ตอนที่ 19 สงคราม ณ ดินแดนที่สูญสิ้น 3

ผู้กล้าคนก่อนอยากจะเกษียณ

ด้านกองทัพของมนุษย์  เจ้าหญิงลัคซีเรีย เจ้าชายลำดับที่สองแห่งวาแลนเชล และซิลเวียจักรพรรดินีแห่งลีซาเรี่ยน กำลังเรียงแถวกันอยู่บนหลังม้า

 

[ แม้จะยอมให้อัศวินลีออนฮาทติดตามไปกับเหล่าผู้กล้าด้วย แต่ก็ต้องขอบคุณที่ให้พี่ชายโง่เง่า อูลกาโล ลงสนามรบด้วยเช่นกัน ดูเหมือนการโจมตีนี้จะต่อเนื่องแบบไม่มีการหยุดพัก แม้ว่าทหารที่มาจากกิลด์ของลัคซีเรีย ชุดพวกเขาช่างดูแปลกประหลาด แต่ดูจากฝีมือแล้วพวกเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าทหารทั้งหมดเลย ถ้าหากพวกเรายังคงระดับนี้ไว้ได้ ชัยชนะต้องเป็นของพวกเราแน่นอน ]

 

ชายผมแดงใส่แว่นดูท่าทางฉลาดหันสายตาตัวเองไปยังเจ้าหญิงที่นั่งอยู่บนหลังม้าสีเทาและจักรพรรดินีผู้มาจากอาณาจักรเวทย์มนต์ที่ใหญ่ที่สุด

เขาขี่ Kulel มันเป็นนกหายากชนิดหนึ่งที่วิ่งอยู่บนพื้นดิน มันมีปีกสีขาวบริสุทธิ์ และนั้นมันทำให้ซิลเวียถึงกับยิ้มแห้งๆ

 

[ ลีออนฮาทได้รายงานมาว่า เหล่าผู้กล้านั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเด็กผู้ชายคนนั้น อามากิ ไคโตะ ผู้ซึ่งเคยเข้าไปยัง “เขาวงกตแห่งกาลเวล” ที่ถูกค้นพบโดย “แม่มดแห่งกาลเวลา” และที่นั้นยังสามารถเรียนรู้พลังของมังกรจากมังกรโบราณที่อาศัยอยุ่ในนั้น ชั้นรู้มาว่าผู้กล้าคนก่อนเขาไม่มีมานาเลยสักนิด ดังนั้นผู้กล้าคนปัจจุบันจะมีมานามหาศาลไปได้อย่างไร แต่จากที่ฟังพวกทหารพูดกัน มันทำให้แน่ใจได้ว่ามันเป็นความจริง แล้วก็อีกอย่าง การที่พี่ชายของคุณ ผู้ถูกเรียกว่า ”จักรพรรดิแห่งหมัด” นั้นวิ่งเข้าสู่สนามรบมันทำให้เขาช่างดูเป็นเจ้าชายที่กล้าหาญนัก . . ชั้นเองก็หวังว่าจะเข้าร่วมการต่อสู้ด้วยเช่นกันถ้าหากไม่ถูกคนเหล่านี้หยุดเอาไว้ซะก่อน . . ]

 

ขณะที่จักรพรรดินีพูดออกมา 

มันทำให้เจ้าหญิงลัคซีเรียหัวเราะออกมานิดๆ

 

[ แม้คุณผู้ถูกเรียกว่า เจ้าหญิงอัศวิน ผู้ซึ่งเคยต่อสู้เคียงบ่าเคียงใหล่กับท่านผู้กล้าคนก่อน แต่ชั้นคิดว่า พวกเราไม่ควรอนุญาตให้คุณผู้ซึ่งเป็นถึงจักรพรรดินีเจ้าร่วมสนามรบหรอกนะคะ ]

 

ถึงเหล่าผู้นำแต่ละอาณาจักรจะพูดด้วยอารมณ์ที่ดูสงบ บางทีอาจเพราะพวกเขาต้องใกล้ชิดผู้คนบ่อยๆ แต่สำหรับพวกเขาแต่ละคนแล้ว ตอนนี้พวกเขาต่างระวังซึ่งกันและกันเองอย่างที่สุด . .

