“จะว่าไป ท่านพ่อจะกลับมาวันนี้นี่นา”

 

วันนึง ประมาณ 1 เดือนหลังจากที่พบกับท่านโนอะ ระหว่างที่กำลังศึกษาอยู่ในห้องสมุดใหญ่ ท่านโนอะก็พูดโพล่งแบบนั้นขึ้นมาราวกับเป็นเรื่องที่ไม่ได้มีสาระสำคัญอะไร

 

“ท่านพ่อของท่าน ก็หมายถึงหัวหน้าตระกูลเทียไลท์น่ะสิคะ”

“ใช่ กอร์ดอน เทียไลท์ ขุนนางชั้นเคานต์ผู้ปกครองอาณาเขตบริเวณนี้ไงล่ะ”

“เจ้าผู้ครองที่หายไปจากคฤหาสน์ตั้งเดือนนึงเต็มๆ แบบนี้ จะไม่เป็นไรเหรอคะ?”

“ถ้าแค่ปกครอง แค่ตัวแทนก็ทำได้แล้วล่ะ ฉันถูกเรียกตัวไปโดยราชา ฉันเลยบังเอิญไปที่เมืองหลวงเวลาเดียวกันกับคุโระพอดีเลย”

“ท่านไปทำอะไรที่นั่นเหรอคะ?”

“นั่นสินะ? ส่วนใหญ่ก็คง คุยกันว่าจะใช้ฉันเป็นประโยชน์ทางการเมืองยังไงล่ะมั้ง?”

“เอ๊ะ?”

 

ท่านโนอะเล่ามาแบบนั้นทั้งๆ ที่ยังอ่านหนังสืออยู่ ยังกับว่านี่เป็นแค่เรื่องจิปาถะยังไงยังงั้นเลย

 

“ก็เพราะว่า ฉันมีผมสีทองไงล่ะ แค่มีผู้ใช้เวทมนตร์สายแสงสว่างอยู่ในประเทศของตัวเองก็ช่วยเพิ่มความได้เปรียบทางการเจรจาขึ้นมามากโขแล้ว ใน 10 ปี ฉันก็เป็นจอมเวทย์ที่สุดยอดได้แล้วล่ะ จริงมั้ย? ระหว่างการเจรจา ฉันอาจจะบอกไปว่า ‘ถ้าจะสู้ พวกนายแพ้แน่’ ก็ยังได้”

“พวกผู้ใหญ่นี่สกปรกจริงๆ เลยนะคะ”

“มันก็จริงล่ะนะ ช่างเถอะ จะใช้ยังไงก็ได้ตามใจเลย อันที่จริง ฉันเองนี่แหละที่สั่งให้ท่านพ่อใช้มันซะแบบไม่ต้องลังเลเลย”

“จริงเหรอคะ? ฉันนึกว่าท่านโนอะไม่ชอบถูกใช้แบบนั้นซะอีก”

“เรื่องนั้นน่ะไม่เป็นไรหรอก เพราะถึงยังไง”

 

ท่านโนอะปิดหนังสือ ก่อนจะฉีกยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย

 

“เดี๋ยวประเทศนี้ก็เป็นของฉันอยู่แล้ว”

 

สำหรับท่านโนอะที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะครองโลกใบนี้อยู่แล้วเนี่ย อาจจะมองเรื่องสุดโลภมากอย่าง ‘การยึดประเทศ’ นี่ไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าแค่บันไดขั้นนึงที่เหยียบขึ้นไปหาความฝันของท่านเองก็ได้มั้ง

เมื่อได้ถูกเน้นย้ำว่าท่านเป็นคนที่สุดยอดมากขนาดไหนอีกครั้ง ฉันก็ก้มหน้าก้มตาศึกษาต่อไปเพื่อจะเป็นประโยชน์กับท่านให้มากขึ้น

 

“หื~ม {เดธ (มรณา)}… เวทมนตร์ที่สามารถลบล้างอายุขัยของเป้าหมายได้ในทันที เรียบง่าย แต่ก็ทรงพลังจนแข็งแกร่งอันดับต้นๆ ของเวทมนตร์สายความมืดเลย… นี่ถ้าฉันใช้มันได้คล่องล่ะก็ จะแอบไปลอบสังหารพวกศัตรูของท่านโนอะ จะภายในหรือภายนอกประเทศก็ได้หมดเลยนะคะเนี่ย”

