บทที่ 3 ภรรยาป่วย

คิงดราก้อน

บทที่ 3 ภรรยาป่วย

เมื่อเซียวหยางกับเย่หยุนซู กลับมา พ่อแม่ของ เย่หยุนซู ก็มารออยู่ในบ้านแล้ว

“พ่อ แม่ มากันตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?”

“วันนี้ไปฉลองวันเกิดของคุณย่า คุณย่าเธอดีใจมากใช่ไหมล่ะ?” หลิวฉ่ายเสียจับไหล่ลูกสาวของเธอและถามอย่างกระตือรือร้น

หลังจากเย่หรูซานเข้าประตูมา เขานั่งลงบนโซฟา จุดบุหรี่และเงียบไม่พูดจา

เย่หรูซานลังเลที่จะมาบ้านของลูกสาว เหตุผลหลักก็คือพวกเขาไม่ต้องการเห็นหน้าเซียวหยาง เพราะเมื่อเห็นเซียวหยางก็รู้สึกถึงหัวอกเดียวกัน ในมุมมองของ

เย่หรูซาน ทั้งสองคนต่างเป็นผู้พ่ายแพ้

เย่หยุนซู เล่าเรื่องงานวันเกิดให้แม่ฟัง

ผลก็คือ หลิวฉ่ายแทบคลั่ง “หยุนซู เธอโง่หรือเปล่า เธอไปรับปากเรื่องแบบนี้ได้ยังไง ถ้าพวกเราถูกไล่ออกจากตระกูลเย่และพวกเราไม่มีสิทธิ์ได้รับมรดกของตระกูลแม้แต่สตางค์แดงเดียว!”

“ลูกทำแบบนี้ก็เท่ากับว่าทำให้ครอบครัวของเย่หรูไห่สมดังหมายนะ พวกเขาคิดจะทำอะไรลูกก็รู้อยู่แก่ใจไม่ใช่เหรอ?”

เย่หยุนซูจับมือแม่ของเธอและพูดอดอย่างอดทนว่า “แม่ หนูไม่อยากให้พวกเขาดูถูกพวกเราอีกต่อไป ความคับแค้นใจที่พวกเราต้องทนทุกข์มาตลอดหลายปีนั้นยังไม่เพียงพออีกเหรอ?”

“แต่ลูกก็ไม่ควรรับปากทำเรื่องนี้นะ นั่นคือบริษัทเจี้ยนต๋าเชียวนะ ลูกไม่รู้เหรอว่าพวกเขายิ่งใหญ่แค่ไหน สถานะอย่างลูก แม้แต่ประตูเขาก็ไม่ยอมเปิดให้ลูกเข้าไป!”

เย่หยุนซูขมวดคิ้วมองและเหลือบมองไปที่เซียวหยางและถามขึ้นว่า “เซียวหยาง คุณรู้จักประธานของบริษัทเจี้ยนต๋าไหม?”

เซียวหยางส่ายหน้า

“ถ้าอย่างนั้นคุณมีสายในบริษัทเจี้ยนต๋าไหม? ”

เซียวหยางยังคงส่ายหน้า

ล้อเล่นอะไรกันเนี่ย เขาไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า บริษัทเจี้ยนต๋าทำอะไร แล้วจะรู้จักนายท่านของพวกเขาได้อย่างไร

แต่ว่าสิ่งนี้สำคัญด้วยเหรอ ด้วยความแข็งแกร่งของสำนักดราก้อน คำพูดของเขาแค่ประโยคเดียวก็สามารถตัดสินความเป็นความตายบริษัทเจี้ยนต๋า

เย่หยุนซูกระวนกระวายใจ “ตอนนั้นคุณบอกชัดๆว่า…”

เมื่อหลิวฉ่ายเสียได้ยินดังนั้น ก่อนที่ลูกสาวของเธอจะพูดจบ หล่อนก็ตะโกนว่า “เกิดอะไรขึ้น เรื่องนี้เกี่ยวข้องอะไรกับไอ้ขยะนั้น?”

“บอกมาสิว่า นายยุแยงให้ลูกสาวของฉันตกลงรับปากทำเรื่องนี้ใช่ไหม?”

“ใช่แล้ว นายมันไอ้ขยะ นายแค้นที่หลายปีมานี้ฉันทำไม่ดีกับนายเป็นแน่ เลยจงใจต้องการขับไล่พวกเราออกจากตระกูลเย่ ถ้าพวกเราอดตาย นายก็อย่าคิดเลยนายจะอยู่อย่างสุขสบาย!”

เย่หยุนซูรู้สึกรำคาญใจเล็กน้อยเมื่อได้ยิน “พอได้แล้ว หนูเหนื่อย เลิกเถียงกันซะทีเถอะ เรื่องนี้หนูเป็นคนรับปากเอง เลิกโทษคนอื่นเถอะค่ะ !”

