บทที่ 2 คุณป้าดูอยู่นะคะ พี่ยังไม่ควบคุมอารมณ์อีกหรือ

ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ

เดิมทีประตูห้องนอนก็ไม่ได้ปิดอยู่เลย เกรงว่าคงไม่มีใครนึกเสียละมั้งว่าจู่ ๆ เธอจะกลับบ้าน ดังนั้น หลานเสี่ยวถางจึงเห็นเหตุการณ์ด้านในภายในตัวห้องทันที

ส้นสูงสีแดงอีกข้างหนึ่งนั้น มันอยู่ที่หน้าประตูห้องนอน พื้นภายในตัวห้องนอนนั้น ตั้งแต่ประตูจนไปถึงเตียง มีเสื้อผ้าตกอยู่บนพื้นระเกะระกะ มีทั้งของฝ่ายชาย มีทั้งของฝ่ายหญิง แสดงให้เห็นอย่างแจ่มแจ้งชัดเจนเลยว่าทั้งสองคนไม่ได้สนใจไยดีมันเลย รีบร้อนจะเกินเหตุ!

เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าทั้งสองคนที่พึ่งทะยานไปจนถึงจุดสุดยอดนั้นคิดไม่ถึงเลยว่าจู่ ๆ หลานเสี่ยวถางจะกลับมา สือเพ่ยหลินยังคงกระตุกเกร็งอยู่บนร่างของฝ่ายหญิงอยู่หลายวินาที หลังจากนั้นจึงหมุนตัวกลับมา และมองหลานเสี่ยวถางด้วยความตกตะลึงเล็กน้อย

ในเสี้ยววินาทีนั้น หลานเสี่ยวถางมองไปที่ใบหน้าของเขาอย่างละเอียดก่อนจะตกตะลึง——และรังเกียจ

ใช่แล้ว รังเกียจ!

เป็นเพราะว่าเขาขมวดคิ้วแน่น นัยน์ตาดำขลับของเขากักเก็บความหงุดหงิดเอาไว้อยู่เล็กน้อย คล้ายราวกับว่าเมื่อก่อนเธอทำอาการที่เขาไม่ชอบทาน ปฏิกิริยาของเขาหลังจากที่ได้มองเห็นมันแล้วเหมือนกันไม่มีผิด!

มาจนถึงตอนนี้แล้ว ความรู้สึกเหมือนถูกฉีกขาดก็ไม่ปานจึงรู้สึกขึ้นมาอย่างช้า ๆ โจมตีเข้าที่จิตใจของหลานเสี่ยวถาง

เธอยืนแข็งค้างอยู่ที่เดิม รอให้ความเจ็บปวดกัดกินทุก ๆ อวัยวะของเธอ

“ทำไมคะ?” ฝ่ายหญิงดูเหมือนว่าจะสัมผัสได้ว่ามันไม่ถูกต้อง ยื่นศีรษะออกมาจากอ้อมกอดของสือเพ่ยหลินออกมาดู เมื่อเห็นหลานเสี่ยวถางยืนอยู่กลางห้อง ก็ส่งเสียง “อ้อ” ออกมาครั้งหนึ่ง

สือเพ่ยหลินยังไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ เขาขมวดคิ้วแน่น หลังจากนั้น จึงค่อย ๆ ถอนร่างออกจากฝ่ายหญิงอย่างไม่เร่งรีบ

หลานเสี่ยวถางมองเห็น การกระทำของสือเพ่ยหลิน ทำให้มีน้ำข้นสีขาวขุ่นไหลออกมาจากหว่างขาของฝ่ายหญิง

เธอรู้สึกว่าภายในหัวใจมีความเจ็บปวดแหลมคมบางอย่างพรั่งพรูออกมา เลือดไหลเวียนขึ้นสู่สมอง ร่างทั้งร่างราวกับว่าจุดไฟขึ้นมา หลานเสี่ยวถางตรงเข้าหาทั้งสองคนไปอย่างงุนงง

เธอที่ขาดสติสัมปชัญญะจึงทำให้มีแรงกำลังมากกว่าปกติ หลานเสี่ยวถางกระชากผ้าห่มที่คลุมอยู่บนตัวฝ่ายหญิงออกมา ยกฝ่ามือขึ้น ก่อนจะฟาดเข้าไปที่ฝ่ายหญิงอย่างไม่ปรานี!

หลังจากนั้น ข้อมือของเธอก็ถูกแรงจากมือหนึ่งหยุดเอาไว้ในทันที ตามมาด้วย มือนั่นผ่อนแรงออกจากข้อมือของเธอ ผลักให้เธอถอยหลังออกไป หลานเสี่ยวถางยืนไม่มั่นคง ถอยหลังออกไปสองสามก้าว

เธอสบตามองสือเพ่ยหลินด้วยความตกใจ ผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง จึงเอ่ยด้วยเสียงสั่นเทาขึ้นมาว่า “เพ่ยหลิน เพื่อมันแล้ว คุณลงไม้ลงมือกับฉันหรือ?!”

คิ้วของสือเพ่ยหลินขมวดเข้าหากันแน่นขึ้น ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา แต่ทว่ากลับหมุนตัวกลับไปโอบกอดฝ่ายหญิงเข้ามาไว้ในอ้อมกอด

ในตอนนี้ หลานเสี่ยวถางจึงมองตามสายตาของสือเพ่ยหลินไป สายตามองไปยังผู้หญิงในอ้อมกอดของเขาอย่างละเอียด

ถ้าหากเป็นโลกของเหลียวจายแล้วละก็ เธอก็คงจะเป็นยัยปีศาจจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่อยู่ในร่างของมนุษย์

เธอดูอายุราวยี่สิบปี ใบหน้าเรียวแหลมตามพิมพ์นิยม ดวงตากลมโต จมูกทั้งโด่งทั้งตรง ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงฉ่ำน้ำ

ที่อยู่ในอ้อมกอดของสือเพ่ยหลินในตอนนี้ ราวกับว่าเป็นลูกนกในร่างคน และคล้ายราวกับว่าหลานเสี่ยงถางเป็นปีศาจที่จ้องจะกินคนอยู่ในหุบเขามืด

หยาดสีใสเม็ดโตในดวงตาของเธอกลิ้งไหลลงมา เธอมุดหน้าลงเข้ากับอ้อมแขนของสือเพ่ยหลินไปพลาง อีกด้านหนึ่งก็ใช้ร่างกายถูไถไปกับแผ่นอกของเขาอย่างแผ่วเบา

บรรยากาศเงียบสงบ หลานเสี่ยวถางสบตามองต่ำตั้งแต่ต้นคอที่เต็มไปด้วยรอยแดงอย่างกับสตรอว์เบอร์รี่ลงไป จนถึงกระดูกไหปลาร้า พร้อมทั้งสบตามองภูเขาหิมะสีขาวโพลนทั้งสองลูกนั้นด้วย

ทั้งกลมทั้งใหญ่มากจริง ๆ หากดึงตัวไปถ่ายโฆษณาชุดชั้นในคงจะดังระเบิดอย่างแน่นอน

อีกอย่างที่ภูเขาสูงนั่น ก็ยังมีร่องรอยสตรอว์เบอรรี่ของสือเพ่ยหลินประดับอยู่ ราวกับว่าเป็นดอกเหมยในวันหิมะตก เป็นดอกไม้ตูมใหญ่ที่ผลิบาน

ตามมาด้วยหญิงสาวที่อิงซบไปอย่างแผ่วเบา หลานเสี่ยวถางมองเห็น ความปรารถนาที่หลับลึกของสือเพ่ยหลินกลับมามีชีวิตชีวาและคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะจู่ๆ หญิงสาวในอ้อมกอดที่เป่าลมใส่แผ่นอกเข้าหรือเปล่า เพียงแต่ว่าในช่วงเวลาวินาทีนั้น ความปรารถนาของเขากลับตั้งตรงขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว

เป็นเพราะว่าฝ่ายหญิงอยู่ในอ้อมกอดของเขา ดังนั้น ความแข็งขืนและร้อนรุ่มก็ทิ่มเข้าที่หน้าขาของฝ่ายหญิงทันที เธอส่งเสียงงอนง้ออย่างโกรธเคืองออกมาครั้งหนึ่ง ก่อนที่ภายในน้ำเสียงจะแฝงไปด้วยสะอื้นต่ำ ๆ ออกมาว่า “พี่เพ่ยหลินคะ พี่……เมื่อครู่นี้พี่ทำให้คนอื่นบวมไปแล้วนะคะ ตอนนี้ยัง……ในนี้ยังมีคุณป้าคนหนึ่งดูอยู่นะคะ พี่ไม่ควบคุมอารมณ์หน่อยหรือคะ!”

คุณป้า?!

หลานเสี่ยวถางรู้สึกเพียงแค่ว่าไฟโทสะภายในหัวใจระเบิดออกมาแล้ว เธอพุ่งเข้าไปหาอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะยกมือขึ้นแล้วทุบตี

เพราะว่าหลานเสี่ยวถางระเบิดโทสะออกมา สือเพ่ยหลินไม่ได้ดึงเธอออกไปในทันที เธอยกฝ่ามือที่เต็มไปด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดขึ้นมาก่อนจะฟาดมันลงไปบนใบหน้าของสือเพ่ยหลิน มีเสียงดังขึ้น ทำให้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งสามคนชะงักนิ่งไปทั้งหมด

“เพี๊ยะ!” หลังจากนั้นสองวินาทีต่อมา หลานเสี่ยวถางรู้สึกว่าบนใบหน้าของตนเองมีความรู้สึกเจ็บแสบเกิดขึ้นมาครั้งหนึ่ง แม้กระทั่ง มีกลิ่นคาวคละคลุ้งออกมาจากใบช่องปาก ร่างของเธอแข็งค้าง ดูท่าแล้วเป็นเพราะว่าตบเธอไปหนึ่งที มือของฝ่ายหญิงนั่นจึงสั่นเทา

หรืออาจจะเป็นเพราะว่าสายตาของหลานเสี่ยวถางรวดเร็วมากเกินไป ฝ่ายหญิงนั่นตกใจจนหดตัวกลับเข้าไปในอ้อมกอดของสือเพ่ยหลิน ก่อนจะชี้นิ้วไปที่หลานเสี่ยวถางแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า “ใครใช้ให้เธอตบพี่เพ่ยหลิน?! ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถรังแกผู้ชายของฉันได้ทั้งนั้น!เขาพึ่งจะฟื้นตัว ก็ถูกเธอตบเข้าให้หนึ่งทีแล้ว ทำไมเธอถึงใจคอโหดเหี้ยมขนาดนี้?!”

“ฉันใจคอโหดเหี้ยม?!” หลานเสี่ยวถางหัวเราะเสียงดัง แต่ทว่าน้ำตากลับไหลลงมาอย่างบ้าคลั่ง “สองปีมานี้ใครกันที่ดูแลเขาไม่ห่าง? ไม่ใช่ฉัน ตอนนี้เขาจะสามารถกลับมายืนได้ไหม?!”

เธอเช็ดน้ำตาไปหนึ่งที ยกยิ้มมุมปากที่มีเลือดสีแดงขึ้นสูง สบตามองไปนังสือเพ่ยหลิน ก่อนจะเอ่ยพร้อมน้ำตาว่า “สือเพ่ยหลิน มันตบฉันขนาดนี้แล้ว คุณยังปกป้องมันอยู่อีก ยังมีจิตสำนึกดีอยู่บ้างไหม?!”