ตอนที่ 19 บทที่ 1 ความโลภของสีทอง - กอร์ดอน เทียไลท์

[WN] ยมทูตแห่งความมืด ผู้รับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์แสนขี้เกียจจอมโลภมาก

“เปิดอยู่แล้ว เชิญเลย”

 

ประตูถูกเปิดออกดังเอี๊ยดอ๊าด แล้วผู้ชายคนนึงก็เดินเข้ามา

หน้าตาเขาก็ ธรรมดานะ ไม่แย่ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ

จะว่ายังไงดีล่ะ เขามีเคราที่ปลายคางสีน้ำตาลสีเดียวกันกับสีผม แล้วก็ใส่แว่น นั่นแหละผู้ชายคนนี้

 

“ไม่ได้เจอกันนานนะ โนอามารี”

“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะ ท่านพ่อ เอาฉันไปใช้ได้ดีเลยมั้ยล่ะ?”

“หมายความว่ายังไง?”

“จะบอกว่าคุณถูกลูกสาวตัวเองใช้ กลับกัน คุณก็ใช้ลูกสาวได้ด้วยดีมั้ยล่ะ? คิดว่าไงบ้างคะ?”

“กรร…”

 

ถ้าให้พูดแบบหยาบๆ เลยเนี่ย เขามีหน้าตาที่ ‘ดูฉลาด แต่ชอบดูถูกคนอื่นว่าด้อยกว่า จนสุดท้ายก็ต้องกลายเป็นหมาที่ต้องคอยฟังคำสั่งอย่างเคร่งครัด’ ประมาณนี้ล่ะนะ

 

“…จะยังไงก็ช่าง ฉันมาที่นี่ก็เพราะมีเรื่องต้องคุย”

“อาระ มีเรื่องอะไรเหรอ?”

“โนอามารี แกน่ะ…”

 

พ่อของท่านโนอะเหลือบมามองทางฉันแวบนึง พ่นลมออกมาทางจมูก แล้วก็หันกลับมาเผชิญหน้ากับท่านโนอะอีกรอบ

 

“เอาไอ้ผมดำนี่เข้ามาในบ้านมันหมายความว่ายังไง!? ต่อให้จะเป็นแก ฉันก็มองผ่านเรื่องนี้ไม่ได้หรอกนะ! ทำอะไรของแก เอาตัวซวยเข้ามาในบ้านทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นตัวแทนของโชคน่ะฮะ!?”

“พูดถึงเรื่องโชคเรื่องลางนี่มันไร้สาระทั้งเพ ฉันถูกใจคุโระ เพราะงั้นฉันจะเอาเธอไว้ข้างๆ ตัว และคุณก็ไม่มีสิทธิ์จะมาบ่นอะไรด้วย”

“อย่ามาพูดอะไรบ้าๆ! รีบไล่มันออกไปให้พ้นที่นี่ซะ เดี๋ยวนี้! ถ้าราชารู้เรื่องนี้เข้าล่ะก็ มีหวังบ้านนี้-”

“ก็ไม่รู้สินะ ฉันไม่สนหรอกว่าเขาจะรู้มั้ย ถ้าใครมาว่าอะไร บอกกลับไปเลยนะว่า ‘ถ้าคิดจะตะเพิดเด็กสาวสวยผมดำออกไปล่ะก็ โนอามารีจะออกไปจากประเทศนี้แน่นอน’ แค่นั้น เจ้าพวกลุงโลลิค่อนหลงผมทองพวกนั้นก็เงียบปากแล้ว”

“ว- ว่าไงนะ…?”