ซิลเวีย จักรพรรดินีของอาณาจักรลีซาเรี่ยน อาณาจักรที่เป็นสุดยอดด้านเวทย์มนต์ เธอเคยจัดการจอมมารพร้อมกับผู้กล้ามาแล้ว ถ้าหากวัดความสามารถของเธอในหมู่มนุษย์ด้วยกัน เธอถือได้ว่าอยู่ในระดับสูงมากเลยทีเดียว

เจ้าหญิงลัคซีเรีย ไอริส ผู้ที่อาจจะกำลังจะสร้างสงครามขนาดใหญ่ขึ้นเนื่องจากการอัญเชิญผู้กล้า เธอเป็นผู้หญิงที่มีพรรสวรรค์และเรียนรู้ทักษะลับมาจากราชาองค์ก่อนที่กำลังป่วยอยู่ในตอนนี้ สำหรับคนทั่วไปนั้นการที่จะไปถึงระดับ master นั้นต้องใช้เวลาถึง 10 ปี แต่เธอกับใช้เวลาเพียง 2-3 ปีเท่านั้น

อาณาจักรนี้เป็นที่รู้จักในการอัญเชิญผู้กล้า 

จึงกล่าวได้เลยว่าเป็นอีกหนึ่งอาณาจักรที่แข็งแกร่งไม่แพ้อาณาจักรอื่น. . 

สำหรับเจ้าชายลำดับที่2แห่งอาณาจักรวาแลนเชล ลูซาชิล เขาเป็นบุคคลที่โดดเด่น

และดูเหมือนเขาจะดูแลพี่ชายตัวปัญหาของเขาอีกด้วย

เขามีความสามารถในด้านการบริหารมากกว่าพี่ชายของเขา

และเขายังเรียกพี่ชายของเขาผู้ที่จะกลายเป็นราชา ว่า โง่เง่า อีกด้วย

พวกเขาเหล่านี้กำลังคิดว่าตอนนี้อยู่ในสนามรบ 

จึงต้องระมัดระวังคำพูดของตนเพื่อที่จะได้ไม่สร้างศัตรูของตนเพิ่ม . .

ซิลเวียตอนนี้กำลังคิดถึงเรื่องขององครักษ์ส่วนตัวของเธอ ลีออนฮาทและทหารของอาณาจักรเธอ และอีกเรื่องที่สำคัญคือ เรื่องของกลุ่มชายหญิง ที่อาจจะมาจากเมืองเดียวกับผู้กล้าคนก่อน. . .

ลูซาชิล เขากำลังทำตัวน่าเคารพทั้งที่เขากำลังด่าพี่ชายของตนอยู่ในใจ 

และ . .

เจ้าหญิงลัคซีเรีย กำลังคิดเกี่ยวกับ “ขั้นต่อไป” ของเหล่าผู้กล้า

สงคราม ณ ดินแดนแห่งความสูญสิ้น 

เพิ่งจะเริ่มต้นได้ ไม่กี่ชม . .

แม้การต่อสู้นี้จะเกิดขึ้นแบบไม่มีหยุดพักจะทำให้รู้สึกเป็นกังวลอยู่บ้าง 

ทางด้านฝั่งมนุษย์นั้น ภาพของการต่อสู้ในจุดสำคัญที่กำลังเกิดขึ้น 

มันเพิ่มกำลังใจที่ดีเยี่ยมให้แก่พวกเขา . . 

อามากิ ไคโตะ ผู้กล้าคนปัจจุบัน ตอนนี้เขากำลังต่อสู้อยู่ในจุดสำคัญนั้น 

และเขากำลังกวัดแกว่งดาบของเขาเพื่อสังหารเหล่าศัตรูให้สิ้นซาก .  . .

 

——————–

 

[ โอ้วววว ]

 

ทันทีที่เขาเหวี่ยงดาบ มันเห็นเพียงแค่เส้นแสงที่วิ่งผ่านเท่านั้น พร้อมกับร่างของมอนเตอร์ที่ถูกหั่นเป็นชิ้นเหลือเพียงเลือดที่สาดกระจายไปทั่ว . . 

 

[ Fire Bolt!! ] 

 

สำหรับเหล่ามอนเตอร์ที่ไม่ถูกเขาตัดเป็นชิ้นๆ 

เขาจะยิงกระสูนไฟใส่พวกมัน แน่นอนพวกมันทะลุไปยังมอนเตอร์ตัวถัดๆไปด้วย . .

