ในตอนนี้ หลานเสี่ยวถางกวัดแกว่งมีทำผัดที่ถืออยู่เข้าไปใกล้ ชี้ไปตรงหน้าของทั้งสองคนบนเตียงที่ตอนนี้ตกลงไปแล้ว
เพียงแต่ว่า ในช่วงเวลาที่เผชิญหน้าเข้าใกล้กับอันตรายนั้นเอง สือเพ่ยหลินหยิบหมอนขึ้นมาใบหนึ่งอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยกขึ้นบังมีดทำผักเอาไว้
ทันใดนั้นเอง มีดทำพักก็กรีดหมอนที่ทำมาจากขนสัตว์จนขาด ขนสัตว์สีขาวราวกับหิมะที่อยู่ด้านในลอยฟุ้งกระจาย ราวกับว่าเป็นเกล็ดหิมะที่ทำมาจากขนสัตว์ที่สวยงาม
แต่ทว่าเป็นเพราะว่ามีหมอนมาสกัดกั้นเอาไว้ แรงของมีดทำผักตอนนี้จึงอ่อนกำลังลงไปครึ่งหนึ่งแล้ว ถูกสือเพ่ยหลินคว้าจับเอาไว้ที่ด้านหลังของมีด หลังจากนั้นก็ถูกแย่งเอาไปซ่อนเอาไว้
โทสะที่อยู่ภายในหัวใจของเขาปะทุขึ้นมาในทันที “หลานเสี่ยวถาง คุณบ้าไปแล้ว ถึงกับจะฆ่าผมเลยหรือไง?!”
เขาโยนมีดทำผักไปไว้ในที่ที่ห่างไกลจากผู้คน หลังจากนั้นจึงกระโดดลงมาจากเตียง ทันใดนั้นเองก็คว้าจับเข้าที่หัวไหล่ของหลานเสี่ยวถางเอาไว้ในทันที “คุณกล้าที่จะฆ่าคนเลยหรือไง?!”
“ทำไมฉันจะไม่กล้าละคะ?!”หลานเสี่ยงถางรู้สึกเพียงแค่ว่าที่หัวไหล่ราวกับว่าถูกสือเพ่ยหลินบีบจนแตกแล้ว เธอสบตามองเขา ก่อนจะเอ่ยพูดกับเขาราวกับใช้ใบมีดกรีดเนื้อลงไปทีละนิดว่า “คุณทำกับฉันขนาดนี้ คุณไม่ตายดีแน่!”
“เดิมที ผมคิด ว่าจะให้ค่าเลี้ยงดูคุณเป็นเงินสักก้อน” สือเพ่ยหลินตอนนี้สงบลงแล้ว ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาอย่างราบเรียบว่า “ตอนนี้ ดูท่าแล้วว่าคงไม่จำเป็นแล้วล่ะ ผมจะไม่ฟ้องเรื่องที่คุณมีเจตนาจงใจที่จะฆ่าคน ก็ถือว่าเมตตาคุณมากแล้วละนะ ผมจะรีบแจ้งไปยังทนายทันที ให้จัดการเรื่องหย่า แน่นอนครับ ถ้าหากคุณไม่ดำเนินการละก็ ผมจะฟ้องว่าคุณจงใจจะฆาตกรรม”
“คุณฟ้องสิ! คุณคิดว่าฉันกลัวตายหรือไง?!” หลานเสี่ยวถางมองเขาด้วยความเกลียดชัง “หากฉันกลายเป็นผี ก็จะไม่ปล่อยพวกคุณไปแน่!”
