ในช่วงบ่ายสองบ่ายสามของฤดูร้อน พระอาทิตย์ค่อนข้างโหดร้ายไปเสียหน่อย ในตอนที่หลานเสี่ยวถางกลับถึงบ้านมานั้น หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ เธอเช็ดมันออกอย่างลวก ๆ ครั้งหนึ่ง ก่อนจะหยิบกุญแจขึ้นมาเปิดประตู
เมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้วก็มองเห็นชั้นผิวของโซฟาในห้องรับแขกทันที มันถูกกระเป๋าของผู้หญิงใบหนึ่งวางทับเอาไว้อยู่ มันเป็นกระเป๋าชาเนลรุ่นใหม่ล่าสุด กระเป๋าดูหรูหรามีระดับ ด้านในยังมีข้าวของเครื่องใช้ของผู้หญิงอีกด้วย!
ดูเหมือนว่าหลานเสี่ยวถางจะตกตะลึงไปเลยก็ไม่ปาน ใจลอยไปอยู่หลายวินาที
มีเรื่องราวบางอย่างที่เธอสามารถคาดเดาได้เกิดขึ้นภายในหัวใจ เธอไม่กล้าคิด แต่ทว่า เท้ากลับเดินมุ่งตรงขึ้นไปทางชั้นสองโดยไม่รู้ตัว
โถงทางเดินของชั้นสอง มีรองเท้าส้นสูงสีแดงตกระเกะระกะอยู่ข้างหนึ่งด้วย
หลานเสี่ยวถางรู้สึกว่าหัวใจของตนเองยิ่งเต้นก็ยิ่งเร็วขึ้น ราวกับว่ามีมือข้างหนึ่ง ค่อย ๆ เข้ามาคว้าจับเอาการหายใจของเธอเอาไว้อย่างไม่รู้ตัว ทำให้ร่างกายของเธอแปรเปลี่ยนเป็นเย็นเฉียบเพราะว่าเลือดเหลว ๆ ในกายของเธอหยุดชะงักไปแล้ว ภายในสมองเป็นเพราะว่าเลือดไปเลี้ยงเยอะมากจนเกินไป ดังนั้นจึงรู้สึกคล้ายจะลมจับขึ้นมาอยู่เล็กน้อย
เธอถูกแรงผลักให้เดินตรงต่อไปทางด้านหน้าอย่างไม่รู้ตัว จนกระทั่ง ได้ยินเสียงแหลมเล็กบาดเข้ามาในหู
“ที่รักครับ คุณแน่นมากเลย!” น้ำเสียงนั้นแหบพร่า ถึงแม้จะไม่ใช่น้ำเสียงในยามปกติ แต่ทว่าหลานเสี่ยวถางเมื่อได้ยินแล้วกลับรับรู้ได้ในทันที ว่ามันเป็นเสียงของสือเพ่ยหลินสามีของเธอ
“เป็นคุณนั่นแหละใหญ่เกินไปแล้ว ใส่เข้ามาจนเขาจะตายอยู่แล้วนะคะ……” ภายในตัวห้อง เสียงหวานหยดย้อยแฝงไปด้วยลมหายใจหนัก ๆ ไม่ต้องคิด ก็สามารถรับรู้ได้ว่าทั้งสองคนกำลังทำอะไรกันอยู่
ฝีเท้าของหลานเสี่ยวถางหยุดชะงักอย่างคาดไม่ถึงมาก่อน ถึงแม้ว่าจะได้ยินกับหูด้วยตนเอง แต่ทว่า ก็ยังไม่กล้าที่จะเชื่ออยู่เลยว่ามันคือเรื่องจริง
เธอกับสือเพ่ยหลินหมั้นหมายกันเมื่อสองปีก่อน ก่อนคืนวันแต่งงานเขาประสบอุบัติเหตุอย่างไม่คาดฝัน นอนอยู่บนเตียงมาสองปี ตอนนี้เขาพึ่งจะฟื้นกลับสู่สภาพเดิมได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน ทำไมถึงได้……
“ไม่พอใจที่ฉันใหญ่ไปงั้นหรือ?” สือเพ่ยหลินหายใจหอบไปพลาง อีกด้านหนึ่งก็หัวเราะเสียงต่ำไปพลาง “ถ้าอย่างนั้นแล้วฉันก็จะออกไปละนะ?”
“เกลียดจริงๆ! ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าคนเขาไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นเสียหน่อย!” ฝ่ายหญิงส่งเสียงไม่พอใจออกมาต่ำ ๆ ราวกับว่าจู่ ๆ ก็ถูกชนจนมึนงงเข้าอยู่ครู่หนึ่ง เธอส่งเสียงร้องออกมาเสียงแหลมครั้งหนึ่ง ก่อนที่ในลำดับต่อมาจะเป็นสือเพ่ยหลินที่บุกโจมตีอย่างดุเดือดแทน
ด้วยเหตุนี้เอง ภายในห้องนอน เสียงของฝ่ายหญิงก็ยิ่งถี่มากขึ้น แม้กระทั่ง หลานเสี่ยวถางที่อยู่ด้านนอกยังได้ยินเสียงกายที่กระทบกัน และมีเสียงน้ำเฉอะแฉะให้ได้ยินด้วย
ตามต่อมาด้วย สือเพ่ยหลินที่ส่งเสียงหัวเราะขบขันออกมาอย่างชอบใจว่า “เมื่อครู่นี้หาจุดของเธอเจอเข้าแล้วหรือไง? เสียวไหม?”