 

[ ผมทำมันได้ ผมสามารถสู้มันได้!!! ]

 

ขณะที่เขาใช้การเสริมร่างกายด้วยพลังเวทย์มนต์ ไม่เพียงแค่มอนเตอร์ชั้นต่ำ แม้แต่เหล่ามอนเตอร์ชั้นสูงก็ไม่อาจตามความเร็วของเขาได้ทัน ศพของเหล่ามอนเตอร์กำลังทับถมกันสูงขึ้นเรื่อยๆ และนี่เป็นหลักฐานอย่างดีในพลังเวทย์ที่มีมากมายในตัวเขา . . .

“ดาบพลังเวทย์” มันคือเทคนิคที่นำมานามาห่อหุ้มไว้ที่ตัวดาบ มันทำให้ดาบยาวขึ้นและเพิ่มความคม นั้นเป็นท่าเดียวกับที่ผู้กล้าคนก่อนมีติดตัวมาด้วย . . .

แต่เดิมแล้วมันเป็นอุปกรณ์เวทย์มนต์ที่ถูกคิดค้นขึ้นโดยการสลักมนต์ดำลงไปที่อาวุธและมันจะทำงานก็ต่อเมื่อได้มานารอบๆตัวมัน. . .

แต่ตอนนี้อามากิ ไคโตะ เขาใช้มานาของตัวเองเพื่อกระตุ้นให้มันทำงาน ซึ่งมันทำให้ดาบธรรมดานั้นเกิดความคมเป็นอย่างมาก

 

[ รับไปซะ [Flaming Sword] ]

 

เพราะสิ่งนี้ มันทำให้ท่าของเขาช่างแตกต่างจากดาบพลังเวทย์ธรรมดาเป็นอย่างมาก

เพราะเขามอบพลังของตัวเองเพื่อเพิ่มความสามารถของดาบ

 

[ Daah! ]

 

แต่ทว่า เหล่ามอนเตอร์ไม่ได้ถูกจัดการลงแต่อย่างใด มันมีเพียงรอยดาบที่ติ้นเกินไปที่จะเอาชีวิตศัตรูเหลือทิ้งไว้เท่านั้น

 

[ หึ ]

 

และทันใดนั้นเอง ตอนที่เขาฟันไปถึงตัวสุดท้าย จากรอยแผลที่เขาสร้างไว้ มันกับเกิดระเบิดออกมา

มันไม่ใช่แต่เพียงมอนเตอร์เหล่านั้นที่ถูกระเบิด มอนเตอร์ที่อยู่ข้างเคียงก็ถูกแรงระเบิดไปด้วย แค่จุดนั้นจุดเดียว มอนเตอร์มากมายตอนนี้ได้กลายเป็นเพียงแค่ศพ . . .

 

[ อย่ามาขวางนะ—— ]

 

ดาบในมือของเขาตอนนี้มันห่อหุ้มไปด้วยพลังเวทย์สีแดงส่องสว่าง 

และทันใดนั้น เขาได้ออกวิ่งอีกครั้ง

ตามทางที่เขาวิ่งไป มันเหลือทิ้งไว้เพียงเหล่ามอนเตอร์ที่ตายเป็นใบไม้ร่วง . . .

 

[ “Lighnting Swift Sword” ]

 

ดาบสีแดงเพลิงของเขาตอนนี้ได้เปลี่ยนสีไปในทันที . . 

 

[ ย๊ากกกก ]

 

เมื่อเขาเหวี่ยงดาบเวทย์สายฟ้าสีม่วงออกไป

มันตัดผ่านไปยังเหล่ามอนเตอร์ที่มีเกราะอันแข็งแกร็ง 

มันเป็นหมีที่ร่างกายเป็นน้ำแข็งขนาดยัก

และพวกมันได้พลังทลายลงในแทบจะทันที . . .

 

[ พวกแกอย่าคิดว่าแค่นี้จะหยุดผมได้หรอกนะ!! ]

 

มันไม่มีความหมายอะไรที่จะต้องสู้กับพวกแมลงวันเหล่านี้ 

เขาได้พุ่งตรงไปที่นั้น 

ที่ที่มังกรขนาดยักอยู่ 

ที่ที่มี ระดับดยุค รออยู่ที่นั้น

 

[ ถ้ากระนั้น ข้าจะแสดงให้แกดูเองว่าข้าสามารถหยุดแกลงได้ ]

[ !? ]

 

ในขณะที่เสียงนั้นตอบกลับมาหา ไคโตะ ก็เกิดมี ช็อคเวฟพุ่งตรงมาโจมตีเขา . . 

