ตอนที่ 20 ห้ามขาดแม้แต่หยวนเดียว
จางฟาไฉแสดงความต้องการออกมาอย่างชัดเจน!
มันต้องการที่จะทำมิดีมิร้ายฉินเสี่ยวยู่!
เมื่อได้เห็นใบหน้าอ้วนๆน่าเกลียดนั้นค่อยๆเคลื่อนเข้าใกล้ ฉินเสี่ยวยู่ก็ถึงกับวิงเวียนศรีษะ และแทบอาเจียนออกมาทันที
เธอพยายามที่จะควบคุมอารมณ์ความรู้สึกรังเกียจ และขยะแขยงนั้นไว้ภายใน แล้วบอกกับจางฟาไฉไปว่า
“คุณจางคะ ระหว่างพวกเราสองคนไม่น่ามีอะไรจะต้องคุยกันอีกแล้วนี่คะ!”
“ใครบอกกันล่ะ?”
ขนยาวสองเส้นที่ไฝเม็ดใหญ่บนใบหน้าของจางฟาไฉกระตุกทันที แล้วจึงพูดกับฉินเสี่ยวยู่ต่อด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“ก็ถ้าคุณทำตัวเชื่อฟังไม่ดื้อดึง พวกเราสองคนก็น่าจะมีอะไรคุยกันต่อได้..”
ระหว่างที่พูดกับหญิงสาวนั้น จางฟาไฉก็หันไปขยิบตาให้กับลูกน้องที่อยู่ในห้อง ลูกน้องของมันก็ดูเหมือนจะเข้าใจได้ในทันที หลายคนพุ่งไปที่หน้าประตูห้อง และยืนขวางทางไว้ ป้องกันไม่ให้ฉินเสี่ยวยู่ และหลินหนานวิ่งหนีออกไปได้
จางฟาไฉค่อยๆก้าวเท้าไปข้างหน้า พร้อมกับแสยะยิ้มจนเห็นฟันเหลืองสกปรกที่เกิดจากคราบบุหรี่ และพูดกับฉินเสี่ยวยู่ว่า
“จิงเฉิงกรุ๊ปนี่ช่างกล้าไม่เบาทีเดียว! ส่งคนมาทวงหนี้ผมหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยสำเร็จสักครั้ง หลังจากผมซ้อมคนมาทวงหนี้รายล่าสุดจนขาหัก ยังจะกล้าส่งคนมาทวงหนี้ผมอีกงั้นรึ? ดูท่าบทเรียนที่ได้ไปคงจะไม่มากพอสินะ ถึงได้ไม่จดจำกัน?”
ฉินเสี่ยวยู่หวาดกลัวจนต้องก้าวถอยหลัง และร้องบอกจางฟาไฉเสียงสั่น “คุณจางคะ กรุณารักษามารยาทด้วย!”
“รักษามารยาทเหรอ?”
จางฟาไฉถึงกับยิ้มกว้าง และตอบกลับไปทันที “เสียใจด้วย คนอย่างผมไม่เคยรู้จักคำว่ามายาทเลยในชีวิต!”
“ถ้าคุณกล้าทำอะไรฉันล่ะก็ ฉันจะโทรเรียกตำรวจ!”
ฉินเสี่ยวยู่รีบคว้าโทรศัพท์มือถือออกมาทันที และเตรียมตัวที่จะกดโทรหาตำรวจ
ป้าบ..
จางฟาไฉเอื้อมมือออกไปปัดโทรศัพท์มือถือในมือของฉินเสี่ยวยู่ทิ้งทันที พร้อมกับตวาดใส่หน้าด้วยน้ำเสียงดุดัน
“หึ.. ที่นี่เป็นถิ่นของฉัน อย่าว่าแต่ตำรวจเลย ต่อให้เป็นเง็กเซียนก็เข้ามาไม่ได้ อย่าเสียเวลาเลย!”
ระหว่างที่พูดนั้น จางฟาไฉก็ยกมือขึ้นผลักร่างของฉินเสี่ยวยู่อย่างแรง
ตึง..
ร่างของหญิงสาวหงายหลังกระแทกลงกับโซฟาทันที และเวลานี้ดวงตาทั้งสองข้างของเธอก็รื้นไปด้วยน้ำตา
ท่านั่งของฉินเสี่ยวยู่หลังจากถูกผลักลงไปนั้น เผยให้เห็นหน้าอกใหญ่โตที่กำลังกระเพื่อมขึ้นกระเพื่อมลงอย่างชัดเจน ใบหน้าของเธอเวลานี้ช่างน่าสงสารอย่างที่สุด
ไฟราคะในตัวของจางฟาไฉถึงกับเดือดพล่าน..