“ใฝ่เรียนจังเลยนะ เยี่ยมมากเลยคุโระ {เดธ} เป็นเวทมนตร์ที่ยอดมาก แล้วก็เป็นเวทมนตร์โปรดของฉันเมื่อชาติก่อนเหมือนกัน พวกที่มีความต้านทานเวทมนตร์ต่ำน่ะ โดนผลของมันเข้าไปก็ตายได้แทบจะแน่นอนเลย”

“ยอดไปเลยนะคะนั่นน่ะ”

 

ระหว่างที่ฉันกับท่านโนอะกำลังคุยกันอย่างสงบ กระดิ่งเล็กๆ บนโต๊ะก็เริ่มส่งเสียงดัง *กริ๊งกริ๊ง*

 

“อาระ ดูเหมือนเราจะถูกเรียกแล้วสิ กลับขึ้นไปกันเถอะคุโระ”

“ค่ะ”

 

ไอเท็มที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อพันปีก่อนหลายชิ้นเลยล่ะที่ถูกสร้างขึ้นจากเวทมนตร์หายาก

กระดิ่งนี้เองก็เหมือนกัน มันเป็นชุดกระดิ่งคู่

เจ้านี่ถูกสร้างขึ้นจากหนึ่งในเวทมนตร์หายากอย่าง [เวทมนตร์สายเสียง] ใช้กระดิ่งลูกนึงเพื่อตรวจจับเสียงของคนที่ตามหาตัวเป้าหมาย ก่อนที่จะทำให้กระดิ่งอีกลูกส่งเสียงออกมา

 

พวกเรากลับขึ้นมาบนพื้นข้างบนด้วยการให้ฉันใช้เวทความมืด แล้วพอเข้ามาที่คฤหาสน์ เราก็เจอพวกเหล่าบรรดาคนรับใช้วิ่งวุ่นกันไปทั่วด้วยท่าทีร้อนรนกันน่าดูเลย

 

“อ๊ะ! คุณหนูคะ! คุโระจัง! มาอยู่ที่นี่เองเหรอคะ!?”

“วุ่นวายอะไรกันอยู่น่ะ นีน่า?”

 

แล้วนีน่า สาวใช้อายุน้อยที่สุดที่ทำงานอยู่ที่คฤหาสน์นี้ก็วิ่งตรงเข้ามาหาพวกเรา

เธอเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ไม่ได้เลือกปฏิบัติกับฉัน ถึงแม้ว่าฉันจะมีผมสีดำก็ตามที

 

“คุณผู้ชายกลับมาแล้วค่ะ ฉันเลยไปเตรียมอาหาร แต่ คือ มีคนมากกว่าคาดการณ์เอาไว้”

“หลายคนเหรอ? อ๋า เจ้าหมอนั่นเอาผู้หญิงกลับมาด้วยงั้นสิ ไม่รู้หรอกนะว่าเป็นทาสหรือสาวขายตัว แต่พวกนั้นคงทำเรื่องซื้อขายกันที่เมืองหลวงแบบไม่ได้คิดแน่”

 

ความชื่นชอบในหัวฉันที่มีต่อตัวพ่อของท่านโนอะที่ฉันไม่เคยเจอมาก่อนด้วยซ้ำลดลงไปอีกแล้วแฮะ

 

“เออคือ ท่านพ่อของท่านโนอะนี่ ท่านเป็นคนยังไงเหรอคะ?”

“ค- คือว่า…”

“เป็นผู้ชายขยะๆ ที่รักเงิน ผู้หญิง และการโกงกินยิ่งกว่าอาหาร 3 มื้อต่อวันซะอีกไงล่ะ”

“ค- คุณหนูคะ!?”

“อะไรล่ะ? ก็เรื่องจริงไม่ใช่หรือไง?”

 

จากคำพูดของท่านโนอะ ฉันก็พอจะเดาได้คร่าวๆ แล้วล่ะนะ แต่นี่มันจะยิ่งกว่าที่ฉันคิดซะอีกแฮะ

เอาเถอะ ฉันสาบานเอาไว้ว่าจะจงรักภักดีต่อท่านโนอะ ไม่ใช่ต่อตระกูลเทียไลท์ซักหน่อย เขาจะเป็นคนยังไงฉันก็ไม่สนหรอก

 

“ล- แล้วก็ คุณผู้ชายสั่งให้คุณหนูไปพบท่านที่ห้องหนังสือด้วยค่ะ“

“นี่คือท่าทีของชายรุ่นลุงที่ไปล่าแต้มผู้หญิงไม่เลิก ปล่อยทิ้งบ้านตัวเองไป 1 เดือนเต็มงั้นเหรอ บอกให้เขามาหาฉันเองซะ เอาล่ะ ไปกันเถอะคุโระ”

“เอ๊ะ? อา ค่ะ”

“คุณหนูค้า—!?”

 

ท่านโนอะรีบเดินไปทางฝั่งตรงข้าม ฉันก็เลยต้องรีบวิ่งตามท่านไป

ถึงนีน่าที่อยู่ข้างหลังฉันจะมีสีหน้าน่าสงสารมากเลยก็เถอะ ฉันก็เสียใจกับเธอเหมือนกันนะ แต่ท่านโนอะต้องมาก่อน

ฉันเข้ามาในห้องของท่านโนอะ แล้วก็รอคอยให้เจ้าผู้ครองที่แห่งตระกูลเทียไลท์มาถึง

 

“ท่านพูดไปแบบนั้น จะไม่เป็นไรเหรอคะ?”

“ไม่มีปัญหา ต่อให้ฉันจะพูดแบบนั้น ยังไงเจ้านั่นก็ต้องมาอยู่ดี”

“เออ นี่หรือว่า พ่อของท่านจะรู้ตัวตนที่แท้จริงของคุณหนูด้วยเหรอคะ?”

 

ชาติก่อนของท่านโนอะ

แม่มดในตำนาน ฮารุ ผู้เป็นที่รู้จักกันในฐานะราชันแห่งจอมเวทย์หายาก

ถ้าเกิดเขารู้เรื่องนั้นล่ะก็ ท่าทีแบบนี้ของท่านก็ดูจะเข้าเค้าแล้วล่ะ

 

“ไม่มีทาง เจ้านั่นไม่รู้อะไรเลย จนถึงตอนนี้ คนที่รู้ว่าฉันคือฮารุก็มีแค่เธอคนเดียว”

“เอ๊ะ? งั้น ท่าทางแบบเมื่อครู่นี้ก็แค่ทำตัวแย่เท่านั้นเองเหรอคะ? หรือพ่อของท่านจะแค่ตามใจท่านเฉยๆ?”

“ไม่เลยซักนิด อันที่จริง เจ้านั่นออกจะแขยงฉันซะมากกว่า ถ้าฉันไม่ได้มีผมสีทองล่ะก็ ฉันว่าคงมีเหตุผลร้อยแปดพันเก้าเลยล่ะที่เจ้านั่นจะไล่ตะเพิดฉันออกไป”

“แล้ว- แล้วทำไมท่านถึงได้ทำตัวมีอำนาจบาตรใหญ่ขนาดนี้ล่ะคะ?”

“ฉันกุมความลับเรื่องประวัติการฉ้อราษฎร์บังหลวงทั้งหมดในอดีตที่ผ่านมาของผู้ชายคนนั้นเอาไว้อย่างสมบูรณ์เลยไงล่ะ”

 

……อ้อ แบบนี้เอง

 

“เดิมที เขตปกครองของตระกูลเทียไลท์นี้น่ะยากจนยิ่งกว่านี้อีก เจ้าพ่อโง่นั่นก็เลยทำเรื่องอะไรไว้เยอะเลยล่ะ ไม่ว่าจะหลบเลี่ยงภาษี หรือตัดงบที่ต้องแจกจ่ายไปให้พวกสามัญชน”

“เห…”

“เจ้านั่นเป็นคนแบบนั้นแหละ แต่ว่า เพราะฉันไม่อยากถูกมองว่าเป็นลูกสาวแล้วก็ต้องเป็นคนแบบเดียวกับเจ้านั่น เมื่อ 2 ปีก่อน ฉันเลยใช้เวทมนตร์เพื่อสืบเรื่องราวต่างๆ แล้วก็เอาไปขู่เจ้านั่นว่า ‘ถ้าไม่อยากให้ทั้งหมดนี่หลุดออกไปสู่สาธารณะล่ะก็ ปกครองอาณาเขตอย่างสุจริต แล้วก็ ที่สำคัญ ทำตามทุกอย่างที่ฉันสั่งซะ’ แบบนี้ไง”

“น- นี่ท่านข่มขู่พ่อแท้ๆ ของตัวเองเลยเหรอคะ!?”