 

[ “เกล็ดมังกร!!” ]

 

มันทำงานในทันที. . .

เวทย์มนต์ป้องกันที่ได้รับจากมังกรในตำนาน

เกราะป้องกันที่ดูราวคล้ายกับเกล็ดได้เข้ารับการปะทะนั้น . . 

 

[ ฟุมุ ยอดเยี่ยมมากที่ยังยืนอยู่ได้หลังจากโดนการโจมตีของข้าไป ]

 

หลังจากการโจมตีด้วยช็อคเวฟจบลง 

ร่างนั้นก็ได้ปรากฎขึ้นตรงหน้าของไคโตะ

 

[ แกเป็นใครกัน . . ]

 

เมื่อไคโตะตะโกนออกมา 

เขาคนนั้นได้ยิ้มกว้างออกมา . . 

 

[ ข้าเป็นปีศาจ ระดับ เค๊าท์ รู้จักในนาม เดลลาเมลท์ “จอมหมัด” ]

 

ผู้ชายที่โผล่ออกมาเขามีรูปร่างใหญ๋โต 

บอกได้ว่าเขาสูงทะลุ 2 เมตรแน่นอน 

ผิวของเขาเป็นสีน้ำเงินอ่อน 

และแน่นอน เขามี 4 แขน . . .

 

[ เผ่าปีศาจ!!! ]

[ ฟุฟุ พวกผู้กล้าคนนี้มันหยาบคายอะไรเช่นนั้น ทั้งๆที่ข้าประกาศชื่อออกไปแล้วแท้ๆ แกยังไม่ประกาศชื่อของแกออกมาอีก . .  ]

[ !? ]

 

เดลลาเมลท์แสดงให้เห็นว่า เขาจะยอมให้ไคโตะฟันเขาด้วยดาบเวทย์มนต์เพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่เขาแอบโจมตีไคโตะ . .

 

[ . . ฟุฟุ อย่างไรก็ตาม แกก็ไม่ได้มารยาทแย่เท่าไอ้คนก่อนหรอก ไอ้หมอนั้นมันนักรบคลั่งโดยแท้ หมอนั้นมันโจมตีเข้ามาก่อนที่เราจะได้ประกาศชื่อซะอีก —หือ? ]

 

คำพูดที่ดูเหมือนสุภาพบุรุษนั้นมันดูไม่เข้ากับรูปร่างใหญ่โตของเขาเลย 

แต่การพูดนั้นก็ถูกขัดจังหวะโดยการระเบิดที่ลอบโจมตีเดลลาเมลท์

 

[ เพราะเขาเคยพูดไว้ว่า . . มันไม่มีเหตุผลที่จะต้องตอบคำถามพวกนั้น อีกความหมายหนึงก็คือ . . การทำอะไรแบบพวกชนชั้นสูงนั้น มันเสียเวลา ]

[ –คุณ คือ . . ]

 

เมื่อไคโตะหันหลังกลับไป 

เขาก็ผมกับชายผู้สวมชุดเกราะเวทย์สีคราม 

กำลังนั่งอยู่บนนกสีดำที่ดูราวกับเป็นลูกไก่ขนาดยัก . .

 

[ ผมถูกเรียกว่า ลีออนฮาท คราสัน กรุณาให้ผมเป็นกำลังให้คุณ ]

 

 พร้อมกับคำตอบเหล่านั้น .ด้วยมือของเขาที่กำลังจับบังเหียนส่วนอีกข้าง ถือดาบยาวไว้ในมือ เขาเผยรอยยิ้มออกมาที่ทำให้แม้แต่เพศเดียวกันก็ต้องหลงเสน่ห์ 

 

[ —- เอ่ออ ผมคิดว่าแขนพวกนั้นโดนตัดไปแล้วซะอีก . . ]

[ แก!! ลีออนฮาท แกกล้าดียังไงเข้ามาสอดในการดวลของพวกเรา ]