“ถึงจะยอมตาย ก็ไม่ยอมหย่างั้นหรือ?” สือเพ่ยหลินหรี่ตาลง นัยน์ตาฉายประกายโหดร้ายออกมา
“ฉันไม่ยอมให้พวกคุณได้สมหวังแน่!” หลานเสี่ยงถางเอ่ยขึ้นโดยไม่มีท่าทีลังเลเลยแม้แต่น้อย
“ถ้าอย่างนั้นก็อย่าหาว่าผมไม่เกรงใจก็แล้วกัน!” สือเพ่ยหลินเอ่ยขึ้น ก่อนจะพุ่งเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว พลิกฝ่ามือแล้วคว้าหลานเสี่ยวถางมาจับเอาไว้
พละกำลังระหว่างผู้หญิงกับผู้ชายนั้นแตกต่างกันมาก ทำให้เธอไม่สามารถต่อต้านได้เลย หลานเสี่ยวถางต่อสู้ไปพลาง พูดไปพลางว่า “สือเพ่ยหลิน คุณจะทำอะไรน่ะ?”
“โร่วโร่ว เธอไปที่ชั้นใต้ดินแล้วหาเชือกมาเส้นหนึ่ง” สือเพ่ยหลินหันไปมองหญิงสาวที่อยู่บนเตียง น้ำเสียงดูอ่อนโยนเป็นอย่างมาก
โร่วโร่วหรือ? นี่เป็นครั้งแรกที่หลานเสี่ยวถางได้ยินสือเพ่ยหลินเรียกชื่อผู้หญิงคนอื่นด้วยความอ่อนโยนมากขนาดนี้ เธอบังเกิดโทสะจนแทบจะลมจับ แต่ทว่า ร่างกายยังคงถูกจับเอาไว้อยู่ เดิมทีก็ไม่มีแรงต่อต้านเลย
หญิงสาวที่อยู่บนเตียงหยิบเสื้อเชิ้ตของสือเพ่ยหลินที่อยู่บนพื้นขึ้นมาสวมใส่ ในตอนนี้ หลานเสี่ยงถางจึงพึ่งจะได้เห็น เรียวขาของเธอทั้งยาวทั้งขาว รูปร่างสูงยาวเข่าดีอยู่ภายใต้เสื้อเชิ้ตตัวโคร่ง ยิ่งทำให้มีกลิ่นอายเย้ายวนออกมาให้เห็น
“พี่เพ่ยหลินคะ ฉันจะรีบมาค่ะ!” เธอพูดไป ก่อนจะวิ่งออกไปพร้อมกับเท้าเปลือยเปล่าทั้งอย่างนั้น
ไม่นานนัก หญิงสาวก็หยิบเชือกออกมาเส้นหนึ่ง ก่อนจะยื่นส่งให้กับสือเพ่ยหลิน
“สือเพ่ยหลิน คุณกล้ามัดฉันหรือ?!” ถึงแม้ว่าจะทั้งโกรธทั้งเกลียดอีกครั้ง แต่ทว่า ความเจ็บปวดภายในหัวใจที่ถูกคนที่รักทรยศหักหลัง ก็ยังคงทำให้ดวงตาทั้งสองข้างของหลานเสี่ยวถางพร่ามัว เธอรู้สึกว่าร่างของเธอถูกเชือกมัดเอาไว้ น้ำตาของเธอไหลออกมาราวกับเขื่อนแตก ร่างทั้งร่างสั่นเทาจนไม่เหลือเค้าโครงเดิม
สุดท้ายแล้ว ร่างของเธอถูกมัดเอาไว้ เชือกมัดเอาไว้แน่นมาก เป็นเพราะว่าเชือกมันหยาบมาก แม้กระทั่งเธอก็รู้สึกได้ว่ามีบางที่ ที่ผิวเนื้อถูกรัดแน่นจนแทบจะแตก
“คุณจะทำอะไรกันแน่?!” เธอสบตามองไปยังคนที่เธอเคยตัดสินใจแล้วว่าจะดูแลไปตลอดชีวิตคนนั้น คนที่ในยามปกตินั้นจะหล่อเหลาเอาการมากกว่าคนอื่น คนที่เธอดูแลมาแล้วสองปี คนที่คำนึงถึงมาถึงสองปี รู้สึกเพียงแค่ว่าพื้นที่ภายในหัวใจที่อ่อนนุ่มที่สุดราวกับว่าถูกสองมือที่มองไม่เห็นเหยียบย่ำและย่ำยี เนื้อเละเทะ ไม่ใช่สภาพที่เหมือนในตอนแรกอีกต่อไปแล้ว