“รอให้ฉันหาความสุขก่อน ต่อจากนั้นค่อยถึงคราวของพวกแก!” จางฟาไฉร้องตะโกนบอกลูกน้องในห้อง พร้อมกับทำสีหน้ากระเหี้ยนกระหือราวกับปีศาจชั่วร้าย
ลูกน้องของจางฟาไฉที่ยืมมองอยู่ ถึงกับยกมือขึ้นเช็ดน้ำลายที่ไหลยืดออกมา ในขณะที่ฉินเสี่ยวยู่ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวอย่างที่สุด
สถานการณ์ที่เธอกำลังเผชิญอยู่เวลานี้ เรียกได้ว่าเลวร้ายยิ่งกว่าคำว่าซวย!!!
เพราะเวลานี้เธอกำลังจะถูกสัตว์นรกพวกนี้ทำลายชีวิตทั้งชีวิต ภายในจิตใจของเธอทั้งโกรธแค้น และเศร้าหมอง!
หากไม่ใช่เพราะความคิดของหลินหนาน เธอก็คงไม่ต้องมารับงานบ้าๆนี้ด้วย!
หลินหนาน.. ฉันเกลียดนาย!!!
“นี่แม่สาวน้อย.. ไม่ต้องห่วง ฉันอ่อนโยนกับผู้หญิงสวยๆเสมอ!”
ขณะที่ปลอบประโลมหญิงสาว จางฟาไฉก็ถอดเข็มขัดและเสื้อของตัวเองไปด้วย เผยให้เห็นหน้าท้องใหญ่โตที่เต็มไปด้วยไขมัน และพร้อมที่จะเขมือบหญิงสาวตรงหน้าแล้ว
“เดี๋ยวก่อน!”
จางฟาไฉชะงักไปเล็กน้อย และหันมองไปทางต้นเสียง
เมื่อเห็นว่าเป็นหลินหนาน มันจึงอ้าปากถามพร้อมกับขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น “ทำไม?! อย่าบอกนะว่าแกคิดจะขัดขวางฉัน? แกกล้าเรอะ?”
ลูกน้องของจางฟาไฉที่ยืนอยู่ในห้อง ต่างก็ยกมือขึ้นกำหมัด และหักนิ้วเสียงดับแกร๊กๆไปทั่วทั้งห้อง
“ไม่หรอกครับลูกพี่..”
หลินหนานรีบยกมือขึ้นโบกไปมาพร้อมกับอธิบายว่า “ผมแค่ไม่อยากอยู่เป็นก้างขวางคอ ดูลูกพี่ทำเรื่องอย่างว่าอยู่ในห้องก็เท่านั้น ก็เลยคิดว่าจะออกไปรอข้างนอก..”
หลินหนาน.. ไอ้คนสารเลว!
ฉินเสี่ยวยู่ได้แต่กร่นด่าสาปแช่งหลินหนานอยู่ในใจ ดวงตาของเธอเบิกโพลง และจ้องมองหลินหนานราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ!
นี่แกยังมีความเป็นลูกผู้ชายอยู่หรือเปล่า?
เห็นเพื่อนร่วมทีมกำลังจะถูกข่มขืนต่อหน้า ไม่เพียงแค่ไม่ช่วยฉัน แต่กลับพูดจาทุเรศๆแบบนั้นออกมาได้ ไอ้ชาติชั่ว!!
ไอ้สารเลว!! ต่อให้ฉันต้องตาย ก็จะกลายเป็นผีมาหลอกหลอนแก ฉันจะไม่ยอมปล่อยแกไปแน่!
“นับว่าแกรู้จักกาละเทศะมาก เอาล่ะ.. ถ้างั้นก็ไปรอข้างนอกก่อน เสร็จเมื่อไหร่ฉันจะให้คนไปเรียก..”
“ครับผม ขอให้มีความสุข!”
จากนั้น หลินหนานก็ลุกขึ้นยืน และเดินเปิดประตูห้องออกไปทันที
ฉินเสี่ยวยู่ได้แต่หลับตานิ่ง และเวลานี้ใบหน้าของเธอก็บ่งบอกถึงความสิ้นหวังอย่างที่สุด..
