ตอนที่ 21 ศาสตราโลหิตเหล็กเทวะ (3)

ตัวของผมในต่างโลก…. แม่งบ้า!!!

ช่วงกลางวัน

 

 

“ กลับมาแล้วรึ ”โกรุม

 

 

“ ครับ ”

 

 

เมื่อเสร็จเรื่องของผมแล้ว ผมไม่ได้รีบที่จะกลับไปที่อาณาจักรสักเท่าไหร่ เลยคิดว่าจะอยู่ที่อารุฟานอีกสักวัน แล้วในวันที่ 16 ของการเดินทางของผมก็ค่อยกลับไปที่ดินแดนของตระกูลเจเนซิส

 

 

“ ได้อาวุธของพี่ข้ามารึยังล่ะ? ”โกรุม

 

 

“ ได้มาแล้วครับ แล้วก็ผมมีเรื่องสำคัญที่จะบอกให้คุณรู้ด้วย ”

 

 

“ หืม? มันคืออะไรงั้นรึ? เรื่องสำคัญที่ว่า? ”โกรุม

 

 

ผมมานั่งฝั่งตรงข้ามเขา ขณะที่เขากำลังจิบชาอยู่ที่ริมระเบียง ที่เดียวกับที่คุณทวดพาผมมาคุยครั้งแรก เขาทำสีหน้าสงสัยในสิ่งที่ผมกำลังจะบอก

 

 

ผมมั่นใจว่าถ้าหากเขารู้เรื่องนี้เขาจะต้องปิดอาณาจักรเพื่อฉลองแน่นอนเลยล่ะ

 

 

“ พี่ชายของคุณตอนนี้อยู่ที่ลาสต์โฮลเดอร์ครับ ”

 

 

“ หมายความว่าไง? … ”โกรุม

 

 

สีหน้าของเขาในตอนนี้ดูสับสนสุดๆ เขาเองก็ไม่คิดว่าพี่ของเขาจะคืนชีพขึ้นมาได้

 

 

“ เพียงแต่คุณกอร์ในตอนนี้นั้น ไม่มีทั้งสกิล หรือพลังเวทเลยแม้แต่น้อย ”

 

 

“ ไม่ๆๆ ข้าหมายถึง พี่ชายของข้าอยู่ที่ลาสต์โฮลเดอร์มันเป็นไปได้ยังไง!? เขาควรจะเสียชีวิตไปแล้วสิ! ”โกรุม

 

 

“ ก็นะ คุณไม่รู้นี่นาว่าผมเป็นผู้สืบทอดของกอร์ คุณรู้แค่ว่าวิญญาณของเขาอยู่ในตัวผม ”

 

 

“ สกิลที่แข็งแกร่งของเขาอยู่ในตัวผมซะส่วนใหญ่เลยล่ะ ”

 

 

เขาได้ยินแบบนั้น เขาก็เริ่มแสดงสีหน้าที่เป็นกังวลออกมา

 

 

“ หมายความว่าจุติก็กลายเป็นสกิลของเจ้าด้วยสินะ .. ทางที่ดีอย่าให้มันได้เปิดใช้งานเลยจะดีกว่า ”โกรุม

 

 

เห็นเขาพูดแบบนั้น ผมก็สงสัย จึงได้ถามเขาเกี่ยวกับสกิลจุติที่ถูกล็อคอยู่นี้

 

 

“ ทำไมคุณถึงห้ามผมไม่ให้เปิดใช้งานมันล่ะ ทั้งๆที่สกิลนี้ออกจะเป็นสกิลที่ดี แม้ผมจะต้องตายก่อนก็เถอะ”

 

 

“ มันก็จริงอยู่ที่จุติมันดี แต่ถ้าหากเธอตาย มันจะเปลี่ยนเผ่าพันธ์ของเธอแบบสุ่ม ทั้งชาวสวรรค์ มนุษย์สัตว์ เอล์ฟ คนแคระ ดราโกนอย มนุษย์ ภูติหรือแม้แต่ปีศาจ เมื่อใดที่เธอเปลี่ยนเผ่าพันธ์ เธอจะรู้สึกว่าจะมีวิญญาณเพิ่มขึ้นมาในร่าง 1 ดวง ”โกรุม

 

 

“ ยิ่งเปลี่ยนเผ่าวิญญาณที่มีอัตตาจะยิ่งเพิ่มขึ้นภายในร่าง จนในท้ายที่สุดร่างของเธอจะเข้าสู่กระบวนการแตกสลาย ทั้งร่างกายและวิญญาณ แต่ยังดีที่ในหนึ่งเผ่าพันธ์จะมีวิญญาณแค่ดวงเดียวที่ควบคุมอยู่ ”โกรุม

 

 

“ คุณกอร์.. เคยตายสินะครับ ”

 

 

“ แค่ครั้งเดียว พี่ชายข้าจุติเป็นเผ่าปีศาจจากที่ก่อนหน้านี้ที่เขาเป็นมนุษย์ แต่เขามีทักษะในการควบคุมวิญญาณที่ดี ทำข้อตกลงกับมัน จึงทำให้ดวงวิญญาณอันบ้าคลั่งดวงนั้นจะปรากฏตัวเฉพาะตอนที่อยู่ในสงคราม ”โกรุม

