“{ไอซิ่งแลนซ์ (หอกเยือกแข็ง)}”

“อว้าาาาา!?”

“{ไลท์ ออฟ เซเบอร์ (ประกายแสงฟาดฟัน)}”

“คิย้าาาาาา!”

“{ดาร์กเนส แคนนอน (ปืนใหญ่อนธการ)}”

“กรี๊ดดดดด?!”

 

นี่มันผ่านมานานแค่ไหนแล้วเนี่ย?

ฉันหลบเวทพวกนี้มาเป็นชาติแล้วนะ!

 

“คุณเทียน่าค่า! ฉันยังต้องวิ่งหนีไปอีกนานแค่ไหนคะเนี่ย?!”

“เหลืออีก 24 นาทีค่ะ ถ้างั้น พยายามหนีให้เต็มที่เลยนะค้า~♪ {แอเรียลเบลด (คมดาบภูติวายุ)}”

“อุว้าาาาา!!!”

 

กลัวอ่า! ฉันกลัวแล้ว!

…ไม่ ตอนนี้ฉันกลัวเวทมนตร์ก็จริง แต่ฉันกลัวคุณเทียน่ากว่ากันเยอะเลย!

ก็จนถึงตอนนี้ เธอยังยิ้มไม่หุบเลยเนี่ยสิ!

เธอยิ้มออกมาอย่างจริงใจ เป็นรอยยิ้มแห่งความสุขที่ใครเห็นก็รู้ได้เลยว่าเธอมีสนุกมาก แถมเธอก็ยิงเวทที่ทั้งแรงทั้งน่ากลัวพวกนั้นออกมาเป็นชุดไม่หยุดเลยด้วยอีกต่างหาก!

 

“ฟุฮุฮุฮุฮุฮุ… อ่า~ เล่นไล่จับแบบนี้สนุกจริงๆ เลยนะคะ ไม่รู้ทำไม แต่รู้สึกถึงบางอย่างที่น่าตื่นเต้นอยู่เลย นี่คือสิ่งเร้าใจสินะคะ?”

 

ไม่ค่ะ ฉันมั่นใจ มันไม่ใช่แน่นอน

คุณแค่สนุกกับการแกล้งฉันใช่มั้ยคะ?

อะไรของเธอน่ะ ทั้งๆ ที่หน้าตาก็สวยเหมือนแม่พระ แล้วไหงนิสัยเนื้อแท้ที่ซ่อนไว้ดันเป็นสาย S ล่ะเนี่ย!

เธอเป็นเอลฟ์ เป็นราชินี เป็นสาวอกโต แถมยังเป็นนางพญาอีกงั้นเหรอ? จะเป็นคนที่มีคุณลักษณะอัดแน่นอยู่ในตัวมากเกินไปแล้ว!

เอ… การเป็นนางพญากับเป็นสาย S นี่เป็นอย่างเดียวกันนี่นา? แต่คุณเทียน่าก็เป็นราชินีจริงๆ ด้วยนี่… เดี๋ยวก่อน! นี่ยังไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดอะไรแบบนี่สิ!

 

“เอาล่ะค่า~ ต่อกันเลยมั้ยคะ? {ธันเดอร์แคนนอน (ปืนใหญ่อัสนี)}”

“คราวนี้สายฟ้าเหรอออออออ!?”

 

ไม่ ไม่ ใจเย็นก่อน ใจเย็นก่อนนะตัวฉัน

ก่อนอื่น มาวิเคราะห์เกี่ยวกับข้อมูลของคุณเทียน่ากันก่อนดีกว่า

 

อย่างแรกเลย เวทมนตร์ที่คุณเทียน่าใช้มาแล้ว มีทั้งคุณสมบัติธาตุไฟ, ลม, น้ำ, หิน, ระเบิด, แรงโน้มถ่วง, น้ำแข็ง, แสง, ความมืด และก็สายฟ้า นี่ก็เกือบครบทุกธาตุเท่าที่ฉันรู้แล้วเนี่ย

แถมก่อนหน้านี่ เธอเคยใช้เวท {เทเลพอร์เทชั่น (เคลื่อนย้าย)} มาแล้ว แสดงว่าเธอใช้เวทพื้นที่ได้ด้วย

ฉันคิดว่าเธอน่าจะมีเวทตรวจจับด้วย เพราะที่ผ่านมาเธอสามารถระบุตำแหน่งของฉันได้แม่นยำมาก ขนาดฉันน่าจะซ่อนอยู่ในป่าได้มิดแล้วแท้ๆ

และก็ป่านี้ พืชหลากหลายชนิดที่ขึ้นอยู่ทั่วบริเวณนี่มันดูเบ่งบานกันจนผิดธรรมชาติอีกต่างหาก

กล่าวคือ ป่าทั้งป่านี้เองก็น่าจะถูกสร้างขึ้นจากคุณเทียน่าเหมือนกัน หรือก็คือ เธอสามารถใช้เวทที่ควบคุมธรรมชาติได้เลยสินะ

