<อืมมมม ขอบคุณที่ทำงานหนักค่า>  

 

แองกุจังได้ยืดร่างกายของเธเอง

 

ไลฟ์สตรีมได้จบลงอย่างด และพวกเราก็เสร็จเรื่องที่จะทำของวันนี้แล้ว

 

<อ่ะ มันได้เวลาที่ฉันต้องกลับบ้านแล้วไม่งั้นเดียวคุณแม่เป็นห่วงแน่>

 

ฉันได้ยินมาว่าแองกุจังจะนอนอยู่ที่บ้านของพี่อาเนะ

 

และตอนนี้ฉันก็เหนื่อยแล้ว เพราะวันนี้มีอะไรต้องทำหลายอย่าง

 

แถมฉันก็ยังรู้สึกกังวลเพราะยังมีโอชินั่งอยู่ข้างๆอีก

 

ฉันพยายามลุกขึ้นและทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมา

 

“เดียวอิโรฮะจางงง จะไปไหนหรอออ วันนี้ต้องนอนอยู่นี่นะะะ”

 

“เอ๊ พี่นี่น่ารำคาญเกินไปแล้ววว แล้วก็อย่ามากอดฉันด้วย มันร้อน!”

 

“งั้นก็บอกก่อนสิว่าวันนี้จะนอนอยู่นี่นะ”

 

<ฉันก็อยากเล่นกับอิโรฮะจังมากกว่านี้นะ..>

 

<อะไรนะ ? ฉันก็อยากเล่นกับอิโรฮะจังเหมือนกันนั่นแหละแถมมากกว่าเธอด้วย อ่ะ อืม เอ่อ… โอเคอย่ามองฉันแบบนั้นเลยนะ>

 

<ฉันชนะเธอล่ะ!>

 

พี่อาเนะอ่ะชั่งมันเถอะ แต่ได้นอนใต้หลังคาเดียวกันกับผู้หญิงสิ่งที่สำคัญที่สุดเลยก็เพราะฉันเป็นทั้งแฟนคลับและภายในลึกๆฉันยังคงเป็นผู้ชายอยู่ อ่ะ ชั่งพี่อาเนะเถอะ ที่พูดสองครั้งเพราะมันสำคัญนะ สำคัญจริงๆนะ เชื่อฉัน

 

ฉันได้ส่งข้อความไปหาคุณแม่

 

เธอได้ตอบกลับมาภายในไม่กี่อึดใจ

 

[โอเคจ๊ะ แล้วก็อย่าไปทำอะไรแย่ๆนะ แถมตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปแม่ยังถึงบ้านดึกอีก]

 

ทำไมพอเป็นอะไรแบบนี้ถึงอนุญาติง่ายจังอ่ะ?

 

 

ฉันยอมแพ้

 

“คุณแม่บอกว่าวันนี้ฉันอยู่นอนที่นี่ได้ค่ะ”

 

 

“เย้งั้นสิ่งแรกที่พวกเราจะทำนั่นก็คือออ ไปอาบน้ำกันเถอะะะ let’s goooo !”

“อ อาบน้ำ..? เดียวก่อนสิคะ ถ้าจะทำแบบนั้นมันจะ..!

 

<เดียว ช้าก่อนอาเนโกะ อาบน้ำมันถึงพวกเราทุกคนใช่ไหม ถึงมันอาจจะเป็นเรื่องปกติของญี่ปุ่นก็เถอะมั้ง แต่มันก็ยากเกินไปสำหรับฉันอยู่ดี>

 

พวกเราทั้งคู่ต่อต้านอย่างสิ้นหวัง

 

 

และในที่สุดพี่อาเนะก็ยอมแพ้ไปสงสัยเพราะโดนรุม 2 ต่อ 1 มั้ง

 

ฉันก็คิดงั้นแหละ จนกระทั่งในตอนที่ฉันอาบน้ำอยู่นั้น

 

บู้ม เสียงของประตูห้องน้ำได้ดึงขึ้น

 

“อิโรฮะจางงง มาเดียวพี่ถูหลังให้เอง!”

 

“คิย๊าาาาาาาา”

 

 

ยัยอาเนะได้ทำไปแล้ว!