[ แกกล้าพูดออกมาได้ทั้งๆที่แกเองก็โจมตีตั้งแต่การดวลยังไม่เริ่มขึ้นแท้ๆ และที่สำคัญที่สุด แขนพวกนั้นมันอะไรกัน  . . มันงอกใหม่ได้หรอ? ]

[ ข้าแค่สร้างมันขึ้นมาใหม่ . . . ตอนแรกข้าแค่หงุดหงิดกับไอ้ผู้กล้าคนนี้ แต่ตอนนี้มันต้องรวมแกเข้าไปด้วยแล้ว ]

[ นั้นก็ถือว่าเป็นปัญหาจริงๆ .. .ท่านผู้กล้าขอรับ ได้โปรดใช้เวทย์มังกรในตำนานอีกครั้งทีขอรับ ]

[ อุว้าาา นายกำลังจะทำอะไรเนี้ย ]

 

ขณะที่เดลลาเมลท์ยกแขนทั้ง4ข้างขึ้นเหนือหัว  

ลีออนฮาทได้ขี่นกของเขามาใกล้ๆไคโตะ ในระหว่างที่การโจมตีกำลังจะพุ่งมาที่เขา

 

[ Demon General’s Thousand fierce Fist ] (TL: ชื่อท่าตัวประกอบขี้เกียจแปล อะไร! นะจะให้แปลเรอะ เอาเป็น “หมัดปืนกลยางยืด” ละกัน)

[ ตอนนี้ขอรับ ]

[ นายกำลังใช้ชั้นเป็นโล่ใช่ไหม บ้าเอ้ย “เกล็ดมังกร” ]

 

หมัดที่ถูกปล่อยออกมานับไม่ถ้วยของเดลลาเมลท์ที่ดูราวกับว่าเขากำลังระเบิดความโกรธไปยังผู้ที่อยู่หลังเกราะป้องกันเหล่านั้น

 

[ รูปแบบ แทง—-! ] 

[ !? ]

 

การสวนกลับของดาบยาวที่อาศัยช่องว่างของการโจมตี

มันพุ่งตรงไปยังหัวใจของเดลลาเมลท์ . . .

 

[ อึก . .แก และ ไอ้ผู้กล้า . . บ้าเอ้ย !! ]

[ นี่ครับท่านผู้กล้า รบกวนถือมันไว้สักครู่ขอรับ ]

 

เพราะว่าการโจมตีนั้นเดลลาเมลท์ยังไม่ถึงกับตาย และดูเหมือนมันกำลังจะรักษาตัวเอง 

ลีออนฮาทจึงลงไปฟันเดลลาเมลท์ซ้ำ. .

 

[ ตุบ ] 

 

มันเป็นเสียงแขนทั้ง4 ของเดลลาเมลท์ร่วงลงสู่พื้นพร้อมกับร่างของเดลลามอลท์ก็สลายหายไป . . .

 

[ ฟู. . . โดยปกติแล้วพวกมันไม่เคยตายเลย สุดท้ายแล้วยังไงพวกมันก็หนีไปรักษาแผลอยู่ดี เพราะอย่างงั้นพวกเราจึงไม่มีทางฆ่าพวกมันได้ ทำได้อย่างดีที่สุดก็แค่เพิ่มเวลาที่มันต้องรักษาตัวก็เท่านั้น . . . ยิ่งพวกดยุคแล้วใหญ่ มันเป็นพวกที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นอมตะ . . มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสู้กับพวกที่มีความสามารถแบบนั้นขอรับ . . ]

[ พวกมัน– นายจะบอกว่าไม่มีทางฆ่ามันได้สินะ? มันต้องไม่เป็นแบบนั้น ผมจะแสดงให้ดู ]

[ ที่จริงก็มีวิธีที่จะจัดการพวกมันอยู่ แต่มันพิเศษเล็กน้อย . . . แต่ผมก็ไม่คิดที่จะบอกเรื่องนั้นกับคุณหรอกขอรับ เพราะคุณถลำลึกเกินไปแล้ว ได้โปรดเข้าใจและให้ความร่วมมือด้วย ]

 

ลีออนฮาทขึ้นไปขี่นก ที่ไคโตะกำลังจับไว้ให้อยู่ . . 