และที่สำคัญเลยคือตลอดเวลาที่เธอใช้เวทมนตร์ทั้งหมดนั่นมาจนถึงตอนนี้ ฉันยังไม่เห็นวี่แววว่าพลังเวทของเธอจะหมดลงเลยซักนิด

 

ความเห็นโดยรวม เวทมนตร์โคตร cheat (ขี้โกง)

 

ก็ ดูเหมือนข้อสรุปที่ฉันได้มาตอนที่ใจเย็นก็เหมือนเดิม ไม่ได้ต่างอะไรจากตอนนี้ฉันลนลานอยู่เลย

 

เวทถูกยิงมา ก็ต้องหลบให้ได้ แค่นั้นแหละ

 

มีวิธีอื่นอีกมั้ยนะ? เอาชนะคุณเทียน่าเหรอ?

ไฮเอลฟ์ที่เหมือนป้อมปืนเดินได้ สวนการโจมตีทุกรูปแบบได้ด้วยเวทมนตร์ทุกคุณสมบัติได้ทุกระยะที่นักเวทคนนึงจะสามารถรับมือได้ บิดเบือนมิติก็ได้ แถมตรวจจับการเคลื่อนไหวทุกอย่างได้ด้วย ล้อเล่นหรือไง?

งั้น ทางออกทางเดียวที่ฉันมีก็คือตามการเคลื่อนที่ของเวทมนตร์ที่ยิงมานั่นด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 ที่ยอดเยี่ยมของแวมไพร์ และหลบพวกมันให้ได้เท่านั้น

 

“งั้น ได้เวลาเพิ่มระดับขึ้นอีกนิดแล้วนะคะ {ไฟร์แลนซ์ (หมู่หอกเพลิง)}”

 

ทันทีที่ฉันคิดแบบนั้น หอกไฟจำนวนมหาศาลที่น่ากลัวนั่นก็ถูกคุณเทียน่าสร้างขึ้นมา

ฟาแลงซ์… มันเป็นกระบวนการรบโบราณที่ใช้กองทหารราบหนักรวมกลุ่มกันและให้ทุกคนพุ่งหอกใส่ศัตรูพร้อมกันสินะ?

แล้วคุณเทียน่าทำแบบนั้นได้ด้วยตัวคนเดียวและเวทมนตร์ ก็…ฉันไม่คิดว่าจะหลบทั้งหมดนั้นได้อยู่แล้ว

ลองจินตนาการถึงจังหวะที่หอกเล่มโตที่มีไฟลุกท่วม 50 เล่ม ทั้งหมดนั่นหันใส่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ถูกรู้ตำแหน่งแล้วเรียบร้อย และกำลังจะพุ่งใส่เด็กคนนั้นพร้อมๆ กันดูสิ

…เป็นไงบ้างล่ะ การรังแกกันขนาดนี้ทำให้น้ำตาคลอเลยใช่มั้ย?

คุณเทียน่าที่ยังคงมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มอยู่ตลอดระหว่างที่ฉันพยายามหนีจากความเป็นจริงก็ยิงหอกไฟทั้งหมดนั่นลงมา―――

 

“หืม~มม ไม่น่าเชื่อ ฉันนึกว่าจะจบตรงนี้แล้ว… ไม่คิดว่าท่านจะหลบทั้งหมดนั่นได้นะคะเนี่ย”

 

ก็ ตามนั้นแหละฉันหลบฝนหอกไฟนั่นได้

ซึ่งก็ไม่มีทางจะไร้รอยขีดข่วนอยู่แล้วล่ะ ฉันถูกแทงทะลุแขนไปทีนึง เฉือนผ่านไหล่ฉันไปหนึ่ง และก็เผาเส้นผมฉันไปอีกหน่อยนึง

…มันเจ็บมาก แถมยังร้อนมากด้วย แต่ก็ไม่ได้เป็นรอยแผลเป็นบนตัวหรอกในตอนนี้ นี่อาจจะเป็นผลจากเทคนิคที่คุณเทียน่าพูดถึงก็ได้

 

“ถึงฉันจะให้คำชี้แนะไปน้อยขนาดไหน คุณก็ทนผ่านมันมาได้นะคะ… นี่เกินจากที่ฉันคาดไปมากเลยค่ะ ท่านลีน ฉันชื่นชมในตัวคุณจริงๆ นะคะ”

“ก็ดีใจที่ได้ยินแบบนั้นนะคะ แต่เมื่อกี้คุณเพิ่งจะบอกว่าคุณใส่คำชี้แนะลงไปในการโจมตีสุดชั่วร้ายนั่นน่ะเหรอคะ!”

“ที่สำคัญคือ ฉันสามารถใช้เวทที่เข้ากับฉันได้ดีที่จะระเบิดทันทีที่สัมผัสเป้าหมายได้นะคะ”

 

อ๊าก! คนใจร้าย! อำมหิต!