“หยุนซู แม่สงสัยจริงๆเลยว่าทำไมท่านปู่ผู้ล่วงลับต้องการให้ลูกแต่งงานกับคนไร้ค่าแบบนี้”

เมื่อได้ยินเสียงทะเลาะกันดังขึ้นในห้อง เซียวหยางก็ลูบขมับ แล้วลุกขึ้นยืนจากนั้นก็เดินออกไปนอกห้อง

“ไอ้ขยะ นายจะไปไหน?”

“ซื้อผัก ทำกับข้าว”

“ดูเอาเถอะ จะไม่ให้เรียกว่าขยะได้ไง!”

……

เซียวหยางไปซื้อไก่และซื้อผักอีกสองสามอย่างที่ตลาด ขณะที่เขากลับมาก็เห็นรถโรลส์รอยซ์รุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นสีดำจอดอยู่ตรงหัวมุม

หุ่นทองคำบริเวณหัวรถโรลส์รอยซ์คันนี้มีปีกสามคู่

ทูตสวรรค์หกปีกและคนของสำนักดราก้อน

“นายท่าน”

ชายชราในชุดทักซิโด้เดินลงมาจากรถโรลส์รอยซ์ ผมทรงโมฮอก สวมแว่นสีทอง สีหน้าเคร่งขรึม มีความรับผิดชอบ ถือเอกสารหลายชุดในมือ เขาถือกล่องสีดำขนาดเล็กไว้ในมืออีกข้าง

เซียวหยางหยิบกล่องและเปิดออกดู มันคือ ผลึกโลหิต

“ท่านเซ่มีเรื่องอะไรก็รีบพูดมาเร็ว ๆ ผมต้องกลับไปทำซุปไก่ให้ภรรยา”

ท่าทางของชายชราในชุดทักซิโด้เคร่งขรึม แต่ภายในใจกลับรู้สึกจนปัญญาอย่างมาก นายท่านเป็นถึงหัวหน้าสำนักดราก้อน แม้แต่ผู้นำของประเทศต่างๆยังต้องยำเกรง แต่ตอนนี้เขากลายเป็นพ่อบ้านไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม เขาไม่กล้าบอกเซียวหยางเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะการตัดสินใจทุกเรื่องของผู้นำจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดโดยไม่มีเงื่อนไข มิฉะนั้นจุดจบจะเป็นเรื่องที่น่าสังเวช

“นายท่าน มีบางเรื่องต้องรายงานให้ท่านทราบครับ”

ชายชราในชุดทักซิโด้พยักหน้าและเลิกคิ้วและกล่าวด้วยความเคารพ :

“คราวที่แล้วที่คุณได้ช่วยชีวิต Kelenaองค์หญิงแห่งราชวงศ์อังกฤษไว้ ราชวงศ์อังกฤษหวังว่าจะได้พบกับคุณและรับช่วงต่อเป็นยศถาบรรดาศักดิ์ที่สูงสุดของราชวงศ์อังกฤษ

“บริษัทการเงินระหว่างประเทศJKถูกฮุบซื้อกิจการโดยเยาเย่ ทำให้สถานะความมั่งคั่งของ สำนักดราก้อนเพิ่มขึ้น 3 แสนล้าน”

“ซูรุ่ย หัวหน้าสำนักเทพสุริยันในสังคมอิทธิพลมืดแห่งยุโรป ต้องการเข้าร่วมสำนักดราก้อน หวังว่าจะได้รับอนุญาตจากคุณ”

เซียวหยางโบกมืออย่างหงุดหงิด “อะไรกันนักกันหนา ให้ทูตสวรรค์เสราฟิมจัดการก็แล้วกัน ต่อไปอย่ามารบกวนฉันด้วยเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบอีก”

เซียวหยางยกเท้าขึ้นเพื่อจากไป ทันใดนั้นเขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “อ้อ มีอีกเรื่องหนึ่งนายไปติดต่อให้หน่อย บริษัทเจี้ยนต๋าในเมืองหยินโจวให้หน่อย ภรรยาของฉันอยากจะคุยกับบริษัทเจี้ยนต๋าเพื่อขอความร่วมมือ”

“ได้ครับ นายท่าน”

……

เซียวหยางกลับไปที่ห้อง เขาตรงไปที่ห้องครัวเพื่อเตรียมอาหารเย็น

หลิวฉ่ายเสียยืนอยู่ที่ประตูขณะตัดเล็บและพูดว่า “เซียวหยาง นายยอมหย่ากับหยุนซูเถอะ”

เซียวหยาง ขมวดคิ้ว “หยุนซูต้องการอย่างงั้นเหรอ?”

