มุมมองของเกรซ :
ตอนนี้ฉันกำลังดูเอกสารต่างๆ อยู่ นับตั้งแต่สามีของฉันเสียชีวิตไป ฉันต้องคอยดูแลเขตปกครองด้วยตัวเองเพียงคนเดียว
เมื่อนึกถึงสามีของตัวเองภาพของออสตินก็ปรากฏขึ้นมาในหัวของฉัน ตอนนี้เด็กคนนั้นโตขึ้นมาก ฉันจำรายงานที่เขาแจ้งมาหลังจากออกไปข้างนอกได้
ออสตินอยากเป็นผู้ใช้ธนู ฉันไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย เขาอยากเป็นผู้ใช้ธนูเพื่อสนับสนุนและปกป้องเหมือนกับพ่อของเขาเลย เมื่อคิดถึงเรื่องนั้นรอยยิ้มก็เกิดขึ้นบนใบหน้าของฉันโดยไม่รู้ตัว
‘เฮ้อออ พวกเขาโตเร็วมากโดยที่ฉันไม่รู้ตัวเลย’
‘ฉันต้องสืบเกี่ยวกับผู้หญิงเจ้าของร้านธนูนั่นให้ได้ มีอาบอกว่าความแข็งแกร่งของเธออาจจะสูงกว่าต้นกำเนิดระดับ 8 ก็ได้’
แถมลูกชายงี่เง่าคนนั้นของฉันยังอยากเรียนทำอาหารเพื่อเลี้ยงฉันอีกด้วย ฉันขำเล็กน้อยตอนที่ได้ยินเรื่องนี้ เด็กนั่นช่างอ่อนโยนเหลือเกิน
ขณะที่ฉันกำลังคิดอะไรต่างๆ อยู่นั้น อยู่ๆ ก็รู้สึกว่ามีคนอื่นอยู่ในห้องได้ ฉันกระโดดขึ้นจากที่นั่งก่อนจะเริ่มสร้างเกราะขึ้นมา
การที่สามารถเข้ามาในห้องได้โดยที่ฉันไม่รู้ตัวนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
บุคคลที่อยู่ตรงหน้าฉันเป็นผู้หญิงสวมชุดวันพีช มีผ้าคลุมปิดบังใบหน้าของเธอและมีออร่าที่สง่างาม
‘เธอคือ!!’
ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกถึงความน่ากลัวราวกับโลกทั้งใบกำลังกดดันฉันขึ้นมา ในฐานะคนที่เคยเข้าสู่สนามรบมาก่อนฉันบอกได้เลยทันทีว่าตัวเองไม่สามารถรับมือกับเธอได้แน่ๆ
‘ระดับจักรพรรดิ…’
เมื่อได้ข้อสรุปฉันก็มีความเคารพมากขึ้น ระดับจักรพรรดิไม่ว่าจะเป็นใครก็สามารถส่งผลกระทบต่อโลกได้
“จักรพรรดิผู้สูงศักดิ์ต้องการอะไรจากฉันเหรอคะ?”
ฉันถามด้วยน้ำเสียงให้เกียรติ
เธอโบกมืออย่างไม่แยแส
“ไม่ต้องกังวล ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อฆ่าเธอหรอก”
“ฉันมาที่นี่เพื่อจะบอกเธอว่าฉันอยากจะรับลูกชายของเธอเป็นศิษย์”
“อะไรนะคะ?!”
ฉันอุทานด้วยความประหลาดใจ
‘มีจักรพรรดิต้องการรับลูกชายของฉันเป็นศิษย์!’