…ไม่สิ จากการที่เธอเป็นผู้บริหารลำดับที่ 3 ของกองทัพจอมมาร การจะมีความสามารถแบบนั้นก็ไม่แปลกนี่นะ

 

“เอาล่ะ ดูเหมือนฉันจะประเมินความสามารถของท่านลีนต่ำไปหน่อย… งั้นจากนี้ไป ฉันจะ ‘เอาจริง’ แล้วนะคะ”

“…เอ๊ะ”

 

อะไรนะ?

 

“ต้องขออภัยที่โอ้อวดนะคะ แต่ให้ฉันแสดงให้ท่านเห็น ว่าทำไมฉันถึงถูกเรียกว่า [แม่ทัพแห่งพงไพร] นะคะ”

 

จบประโยคนั้น คุณเทียน่าก็ชูมือทั้งสองขึ้นเหนือหัว

ทันใดนั้น ‘ป่า’ ทั้งป่าก็เคลื่อนไหว

 

“หวา! อะไรน่ะ…!?”

“อย่างที่ท่านน่าจะสังเกตเห็นแล้วค่ะ ป่าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นจากเวทมนตร์ของฉัน และควบคุมโดยฉันเอง หรือก็คือ ฉันสามารถขยับป่าแห่งนี้ได้เหมือนแขนขาของตัวเองเลยค่ะ”

“เ―――เอ๋!”

“มันเป็นเวทมนตร์ที่มีประโยชน์มากค่ะ ฉันสามารถสร้างป่าขึ้นกลางสนามรบ เปลี่ยนป่านั้นเป็นป่าลับแลที่ขังมนุษย์ไว้ภายใน ก่อนจะไล่ทุบพวกมันด้วยเหล่าต้นไม้ แล้วจับกรอกด้วยสปอร์พิษได้เลยค่ะ”

 

สิ่งที่ทำนั่นไม่เข้ากับหน้าสวยๆ ของคุณเลยค่ะ! สมกับที่เป็นสาย S จริงๆ

ถึงฉันก็รู้สึกดีที่ได้ยินแบบนั้นก็เถอะ

 

“พูดอีกอย่างก็คือ ป่านั้นทั้งป่าคือศัตรูของท่านแล้วค่ะ เอาล่ะค่ะ ท่านลีน ขอเสียมารยาท แต่ฉันขอขยี้ท่านอย่างสุดกำลังนะคะ~♡”

“อือ… เฮ้! นี่คุณไม่เปลี่ยนใจเลยเหรอค่ะ!”

 

ดูเหมือนคำอ้อนวอนของฉันจะไปไม่ถึงคุณเทียน่าเลย

จากนั้นจู่ๆ กิ่งไม้ที่ฉันยืนอยู่ก็สะบัดสุดแรง โยนฉันลอยไปเหมือนกับถูกยิงมาจากหนังสติ๊กยังไงยังงั้น

 

“กรี๊ดดดดดดดดดด―――!!”

“อาระอาระ~ เป็นเสียงกรีดร้องที่น่ารักมากเลยค่ะ~♪”

 

ฉันถูกดีดกระเด็นเหมือนลูกบอล จนหยุดลงเมื่อตัวฉันไปเกี่ยวเข้ากับเถาวัลย์ที่ห้อยลงมาตามต้นไม้

 

“―――ด! ฮะ… หะ… หะ ร- รอดไปที…”

“ฉันไม่คิดอย่างงั้นนะค่ะ ฟุฮุฮุฮุฮุ”

“กรี๊ด!”

 

ฉันโล่งใจได้ไม่ทันไร เถาวัลย์พวกนั้นที่ฉันไปเกี่ยวเข้าก็เลื้อยเข้ามามัดฉันเอาไว้ ก่อนที่คุณเทียน่าก็เคลื่อนย้ายมาหาในจุดที่ฉันอยู่

 

“ฮุฮุฮุ ทีนี้ก็หนีไม่พ้นแล้วนะคะ… อยากฉันทำอะไรกับท่านดีคะ?”

“อ๊าาาาาา!? ช่วยด้วยค่าาาาาาาาา!”

“ไม่มีใครได้ยินหรอกนะคะ~ มีแค่ฉันคนเดียวที่รู้ว่าป่านี้อยู่ที่ไหน.. ฮุฮุฮุ ถ้างั้น ฉันคิดว่าคงได้เวลาที่จะ-”

 

“…พอได้แล้วล่ะ เทียน่า”

 

““!””

 

ในช่วงเวลาที่สิ้นหวัง อันตรายที่สุดในชีวิต 5 ปีของฉัน ฉันรู้สึกได้เลยว่าแม้แต่ความบริสุทธิ์ของฉันก็ตกอยู่ในวิกฤติแล้ว จนกระทั่งฉันได้ยินเสียงนั่น ฉันถูกช่วยเหลือเอาไว้จากเสียงจากบุคคลที่ 3 ที่จู่ๆ ก็ดังก้องไปทั่วบริเวณนั้น

เจ้าของเสียงนั้นคือ―――

 

“ท- ท่านจอมมารคะ!?”

“ท่านชอมมาาาาาาาาานนนนนน! แแแแแแแแแแแง !!”

 

ใช่ค่ะ ราชาของฉัน ท่านจอมมารนั่นเอง