 

 

“ ยังไงซะ วิญญาณที่สร้างขึ้นจากสกิล จะหายไปตลอดการก็ต่อเมื่อเจ้าของสกิลตายแล้วหนึ่งครั้ง เพราะว่ามันอันตรายข้าถึงไม่อยากให้เจ้าใช้จุติ มันเป็นสกิลที่พี่ชายของข้าใช้มันเพียงแค่ครั้งเดียว แต่ในหนึ่งครั้งนั้นทำให้พลังของพี่ข้า มันไร้ขีดจำกัด.. ระวังตัวไว้ด้วยล่ะ อัลเลียน ”โกรุม

 

 

“ ครับ.. ”

 

 

ถึงผมอยากจะลองใช้มันดูก็เถอะ แต่ฟังจากที่คุณทวดเล่าแล้ว มันชักจะน่ากลัวหน่อยๆแล้วล่ะ ไอ้สกิลนี้

 

 

แต่จากที่ฟังคุณทวดอธิบายมา แสดงว่าในการตายหนึ่งครั้งเราจะมีดวงวิญญาณเพิ่มมาดวงเดียวหรอ? เพราะถ้าตายอีกรอบวิญญาณดวงนั้นจะหายไป

 

 

งี้ก็เหมือนกับคนสองบุคลิกเลยน่ะสิ 

 

 

เอาเป็นว่าผมจะลองเก็บไปคิดดูละกัน

 

 

“ จริงสิคุณทวด! พอธุระของผมเสร็จแล้วคุณอยากจะออกไปข้างนอกกับผมรึเปล่า! ”

 

 

“ ข้างนอก.. หมายถึงอีกทวีปนึงน่ะรึ? ”โกรุม

 

 

“ ครับ! คุณจะได้ไปหาคุณแม่ผมด้วยไง! ”

 

 

“ มันเป็นความคิดที่ดีนะ แต่ข้าไปไม่ได้ ”โกรุม

 

 

“ .. อ่าว ไหงงั้นอ่ะ ”

 

 

“ ก็หลังจากที่ข้ามาอยู่ที่นี่และก่อสร้างรากฐานอาณาจักรได้ไม่นาน พวกผู้นำดินแดนรอบข้างลงมติกันว่า ข้าจะต้องอยู่ที่นี่ เพื่อความปลอดภัยของอัฟฟา และทวีปโดยรอบ ”โกรุม

 

 

“ แล้วคุณทวดไม่เป็นอะไรกับสัญญาแบบนั้นหรอครับ? ” 

 

 

“ ไม่หรอก ข้าเข้าใจความกลัวที่มีต่อข้าของพวกนั้นดี เมื่อก่อนนั้นข้าเป็นเพียงจอมเวทระดับ 9 ไม่ได้แข็งแกร่งเท่าปัจจุบัน แต่ก็ยังถือว่าเป็นภัยพิบัติเดินได้อยู่ดี ด้วยความที่พวกนั้นเคารพข้าที่เป็นถึงน้องชายของผู้ที่หยุดสงคราม จึงได้ขอให้ข้าใช้ชีวิตอยู่ที่อัฟฟาแต่โดยดี ซึ่งข้าก็ไม่ติดอะไร แถมที่นี่ก็ออกจะใหญ่ ”โกรุม

 

 

“ หากเจ้าลองเดินไปทางทิศตะวันออก กับทิศใต้จากอารุฟานสัก 10 วัน เจ้าจะพบกับอาณาจักรของพวกดวาฟ และอาณาจักรของพวกมนุษย์สัตว์ ถัดจากที่นี่ไปทางทิศตะวันตกสักหน่อย เจ้าจะพบกับดินแดนของพวกดาร์คเอล์ฟ เห็นไหม ว่าที่นี่นั้นมีอยู่หลากหลายอารยธรรม ”โกรุม

 

 

“ ครับ… ”

 

 

“ ซึ่ง.. ข้าก็ไปมาหมดแล้ว ตลอดเวลาเป็นพันๆปีข้าก็อาจจะเบื่อสักหน่อย นอกเสียจากตอนที่เจ้ามังกรแดงนั่นตื่นขึ้นมา ”โกรุม

 

 

“ มังกรแดง? ”

 

 

“ ใช่ มังกรแดง.. มันเป็นกิ้งก่าที่คอยปีนออกมาจากปล่องภูเขาไฟด้านหลังป่าทุกๆร้อยปีน่ะสิ เจ้านั่นมันให้ความบันเทิงแก่ข้าพอสมควรเลยล่ะ ”โกรุม

 

 

“ … ”

 

 

นี่ท่านทวดตูเล่นกับมังกรเนี่ยนะ! ..จะแข็งแกร่งอะไรขนาดนั้นวะครับนั่น

 

 

“ เอาเป็นว่าถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นในอัฟฟาก็มาฟ้องข้าได้นะหลานรัก ”โกรุม

 

 

“ .. ผมเป็นลูกของเหลนนะครับทวด ”

 

 