“ผมอยากให้คุณมองเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปนี้ ให้คุณได้พิจารณาใหม่อีกครั้ง ที่คุณตัดสินใจว่าจะไม่หย่า” สือเพ่ยหลินเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น พูดไป เขาก็บีบเข้าที่คางของหลานเสี่ยวถาง หลังจากนั้นก็ยัดผ้าเช็ดเข้าไป
ดวงตาของหลานเสี่ยวถางเบิกกว้าง ภายในหัวใจมีลางสังหรณ์,สังหรบางอย่างที่ไม่ดีนัก
ในวินาทีต่อมา สือเพ่ยหลินเดินไปถึงหน้าของหญิงสาว มือของเขาหยุดลงตรงที่กระดุมเสื้อเชิ้ตของเธอ ปลดสองเม็ดบนสุดออก หลังจากนั้น จึงหันศีรษะกลับมามองหลานเสี่ยวถางแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า “เห็นหรือยัง คนที่ผมรักคือเฉินจื่อโร่ว ตอนนี้ พวกเราจะทำเรื่องใกล้ชิดที่สุดระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง……”
พูดไป เขาคว้าหมับเข้าไปที่ช่วงเอวของหญิงสาว ก้มหน้าลงไปพรมจูบบนริมฝีปากของเธอ
เธอรีบยื่นแขนขึ้นไปคล้องรอบลำคอของเขาทันที เงยหน้าขึ้นแล้วรับจูบจากเขา
หลานเสี่ยวถางมองทั้งสองคนที่กำลังจูบกันอย่างลึกซึ้งมากขึ้นอยู่กับที่ หลังจากนั้น สือเพ่ยหลินก็ปลดกระดุมเม็ดสุดท้ายของเฉินจื่อโร่วออกเรียบร้อยแล้ว
มือของเขาสัมผัสเข้าไปที่แผ่นหลังขาวนวลของเธอ ฝ่ามือใหญ่ไล่ลงมา ก่อนจะจับเข้าที่ช่วงเอวเล็กของเธอ หยุดตรงช่วงสะโพกพายของเธอ
เขาค่อย ๆ บีบคลึงไปอย่างเชื่องช้า ในทุกการกระทำราวกับว่ากำลังชื่นชมศิลปะอยู่ จนกระทั่ง เธอถูกเขาบีบเคล้นอย่างแรงจนเจ็บ ก่อนจะบ่นขึ้นมาเบา ๆ ว่า “ไม่เอาสิคะ เมื่อครู่นี้ก็พึ่งทำไปนะ……”
เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าสือเพ่ยหลินนำคำปฏิเสธอย่างนอบน้อมของเธอแปรเปลี่ยนไปเป็นการเชื้อเชิญ เขาพรมจูบลงไป จูบไป พลางหัวเราะเสียงต่ำไปพลาง “ใครกันที่เป็นคนบอกว่าจะทำทุกที่ในบ้านของฉัน? ตอนนี้ พวกเรามาเริ่มกันเถอะ!”
พูดไป เขาก็อุ้มเธอขึ้นมา ก่อนจะกดเข้ากับกำแพง หลังจากนั้น ก็สอดใส่เข้าไปในร่างของเธอ
หลานเสี่ยวถางถูกทิ้งราวกับว่าเป็นผ้าขาดอยู่บนพื้นก็ไม่ปาน ในตอนที่เห็นเหตุการณ์นี้แล้วนั้น ก็รู้สึกเพียงแค่ว่าราวกับโลกทั้งใบกำลังจะแตกสลาย!
ทั้งหมดเมื่อครู่นี้ ก็ทำให้คนเดือดดาลแล้ว แต่กลับนึกไม่ถึงเลยว่า สือเพ่ยหลินจะไม่มีขอบเขตมากขนาดนี้ ต่อหน้าเธอที่เป็นภรรยาตีทะเบียน นอนกับผู้หญิงอีกคนต่อหน้าเธอ!