“มันไม่สำคัญหรอกว่าเธอต้องการหรือไม่ การที่นายอยู่กับเธอถือเป็นความผิดพลาดอย่างหนึ่ง นายกำลังเป็นตัวถ่วงของเธอ!”

ในความเป็นจริงเธอกำลังคิดในใจว่า ไม่เพียงแต่เป็นตัวถ่วงของเย่หยุนซูมันยังเป็นตัวถ่วงของครอบครัวหล่อนด้วย ลูกเศรษฐีที่ชอบพอหยุนซูมีเยอะแยะไป และก็ดีกว่าเขาทุกคนด้วย

หยุนซูแต่งงานกับลูกเศรษฐีคนใดคนหนึ่ง ครอบครัวเธอก็จะแข็งแกร่งมากกว่าที่เป็นอยู่

“ลูกสาวของคุณแม่จะไปจากผมไม่ได้” เซียวหยางพูดอย่างราบเรียบ

คนตระกูลเย่ นอกจากท่านปู่ที่ป่วยหนัก ไม่มีใครที่ไม่ดูถูกเขา ต่างก็เห็นเซียวหยางเป็นไอ้สวะคนหนึ่ง

พวกเขาจะไปรู้ได้ไงที่เซียวหยางอยู่กับเย่หยุนซุตลอดนั้นเป็นเพราะอะไร

ตอนที่เซียวหยางอายุ7ปีก็รู้จักกับเย่หยุนซูแล้ว

ในปีนั้นเซียวหยางเกือบจะหนาวตายบนถนน เย่หยุนซูเป็นคนขอร้องให้พ่อของเขาให้เสื้อแจ็คเก็ตผ้าฝ้ายแก่เธอ และเงินสด 200 หยวน สิ่งนี้ทำให้เขาสามารถอยู่รอดในฤดูหนาวที่น่าเศร้าที่สุดในชีวิตได้

ต่อมา เขาเดินทางไปต่างประเทศโดยบังเอิญและก่อตั้งสำนักดราก้อนด้วยมือของเขาเอง เมื่อเขากลับมาที่ประเทศจีนอีกครั้ง เขาก็เป็นหัวหน้าของสำนักดราก้อนแล้ว

ก่อนที่พ่อจะเสียชีวิตเขาได้สั่งเสียไว้ว่า : ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องตอบแทนความเมตตาของตระกูลเย่หากไม่มีตระกูลเย่เขาคงตายตั้งแต่อายุเจ็ดขวบแล้ว

ในตระกูลเย่ก็มีเพียงท่านปู่เย่ที่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเซียวหยางดังนั้น เขาจึงจับคู่การแต่งงานระหว่าง เย่หยุนซูและเซียวหยาง

“แกนี่เป็นแค่ไอ้สวะ ทำไมไร้ยางอายเช่นนี้ จะเกาะติดไม่ยอมปล่อยเลยเหรอ?” หลิวฉ่ายเสียกล่าวด้วยเสียงเยาะเย้ย

เซียวหยางส่ายหัว “ผมบอกแล้วไง ลูกสาวคุณจะจากผมไปไม่ได้ ถ้าอยากไปจริง ๆ ก็ต้องรอให้พ้นสามเดือนนี้ก่อน ฉันจะไม่รั้งเธอไว้เลย”

ไม่ใช่ว่าเซียวหยางหน้าด้านหรอกนะ แต่เป็นเพราะเย่หยุนซูนั้นป่วย

“ เกิดมาพร้อมกับร่างกายที่เย็น ถ้าไม่รักษา จะมีชีวิตอยู่ไม่ได้ถึงสามปี”

ผลึกโลหิตกรัมหนึ่ง5ล้านหยวน เซียวหยางจำเป็นต้องซื้ออย่างลับๆผ่านสำนักดราก้อน จากนั้นค่อยๆส่งผ่านด่านอีก 3 ประเทศ และส่งมอบให้เขาผ่านทางท่านเซ่ สุดท้ายก็เทลงในซุปไก่

ไม่มีใครรู้เรื่องทั้งหมดนี้ รวมถึงเย่หยุนซู อย่างมากพวกเขาก็รู้สึกว่าซุปไก่ที่ทำโดยเซียวหยางนั้นเค็มไปหน่อย

เซียวหยางคำนวณแล้วว่า ตราบใดที่เย่หยุนซูดื่มมันเป็นเวลาสามเดือนติดต่อกัน เธอก็จะหายเป็นปกติ

ถึงเวลานั้นจะอยู่หรือจะไปก็ขึ้นอยู่กับ เย่หยุนซูแล้ว