“ เรียกลูกของเหลนมันลำบากนี่นา หลานรักยังดีกว่าอีก ส่วนเจ้าก็เรียกข้าว่าตาก็แล้วกัน มันยังฟังดูเด็กกว่าเลย”โกรุม

 

 

“ .. คับ ”

 

 

หลังจากนั้นผมคุยกับคุณทวดไปเรื่อยเปื่อยเลยล่ะ เหมือนว่าวันนี้เขาจะอารมณ์ดีมากกว่าปกติเมื่อได้รู้ว่าเขาจะได้เจอกับพี่ชายของเขาอีกครั้ง

 

 

ไม่นานนัก เขาก็ตัดสินใจที่จะไปพิสูจน์เรื่องนั้นด้วยตัวเองที่ลาสต์โฮลเดอร์ โดยปล่อยให้ผมเดินเล่นในอาณาจักรได้ตามใจชอบ แต่ก่อนหน้านั้นผมขอตัวไปเข้าเฝ้าราชาก่อนก็แล้วกัน

 

 

“ ถวายบังคมองค์ราชา ”

 

 

ขณะนี้ผมกำลังอยู่ในท้องพระโรงล่ะ ข้างๆราชาก็จะเป็นราชินี และลูกสาวของพวกเขา ผู้คนที่ยืนอยู่ล้อมรอบโถงแห่งนี้ก็จะเป็นเหล่าตระกูลชั้นสูงในดินแดนนี้ และผู้ที่ทำหน้าที่ปกครองเหล่าประชาชนอย่างรัฐมนตรี

 

 

ไม่น่าเชื่อว่าที่ห้องนี้จะไร้ซึ่งแรงกดดันและบรรยากาศที่ไม่ดีเลย ตามปกติแล้วในไลท์โนเวลต่างๆ ตามท้องพระโรงจะให้บรรยากาศที่กดดันแบบสุดๆ จากทั้งสายตาของเหล่าขุนนางและราชา 

 

 

แต่ที่แห่งนี้กับเป็นกันเองมากนั่นทำเอาผมประหม่าไปเลย

 

 

“ เงยหน้าขึ้นเถอะหลานชาย! ไหนๆเจ้าก็เป็นลุกชายของพี่สาวข้าทั้งที ฮ่าๆๆ ”ฮากะ

 

 

อีกทั้งราชาในดินแดนนี้ยังเป็นกันเองแบบผิดปกติอีกด้วย นั่นสินะ นิสัยของน้าฮากะก็คงจะเป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ตอนแรกที่ผมเข้ามา ขุนนางต่างๆก็กำลังคุยกันถึงเรื่องปัญหาต่างๆอยู่เลย แต่พอราชาได้พูดขึ้นพวกเขาทั้งหมดต่างก็เงียบลงพร้อมๆกัน 

 

 

มันทำเอาผมขนลุกเลยทีเดียว

 

 

“ เจ้ามาหาถึงที่นี่มีเรื่องอะไรงั้นรึ? หรือจะมาลากัน? ”ฮากะ

 

 

“ เปล่าครับน้า ผมแค่อยากจะขออนุญาตเข้าถึงตลาดมืดด้วยน่ะครับ พอดีว่าผมต้องการจะดูให้ทั่วถึงสักหน่อย ”

 

 

ผมได้ยินเรื่องตลาดมืดมาจากคุณซาราก่อนหน้านี้ล่ะ เขาบอกว่าที่อารุฟานมีตลาดมืดขนาดใหญ่อยู่ใต้ดิน เป็นสถานที่ที่มีองค์ราชาควบคุมอยู่ เพื่อความราบรื่นทางเศรษฐกิจและความสงบสุขของบ้านเมืองแล้ว เขาไม่เลือกวิธีการที่จะทำเลย  

 

 

น้าฮากะนี่เหลี่ยมกว่าที่ผมคิดไว้ซะอีก

 

 

“ โอ้ว ตลาดมืดรึ ”ฮากะ

 

 

“ ครับ ”

 

 

คุณซาราเขายังบอกอีกว่าที่ตลาดมืดของอารุฟานนั้นไม่เหมือนที่อื่น เพราะสิ่งผิดกฏหมายปะปนอยู่เลย และมีแต่สิ่งของหายากกับสิ่งของต้องห้ามและวัตถุคำสาปมากมาย เลยให้ผมลองไปดูเผื่อจะมีอะไรติดไม้ติดมือกลับไปบ้าง

 

 

ก็นะ ผมเองก็คิดว่ากลับบ้านไปตัวเปล่าโดยไม่มีของฝากก็คงไม่ดี ..แย่ล่ะสิ ผมไม่รู้ว่าพวกพ่อ แม่ น้องๆและเมเดียร์ชอบอะไรซะด้วย.. เอาไงดีนะ

 

 

“ ดีเลย ข้ากะจะให้เรกกะไปลาดตระเวนที่นั่นพอดี ”ฮากะ

 

 

“ พวกเจ้าไปด้วยกันเลยสิ ”ฮากะ

 

 

“ ค- คะ?? ท่านพ่อหมายความว่าไงคะเนี่ย!!? ”เรกกะ

 

 

