นะ บัย☆”

 

แล้วเธอก็ออกจากแชทไป

ฉันไม่ค่อยเก่งเรื่องการวางแผนโปรเจ็คเท่าไหร่ ตอนนี้เลยคุยเล่นๆกันมากกว่า

ฉันเลยคิดว่านี่คงเป็นวิธีการฝึกของพี่อาเนะมั้งนะ? เพราะยังไงตอนนี้ฉันก็ยังเป็นสตรีมเมอร์เด็กอยู่ ต้องเป็นแบบนั้นใช่มะ ต้องใช่แน่ๆ

คงไม่ใช่โยนงานมาให้ฉันใช่ไหม..?

ฉันหยุดคิดแล้วกลับไปที่หัวข้อหลัก

 

“แล้วก็อีกหนึ่งการบ้านสุดแสนน่าเบื่อ~ จดคันจิ..”

 

คิดถึงจังเลยน้า

ผมเกลียดสิ่งนี้สุดๆ

อิโรฮะจังโอเคที่เขียนคันจิซ้ำแล้วซ้ำอีกหรอ?

 

“พวกนายหมายความว่าไงอ่ะ?”

 

ผมเคยได้ยินมาว่าพวกอัจฉริยะจะไม่ค่อยชอบทำอะไรซ้ำๆนะ แบบมันทำให้ปวดหัวอะไรงั้น

ผมก็เคยได้ยินเหมือนกันด้วยว่าบางคนถึงกับเครียดจนต้องไปโรงบาลเลยก็มี

จริงอ่ะ?

 

“จริงหรอ?”

แม้แต่ฉันก็ยังคิดเหมือนกับช่องแชท

คำว่า “อัจฉริยะ” มักจะทำให้คิดว่าเป็นสิ่งที่ไม่มีเรื่องแย่ๆเลย แต่ดูเหมือนว่ามันจะมีด้วยแฮะ..

“ก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลยนะ ก็ตามที่พึ่งพูด ฉันไม่ใช่อัจฉริยะซักหน่อย ก็แค่ขยับมือพร้อมกับดูคริปไปก็แค่นั้นเอง~”

ไม่ใช่อัจฉริยะ และ พูดโดยอัจฉริยะ

อิโรฮะเป็นพวกชิวๆหรือเปล่า?

ผมดีใจแล้วล่ะ ที่ไม่เป็นอะไร

อย่างน้อยก็ไม่ส่งผลเสียอะไรนะ

“แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็โครตเกลียดมันเลย แบบมันจะมีเด็กที่ไหนชอบทำไรแบบนี้อ่ะ?”

ก็จริงนะ w

พูดถูก

จริง

“แต่ถึงบ่นไปยังไง ก็ไม่เปลี่ยนอยู่ดี เหอะๆ.”

นักเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลายเข้าใจวิธีการเรียนอยู่แล้ว แต่สำหรับเด็กประถมมันก็ยังคงเป็น ต้องจำยังไง เป็นสิ่งแรก

 

อิโรฮะจังฉลาดอยู่แล้ว แต่ถูกบังคับมาทำอะไรแบบนี้ก็ดูน่าเบื่อจริงๆแหละ

รูปแบบการเรียนของโรงเรียนในญี่ปุ่นส่วนใหญ่สร้างมาแบบไม่อยากให้ลาออก เพราะงั้นไม่ต้องแปลกใจ

นั่นเลยเป็นเหตุผลว่าทำไมมัธยมต้นถึงมีสอบเข้าไง

 

“จริงหรอ..?”

 

ถ้าพูดกันแบบนั้น มันก็คงสมเหตุสมผลมั้ง

แต่มีหนึ่งอย่างคือ ฉันไม่ใช่อัจฉริยะ ฉันเป็นแค่คนๆหนึ่ง

ฉันรู้ว่าฉันไม่ใช่ แต่คนอื่นไม่เชื่ออ่ะ..