การที่ใครสักคนจะได้เป็นศิษย์ของคนระดับจักรพรรดินั้นถือเป็นเรื่องใหญ่มาก
การเป็นศิษย์ของจักรพรรดินั้นโดยปกติแล้วเป็นการยกระดับชีวิตของราชา หมายความว่าคุณมีโอกาสที่จะกลายเป็นจักรพรรดิด้วยตัวเองได้ในขณะที่ได้รับการคุ้มครองจากจักรพรรดิ
ฉันพยายามควบคุมอารมณ์ด้วยการหายใจเข้าลึกๆ หลังจากนั้นไม่นานฉันก็ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ แต่หัวใจของฉันนั้นยังคงเต้นด้วยความตื่นเต้นไม่หยุด
“เหตุใดคุณถึงอยากรับลูกชายของฉันเป็นศิษย์เหรอคะ?”
จักรพรรดิคนนี้คงไม่ได้รับเขาเป็นลูกศิษย์ง่ายๆ แน่ เขาคงจะต้องมีบางอย่างที่พิเศษ ลูกชายของเรามีความพิเศษอะไรขนาดนั้นกัน??
แทนที่จะตอบคำถามของฉัน เธอกลับมองฉันขึ้นๆ ลงๆ ด้วยสายตาตั้งคำถาม
“เธอไม่รู้งั้นรึ??”
“รู้อะไรคะ?”
“ลูกชายของเธอบรรลุขั้นพื้นฐานแล้ว เขาอยู่ระดับ Tier 3 Rank 10 แล้ว”
….
“ห้ะๆ ดูเหมือนฉันคงจะนอนไม่พอเลยได้ยินอะไรผิดไปสินะ”
“ฉันไม่ได้พูดเล่นเธอก็รู้”
ฉันหยุดนิ่งและมองตรงเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่ายราวกับจะยืนยันว่าสิ่งที่ฉันได้ยินมานั้นเป็นความจริงรึเปล่าและฉันก็ได้รับการพยักหน้ากลับมา คราวนี้ฉันอึ้งไปเลย
ลูกของฉันกลายเป็นสัตว์ประหลาดไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน??
ฉันนั่งลงบนเก้าอี้เพื่อใช้ในการพยุง ฉันพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองด้วยการหายใจเข้าลึกๆ จนผ่านไปไม่กี่นาทีฉันถึงจะตั้งสติได้
‘ลูกชายฉันมีพรสวรรค์ขนาดนั้นเลยเหรอ? ฉันไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย ฉันคงเป็นแม่ที่แย่มากเลยสินะ??’
ฉันเริ่มกลับมาสนใจเรื่องตรงหน้าอีกครั้ง จักรพรรดิต้องการรับลูกชายของฉันเป็นศิษย์ มันจะเป็นการเพิ่มการคุ้มครองแก่เขาและจากการมองของฉันเธอก็ดูเป็นคนดี
“จักรพรรดิธนูคิดว่าลูกชายของฉันมีพรสวรรค์พอที่จะสืบทอดการใช้ธนูของคุณได้เหรอคะ?”
“เธอไม่ต้องห่วง ลูกชายของเธอมีพรสวรรค์ในการใช้ธนูเป็นเลิศ”
เมื่อได้ยินดังนั้นฉันก็ถอนหายใจ
“ฉันไม่มีปัญหากับการที่คุณจะเป็นอาจารย์ของออสติน แต่ออสตินต้องเป็นคนตัดสินใจเองค่ะ”
“ไม่มีปัญหา”
หลังจากคุยกันเสร็จอีกฝ่ายก็หายตัวไปจากตรงหน้าของฉันในทันที ฉันได้แต่สูดลมหายใจลึกๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเองเอาไว้และกว่าฉันจะสังเกตเห็น ตัวของฉันก็เต็มไปด้วยเหงื่อซะแล้ว
‘การตกลงกับจักรพรรดิไม่ใช่เรื่องตลกเลย ฉันควรจะไปอาบน้ำได้แล้ว’
หลังจากนั้นฉันก็มุ่งหน้าไปยังห้องอาบน้ำ
มุมมองของออสติน :
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”
+20 ความชอบ
ตอนนี้ผมกำลังป้อนข้าวให้น้องสาวตัวน้อยอยู่เพื่อเติมแต้มความชอบในแต่ละวันในขณะที่วางแผนการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปด้วย ทันใดนั้นผมก็รู้สึกว่ามีคนดึงเสื้อของตัวเอง ก่อนจะมองลงไปเห็นน้องสาวที่กำลังมองมาที่ผมอยู่
“มีอะไรเหรอ??”