ดูเหมือนเจ้าหญิงจะไม่อยากจะไปกับผมสักหน่อยน่ะนั่น …เดี๋ยวนะตอนนี้เจ้าหญิงก็นับเป็นลูกพี่ลูกน้องผมนี่หว่า หรือว่าเธอลำบากใจที่จะไปกับชายแปลกหน้างั้นหรอ? ช่างมันเถอะเดี๋ยวผมไปคนเดียวเอาก็ได้

 

 

“ ก็นั่นไง พ่อจะให้ลูกเป็นไกด์นำทางให้พี่เขาไง ”ฮากะ

 

 

“ แต่หนูไม่กล้าสู้หน้าเขาอ่ะ… ”เรกกะ

 

 

“ เอาน่า ลูกพี่ลุกน้องกัน ”ฮากะ

 

 

“ ท่านพ่อ… ก็ได้ค่ะ.. ”เรกกะ

 

 

อื้ม ตอนนี้ผมได้ผู้ร่วมปาร์ตี้มาหนึ่งคนแล้วล่ะ 

 

 

“ ก่อนอื่นก็ทำความรู้จักกันก่อนสิ! ”ฮากะ

 

 

ผมคิดไปเองรึเปล่าเนี่ย เหมือนว่าราชาจะดันลูกเขาให้มาอยู่ใกล้ชิดกับผมแปลกๆ หวังว่าคงจะไม่ใช่เรื่องแบบนั้นนะ

 

 

“ ร- เรกกะ ลาร์ อารุฟาน อายุ 14 ปีค่ะ.. ฝากตัวด้วยนะคะ พี่ชาย.. ”เรกกะ

 

 

หวา.. เธอหน้าแดงสุดๆไปเลยแฮะ ทั้งๆที่ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยเนี่ยนะ..

 

 

ถึงแม้ว่าเรกกะจะเป็นเอล์ฟเด็กอายุ 14 ก็เถอะ แต่เธอสูงประมาณ 170 เลยนะ ซึ่งเป็นความสูงที่เกือบจะเท่าผมเลยล่ะ แต่ท่าทางของเธอที่เขินอายอยู่เนี่ย ทำเอาผมเหวอสุดๆไปเลยล่ะ

 

 

“ อืม.. อะแฮ่ม- ฉันอัลเลียน ฟอน เจเนซิส อายุ 17 ยินดีที่ได้รู้จักนะน้องสาว ”

 

 

เออแฮะ ผมก็ค่อนข้างจะอายเลยล่ะ ที่ต้องแนะนำตัวในที่ที่คนเยอะแบบนี้ แต่ดูจากสีหน้าองค์ราชาแล้วเขาคงจะชอบใจน่าดู

 

 

“ ยังไงก็ขอฝากเรกกะด้วยนะหลานชาย! ”

 

 

“ เด็กคนนั้นค่อนข้างชอบเที่ยวน่ะ ระวังอย่างหลงกันนะ! ”ฮากะ

 

 

“ อ่ะ- ครับ ”

 

 

 

 

“เดินตามมาระวังๆนะคะพี่ ”เรกกะ

 

 

เรกกะพาผมมาที่ห้องสมุดส่วนกลางภายในเมืองหลวงของอาณาจักร ก่อนที่จะหยิบหนังสือเล่มนึงออกมาจากชั้นหนังสือเพื่อเป็นการเปิดประตูลับที่ซ่อนอยู่หลังห้องสมุดอันกว้างใหญ่นี้

 

 

พวกเราเดินลงมาตามทางเดินมืดๆ ก่อนหน้าที่จะลงมาข้างใต้ เรกกะยื่นหน้ากากใบหนึ่งให้ผม เป็นหน้ากากสีขาวที่ราบเรียบ มีเพียงช่องตาให้มองเห็นกับช่องปากก็เท่านั้น

 

 

“ เอาไว้ปกปิดตัวตนน่ะค่ะพี่ ”เรกกะ

 

 

“ แล้วเธอไม่ใส่หรอ? ”

 

 

“ ไม่จำเป็นหรอกค่ะ! ก็แถวนี้หนูคุมนี่นา! ”เรกกะ

 

 

เออแฮะ เธอเป็นถึงเจ้าหญิงและเป็นลูกสาวเจ้าของตลาดมืดนี้เลยนี่นะ เพราะงั้นเธอน่าจะทำอะไรก็ได้ข้างล่างนี่ ราวกับว่ามันเป็นดินแดนของเธอ

 

 

“ ถึงแล้วค่ะ! ”เรกกะ

 

 

ผมไม่คิดเลยว่าเมืองข้างใต้อาณาจักรมันจะใหญ่ได้ขนาดนี้ ข้างล่างนี่มีทั้งสีสันมากมายไม่ต่างกับข้างบน เพียงแต่ผู้คนของที่นี่ต่างก็ใส่หน้ากาก แล้วแลกเปลี่ยนสินค้าซึ่งกันและกันทั้งนั้นเลย

 

 

“ ว้าว~ ”

 

 