 

และสุดท้ายทั้งฉันกับแองกุจังก็ได้ไปตั้งถิ่นฐานกันอยู่ในห้องเสื้อผ้าจากการทำอะไรแผลงๆของอาเนโกะ

 

<อิโรฮะจัง ไม่สิ อิโรฮะ ในตอนนี้พวกเราเป็นเพื่อนร่วมรบกันแล้ว งั้นฉันจะเรียกชื่อเธอแบบนี้เลยนะ>

 

<พูดถูกแล้วค่ะ โอกุจัง พวกเรามาช่วยกันต่อต้านราชาที่แสนดุร้ายกันเถอะ!>

 

พวกเราออกจากห้องและจับมือกัน

 

ก่อนที่ฉันจะรู้ตัวกำแพงที่ฉันตั้งเอาไว้ในใจได้หายไปแล้ว

 

เน่ นี่มันหมายความว่าฉันกำลังจะขยับเข้าไปใกล้ขึ้นในความสัมพันธ์ระหว่างวีทูบเบอร์โดยที่ฉันเป็นแฟนคลับด้วยนี่นะ..?

 

 

 

หรือว่าพี่อาเนะเล็งจุดนี้อยู่นะ ไม่หรอกเป็นไปไม่ได้ เธอก็แค่อยากจะทำอะไรก็ตามที่เธออยากทำ

 

แต่นอกจากพี่อาเนะที่พยายามบุกเข้ามาหาฉันตอนอาบน้ำ ก็ยังมีอีกคนนึง

 

และคนๆนั้นก็ได้โผล่ขึ้นมาในตอนที่ฉันกับแองกุจังนั่งถอนหายใจอยู่

 

“อิโรฮะจัง ไม่อยากที่จะทำกับอาเนะใช่ไหมล่ะ แต่โอเคใช่ไหมถ้าเป็นไมน่ะ ใช่ไหม? เพราะงั้นเดียวไมจะถูหลังให้เองนะ เอ้าทำไมมันล็อคล่ะ แต่ไม่ต้องห่วงฉันจะใช้เหรียญ 10 เงินเปิดขึ้นมาเอง.. เปิดไม่ออกอ่ะ!? ”

 

 

ในขณะที่ฉันกำลังสระผมอีกมือนึงก็กำลังกำกุญแจไว้

 

และฉันก็ได้ยินเสียงของแองกุจัง <ครอบครัวอาเนโกะนี่มันพวกลามกกันหมดเลย!> เหมือนฉันจะได้ยินเสียงร้องไห้ของเธอตอนวิ่งกลับไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อด้วยแฮะ

 

 

* * *

 

พวกเราปูฟู้ก และพวกเรา 3 ก็ทิ้งตัวลงโดยเรียงเป็นรูปของแม่น้ำ

 

อะไรนะ นี่พวกนายอยากให้ฉันไปนอนกับไมแบบ 2 ต่อ 2 หรอ

 

เพราะฉันรู้สึกได้ถึงความอันตราย เลยตัดสินใจไม่เอาดีกว่า

 

ถึงไมจะร้องไห้ ฉันก็ไม่สน เธอทำตัวเอง

 

ฉันได้ถามแองกุจังไปว่าอยากจะนอนด้วยกันไหม ฉันก็เป็นห่วงอยู่นะว่าในอุตสหกรรมของพวกวีทูบเบอร์เช่นในกลุ่มของเธออาจจะงอนเธอก็ได้ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สนใจเท่าไหร่

 

<นานแค่ไหนหรอ ที่โอกุจังจะอยู่ที่ญี่ปุ่น..?>

 

 

<คงจะเป็นวันมะรืนนี้ล่ะมั้ง และในวันพรุ่งนี้ฉันจะตื่นเช้าๆเลยล่ะ และจะออกไปสำรวจหาสถานที่ๆฉันอยากไป และไม่สตรีมซัก 1 คืน!>

 

<แต่ว่าวันนี้ยังไม่ได้ไปไหนกันเลยนะคะ แล้วจะไปที่ไหนละคะ?>

 

<ฉันรอคำถามนี้มานานแล้วล่ะ มันเป็นสถานที่ฉันวางแผนไว้นานแล้วว่าจะไปตอนถึงญี่ปุ่น ซึ่งนั่นก็คือ เมดคาเฟ่ไงล่ะ!>

 

<เมดคาเฟ่!?>

 