*  *  *

วันต่อมา ฉันกับคุณแม่ได้เดินทางมายังโรงเรียนกวดวิชา

So the next day I was visiting an exam-cram school with my mother.

“ฟุเอ๊ ใหญ่จังเลย..”

 

“ไปๆ ไปกันเถอะ~”

 

ฉันไม่รู้ว่าคุณแม่คิดอะไรหรอกนะตอนนี้

สิ่งก่อสร้างมันใหญ่มากถ้าจะให้เรียกว่า โรงเรียนกวดวิชา หรือมันเป็นตึกสอบ แต่ฉันก็ตกใจนะที่จะได้มาเรียนในโรงเรียนกวดวิชาใหญ่ๆแบบนี้

ฉันเดินเข้าไปข้างใน และพวกเขาได้แสดงห้องเปล่าให้ฉันเห็น

เธอบอกกับฉันว่าวันนี้ไม่ต้องเข้าคลาส แต่แค่ต้องเตรียมตัวไว้

อย่างแรก ฉันต้องไปสอบเพื่อที่จะเข้าโรงเรียนกวดวิชานี้

 

ฉันต้องอยู่ในห้องนี้คนเดียว ตอนที่ฉันกำลังสอบอยู่นั้น คุณแม่ก็ได้แยกไปอยู่อีกห้องดูเหมือนว่าเธอฟังเกี่ยวกับระบบของโรงเรียน และค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่าย

 

“ยากจังเลยแฮะ..”

ฉันพูดหลังจากที่แก้คำถามได้ ฉันไม่ได้หวังกับผลลัพธ์เท่าไหร่ ในฐานะคนที่เตรียมพร้อมมาก่อนอ่ะนะ xD

ทุกๆคำถามเป็นไปไม่ได้ที่เนื้อหาชั้นประถมนั้นจะตอบมันได้

แต่ถ้าเป็นภาษาอังกฤษ ก็ชิวๆ~

และคุณแม่ก็ได้กลับมาที่ห้องนี้

 

พวกเขาบอกกับฉันว่าคะแนนสอบจะใช้เพื่อคัดห้องที่จะได้เรียน ตามแต่ล่ะหลักสูตร

พวกเขาบอกฉันว่าผลการทดสอบจะถูกนำมาใช้เพื่อกำหนดตำแหน่งชั้นเรียนของฉันในแต่ละหลักสูตร ฉันไม่รู้เรื่องนี้ด้วยซ้ำ พึ่งรู้ตอนที่เขามาอธิบาย แต่จากที่ฟังมา มันมีหลักสูตรความรู้พื้นฐานสอบมัธยมต้น , หลักสูตรแอดวานส์มัธยมต้นที่เข้ายากๆ , หลักสูตรทบทวนเนื้อหาชั้นประถม

เธอได้บอกว่าในหนึ่งๆคอร์สจะแบ่งเป็นหลายๆชั้นเรียน เพราะมีเด็กนักเรียนมาก

“ลูกอยากเข้าอันไหนหรอ?”

“อยากเข้าแบบธรรมดาค่ะ”

 

แน่อยู่แล้ว ฉันไม่เล็งไปที่โรงเรียนที่สอบเข้ายากๆอยู่แล้ว แบบธรรมดาเพื่อโรงเรียนธรรมดา~

และ ก ร ะ บ ว น ก า ร คั ด  ค น ก็ เ ริ่ ม ขึ้ น

 

*  *  *

วันต่อมา ฉันรับสายจากโรงเรียนกวดวิชา

ดูเหมือนว่าจะเป็นการแจ้งเตือนผลสอบและห้องที่จะได้

วันนี้คุณแม่ไม่อยู่บ้าน ฉันเลยต้องเป็นคนรับสาย

ฉันรู้ศักยภาพฉันอยู่แล้ว เพราะงั้นฉันต้องได้ห้องต่ำแน่นอน

[หนูอยากที่จะเป็นเด็กพิเศษของโรงเรียนเราไหม?..]

 

“คะ??????????”

ยังไม่ได้ตรวจคำจ้า!