 

ขนาดท่านโนอะโดนพ่อตะคอกใส่แบบนี้ ท่านก็ยังหลบเลี่ยงมันได้อย่างชำนาญด้วยสีหน้ารำคาญไปบ้าง แต่ก็ยังคงสงบนิ่งไม่หายเลย

อีกอย่าง เมื่อกี้ฉันเพิ่งถูกเรียกว่า ‘เด็กสาวสวย’ เหรอ ได้ยินคำนี้จากเด็กสาวที่สวยสุดๆ (ท่านโนอะ) แบบนี้แล้วมันก็รู้สึกยังไงไม่รู้แฮะ แต่ก็ทำเอาฉันเขินอยู่เหมือนกันนะ

 

“แล้วอีกอย่าง แต่ไหนแต่ไรแล้วเนี่ย คุณมีกระทั่งสิทธิ์จะมาสั่งสอนฉันด้วยหรือไง? ถ้าอยากให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณก่อร่างสร้างขึ้นมาอย่างโสมมนี่พังครืนล่ะก็ ฉันก็ยินดีจะฟังความเห็นของคุณต่อนะ แต่ว่าคุณนั่นแหละ จะทำได้หรือเปล่า?”

“พ- พูดแบบนี้กับพ่อแท้ๆ ของแกเองงั้นเรอะ…!”

“เป็นพ่อแท้ๆ แล้วมันทำไมเหรอ? อีกอย่าง คุณเองก็พยายามจะเอาเปรียบฉันอยู่ฝ่ายเดียวด้วยเหมือนกันไม่ใช่หรือไง? ฉันรู้นะว่าคุณน่ะจ้างผู้เชี่ยวชาญมาค้นห้องฉัน พยายามค้นหาหลักฐานการฉ้อราษฎร์บังหลวงและการกระทำผิดที่ฉันรวบรวมเอาไว้ ถูกมั้ยล่ะ?”

“ฮึก!?”

“แต่ น่าเสียดายนะ ฉันไม่ได้โง่ขนาดจะทิ้งของแสนมีค่าเอาไว้ในที่ที่มันทนโท่แบบนั้นอยู่แล้ว มันถูกเก็บเอาไว้ในที่ที่ไม่ว่ายังไงคุณก็ไม่มีวันหาเจอแล้วไงล่ะ”

 

ท่านโนอะเหลือบสายตาลงมองไปที่พ่อของท่านอย่างเหยียดหยาม พลางใช้นิ้วม้วนผมเล่นไปด้วย

พอเห็นแบบนี้ ฉันก็นึกถึงพวกม้วนเอกสารหลายแผ่นที่ตกแต่งไว้แปลกๆ กับมีเชือกมัดเอาไว้ วางอยู่บนโต๊ะที่ห้องสมุดใหญ่ที่ท่านพูดถึงเมื่อกี้นี้ขึ้นมาได้พอดีเลย

 

“ฉันเคยบอกแล้วไงว่าระหว่างที่ฉันใช้งานคุณอยู่ ฉันรับประกันความสำเร็จให้คุณได้เลย มีอะไรให้ไม่พอใจตรงไหนเหรอ? เนอะ คุโระ?”

“เอ๊ะ? ฉันเหรอคะ? ค่ะ นั่นสินะคะ ถ้าประสบความสำเร็จด้วยดีอยู่แล้ว ก็น่าจะไม่เป็นไรนะคะ?”

“ใช่เลยล่ะ แต่คนคนนี้น่ะเขาไม่ชอบหรอก กับข้อเท็จจริงที่ว่าเขากำลังถูกเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนึงชี้นิ้วสั่ง ใช้งานอยู่แบบนี้น่ะ เขาถึงได้หาเรื่องฉันอยู่ได้ตลอดเวลาแบบนี้เนี่ย น่าหงุดหงิดชะมัดเลยนะ”

 

ท่านโนอะยังคงยั่วยุพ่อที่ตอนนี้สั่นเทิมจนเห็นได้ชัดไปทั้งตัวแล้ว ราวกับว่าสิ่งที่ท่านเห็นอยู่นี่เป็นเรื่องน่าขำขันยังไงยังงั้นเลย

อืม ฉันพอจะรู้สึกได้อยู่แล้วล่ะ แต่ไม่ผิดแน่

 

“เอาล่ะ ไหน? ใครกันน้า? คนขี้แพ้ที่มีแต่เปลือกนอกที่ดูมีชีวิตรุ่งโรจน์ สำเร็จไปได้ด้วยดี แต่ชะตากรรมของตัวเองกลับถูกชักใยด้วยลูกสาวของตัวเองน่ะ? ถ้าจบเรื่องตรงนี้แล้วก็ ทำไมคุณไม่รีบๆ ไปให้พ้น แล้วก็เอาความเครียดไประบายลงกับผู้หญิงที่คุณเอามาด้วยคนนั้นซักทีละ? ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับคุโระอีกซักหน่อย”

“น- นังเด็กนั่น มันมีค่าอะไรกับแกนักหนารึไง…”

“นั่นสิน้า ฉันคิดว่าในวันข้างหน้า เธอคงมีค่ามากกว่าคุณเป็นร้อยๆ เท่าได้เลยล่ะ”

 

คนคนนี้น่ะ S สุดๆ ไปเลย

 

“งั้น ลาก่อนนะคะ ท่านพ่อ แน่นอนว่า ถ้าคุณแม้แต่คิดจะพยายามแตะต้องคุโระล่ะก็… คงจะรู้นะ?”

 

“เฮ้อ~ ยุ่งยากชะมัดเลย”

“เหนื่อยหน่อยนะคะ ท่านโนอะ ดื่มชาซักหน่อยสิคะ”

“อาระ ขอบใจนะ”

 

หลังจากที่ไล่พ่อของท่านออกไปเรียบร้อย ทุกอย่างก็ดูจะสงบลงได้ซักพัก ท่านโนอะยกชาขึ้นจิบอย่างเหนื่อยล้า ราวกับเป็นการบอกว่าต้องการจะหยุดพักซักครู่นึง

 

“แต่ว่า ใส่ไฟยุไปถึงขนาดนั้น จะไม่เป็นไรเหรอคะ?”

“แน่นอน ถ้าไม่ทำถึงขั้นนี้ เดี๋ยวเจ้านั่นก็ได้ใจกันพอดี”

 

ท่านโนอะบิดขี้เกียจ ก่อนจะจุ่มตัวลงนั่งเข้าไปกับเก้าอี้ ท่านโนอะที่กำลังกินชากับขนมที่ท่านเอามาด้วยในท่าทางสบายๆ แบบนี้เนี่ย น่ารักเหมือนแมวเลยแฮะ

 

“เอาล่ะ เรื่องท่านพ่อน่ะช่างเถอะ คุโระ ถึงเวลาที่เราต้องเริ่มออกตามหาเด็กๆ ที่มีพรสวรรค์ของเวทมนตร์หายากได้แล้วล่ะนะ”

“คนที่มีพรสวรรค์ของเวทมนตร์หายากนี่ คือให้ตามหาใครก็ตามที่โดนดูถูกว่าเป็นพวกชั้นต่ำสินะคะ”

“ถ้าไม่รีบหาให้เจอเสียตั้งแต่เนิ่นๆ ล่ะก็ จะไม่มีเวลาให้ทันได้ฝึกพรสวรรค์ที่มีเอานะ ไม่นาน ถ้าฉันต้องลงไปในสนามรบแล้ว เกิดพวกเขาไม่แกร่งพอที่จะกำจัดพวกศัตรูทั้งหมดจากประเทศอริทั้งหลายที่หมายหัวฉันก็คงลำบากน่าดูเลย”

“แต่ ในเมื่อเรียกว่าเวทมนตร์หายาก ฉันไม่คิดว่าจะหาเจอกันได้ง่ายๆ หรอกนะคะ”

“นั่นมันก็จริงนะ ฉันลองสำรวจดูเร็วๆ แล้ว ดูเหมือนว่าพวกนักเวทย์หายากน่ะมีอยู่น้อยยิ่งกว่าเมื่อพันปีก่อนซะอีก คนที่สามารถปลุกให้เวทมนตร์หายากในตัวตื่นขึ้นได้นั้นมีอยู่น้อยอยู่แล้ว การที่เวทมนตร์ของพวกเขาจะได้รับการสืบทอดต่อมาก็ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ ทุกวันนี้ พวกเขาจะเกิดมาได้ก็มีแต่รูปแบบคล้ายๆ กับการกลายพันธุ์ผ่าเหล่านั่นแหละ”

 

คุณสมบัติทางเวทมนตร์ของแต่ละคนน่ะมักจะสืบทอดลงมาตามสายเลือดอย่างจากรุ่นพ่อแม่หรือจากรุ่นปู่ย่าตายาย

แต่ว่า นานๆ ครั้งจะมีคนที่สืบทอดสีผมมาจากบรรพบุรุษในอดีตอันไกลโพ้นมาได้เหมือนกัน

สีที่ได้รับสืบทอดมานั่น ที่เป็นจุดสังเกตของผู้ใช้เวทมนตร์หายาก คือสิ่งที่ในตอนนี้ถูกเรียกว่าพวกเส้นผมชั้นต่ำไปแล้ว

 

“จะหาได้ยังไงเหรอคะ?”