 

[ ผมจะแพ้ไอ้ 4 แขนตะกี้นี้ นั้นคือความหมายที่คุณพยายามจะบอกสินะ ]

[ ไม่ครับ ผมไม่ได้คิดแบบนั้นทั้งหมดซะทีเดียว แม้ในหมู ระดับ เค๊าท์ มันเป็นบุคคลหนึ่งที่ถือได้ว่าอยู่ระดับต้นๆ แต่ก็นะ บางคนที่คล้ายๆกับผมก็สามารถจัดการเขาลงได้เพียงแค่ต้องใช้สมองกับความกล้าหาญนิดหน่อย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผมคิดในตอนนั้นเหนือสิ่งอื่นได เวลานั้นมีค่ามาก และการที่จะจัดการเขาให้รวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้นั้นจำเป็นต้องใช้พักพวก และผลของมันจะออกมาได้อย่างดีที่สุดขอรับ ]

 

ในขณะที่ ลีออนฮาทกำลังพุดออกมา เจ้านกนั้นก็งัดไคโตะโยนขึ้น. . 

 

[ อุว้าาา!! ]

[ ถ้าคุณยิ่งเสียเวลากับเจ้านั้นนานเพียงได นั้นก็หมายความว่าเราจะต้องเสียทหารไปอีกหลายคนในขณะนั้น นั้นคือเหตุผลหลักที่เราจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงขอรับ ]

 

ไคโตะตกลงมานั่งลงที่ใหล่ของลีออนฮาท . . .

 

[ มองดูภาพเหล่านั้นสิ . . .  มันเป็นคำพูดที่ถูกพูดโดยท่านผู้กล้าคนก่อน . .ถ้าหากคุณเป็นผู้กล้าล่ะก็ ได้โปรดช่วยชีวิตทหารพวกนั้นด้วยเถิดขอรับ ไม่สิ ช่วยประเทศนี้ด้วยเถิด ]

ขณะที่ลีออนฮาทกล่าวออกมาพร้อมมองด้วยสายตาที่จริงจัง 

ไคโตะได้แต่เงียบและพยักหน้าเล็กๆ

 

[ . . ฟุฟุ เอาล่ะ ไปกันเถอะขอรับ ทำตัวให้สบายๆนะ กรุณาอย่าอ๊วกใส่ใหล่กระผม มันค่อนข้างจะเร็วนิดนึง ]

[ ไม่มีทาง ที่ผมจะป่วยเพราะขี่หลังหรอกน่า ]

[ คุณต้องห้ามดูถูกการขี่หลังนะขอรับ มันอาจจะทำให้คุณตายได้เลย ]

[ ไม่จริง ใครกันจะตายเพราะขี่หลัง!! ]

 

ขณะที่ทั้งคู่นั่งบนนกเพื่อไปยัง ฐานของศัตรู. . 

 

[ ไวส์ นายเร็วกว่านี้ได้รึปล่าว ]

[ไปที่ใหนล่ะ ]

[ มัน , มันพูดได้ !!! ]

 

นกนั้นที่ถูกเรียกว่า ไวส์นั้นได้ตอบลีออนฮาทกลับมา. . 

 

[ ถ้าเขาดวลกับ กลาเครียสต้า มันมีโอกาสที่จะชนะรึปล่าว ]

[ โยสส . . .คำตอบคือไม่ เราไม่ควรไปทางนั้นเลย เพื่อนยาก ]

 

ขณะที่ไวส์ตอบกลับมานั้น ก็มีพายุ โจมตีที่พวกเขา . . 

 

[ แย่ล่ะ เขาเห็นเราแล้ว ก่อนที่พวกเราจะลงมือ ]

[ ลมนี้ . . มันถูกสร้างขึ้นมาด้วยพลังเวทย์ ]

 

ไคโตะได้ดีดตัวออกมาจากนกสีดำ 

เขาได้ดึงดาบพลังเวทย์ของเขาออกมา . 