ไม่ว่าผมจะมองไปทางไหนมันก็มีแต่ของน่าทึ่งที่ผมไม่อาจจะเข้าใจได้อยู่เต็มไปหมดเลยแฮะ ส่วนใหญ่ก็เป็นอุปกรณ์เวท B แรงก์ขึ้นไป และไม่น่ามีของ S แรงก์หลุดเข้ามาได้ อีกทั้งเหล่าผู้คนที่มาใช้บริการตลาดมืดนั้นก็ดูจะมีแต่พวกเก่งๆทั้งนั้นเลย

 

 

“ พี่ชายอยากได้อะไรไหมคะ? ”เรกกะ

 

 

“ ไม่รู้สิ.. คือ คิดไม่ออกน่ะ ”

 

 

ที่นี่มีของมากซะจนผมไม่รู้จะซื้ออันไหนเลยเชียวละ แล้วผมก็คิดว่าเงินที่มีอยู่ตอนนี้ก็ไม่น่าพอสำหรับการซื้อของที่ตลาดมืดน่ะนะ

 

 

“ องค์หญิงนี่! กระหม่อมขอมอบแหวนนี้ให้ท่านนะพะย่ะค่ะ! ” ?

 

 

“ จะดีหรอ? แหวนนี้ดูแพงมากเลยนะ? ”เรกกะ

 

 

“ ไม่เป็นไรพะย่ะค่ะ กระหม่อมมีของที่ดีกว่านี้อยู่แล้ว! ” ?

 

 

“ แต๊งค์กิ้วนะ! ”เรกกะ

 

 

ระหว่างทางก็มีคนเอาของมีค่ามาให้กับเรกกะมากมายราวกับว่าเธอเป็นคนดังของที่นี่เลยล่ะ

 

 

“ คนรู้จักเยอะจังเลยนะเธอ ”

 

 

“ ก็นะ คนเค้าเรียกหนูว่าองค์หญิงแห่งตลาดมืดกันนี่นา ”เรกกะ

 

 

“ แล้วทำไม่ให้คนคุ้มกันตามมาด้วยสักหน่อยล่ะ ไม่กลัวว่าจะโดนทำร้ายรึไง? ”

 

 

“ หนูก็แกร่งอยู่พอตัวนะพี่ชาย ถ้าต้องงัดกับจอมเวทระดับ 6 จริงๆล่ะก็ หนูจัดการได้สบายเลยล่ะ ”เรกกะ

 

 

ผมชักจะสงสัยแล้วสิว่าเด็กคนนี้มันอายุ 14 จริงรึเปล่า ทั้งท่าทางที่ดูเป็นผู้ใหญ่เกินวัย กับความแข็งแกร่งที่ล้นหลาม ผมคงไม่ต้องกลัวเลยล่ะว่าจะมีใครมาทำอะไรน้องสาวคนนี้ของผมได้น่ะ

 

 

เราเดินดูของหลายๆอย่างไปด้วยกัน จนกระทั่งผมสะดุดตาเข้ากับสถานที่หนึ่ง ที่ดูอลังกว่าที่อื่นๆมาก 

 

 

เรกกะรู้ได้เลยว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่ เธอจึงได้อธิบานเกี่ยวกับมัน

 

 

“ ที่นั่นคือโรงประมูลเอลโดราโดล่ะค่ะ เป็นที่ที่มีเบื้องหน้าเป็นคาสิโนสำหรับผีพนัน และมีเบื้องหลังเป็นโรงประมูลที่ของที่จะประมูลนั้นมีความสำคัญพอๆกับสมบัติระดับชาติเลยล่ะค่ะ ”เรกกะ

 

 

“ อยากเข้าไปไหมคะพี่ชาย? ”เรกกะ

 

 

“ .. ไม่ล่ะ ตอนนี้น่าจะยังไม่มีอะไรให้ซื้อนะ ”

 

 

ผมเมินโรงประมูลนั่นไปก่อน ผมคิดว่าในอนาคตน่าจะได้มาที่นี่แน่ๆเลยยังเซฟตังค์เอาไว้ก่อน เพราะตังค์ผมในตอนนี้มันมีไม่พอที่จะไปประมูลอะไรข้างในนั้นแน่ๆล่ะ

 

 

แล้วผมก็ไม่อยากที่จะยืมเงินของเรกกะด้วยล่ะนะ.. แบบว่ามันดูไม่ดีน่ะ

 

 

“ พี่ชาย อ่ะนี่ หนูให้นะ! ”เรกกะ

 

 

ระหว่างที่กำลังจะกลับขึ้นไปข้างบนด้วยกันนั้น เรกกะก็ได้ยื่นแหวนวงหนึ่งมาให้กับผม เป็นแหวนเงินที่สลักลวดลายบนแหวนด้วยอักขระแปลกๆ เป็นตัวอักษรที่ผมอ่านไม่ออก ผมรับมาโดยไม่ได้คิดอะไรก่อนจะสวมมันที่นิ้วกลางข้างซ้าย

 

 

“ ขอบคุณนะน้องสาว ”

 

 

“ ค่ะ! ”เรกกะ

 

 

