เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากนัดพบและเรียนทำอาหารกับริชาร์ดแล้ว ผมก็เดินไปที่ร้านของอาจารย์คนปัจจุบันของผม ผมรู้สึกตื่นเต้นมากกับสิ่งที่เธอจะสอนผมในวันนี้
เมื่อไปถึงร้านผมก็เห็นว่ามันปิดแล้ว ผมกำลังจะเคาะประตู แต่กลับรู้สึกเวียนหัวขึ้นมาอย่างกะทันหันและไม่กี่วินาทีต่อมาผมก็เข้ามาในร้านโดยนั่งอยู่ตรงข้ามกับอาจารย์ซะแล้ว
ผมคิดว่าเธอคงดึงผมเข้ามาในร้าน นี่คงเป็นพลังของจักรพรรดิหล่ะมั้ง? มันทำให้ผมยิ่งตื่นเต้นที่จะได้เรียนรู้กับเธอมากขึ้นไปอีก
เอเลนอร์มองไปที่ลูกศิษย์คนปัจจุบันของเธอที่กำลังมองมาที่เธอด้วยความตื่นเต้นและกระตือรือร้น
‘เขาดูตื่นเต้นจังนะในตอนที่ฉันกำลังจะพูด’
“เธออยากกินอะไรรึเปล่า?”
“ไม่ครับ ผมกินมาก่อนแล้วครับ”
“ถ้างั้นมาเริ่มกันเถอะ เธอรู้อะไรเกี่ยวกับเส้นทางต้นกำเนิดบ้าง?”
หลังจากที่เธอถามผมก็อธิบายให้เธอฟังถึงแนวคิดพื้นฐานที่ผมรู้และเธอก็พยักหน้ารับ
“อืม ก็ประมาณนั้น ดูเหมือนเธอจะศึกษามาดีนะ”
ผมหน้าแดงกับคำชมของเธอราวกับว่ากำลังมีความสุขและเขินอาย
“ยังไงก็ตามในตอนนี้เธอรู้สึกถึงพลังงานในอากาศไหม?”
“อ๋ออ คุณหมายถึงอนุภาคเล็กๆ ที่ลอยไปลอยมาอยู่รอบๆ นี่เหรอครับ?”
“งั้นแสดงว่าเธอรู้สึกถึงพวกมันได้สินะ”
หลังจากนั้นเอเลนอร์ก็ถอนหายใจและมองมาที่ผมเหมือนกับมองตัวประหลาด
“ออสตินรู้ไหมว่าตอนนี้เธอมีพลังระดับ Tier 3 Rank 10 แล้ว”
“อะไรนะครับ?!”
ผมตะโกนด้วยความประหลาดใจ ครั้งนี้ผมไม่ได้แสดง
‘เดี๋ยวก่อนนะ ฉันเป็น Tier 3!! ไม่เดี๋ยวก่อนอะไรคือ Rank 10?’
“Rank คืออะไรเหรอครับอาจารย์?”
“อ๋อ ฉันลืมไปว่าพวกเขายังไม่ได้สอนเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้”
“เพลทที่ก่อตัวขึ้นในร่างกายของเธอก็มีระดับเช่นกัน มันเป็นตัวกำหนดว่าเธอจะก้าวไปข้างหน้าได้มากน้อยเพียงใดในเส้นทางของเธอ”
“ตามปกติมีตั้งแต่ Rank 1 ถึง Rank 10 โดย Rank 1 คือระดับต่ำที่สุดและ Rank 10 คือระดับสูงที่สุด ตั้งแต่ Rank7 ขึ้นไปจะถูกเรียกว่าเป็นอัจฉริยะ”
‘บ้าจริง ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลย! ดูเหมือนห้องสมุดจะไม่ได้มีข้อมูลทุกอย่างสินะ’
“อาจารย์…หมายความว่าผมแข็งแกร่งสินะครับ”
ผมตอบสนองด้วยความตื่นเต้น
“ไม่เลย ตรงกันข้ามเลยแหละ ร่างกายของเธอกำลังตกอยู่ในอันตราย ร่างกายปัจจุบันของเธอเหมือนกับแก้วที่มีน้ำล้น แต่แก้วที่ใส่น้ำอยู่นั้นไม่แข็งแรง”
“ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปร่างกายเธอจะรับไม่ไหวแล้วระเบิดแน่ๆ”
….