 

[ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ดูเหมือน กลาเครียสต้าจะไม่มีโชคเลยแหะ ดูสิ เหมือนจะมีแค่ข้าคนเดียวที่ถูกรางวัลชิ้นใหญ่ ]

[ แก!! ]

 

ดาบแสงนั้นได้พุ่งตรงเข้าหาปีศาจเด็ก 

แต่ดูเหมือนว่ามีอะไรบางอย่างขวางกันมันเอาไว้ 

ทำให้ดาบเวทย์นั้นเขาไม่ถึงตัวเด็กชาย

 

[ อ้อ แกสินะผู้กล้าคนใหม่ที่อัคนีร่าเคยพูดไว้ อุฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ไม่ต้องกลัวไป ข้าไม่ทำอะไรที่น่ากลัวอย่างเผาแกให้ตายทั้งเป็น หรือ แช่แกไว้ในน้ำแข็งหรอก ข้าก็แค่อยากจะหันแกเป็นชิ้นๆเท่านั้นเอง . .  ]

 

ปีศาจเด็กที่ถูกล้อมรอบด้วยพายุ 

ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความปิติยินดีของมันได้เผยออกมา . . .

 

——————

 

[ มันพลังอะไรกัน . . .  นี่คือ ระดับ ดยุคหรอ !! ]

 

ไม้เท้าที่ถูกถือด้วยเด็กผู้ชาย ผู้กำลังสร้างบาเรียป้องกันการโจมตีจากพายุน้ำแข็ง. .

 

[ ฮ่าาา นี่มันบ้าอะไรของยัยนั้น  . . .ยัยนั้นแข็งแกร่งมากทั้งการต่อสู้ระยะประชิด แถมพลังเวทย์ของเธอยังแข็งแกร่งพอๆกับ อากิระเลย . .ชั้นยิ่งรีบอยากออกไปหาไคโตะอยู่ด้วย ]

 

ภายในเกราะป้องกันที่ถูกสร้างขึ้นคล้ายๆกับโดม มีรอยแผลที่แก้มและแขนของเธอ เสื้อผ้าของเธอขาดอีกหลายแห่ง อาคาเนะตอนนี้กำลังจ้องไปทาง กลาเครียสต้าด้วยสายตาแห่งความเกลียด

 

[ ไม่ ยัยนั้นยังไม่เอาจริงเลยด้วยซ้ำ . . . ในตอนนี้มันเหมาะสมที่จะคิดแบบนั้น ]

 

ซาคุยะกล่าวออกมาโดยที่ไม่สนใจชุดกิโมโนของเธอ ที่ตอนนี้มันแทบจะขาดเป็นชิ้นๆ

แต่ถึงกระนั้น เธอก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร

 

[ มันคงจะเป็นอย่างที่ ซาคุยะซัง พูด . . แสดงว่าการโจมตีของมันมีจุดประสงค์เพื่อจะลดทอนพลังเวทย์ของพวกเราสินะ ]

 

อากิระตอบกับไปขณะที่กำลังยืนมองเหล่ามอนเตอร์ถูกพายุพัดขึ้นไปบนฟ้า . .

 

[ . .อย่างน้อยถ้าหากเราเอาหล่อนลงมาที่พื้นได้ล่ะก็ . . แค่ที่เดียว— ]

 

ขณะที่ อาคานะกำลังพึมพัมอยู่ ชายร่างยักผู้มีผมสีแดง ก็ได้ต่อย กลาเครียสต้าร่วงลงมาจากบนฟ้า . . . มันเกิดขึ้นพร้อมกับตอนที่เธอกำลังบ่นเลยทีเดียว

 

[ หาาาาา! ]

 

พายุน้ำแข็งได้หายไปในทันที 

พร้อมกับกลาเครียสต้าที่พัดควันทรายที่ฟุ่งขึ้นมาโดยช็อคเวฟของเธอ

 

[ เอาล่ะ ไอ้กระจอกคนใหน บังอาจเอาข้าลงมาที่พื้นกัน? ]

 

คำพูดที่เต็มไปด้วยจิตสังหารนั้น มันทำให้ อาคาเนะและพักพวกไม่สามารถขยับตัวได้. .

ในตอนนั้นเอง เจ้าชายที่ยืนอยู่บนพื้นกับหัวเราะดังสนั่นอย่างไม่เกรงกลัวขึ้นมา . .

 

[ ระดับ ดยุค ทำได้เพียงแค่นี้? รู้รึปล่าว ในหมู่เพื่อนข้ามีคนหนึ่งปล่อยจิตสังหารที่สามารถฆ่าคนได้เลยนะ ไอ้จิตสังหารแค่นี้ มันเป็นเพียงระดับที่ทำให้แม่บ้านต้องร้อง”เฮ่ะ” ออกมาแค่นั้นเอง . . . ]