ว่าไปแล้ว.. น้องสาวคนนี้ก็ไม่ใช่คนดีอะไรนี่นะ แถมยังน่ารักและสวยอีกต่างหาก เป็นเด็กผู้หญิงชาวเอล์ฟที่มีความงามและฐานะที่ดีเลยทีเดียว แต่ผมก็ยังคิดไม่ออกเลยแฮะว่าน้องสาวคนนี้จะมีคู่ครองเป็นคนแบบไหนถึงจะสามารถเอาชนะนิสัยความซนนี่ได้อย่างอยู่หมัด

 

 

“ พี่อัลเลียนมาเร็ว! เรายังมีอะไรที่ต้องทำอีกเยอะเลยนะคะ! ”เรกกะ

 

 

แต่ช่างมันเถอะ ผมคงจะคิดมากไป ในเมื่อตอนนี้เรกกะยังเด็กนี่นะ

 

 

“ เราอยู่ในห้องสมุดนะเรกกะ เบาๆหน่อยสิ ”

 

 

“ อ่ะ- ขอโทษค่ะ! ”เรกกะ

 

 

เมื่อเราขึ้นมาจากตลาดมืดแล้ว ข้างนอกก็ถึงช่วงเวลาที่พระอาทิตย์จะตกดินพอดี ทันทีที่ท้องฟ้าได้มืดลงแสงสีจากตะเกียง โคมไฟ และผีเสื้อเรืองแสงก็ได้ส่องสว่างขึ้น ทำให้ที่ดินแดนนี้เป็นอีกหนึ่งที่ที่มีความงดงามมากสำหรับผม

 

 

แล้วนั่น.. คุ้นๆนะน่ะ

 

 

ผมสังเกตเห็นผู้ชายกับผู้หญิง เดินตามคุณโกรุมออกมาจากยูดราที่อยู่ไม่ไกลจากห้องสมุดส่วนกลางมากนัก

 

 

“ …. ” โกรุม

 

 

“ …. ”

 

 

แล้วพวกเขาก็สังเกตเห็นผม 

 

 

พวกเรามองหน้ากันสักพัก

 

 

“ ปู่ทวดค้าา!!! ”เรกกะ

 

 

เป็นเรกกะที่วิ่งเข้าไปกอดปู่ทวดของเธอ ทางคุณกอร์กับคุณซิมฟ์มองไปที่โกรุมอย่างสงสัย

 

 

“ … ”กอร์

 

 

“ เอ่อ.. โกจัง เด็กคนนี้คือ.. ”ซิมฟ์

 

 

“ ลูกของเหลนน่ะพี่สาว จะเรียกว่าหลานก็ได้นะ ”โกรุม

 

 

คุณตาแนะนำเรกกะให้พี่ชายและพี่สะใภ้ของเขาได้รู้จัก

 

 

“ เด็กคนนี้ชื่อเรกกะ แล้วก็นะหลานรัก คนๆนี้คือพี่ชายของทวดเอง ชื่อกอร์ และภรรยาของเขา ราชันย์ภูติลม ซิมฟ์ ”โกรุม

 

 

โดยที่มีผมยืนดูพวกเขากำลังสนุกกันอยู่ห่างๆ นั่นคงจะเป็นช่วงเวลาที่ครอบครัวได้อยู่ด้วยกันสินะ คุณซิมฟ์ดูจะถูกใจเรกกะมากเลยล่ะ ส่วนคุณกอร์เขาทำเหมือนตัวเองเป็นคนไม่เคยเข้าสังคมมาก่อนเลย.. คือ เขาพูดไม่เก่งน่ะ

 

 

“ หลานสิน้า~ น่ารักจัง ”ซิมฟ์

 

 

“ อ- อืม สวัสดี …”กอร์

 

 

ดูเหมือนว่าคุณตาจะใช้เวลาโน้มน้าวพวกเขาอยู่นานพอสมควร ถึงจะออกจากลาสต์โฮลเดอร์กันมาได้ พอออกมาแล้วก็ตื่นตากับโลกภายนอกกันมากเลยล่ะ โดยเฉพาะคุณซิมฟ์ที่ใช้เวลาทั้งหมดอยู่ในดินแดนของตัวเอง และเคยได้ฟังเรื่องจากข้างนอกผ่านลมที่กระซิบบอกเธอมาบ้าง

 

 

แต่การที่เธอออกมาเห็นด้วยตัวของเธอเองนั้นประทับใจกับมันมากเลยทีเดียว

 

 

แล้ว.. เป็นงี้แล้วผมควรจะทำอะไรต่อไปดีเนี่ย?

 

 

ทานมื้อค่ำ?

 

 

หรือจะกลับไปนอนที่วังดี?