“ข้อมูลพวกนี้น่ะมันสำคัญมาก ขนาดที่ว่าถ้าเกิดหลุดออกไปสู่สาธารณะล่ะก็ เจ้านั่นก็จะเสียทุกสิ่งทุกอย่างเลย ไม่ว่าจะตำแหน่ง ชื่อเสียง เงินตรา หรือผู้หญิงก็ตาม เพราะแบบนั้นแหละ เจ้านั่นถึงได้ยอมเชื่อฟัง ยอมทำตามที่ฉันสั่งแต่โดยดีมาจนถึงตอนนี้เลย”

 

ถึงท่านจะเป็นเจ้านายของฉันก็เถอะ แต่ท่านเป็นคนที่น่ากลัวจริงๆ เลยนะ

ถ้าเพื่อจุดประสงค์ของท่านเองแล้ว ต่อให้จะเป็นพ่อแท้ๆ ของตัวเองก็ยังใช้งานได้ ทั้งที่ตัวเองยังไม่ 5 ขวบด้วยซ้ำเนี่ยนะ

 

“แต่ว่า ต่อให้ท่านโนอะจะเป็นลูกสาวของเขาก็เถอะ ทำถึงขนาดนั้นเลยจะไม่อันตรายเกินไปหน่อยเหรอคะ? อาจจะมีมือลอบสังหารถูกส่งมาเพื่อเก็บท่านเลยก็ได้นะคะ”

“เรื่องนั้นน่ะเป็นไปไม่ได้หรอก เพราะฉันมีผมสีทองไงล่ะ ถ้าไพ่ตายของอาณาจักร ผู้ใช้เวทแสงสว่างเกิดตายขึ้นมาล่ะก็ ยังไงเขาก็ต้องเสียตำแหน่งของตัวเองไปแน่นอน ถ้าเกิดเจ้านั่นคิดจะฆ่าฉันล่ะก็ อย่างน้อยยังไงก็ต้องทำให้เหมือนกับเป็นอุบัติเหตุในสนามรบนั่นแหละ ไม่งั้นเจ้านั่นก็ต้องรับผลไปเต็มๆ เลยล่ะ”

“แบบนี้นี่เอง ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็ ไม่มีทางที่เขาจะกล้าลงมืออะไรกับท่านแน่นอนเลยค่ะ”

“แล้วอีกอย่างนะ ต่อให้จะมีมือสังหารส่งมาจริง ยังไงฉันก็เก่งอยู่ดี”

“นั่นสินะคะ”

 

ด้วยอำนาจต่อรองที่หนักอึ้งของท่านโนอะ เขาไม่มีทางทำเรื่องสิ้นคิดอย่างทำเรื่องตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์กับท่านอยู่แล้วล่ะ

ยิ่งกว่านั้น ท่านโนอะก็ยังดูเด็กมากๆ ต่อให้จะไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมโต๊ะกินบ้านกินเมืองของตัวเองไป มันก็ยากล่ะนะที่ใครจะเชื่อเรื่องแบบนั้นลง

คนคนนึงสามารถทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ แต่อีกคนกลับจะขยับตัวทำอะไรก็ไม่ได้ซักอย่าง นี่ในบ้านหลังนี้ ท่านโนอะมีตำแหน่งอยู่เหนือกว่าชัดๆ เลยไม่ใช่หรือไงเนี่ย

 

“เอาเถอะ ยังไงเจ้านั่นก็เป็นขุนนางยศเคานต์ ก็พอจะมีอำนาจอะไรอยู่บ้างนั่นแหละ ตอนที่ยังใช้ได้ก็ควรใช้นะ กับเจ้านั่นเน่าเฟะมากขนาดนี้ ตอนที่ตัดหางทิ้งจะได้ไม่ต้องรู้สึกอะไรด้วย”

“เข้าใจแล้วค่ะ ถ้านั่นคือสิ่งที่ท่านโนอะเห็นว่าสมควรแล้ว”

“ไม่ต้องห่วงนะ ฉันไม่มีทางตัดคุโระทิ้งแน่นอน”

“…ขอบคุณมากค่ะ”

 

ความหวาดระแวงที่เข้ามาในหัวฉันตอนที่ได้ยินคำว่า ‘ตัดหางทิ้ง’ ถูกท่านโนอะเป่าให้หายไปได้หมดจดเลย

แน่นอนว่าฉันไม่ได้โกหกเลย แค่มองหน้าก็รู้แล้วล่ะ

 

“จะยังไงก็เถอะ แต่นี่มันสายจังเลยนะ ทั้งๆ ที่กำลังรออยู่แท้ๆ”

“เอาเถอะค่ะ เพิ่งจะกลับมาถึงเอง คงมีเรื่องอะไรต้องทำเยอะก็ได้-”

 

*―――ก็อกก็อก*

 

TN: ก- แกร่งจริงไรจริง 555