‘เวรเอ้ย ฉันไม่รู้เลย!! ระบบนายไม่ได้บอกอะไรฉันเลย!!’
[ ระบบมีหน้าที่เพียงสนับสนุนโฮสเท่านั้น ไม่ได้มีหน้าที่เตือนและปกป้องโฮส ]
‘ใจร้ายชะมัด! แถมผู้หญิงคนนี้บ้ารึเปล่า? ที่มาพูดตรงๆ ต่อหน้าเด็กชายอายุ 8 ขวบแบบนี้ ถ้าเป็นเด็กคนอื่นคงฉี่ราดกางเกงไปแล้ว’
สิ่งที่ออสตินไม่รู้ก็คือมันไม่ได้เป็นปัญหาอะไรมากขนาดนั้นและมันก็ง่ายที่จะปรับสภาพร่างกาย แต่เอเลนอร์ต้องการดูว่าเขาจะตอบสนองต่อความตายยังไงและการได้เห็นเขาสงบนิ่งแบบนี้ก็ทำให้เธอประทับใจและอยากรู้อยากเห็นมาก
“เธอไม่กลัวตายเหรอ?”
‘กลัวเหรอ? แน่นอนฉันกลัว!! ใครบ้างจะไม่กลัว? ฉันแค่ทำหน้าโป๊กเกอร์เฟสดีเกินไป เดี๋ยวนะนี้อาจจะเป็นโอกาสทำแต้มก็ได้’
ด้วยใบหน้าที่จริงจังของผม ผมมองเข้าไปในดวงตาของเธอ
“แน่นอนว่าผมกลัวครับ แต่ความกลัวที่จะสูญเสียครอบครัวทำให้ผมเจ็บปวดมากกว่าความกลัวตัวเองตายครับ”
“พ่อของผมสละชีวิตของตัวเองเพื่อปกป้องผม ท่านมีเพียงความปรารถนาเดียวคือให้ผมปกป้องครอบครัว ซึ่งผมก็คิดที่จะทำเช่นนั้นอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นผมจะเอาชีวิตรอดให้ได้ครับ”
ในที่สุดเสียงของผมก็ดังขึ้นด้วยน้ำเสียงสุดดราม่า
‘อ๊ะ…ขอบคุณนิยายกำลังภายในสำหรับบทพูดน้ำเน่าเมื่อกี้’
เมื่อผมมองไปที่อาจารย์ก็พบกับใบหน้าที่ประหลาดใจอย่างมากของเธอซึ่งขัดแย้งกับตัวตนปกติที่สง่างามของเธอ ทันใดนั้นผมก็รู้สึกมีแรงดึงดูดบางอย่างก่อนที่วินาทีต่อมาผมจะไปอยู่ในอ้อมกอดของเธอซะแล้ว กลิ่นอันหอมหวานซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเธอโชยเข้าจมูกของผม
‘อืมมม…หมอนอันนี้ใหญ่กว่าของแม่ซะอีก’
ในขณะเดียวกันเอเลนอร์นั้น
‘อ๊าาา เด็กน้อยผู้น่าสงสารไม่ต้องห่วงอาจารย์จะเป็นคนปกป้องและทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้นเอง เด็กน้อยผู้น่าสงสารอาจารย์จะอยู่ข้างเธอเอง’
+3000 ความชอบ
‘ว้าว ดูเหมือนคำพูดของผมจะโดนใจเธออย่างแรง’
ทันใดนั้นผมก็รู้สึกถึงแรงดึงดูดอีกครั้งก่อนจะลืมตาขึ้นมาพบว่าตัวเองอยู่ในป่าใกล้หน้าผาซะแล้ว