<และฉันก็อยากที่จะไปดูพวกสินค้าอนิเมะด้วยล่ะ เกมอาร์เคตเองก็เหมือนกัน!!!>

 

ฉันค่อนข้างตกใจมันเลยล่ะ แต่พอคิดไปคิดมา

 

แองกุจังชื่นชอบพวกวัฒนธรรมอนิเมะของญี่ปุ่นมากเลยล่ะ

แถมเธอยังเป็นพวกฟูดดี้และสนใจญี่ปุ่นจากอาหาร แถมยังชื่นชอบพวกอนิเมะกับเพลงและเกมอีก

 

เพราะในไลฟ์เองเธอก็ร้องเพลงอนิเมะด้วยเหมือนกัน

 

<ช่ายย แล้วตอนนี้ก็เป็นวันหยุดฤดูร้อนของญี่ปุ่นใช่ไหมล่ะ งั้นเดียวฉันพาอิโรฮะไปด้วยนะ!>

 

<เอ๊ โอเคค่ะ งั้นเราจะ.. อ่ะ ไม่นะ>

 

<ทำไมล่ะ?>

 

ฉันตอบออกไปในขณะที่มองไปที่เพดาน

<พรุ่งนี้มีเรียนพิเศษอ่ะค่ะ.. พ่อแม่ของฉันอยากที่จะให้ฉันสอบเข้าโรงเรียนมัธยมต้น>

 

<หืม.. งั้นแสดงว่าอิโรฮะจังไม่อยากสอบหรอ?>

 

<ฉันก็ไม่ได้ไม่ชอบหรอกนะคะ มันแค่น่ารำคาญเฉยๆ>

 

<ฮ่าๆ ฉันเข้าใจดีเลยล่ะ มันคล้ายๆพวกเนอซเซอรี่ใช่ไหมล่ะ?>

 

<เนอซเซอรี่?>

 

<มันเหมือนกับพวกของเด็กๆอายุ 1 ขวบ ใช่ไหมคะ?>

 

<เหมือนพวกเนอซเซอรี่หรอ..?>

<หืม.. ถ้าให้ตอบมันก็คล้ายๆล่ะมั้ง เพราะว่าฉันเรียนที่โรงเรียนอนุบาล และ เรียนที่ประถมเป็นเวลา 5 ปี และ 3 ปีกับโรงเรียนมัธยมต้น และ 4 ปีกับมัธยมปลาย>

 

เมื่อมาลองคิดดูระบบการสอนของญี่ปุ่นกับสหรัฐมันต่างกันนี่เนอะ

 

<ตกใจใช่ไหมล่ะ ฉันเกิดในครอบครัวที่ดีนะ แต่ครอบครัวของฉันเขาเคร่งมากเลยล่ะกับพวกอาชีพในอนาคตของฉัน แถมยังมีคุณแม่ที่เคร่งอีก ฉันเลยจะเรียนอะไรนอกลู่นอกทางไม่ได้>

 

<จริงๆหรอคะเนี่ย..?>

 

<ช่ายย และเพราะเป็นอย่างงั้นฉันเลยลาออก แถมในทุกวันๆฉันก็โกรธเธอมากขึ้นทุกวันๆ ก็เลยตัดสินใจที่จะหนีออกจากบ้านเลยล่ะ>

 

<อะไรนะคะ..?>

 

<เพราะว่าฉันลาออกจากโรงเรียน ฉันเลยไม่สามารถที่จะอยู่กับคุณแม่ได้อีก แต่หลังจากนั้นฉันก็หาเงินจากการไลฟ์สตรีมและมีชีวิตอยู่อย่างงี้แหละนะ และฉันก็ได้รู้ว่าความรู้จากโรงเรียนก็ใช้ได้ดีอย่างน่าประหลาดใจเลยล่ะ ต้องขอบคุณมันเลย >

 

<ถ้าเป็นอย่างงั้นแล้ว แองกุยังชื่นชอบการสอบอยู่ไหมคะ>

 

<ไม่อ่ะ ฉันไม่เอาอย่างงั้นหรอก ในกรณีของฉันมันมีเรื่องที่แย่มากกว่าเรื่องที่ดีนะสิ>

 

<อย่างงั้นเองสินะคะ..>

 