“ต่อให้ฉันจะเป็นบุตรีตระกูลขุนนาง ฉันก็ยังเด็กอยู่เลย การจะบริหารจัดการใช้กำลังคนเข้าค้นหาน่ะเป็นไปไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้น ทางเลือกเดียวที่ฉันมีก็คือออกตามหาในระหว่างที่เราเดินทางไปตามที่ต่างๆ แต่โอกาสก็คงจะต่ำมาก เราคงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องค่อยๆ ตรวจสอบจากข้อมูลที่มีอยู่จำกัด แล้วค่อยๆ ค้นหาไปตามนั้นล่ะนะ”

“ในห้องสมุดนี้ไม่มีไอเท็มสำหรับค้นหาเลยเหรอคะ?”

“ถ้ามีของแบบนั้นล่ะก็ ฉันคงเอามาใช้นานแล้วล่ะ”

 

อัตราการเกิดของเส้นผมชั้นต่ำ ผู้ใช้เวทมนตร์หายากในโลกนี้น่ะต่ำมากๆ ทั้งประเทศๆ นึงอาจจะมีแค่ 3 คนเองมั้ง

ที่จริง การที่พวกเรา ผู้ใช้เวทมนตร์หายาก โดยเฉพาะทั้งเวทมนตร์สายแสงสว่างกับเวทมนตร์สายความมืด 2 เวทมนตร์ระดับสูงสุด บังเอิญมาเจอกันได้ง่ายๆ แบบนี้น่ะ พวกเราโชคดีมากจนน่าทึ่งเลย

จากข้อมูลที่เรามีอยู่นี่ ในประเทศนี้ก็คงมีคนที่มีพรสวรรค์อย่างเวทมนตร์หายากอยู่อย่างมากที่สุดก็แค่คนเดียวเท่านั้นแหละ

 

“อันที่จริงแล้ว ความเป็นไปได้ที่ท่านโนอะจะหาฉันเจอได้เนี่ยมันต่ำมากจนรู้สึกเหมือนว่าพวกเราเอาโชคทั้งชีวิตมาใช้เพื่อการนี้ยังไงยังงั้นเลยนะคะ”

“ให้ตายซี่ อ่า นี่ถ้าเรามีนักเวทย์หายากคนอื่นๆ อีก การค้นหาคงจะง่ายกว่านี้เยอะเลย ทั้งเวทแสงสว่างทั้งเวทความมืด ไม่มีอันไหนเลยที่เหมาะกับการใช้ค้นหาคนน่ะ”

“พวกเราลำบากกับการค้นหาวิธีการค้นหาตำแหน่งของนักเวทย์หายากอยู่นะคะ ตอนนี้น่ะ”

“สำหรับตอนนี้ วิธีที่อาจจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดน่าจะเป็นการให้ท่านพ่อจัดรถม้าออกไปตามที่ต่างๆ โดยอ้างว่าเป็น [การเปิดหูเปิดตา] แล้วก็ค่อยๆ ออกค้นหาไปนั่นแหละนะ อ่าาา น่ารำคาญชะมัดเลย”

 

ระหว่างที่ให้กำลังใจท่านโนอะที่ท้อแท้แล้ว ฉันก็

นิดนึง แค่นิดนึงเท่านั้นแหละ

ที่อดคิดไม่ได้เลยว่าการที่ยึดโลกใบนี้ด้วยแค่พวกเรา 2 คนก็ไม่เลวเหมือนกันน่ะ

 

TN: แซ่บเกินเบอร์มาก 555