 

 

เลือกไม่ถูกเลยแฮะ

 

 

“ คิดไม่ออกอ้าาา ”

 

 

“ พี่ค้าา!! ”เรกกะ

 

 

“ อ่ะ- เรกกะ? ”

 

 

“ คุณปู่ทวดเรียกอ่ะค่ะ ”เรกกะ

 

 

ผมหันไปที่พวกเขา แล้วพวกเขาก็ยิ้มให้กับผม จริงด้วยสิผมไม่ได้อยู่คนเดียวนี่นา ผมก็เป็นครอบครัวเดียวกับพวกเขานี่ จะยืนเท่ทำเบียวอยู่คนเดียวทำไมน้ออบี๋

 

 

“ จากเรื่องเมื่อเช้า ข้ายังไม่ได้ให้พรเจ้าเลยนะหนุ่มน้อย ”ซิมฟ์

 

 

“ อ้ะ- ผมลืมไปซะสนิทเลย!! ”

 

 

“จากนี้ไป พรแห่งสายลมจะคอยคุ้มครองเจ้า เจ้าจักเป็นอิสระจักพันธนาการแห่งผืนปฐพี รวดเร็วและคล่องแคล่วดั่งลมที่พัดผ่านไป ข้าราชันย์แห่งภูติลมทั้งมวล ขอมอบพรให้กับเด็กน้อยคนนี้ .. ”ซิมฟ์

 

 

คุณซิมฟ์จูบเบาๆที่หน้าผากของผม ซึ่งหลังจากที่ผมได้รับพรแล้วผมรู้สึกว่าตัวเองเบาขึ้นมากเลย ถือว่านี่เป็นหนึ่งในพรที่ดีที่สุดของผมเลยล่ะ.. เพราะมันเป็นพรแรกด้วยล่ะนะ

 

 

“ ก็นะ หลังจากนี้เราจะได้อยู่กันพร้อมหน้าแล้วนะพี่ชาย พี่สะใภ้! ”โกรุม

 

 

“ นั่นสินะ ”กอร์

 

 

“ แบบนั้นก็ดีนะคะที่รัก ”กอร์

 

 

“ เห็นด้วยเลย ”กอร์

 

 

“ ในเมื่อทั้งคู่ออกมาจากลาสต์โฮลเดอร์แล้ว งั้นเราไปทานอาหารกันที่วังเถอะ! แน่นอนว่าเธอก็ด้วยนะอัลเลียน!”โกรุม

 

 

“ ครับคุณตา! ”

 

 

 

 

ขณะทานมื้อค่ำกันอยู่ คุณตาก็ได้แนะนำคุณกอร์ และคุณซิมฟ์ให้กับญาติพี่น้องของเขาทั้งหมด ค่ำคืนนี้เป็นคืนที่สำคัญอีกหนึ่งคืนเลยล่ะ เป็นคืนที่คุณโกรุมรวมตัวเอล์ฟทั้งหมดที่อยู่มาตั้งแต่ยุคที่คุณกอร์เป็นผู้นำให้มาทานแม้ค่ำด้วยกัน

 

 

บอกเลยว่าผมประหม่าสุดๆไปเลย.. จะว่ายังไงดีล่ะ เป็นมนุษย์คนเดียวเลยมั้งที่อยู่ท่ามกลางเหล่าเอล์ฟ.. คุณกอร์น่ะไม่นับนะ เพราะตอนนี้เขากลายเป็นอันเดดไปแล้วอีกทั้งยังรู้จักกับพวกบรรพบุรุษแต่ละตระกูลมาตั้งแต่แรกอีก เลยคุยกันถูกปาก

 

 

แต่ผมนี่สิ มีแต่คนแปลกหน้าเต็มไปหมด คนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมก็ไม่ค่อยจะมี ผมไม่รู้จะทำอะไรเลยนั่งทานอาหารอยู่เงียบๆคนเดียวล่ะ

 

 

“ ขอโทษจริงๆนะคะพี่ชาย! แต่คืนนี้เพื่อนฉันมากันพร้อมหน้าเลยน่ะค่ะ! ”เรกกะ

 

 

“ โอ- โอเคร ”

 

 

ส่วนเรกกะเองก็ต้องไปคุยเล่นกับเพื่อนของเธอเหมือนกัน เลยไม่ได้มีเวลามาอยู่ดูแลผมที่เป็นแขก ซึ่ง..เป็นเหตุผลที่เข้าใจได้ล่ะนะ

 

 

“ เห้อ… ”

 

 

ผมจึงถอนหายใจออกมาโดยไม่รู้ตัว

 

 

“ ส- สวัสดีค่ะ ” ???

 

 

แต่แล้วก็ได้มีเอล์ฟสาวคนหนึ่งเข้ามาคุยกับผม คงจะเห็นผมไม่มีเพื่อนคุยและทำหน้าอมทุกข์อยู่คนเดียวล่ะมั้ง

 

 

“ ฉันมิกะค่ะ! เป็นพี่สาวของเรกกะ! ”มิกะ

 

 

หือ.. เรกกะมีพี่สาวด้วยอ่อ? ไม่เห็นรู้เรื่องเลยอ่ะ

 

 

“ ขอโทษนะคะที่ไม่ได้มาพบคุณเลย.. คือฉันทำภารกิจพึ่งเสร็จเลยรีบกลับมาจนถึงช่วงเย็นเลยน่ะค่ะ.. ”มิกะ

 

 

“ ไม่เป็นไรครับ.. ผมอัลเลียน.. อายุ 17 ”

 

 

“ ตายจริง! ฉันก็ 17 ค่ะ! มาสนิทกันไว้เยอะๆนะคะอัลเลียน! ”มิกะ

 

 