<ช่ายยย และบางครั้งนั้นเองฉันก็ได้คิดเล่นๆว่าถ้าฉันยังเรียนอยู่ บางทีฉันอาจจะไม่ได้เจอพวกเพื่อนๆและไม่ได้กลายเป็นสตรีมเมอร์ก็ได้นะ>

 

<ถ้าเป็นอย่างนั้นมันก็น่าเศร้านะคะ>

 

<ฉันก็คิดอย่างงั้นแหละ ฉันจินตนการไม่ออกเลยล่ะ ว่าชีวิตที่ไม่มีวีทูบเบอร์เนี่ยจะเป็นยังไง ฉันไม่อยากที่จะยอมแพ้น่ะ>

 

 

<……!>

<ฉันคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดมันขึ้นอยู่กับตัวบุคคลเองนั่นแหละ พ่อแม่ไม่ควรไปบังคับให้เด็กต้องสอบเข้าโรงเรียนมัธยมต้นด้วยซ้ำ ถึงมันจะน่าเสียดายที่ตัวเลือกเลยจะหรือไม่มาก แต่พ่อแม่เองก็ควรทำให้เด็กมีตัวเลือกในชีวิตของพวกเขาเท่าที่จะทำได้>

 

<นั่นแหละ นะเป็นสิ่งที่ฉันหวังว่าฉันต้องทำให้ได้> แองกุจังได้สรุปชีวิตของเธอให้ฉันฟัง

 

 

ฉันนั่งคิดอยู่ครู่นึง

 

แองกุจังที่นั่งรอฉันอย่างเงียบๆ และจ้องมาที่ฉัน

 

<…ตัดสินใจได้แล้วล่ะค่ะ ฉันจะไม่สอบเข้าเข้าโรงเรียนมัธยมต้น>

 

<เอาอย่างงี้สินะเนี่ย>

 

<ฉันจะคุยกับพวกเขาหลังจบหยุดฤดูร้อนเองค่ะ เพราะเรียนพิเศษหรือคอร์สมันได้เสียเงินไปแล้ว ก่อนที่ฉันจะคุย ฉันจะเรียนพิเศษให้ดีที่สุด>

 

<ฮ่าๆ ช่ายยย เป็นไอเดียที่ดีเลยนะ อนาคตที่อิโรฮะจังเป็นคนเลือกเองเนี่ย>

 

<ค่ะ และก็มีอีกหนึ่งสิ่งที่ฉันอยากจะทำก็คื->

 

“กร๊ากๆ ฮ่าๆ คร๊อก..”

 

 

 

พวกเราทั้งคู่ได้มองไปที่หน้าของอาเนะพร้อมกัน ที่เหมือนตอนนี้กำลังจะมีฝันดีอยู่

 

ตอนแรกที่มันเงียบๆ ฉันก็นึกว่าจะได้นอนแบบสบายๆซักหน่อย

 

แถมตอนนี้เธอดูนอนหลับสบายกว่าใครซะด้วย

 

 

พวกเราซุกไปที่ไหล่ของตัวเอง คิดว่ามันคงแย่ถ้าไปปลุกอาเนะเข้า โดยที่ทำเสียงดัง  

ฉันดึงผ้าห่มขึ้นและในตอนที่ฉันหลับตาลง ตอนเช้าก็ได้มาถึง

 

 

 

 

 

 

 

* * *

 

 

<อาเนโกะ เธอเข้าใจสิ่งที่ฉันจะพูดใช่ไหม?>

“พี่อาเนะคะ…”

 

“ขอโทษค่ะ ฉันขอโตษษษษษษ”

 

 

เช้าวันต่อมา ทั้งฉันและแองกุจังได้นั่งอยู่บนพื้นและจ้องไปที่อาเนะ

 

ใบหน้าของพวกเรานั้นขอบตาดำเหมือนหมีแพนด้า

 

“ฉันไม่คิดว่าฉันจะนอนดิ้นและเสียงดังขนาดนั้นนี่หน่าาา ฉันม่ายรู้ >w< ”

 

<เธอนี่มัน!>

“พี่อาเนะ!!”

 

 

“อ๊าาาาา ขอโตษค่าาาา”

 

 

เท่าที่อ่านมาโรงเรียนมัธยมต้นคงมีแบบต้องสอบเข้ากับแบบไม่ต้องสอบเข้าครับ