เขาแทบจะสัมผัสเข้าที่ทางด้านล่างของพวกเขาไปหนึ่งครั้งทันที หลังจากนั้น จึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้งผ่านลำคอออกมาว่า “ที่รักครับ น้ำของคุณไหลออกมาเยอะมากเลยนะ……”
“คุณนี่มัน ร้าย จริงๆ เลย!” ฝ่ายหญิงดูเหมือนว่าอยากจะเอ่ยอะไรออกมาต่อ แต่ทว่า กลับถูกกระแทกกระทั้นอย่างรุนแรงติดต่อกันสองสามครั้งจนไม่สามารถเอ่ยอะไรขึ้นมาได้อีกต่อไปแล้ว หลังจากนั้นจึงตามมาด้วย เสียงหวีดร้องที่เพิ่มระดับสูงขึ้นมาเรื่อย ๆ ภายในห้อง
หลานเสี่ยวถางราวกับว่าถูกติดตั้งให้ตัวแข็งค้างอยู่กับที่ เธอยืนแข็งค้างอยู่ตรงนั้น ภายในสมองขาวโพลนไปหมด
ถึงแม้ จะได้ยินกับหูด้วยตนเอง เธอก็ไม่อยากที่เชื่อ เพราะตนเองกลับบ้านมาอย่างกะทันหัน กลับมาพบเจอเรื่องแบบนี้ของสามี!
ถึงแม้ว่า ก่อนที่พวกเขาจะแต่งงานกันนั้นคบหากันเพียงแค่ไม่ถึงเดือนเต็ม ก็ถูกทางผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจัดแจงให้แต่งงานกันแบบสายฟ้าแลบ
แต่ทว่า ในตอนนั้นสือเพ่ยหลินดีต่อเธอมาก เขาเติบโตมาอย่างหล่อเหลาเอาการ ฐานะทางบ้านก็ดีมาก การกระทำของเขาก็อบอุ่นกับเธอเป็นอย่างมาก ดังนั้น เธอจึงคิดว่า ตนเองนั้นเป็นเจ้าสาวที่มีความสุขที่สุดแล้ว
เป็นเพราะด้วยเหตุนี้เอง ถึงแม้ว่าก่อนวันงานแต่งงานสองสามวันสือเพ่ยหลินประสบอุบัติเหตุ คุณหมอก็บอกมาว่าอาจจะต้องนอนติดเตียงไปตลอดชีวิต แต่ทว่า เธอกลับยังคงแต่งงานกับเขาโดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ เลย ไม่มีพิธีมงคลสมรส ก็แต่งเข้ามาในตระกูลสือเสียแล้ว
เธอแต่งเข้ามา คฤหาสน์ใหญ่มาก เขาไม่ใช้คนรับใช้ ดังนั้นการทำความสะอาดจึงเป็นเธอที่ทำมัน
เขาไม่สามารถเดินเหินได้ สภาพจิตใจไม่ดี เธอก็ตั้งหน้าตั้งตาศึกษาตำราอาหารทำให้เขาทาน ถึงกระทั่งทำอาหารที่เขาชื่นชอบให้ทานด้วย
คุณหมอบอกว่าเขาจะต้องฟื้นฟูสภาพโดยการนวด ดังนั้น เธอก็สมัครเรียนคลาสหนึ่งไปโดยเฉพาะ ถือโอกาสตอนที่เขาพักกลางวัน ไปเรียนนวด เมื่ออดทนมาจนถึงสองปีแล้ว ในที่สุดเขาก็สามารถเดินได้แล้ว
เมื่อหนึ่งเดือนก่อน เขาไปที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกาย การฟื้นฟูกลับมาดีขึ้นมาก ตอนนี้ก็สามารถไปทำงานได้เหมือนคนปกติได้แล้ว
เธอนึกว่า ความพยายามแสนลำบากของเธอสัมฤทธิผลแล้ว แต่ทว่ากลับคิดไม่ถึงเลยว่า ผลสุดท้ายแล้วกลับเป็นอย่างในวันนี้!
ไอ้คนป่วยบนเตียงผู้ป่วยหลังนั้นเป็นเพราะว่าเธอใส่ใจดูแลอย่างละเอียด ประทับใจและดึงมือของเธอขึ้นมา ก่อนจะร้องไห้ไปพลาง และเอ่ยพร่ำบอกไปพลางว่าจะเป็นคนที่ดีต่อเธอไปตลอดชีวิต เมื่อวันเวลาผ่านพ้นไปแล้ว กลับมามีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่นถึงบนเตียงแบบนี้!
ในตอนนี้ สงครามด้านในดูเหมือนว่าจะยิ่งเร่าร้อนขึ้นมากเรื่อย ๆ แล้ว แม้กระทั่งสือเพ่ยหลินก็หายใจหอบอยู่ไม่หยุด เสียงแหบห้าวหนัก ๆ ดังขึ้นมาตลอด
จู่ ๆ เสียงร้องแหลม ๆ เสียงหนึ่งก็ปลุกหลานเสี่ยวถางให้ตกใจตื่น เธอหลุดออกจากภวังค์อย่างมึนงง ร่างของเธอแข็งเกร็งไปหมด หลังจากนั้น จึงสาวเท้ายาวพุ่งเข้าไปที่ด้านในห้องนอน!