จางฟาไฉขยิบตาให้ลูกน้องพร้อมกับสั่งขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “พวกแกสองคนออกไปดูมันไว้ด้วย อย่าให้มันโทรแจ้งตำรวจเด็ดขาด!”
“ครับลูกพี่!”
จากนั้นชายหนุ่มสองคนก็รีบเปิดประตู เดินตามหลินหนานออกไปทันที..
……
หลังจากที่ออกมานอกห้องแล้ว หลินหนานก็รีบสำรวจดูกล้องวงจรปิดมากมายหลายตัวที่อยู่ด้านนอกทันที
จากนั้นจึงรีบคว้าไฟแช็คสองอันที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา และปาเข้าใส่กล้องวงจรปิดสองตัวที่อยู่ด้านนอกอย่างรวดเร็ว
ปัง.. ปัง..
กล้องวงจรปิดทั้งสองตัวแตกละเอียดทันที จากนั้นหลินหนานก็กระโดดขึ้นสูง พร้อมกับยกขาขวาขึ้นเตะออกไป
ปัง!
แล้วกล้องวงจรปิดตัวสุดท้ายก็พังลง และเป็นจังหวะที่ลูกน้องทั้งสองคนของจางฟาไฉเดินออกมาพอดี
“ฉันรอพวกแกสองคนมาตั้งนานแล้ว..”
หลินหนานยิ้มออกมา พลันแววตาของเขาก็เปลี่ยนไปทันที จากนั้นร่างของหลินหนานก็พุ่งเข้าใส่ชายทั้งสองทันที
“แกรนหาที่ตายแล้ว!”
ชายร่างสูงร้องตะโกนบอกหลินหนาน พร้อมกับพุ่งหมัดใส่ร่างของเขาทันที หลินหนานซึ่งดูไม่ได้ตกอกตกใจอะไร ก็พุ่งกำปั้นของตนเองออกไปเช่นกัน
ปัง!!
กำปั้นของคนทั้งสองปะทะกันเข้าอย่างรุนแรง!
กร๊อบ..
เสียงกระดูกแตกดังขึ้นมาจากฝั่งของชายร่างสูง ดูเหมือนมือและแขนของมันจะหักในทันที ส่งผลให้เกิดความเจ็บปวดรวดร้าวขึ้นอย่างมาก
เวลานี้กระดูกกำปั้นของมันแตกละเอียดจนผิดรูป ส่วนกระดูกข้อมือก็หักงอเป็นมุมเก้าสิบองศา แต่ก่อนที่มันจะทันได้กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด หลินหนานก็ได้กระโดดเตะเข้าที่น่องของมันเสียก่อน
และด้วยแรงกระแทกที่รุนแรง ชายร่างสูงก็ได้สูญเสียการทรงตัว และร่วงหล่นลงไปกองกับพื้นเสียก่อน
แต่ก่อนที่ร่างของมันจะทันร่วงลงไปกองกับพื้น หลินหนานก็ได้ใช้นิ้วชี้ของตน จี้สะกัดไปที่หลังคอของมันอย่างรวดเร็วประหนึ่งสายฟ้า
แล้วชายร่างสูงผู้น่าสงสาร ก็หมดสติก่อนที่ร่างจะกระแทกลงกับพื้นเสียอีก จากนั้น หลินหนานก็พุ่งเข้าใส่ชายอีกคนอย่างไม่ลังเล..
……
ภายในห้อง..
จางฟาไฉกำลังปลุกปล้ำฉินเสี่ยวยู่ และจ้องมองเธอประหนึ่งหมาป่าที่กำลังจ้องมองเหยื่อที่อ่อนแอ
แต่แน่นอนว่า เหยื่อที่อ่อนแอตัวนี้ไม่ใช่เหยื่อเชื่องๆ และเวลานี้ตามเนื้อตัวของจางฟาไฉ ก็มีร่องรอยบาดแผลจากเล็บของหญิงสาวอยู่เต็มไปหมด
แต่กลับกลายเป็นว่า ยิ่งฉินเสี่ยวยู่ดิ้นรนขัดขืนมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งตื่นเต้นเร้าใจมากเท่านั้น
“แม่กวางน้อย ฤทธิ์มากนักนะ ในเมื่อไม่ยอมดีๆฉันก็ต้องใช้กำลัง!”