มิกะ เธอเป็นเอล์ฟ.. ที่มีผมสีทองตามแบบฉบับเอล์ฟทั่วๆไป แต่ดวงตาของเธอก็เป็นสีทองต่างจากคนอื่นๆในตระกูลด้วย อีกทั้งเธอยังมีรูปกากบาทสีขาวที่สลักอยู่กลางนัยน์ตาของเธออีก

 

 

รูปร่างที่สูง สวย เซ็กซี่ นั่นทำให้เธอดูเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบสำหรับใครหลายๆคน.. แต่คงไม่ใช่กับผมที่เจอกับสถานการณ์โดนดาเมจมาเยอะแล้วอ่ะนะ

 

 

อืม ผมรู้สึกสนใจในภารกิจที่เธอไปทำแล้วแฮะ หรือว่าเธอจะเป็นนักผจญภัยกัน?

 

 

“ คุณอยู่แคลนอะไรหรอครับ?.. ”

 

 

ผมเลยได้ถามเธอออกไป

 

 

ตอนนี้ผมไม่ค่อยจะมีแรงที่จะพูดสักเท่าไหร่จากความเหนื่อยสะสมน่ะ.. คงต้องพักสักหน่อยแล้วมั้งเนี่ย

 

 

“คุณรู้ด้วยหรอคะว่าฉันเป็นนักผจญภัย?! คุณฉลาดจริงๆเลยแฮะ ฉันสังกัดอยู่แคลนวาคิวเรียค่ะ ลำดับที่ 5 ของแคลน คุณคงจะรู้จักสินะคะ? ”มิกะ

 

 

“ ครับ.. ก็ก่อนหน้านี้เคยร่วมงานด้วยกันมาอยู่บ้างน่ะ ”

 

 

หลังจากนั้นเธอก็ไปตักอาหารเพิ่มมาเป็นอย่างมาก ก่อนจะมานั่งฝั่งตรงข้ามกับผม…

 

 

แม่เจ้า.. เธอกินเร็วชะมัด..

 

 

นี่ผู้หญิงตระกูลนี้กินอาหารเร็วแบบนี้ทุกคนเลยรึเปล่าเนี่ย.. ให้ตายสิ ทำให้นึกถึงยัยเมเดียร์เลยแฮะ

 

 

 

 

“ วิเวียน หากหลานดูอยู่ก็อย่าลืมมาเยี่ยมทวดด้วยล่ะ ไม่ได้กลับมาเยี่ยมบ้านสักพักแล้วนะหลานรัก ”โกรุม

 

 

“ พูดกับใครอยู่รึน้องชาย ”กอร์

 

 

“ หลานน่ะท่านพี่ เป็นหลานสาวที่รักที่สุดเลยล่ะ ”โกรุม

 

 

“ คงจะเป็นเด็กเรียบร้อยล่ะสิท่า ”กอร์

 

 

“ ไม่หรอก เด็กคนนั้นทำให้ข้านึกถึงครั้งเมื่อข้ายังเยาว์ ถ้าท่านพี่ยังจำได้อยู่ท่านน่าจะนึกออก ”โกรุม

 

 

“ เป็นเช่นนั้นเอง … ”กอร์

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ หุหุ คุณทวดนี่ล่ะก็ ฉันเองก็อยากจะไปเยี่ยมเหมือนกันนะ แต่ช่วงนี้มันไม่ค่อยจะมีเวลาสักเท่าไหร่ ”วิเวียน

 

 

จากที่ฉันใช้ตาและหูของฉันคอยฟังเสียงที่อยู่ภายในพระราชวัง ก็ได้ยินสิ่งที่ท่านทวดพูดเข้า 

 

 

ทำเอาฉันคิดว่าวันหยุดตอนปิดเทอมน่าจะพาเด็กๆไปเที่ยวที่อัฟฟาสักหน่อย

 

 

แต่เรื่องกำหนดการเอาไว้บอกเมดี้ทีหลังก็แล้วกันนะ 

 

 

…เสียงอะไรดังมาจากทางห้องแต่งตัวกันหว่า?

 

 

“ เห้ยยย!! ยัยอิกนิส ใส่เสื้อผ้าให้มันดีๆสิวะ!!! ”เมเดียร์

 

 

“ ขอโทษค่าา!! ก็หนูใส่ไม่เป็นอ้าาาา!! ”อิกนิส

 

 

“ ฮ่าๆๆๆๆ!! ท- ท่านพี่ก็อย่าแกล้งพี่อิกนิสเค้าซี่ อุ-วะฮ่าๆๆๆๆ!!!! ”โรเซ่

 

 

แหม แหม แหม~ เด็กพวกนี้นี่ล่ะก็ ร่าเริงกันจัง

 

 

“ … ”เมเดียร์

 

 

“ … อ่ะ”อิกนิส

 

 

“ ..โอ้ว ”โรเซ่

 

 

“ ว๊าาากกกกกกกก!!!! แม่มาา!!!!! ”เมเดียร์

 

 

“ ทำอะไรกันอยู่หรอจ๊ะ เมดี้~ ”วิเวียน

 

 

 

 

 

 

 

ตัดจบตอน