เอเลนอร์วางผมลง
“จากนี้ไปเราจะทำให้ร่างกายของเธอคุ้นเคยกับพลังของเธอ ดังนั้นการฝึกแรกของเธอคือวิ่ง 5 กม. จากนั้นวิดพื้น, สควอทและซิทอัพอย่างละ 20 ครั้ง”
“หลังจากวอร์มอัพแล้ว การฝึกของเธอคือการปีนภูเขา หลังจากนั้นเมื่อเธอไปถึงยอดแล้วเราจะเริ่มฝึกจริงอีกที”
ผมมองไปที่หน้าผาสูงราวกับจะแตะผืนฟ้า อยู่ๆ เท้าของผมก็รู้สึกไม่มั่นคง ผมมองเธอด้วยสายตาที่เหมือนลูกหมา แต่สิ่งที่เธอตอบกลับมานั้นทำให้ผมต้องผิดหวังและได้แต่กัดฟัน
“ผมจะทำครับ แต่หลังจากนั้นผมขอเห็นหน้าอาจารย์หน่อยได้ไหมครับ?”
หลังจากคำถามของผม เธอลังเลเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นเธอก็พยักหน้าตอบรับ
การวอร์มอัพแม้จะยากก็สามารถทำได้ แต่เมื่อมาถึงหน้าผาผมกลับเข่าถลอกในตอนที่ปีนมัน มือของผมเปลี่ยนเป็นสีแดง เล็บของผมลอกเกือบหลุดและผมเกือบจะตกหน้าผาตาย แต่อาจารย์ก็ช่วยผมไว้ทุกครั้ง
เป็นแบบนี้อยู่ 2 เดือน จนสุดท้ายผมก็มาถึงจุดสูงสุดของยอดเขาได้ ผมส่งเสียงร้องเฮือกใหญ่เพื่อแสดงความดีใจกับความสำเร็จนี้
เอเลนอร์ยืนอยู่ข้างหลังผมอย่างภาคภูมิใจโดยไม่มีผ้าคลุมหน้าแล้ว ผมสีดำของเธอพริ้วไหวไปตามสายลม เธอดูสวยงามดั่งรูปปั้นที่ถูกสรรสร้างมาอย่างดี แต่หลังจากนั้นผมก็นึกถึงเรื่องสำคัญขึ้นมาได้
‘เมื่อผมแข็งแกร่งพอ ผมจะต้องทำลายหน้าผานี้ให้ได้เลย’
และแล้วในอีกไม่กี่ปีต่อมาหน้าผาขนาดใหญ่นี้ก็หายไปจากโลกโดยไม่มีใครรู้ว่ามันหายไปได้ยังไง
[ ชื่อ : เอเลนอร์ คลอส
เพศ : หญิง
อายุ : 140 ปี
เผ่าพันธุ์ : มนุษย์
ความสามารถพิเศษ : 10/10
พลัง : จักรพรรดิระดับ 3
ฉายา : จักรพรรดินีธนู, ความงามอันเยือกเย็น, อิมพีเรียล…ฯลฯ
ความสัมพันธ์ : 90% (ความรักของอาจารย์ที่มีต่อลูกศิษย์)
คำอธิบาย : ยินดีที่พบลูกศิษย์ที่มีความตั้งใจอันแรงกล้า
ปลุกแนวโน้มที่เป็นอันตรายบางอย่าง
ความยาก : S+ (เธอเป็นผู้หญิงที่มีพลังที่คุณนึกไม่ถึง มีผู้ชายหลายคนติดพัน ถ้าคุณอยากพิชิตใจเธอ คุณต้องพยายามอย่างหนัก) ]
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต