ตอนที่ 16 ขายเม็ดยาเพิ่มความขาว

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

ตอนที่ 16 ขายเม็ดยาเพิ่มความขาว

เมื่อหัวหน้าภาควิชาเดินนำมู่เถาเยาไปที่ห้องเรียน ห้องเรียนที่เอะอะโวยวายเพราะการเปิดเทอมวันแรกก็เงียบลงทันที

ทุกคนมองไปที่นักศึกษาใหม่ข้างๆ หัวหน้าภาควิชาด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น

“เอาล่ะ นักศึกษาทุกคน ด้วยเหตุผลส่วนตัวนักศึกษามู่เถาเยาจะเริ่มมาเข้าเรียนตั้งแต่ภาคเรียนนี้ แต่ไม่ต้องห่วง เธอสามารถตามทันบทเรียนของทุกคนได้”

นักศึกษาหนุ่มสาวหันไปกระซิบกระซาบกัน

“หัวหน้าคะ ฉันอยากนั่งกับเพื่อนร่วมชั้นปีมู่เถาเยาค่ะ”

หญิงสาวร่างสูงโปร่งที่มีผิวสีแทนยกมือขึ้นก่อนจะลุกขึ้นยืนพูดเสียงดัง

เพื่อนร่วมชั้นปีคนใหม่ดูน่ารักและน่าเอ็นดูมาก! เพียงเห็นแวบแรกเธอก็อดรู้สึกอยากปกป้องไม่ได้!

มู่เถาเยาชำเลืองมองไปที่เธอ

หัวหน้าภาควิชาในวัยสี่สิบพูดอย่างร่าเริง “ดูเหมือนว่าเซียวเซียวเพื่อนร่วมชั้นปีของเราจะชอบมู่เถาเยามาก แล้วมู่เถาเยาล่ะ เธออยากนั่งโต๊ะเดียวกันกับเซียวเซียวไหม”

มู่เถาเยาพยักหน้าน้อยๆ ไม่สำคัญว่าเธอจะนั่งกับใคร

เซียวเซียวมีความสุขมาก ไม่รอให้มู่เถาเยาเดินมาถึงโต๊ะเธอก็รีบเดินไปต้อนรับอีกฝ่าย

แววตาของมู่เถาเยาฉายรอยยิ้มเป็นประกายเล็กน้อยออกมา

อาจเป็นเพราะชาติที่แล้วเธอเจอคนหน้าไหว้หลังหลอก ปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอมาเยอะ ในชาตินี้เธอก็เลยได้เจอแต่คนดีๆ

ไม่ว่าจะฉลาดหรือไม่ ไม่ว่าจะมีข้อบกพร่องมากมายแค่ไหน ตราบใดที่อีกฝ่ายไม่เล่นตลกกับเธอ เธอก็ยอมรับได้

ในชีวิตนี้เธอเพียงต้องการใช้สมองเพื่อเรียนรู้ในสิ่งที่เธอสนใจ แทนที่จะต้องระแวดระวังและวางแผนอยู่เสมอ แม้ว่าเธอจะไม่กลัว แต่ก็รู้สึกน่ารำคาญใจ

“สวัสดีมู่เถาเยา ชื่อของเธอเพราะมากๆ เลย! พ่อแม่เธอต้องมีหัวใจของนักกวีแน่ๆ”

“ฉันเป็นเด็กกำพร้า”

“อ๋า…ฉันขอโทษ มู่เถาเยาฉันขอโทษนะ!” แววตาของเซียวเซียวเต็มไปด้วยความเสียใจ

“ไม่เป็นไร ฉันยังมีอาจารย์อีกสองคน และพวกเขาก็เป็นเหมือนกับพ่อแม่ของฉันน่ะ”

แม้ว่านักศึกษาคนอื่นๆ จะไม่เห็นความเศร้าในดวงตาของมู่เถาเยา แต่พวกเขาก็รีบเปลี่ยนเรื่องสนทนาไปเป็นเรื่องอื่น

หญิงสาวในชุดกระโปรงสีขาวแนะนำตัวเอง “สวัสดีมู่เถาเยา ฉันชื่อหวังหมิ่นชิ่น หน้าเธอดูเด็กมากเลยอย่างกับนักเรียนมัธยมต้นแน่ะ ทำไมถึงมาเรียนที่มหา’ลัยแล้วล่ะ”

มู่เถาเยา “ฉันเพิ่งฉลองวันเกิดปีที่สิบแปดของฉันไปนะ”

เซียวเซียว “ฉันอายุสิบเก้าปี มาจากไห่ตู”

หวังหมิ่นชิ่น “ฉันเป็นคนเย่ว์ตูนี่แหละ และฉันอายุสิบเก้าปีแล้ว”

“ฉันชื่อซูจวิ้น คนเจียงตู อายุยี่สิบปี”

“ฉันชื่อหมิ่นชีสยา อายุสิบเก้าปี มาจากเมืองเซิ่งตูซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับเย่ว์ตูนี่เอง”

“ฉันชื่อหยางซี อายุสิบเก้าปี มาจากเมืองหลวง”

“…”

นักศึกษาทุกคนรีบแนะนำตัวเองกับมู่เถาเยา

มู่เถาเยา “…” เธอดูเป็นมิตรงั้นเหรอ เห็นได้ชัดว่าเธอดุจะตายไป!

อนิจจาใบหน้านี้หลอกลวงนักเรียนทุกคนสำเร็จ!

หวังหมิ่นชิ่น “มู่เถาเยาผิวของเธอกระจ่างใสมาก เธอใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวยี่ห้ออะไรเหรอ”

“เซินหัว” ได้โอกาสโฆษณาแบรนด์ตัวเองอีกระลอก!

“เอ๋ ฉันเองก็ชอบแบรนด์นี้เหมือนกัน แชมพูกับเจลอาบน้ำของพวกเขาหอมมาก ราวกับว่ากำลังเที่ยวเล่นอยู่ในป่ายังไงยังงั้น ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของพวกเขาดีขนาดนั้นเลยเหรอ ฉันจะไปซื้อมาใช้บ้าง”

เซียวเซียว “มู่เถาเยา เธอพักอยู่หอไหนเหรอ หาใครสักคนมาแลกหอกับเธอเป็นไง จะได้ย้ายมาอยู่ด้วยกันกับพวกเรา พวกเราจะได้ดูแลเธอได้สะดวก”

“ขอบคุณนะเซียวเซียว แต่ฉันไม่ได้พักอยู่ในหอพักของมหา’ลัย”

“เธอไม่ได้อยู่ในหอพักของมหา’ลัยเหรอ เธอต้องทำงานพิเศษตอนกลางคืนรึเปล่า มีปัญหาอะไรในชีวิตด้วยใช่มั้ย ให้พวกเราช่วยเธอได้ไหม” น้ำเสียงของเซียวเซียวฟังดูมีความกังวลเล็กน้อย

นักศึกษาคนอื่นๆ เองก็พยักหน้าเห็นด้วย ในเวลาเดียวกัน พวกเขาจินตนาการถึงฉากของเด็กหญิงกำพร้าตัวเล็กๆ ที่กำลังล้างจานอยู่ในร้านอาหารเพื่อต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอด บ่อยครั้งยังถูกคนอื่นรังแก ในหัวมีแต่ฉากละครน้ำเน่าเต็มไปหมด

“ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้เดือดร้อนอะไรจริงๆ ขอบคุณทุกคนมากนะ” มู่เถาเยายิ้มไปถึงดวงตาอย่างหาได้ยาก

นักศึกษาทุกคนกลับรู้สึกเป็นทุกข์และกังวลมากขึ้น

ช่างเป็นเด็กสาวที่ดีอะไรขนาดนี้ แต่ทำไมชีวิตของเธอถึงได้ลำบากนัก!

“มู่เถาเยา พวกเราต้องการช่วยเธอจริงๆ นะ”

“ขอบใจนะ แต่ฉันไม่ได้ลำบากอย่างที่ทุกคนคิดหรอก ฉันเปิดร้านค้าออนไลน์และรายได้ก็ไม่เลวเลย”

เงินออมของเธอเพียงพอให้พวกเธอศิษย์อาจารย์สามารถใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายได้ไปชั่วชีวิต

หมิ่นชีสยาอดไม่ได้ที่จะถามออกไป “เธอขายอะไรเหรอ มีของที่พวกเราต้องการรึเปล่า”

หวังหมิ่นชิ่นพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ใช่แล้วๆ ซื้อจากใครไม่ใช่ว่าก็ซื้อเหมือนกันเหรอ”

ทุกคนมองไปที่มู่เถาเยาด้วยสายตาคาดหวัง

มู่เถาเยารู้สึกหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกเล็กน้อย

“ฉันขายยาเพิ่มความขาว ยาลดน้ำหนัก ยาปลูกผม ยาย้อมผมดำ ฯลฯ”

นักศึกษาทุกคนพากันตัวแข็งทื่อ

“อ่า นี่…”

เซียวเซียวเป็นคนแรกที่ตอบสนองกลับมา “ฉันกำลังรู้สึกอยากขาวขึ้นพอดี…”

มู่เถาเยาพิจารณามองอีกฝ่ายอย่างละเอียด ก่อนจะพูดว่า “โครงหน้าของเธอสวยมากอยู่แล้วและผิวของเธอก็มันเงาดูมีน้ำมีนวล เข้ากันกับผิวสีแทนของเธอ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องปรับให้ขาวขึ้นหรอก แค่ทาครีมกันแดดทุกวันและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวก็พอแล้วล่ะ”

ไม่ใช่ว่ามีแค่ผิวขาวเท่านั้นที่จะสวยได้ ถ้าคุณมีผิวสุขภาพดี ไม่ว่าจะผิวขาว ผิวเหลือง หรือผิวดำ ก็สวยได้ทั้งนั้น

จริงๆ แล้วมาตรฐานในการมองคนของมู่เถาเยาไม่ได้สูง แค่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงก็งดงามมากแล้วในสายตาของเธอ

เซียวเซียวที่จู่ๆ ก็ถูกชมรู้สึกเขินอายเล็กน้อย

หวังหมิ่นชิ่นรีบดึงเซียวเซียวออกไป แทรกตัวเข้าไปยืนระหว่างคนทั้งสองแล้วถามออกไปว่า “เยาเยา เยาเยา แล้วฉันล่ะ ฉันล่ะ เหมาะกับการมีผิวขาวรึเปล่า”

ผิวของเธอมีสีออกเหลืองเล็กน้อยและเธอก็มีรูขุมขนกว้าง

“เธอสามารถลองใช้ยาเพิ่มความขาวได้ แต่ให้ปรับสมดุลภายใน ขจัดสารพิษในร่างกายออกมาก่อนเริ่มการใช้ยานะ แบบนี้แล้วผลของการใช้ยาเพิ่มความขาวก็จะยิ่งเห็นผลเร็วขึ้น” อย่างไรเสียความจริงที่ว่า ‘ขอเพียงมีผิวขาวก็ปกปิดความอัปลักษณ์หลายร้อยจุดบนร่างกายได้’ ก็ยังมีส่วนที่สมเหตุสมผลอยู่

ไม่ใช่ทุกคนจะดูดีเมื่อมีผิวขาว แต่บางคนก็ดูดีกว่าจริงๆ เมื่อมีผิวที่ขาวขึ้น

หมิ่นชีสยาสัมผัสเส้นผมที่ยาวและดำขลับเงางามของมู่เถาเยา พูดขึ้นอย่างอิจฉาว่า “เยาเยา ฉันต้องการยาปลูกผมดำ!”

ผิวของเธอไม่มีปัญหาใหญ่และใบหน้าของเธอก็ดูดีอยู่แล้ว ความไม่พอใจเพียงอย่างเดียวที่เธอต้องการแก้ไขก็คือเส้นผมที่แห้งกร้านและไม่หนาพอของเธอ

หวังหมิ่นชิ่นนั่งไม่ติดแล้วเหมือนกัน “ชีสยา เข้าแถวมาทีละคนสิ! เยาเยา บอกวิธีล้างพิษให้ฉันหน่อยได้ไหม ฉันจะทำตามที่เธอบอกทุกอย่างเลย”

“ถ้าเธอเชื่อใจฉัน ฉันจะเขียนใบสั่งยาให้ และหลังจากกินไปได้เจ็ดวัน เธอจะขับสารพิษทั้งหมดในร่างกายออกมา แน่นอนว่ามันจะไม่ทำให้เกิดอาการปวดท้องและท้องเสีย เธอสบายใจได้”

“ได้ๆๆ งั้นเธอรีบเขียนให้ฉันเดี๋ยวนี้เลย”

มู่เถาเยา “…” เธอไม่สงสัยสักนิดเลยเรอะว่าทำไมเด็กสาวอายุสิบแปดปีถึงสามารถเขียนใบสั่งยาได้? มันเป็นเรื่องง่ายมากขนาดนี้เชียวที่จะสร้างความไว้ใจกัน?

หมิ่นชีสยา “ถึงตาฉันแล้ว! เยาเยา ร้านค้าออนไลน์ของเธอชื่ออะไร ยาปลูกผมดำและยาลดความอ้วนเหมาะกับฉันไหม”

“กินได้หมดไม่มีผลข้างเคียง อย่างไรก็ตามฉันเห็นว่าผิวของเธอค่อนข้างจะแตกต่างจากวัยรุ่นทั่วไป ทำไมเธอไม่ลองให้ฉันจับชีพจรดูสักหน่อย”

เพื่อนร่วมชั้นพากันตกตะลึงอีกครั้ง

เซียวเซียว “เยาเยา เธอรู้ทักษะแพทย์โบราณเหรอ”

“อืม”

“งั้นแล้วทำไมถึงเลือกเข้าคณะนิติเวชศาสตร์ล่ะ”

“การเรียนรู้ในหลายๆ ด้านก็เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่เหรอ”

“…”

มู่เถาเยานั่งลง หยิบหมอนรองชีพจรออกมาจากกระเป๋าของเธอ ขยับให้หมิ่นชีสยานั่งลงในอีกด้าน และบอกให้เธอวางข้อมือลงบนหมอนรองชีพจร

“เธอมีอาการเบื่ออาหาร มีกรดไหลย้อน และคลื่นไส้อาเจียนบ่อยใช่รึเปล่า นอกจากนี้ยังชอบมีอาการปวดท้องแบบตื้อๆ แม้กระทั่งกระดูกหน้าอกก็ยังปวดด้วยใช่ไหม”

นักศึกษาทุกคนหันไปจ้องหมิ่นชีสยาโดยพร้อมเพรียงกัน

ทุกคนสังเกตเห็นว่าที่หน้าผากของหมิ่นชีสยามีเหงื่อเย็นๆ ผุดซึมออกมา

“เยาเยา ฉันป่วยเป็นโรคอะไรเหรอ อย่าทำให้ฉันตกใจสิ! พ่อแม่มีฉันเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวนะ”

“แค่ระบบย่อยอาหารไม่ดีเท่านั้นแหละ ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร หาเวลาไปตรวจสุขภาพที่แผนกระบบทางเดินอาหารของโรงพยาบาลผิงคังสักรอบนะ”

“เธอรักษาฉันไม่ได้เหรอ ฉันจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้เธอเอง”

มู่เถาเยาเงียบไปครู่หนึ่ง “ฉันไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม”

นักศึกษาทุกคนจึงกลับมามีสติสัมปชัญญะอีกครั้ง

นั่นสิ นี่คือเพื่อนร่วมชั้นของพวกเขา! เป็นเพื่อนร่วมชั้น! ไม่ใช่หมอ!

หัวข้อการซื้อของจากร้านค้าออนไลน์กลายเป็นคำปรึกษาทางการแพทย์ได้อย่างไร

สีหน้าของทุกคนดูว่างเปล่าและสับสน