“พวกแกสองคนยังจะยืนเฉยทำไมอีก มาช่วยจับแม่นี่ไว้เร็วเข้า!”
จางฟาไฉร้องบอกในขณะที่มือก็กำลังถอดกางเกงของตัวเองออก หลังจากพูดจบ ลูกน้องทั้งสองคนของจางฟาไฉ ก็พุ่งเข้ามาจับร่างของฉินเสี่ยวยู่ไว้ทันที คนหนึ่งจับแขนทั้งสองข้างของเธอ ส่วนอีกคนจับขาทั้งสองข้างไว้
มีหรือที่ฉินเสี่ยวยู่จะสามารถสู้แรงผู้ชายถึงสองคนได้?
เวลานี้แม้เธอจะดิ้นรนขัดขืนมากเพียงใด แต่ก็ไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้เลยแม้แต่น้อย!
และเวลานี้ น้ำตาก็กำลังไหลอาบแก้มของเธอ..
นี่ชีวิตของฉันคงจะต้องถูกสัตว์นรกพวกนี้ทำลายจริงๆแล้วสินะ?
ไม่.. ฉันไม่ต้องการ ฉันไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้!
จะมีใครช่วยฉันได้บ้างมั๊ย?
ปัง!!
ในเวลานั้น เสียงประตูถูกถีบอย่างแรงก็ดังสนั่นขึ้น ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังประตูไม่ทันได้ระวังตัว มันจึงกระโดดหลบไม่ทัน ก็เลยถูกประตูที่ร่วงลงมาอัดทับร่างลงกับพื้นในทันที
ทุกคนในห้องต่างก็หันไปมองด้วยความตกใจ และพบชายร่างผอมคนหนึ่งกำลังก้าวเดินเข้ามาอย่างช้าๆ
ชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้สูงนัก และไม่ได้ดูแข็งแรงอะไรมาก หน้าตาก็ธรรมดา ไม่ถึงกับหล่อ แต่ก็ไม่ขี้เหร่..
แต่สิ่งที่แข็งแกร่งกับเป็นความมั่นใจ และใบหน้าที่ยิ้มน้อยๆของเขา..
และชายหนุ่มผู้นี้ก็คือหลินหนาน!
แต่จางฟาไฉกลับไม่มีท่าทีตื่นตระหนก มันยังสามารถรักษาท่าทีที่สงบนิ่งเช่นเดิมไว้ได้ มิหนำซ้ำยังร้องตะโกนถามหลินหนานด้วยน้ำเสียงดุดัน
“ไหนแกบอกจะรอข้างนอก? แล้วนี่เข้ามาทำไมกัน?”
“ฉันก็คิดว่าแกน่าจะเสร็จแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่าแกทำอะไรเชื่องช้ากว่าที่ฉันคิดไว้มาก!” หลินหนานยักไหล่อย่างไม่แยแส
“พวกแกสองคนที่อยู่ข้างนอก เข้ามาจัดการกับมันเร็วเข้า..” จางฟาไฉร้องตะโกนเรียกลูกน้องสองคนที่ออกไปก่อนหน้า
หลินหนานรีบตอบกลับไปทันที “หยุดเรียกพวกมันได้แล้ว! สองคนนั่นกำลังนอนหลับอยู่บนพื้น การปลุกคนกำลังหลับ มันบาปนะไม่รู้เหรอ?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของจางฟาไฉถึงกับเปลี่ยนไปทันที..
ดูท่าไอ้หมอนี่คงจะไม่ธรรมดาเลย..
“นี่แกต้องการอะไร?” จางฟาไฉเอ่ยถาม
“ก็ไม่มีอะไรมาก.. ว่าแต่แกพร้อมที่จะเจรจาธุระกับฉันหรือยังล่ะ?” หลินหนานถามยิ้มๆ
“ธุระ? ธุระอะไรกัน?”
“ก็เรื่องหนี้ที่บริษัทของแกค้างชำระยังไงล่ะ? ถ้าแกไม่จ่ายเงิน ฉันจะมีหน้ากลับไปบริษัทได้ยังไงกัน?”
พูดจบหลินหนานก็โยนกระสอบที่แบกอยู่ด้านหลังลงไปตรงหน้าจางฟาไฉ พร้อมกับพูดขึ้นว่า
“จ่ายมา.. ทั้งหมดหนึ่งล้านสองแสน ห้ามขาดแม้แต่หยวนเดียว!!”