“อ -เอ่อพี่ชาย…วันนี้หนูนอนกับพี่ได้ไหมคะ?”
“แน่นอน ทำไมจะไม่หล่ะ”
หลังจากเธอนอนกับผมครั้งแรก เอลด้าก็มานอนกับผมบ้างบางวัน การมีสาวน้อยน่ารักให้นอนกอดนั้นไม่ได้เสียหายอะไร ดังนั้นผมเลยยอมรับข้อเสนอของเธอ
ในช่วงเวลานี้เองที่ผมได้ถูกเรียกพบจากแม่ของผม ผมจึงไปหาเธอ
พอผมเข้าไปในห้องก็พบว่ามีคนอีกคนอยู่ในห้องกับแม่ ใช่แล้วเธอคือเอเลนอร์
‘อืมม ได้เวลาเริ่มการแสดงแล้ว’
เมื่อผมเข้ามาในห้องดวงตาทั้งสองคู่ก็เคลื่อนมาทางผม ผมยิ้มก่อนจะวิ่งเข้าไปในอ้อมอกของแม่เพื่อกอดเธอ
“แม่มีอะไรเหรอครับ?”
“ไม่มีอะไรหรอก แม่แค่อยากให้ลูกเจอใครบางคนหน่ะ”
พูดจบเธอก็ชี้ไปทางเอเลนอร์ซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ ผมก็แสดงท่าทางประหลาดใจกลับไป
“มาทำอะไรที่นี่เหรอครับพี่สาว??”
ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเห็นแม่ปากกระตุกในตอนที่ผมเรียกเอเลนอร์ว่าพี่สาว
“ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่มาถามเธอว่าสนใจที่จะเรียนรู้การใช้ธนูจากฉันไหม?”
“การใช้ธนูเหรอครับ?”
ผมหันไปหาแม่ด้วยท่าทางสับสนราวกับไม่เข้าใจสิ่งที่เอเลนอร์ถาม
“ลูกรู้ไหมว่าพี่สาวตรงหน้าลูกคือใคร?”
แม่ของผมถามขึ้นมา
ผมส่ายหัวตอบกลับไป
“คนตรงหน้าลูกคือจักรพรรดินีธนู ระดับจักรพรรดิ”
“อะไรนะครับ!”
ผมตะโกนด้วยความประหลาดใจและหันไปทางเอเลนอร์ด้วยสายตาชื่นชม
เมื่อเกรซเห็นสายตาของลูกชายตัวเองเธอก็รู้สึกขมขื่นในใจเล็กน้อยราวกับว่าความรักของลูกชายของตนเองกำลังค่อยๆ จางหายไป
ส่วนเอเลนอร์ที่เห็นสายตาชื่นชมของว่าที่ลูกศิษย์ก็ยิ้ม ‘ดี ดูเหมือนลูกศิษย์ของฉันจะรู้จักความเคารพ’
“พี่สาวคือจักรพรรดินีธนูจริงๆ เหรอครับ? คุณจะสอนให้ผมเก่งเหมือนคุณจริงๆ เหรอครับ?”
ผมถามด้วยท่าทางตื่นเต้น
“ถ้าเธอมาเป็นลูกศิษย์ของฉัน แน่นอนฉันจะสอนเธอเอง”
ผมพยักหน้าราวกับรอแทบไม่ไหวแล้วที่จะได้เธอเป็นอาจารย์
เอเลนอร์ที่เห็นผมพยักหน้าอย่างเต็มใจก็ยิ้มกว้าง
“ดี…ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ฉันจะเป็นอาจารย์ของเธอเอง”
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต