วันจันทร์ 

 

เป็นอีกวันของการมาโรงเรียน 

 

เมื่อวานผมนอนดึกก็เลยตื่นสายกว่าปกตินิดหน่อย ผมจึงมาถึงโรงเรียนสายกว่าปกติ 

 

เมื่อเข้ามาในห้องก็พบว่าทาคายูกิและคนอื่นๆได้มาถึงแล้ว 

 

“อรุณสวัสดิ์” 

 

ผมทักทายทาคายูกิและนั่งลงบนเก้าอี้ 

 

“อรุณสวัสดิ์ทาคุยะ!” 

 

ทาคายูกิยิ้มทักกลับมา หมอนี่มันคนดีจริงๆเลย 

 

จี่…. 

 

“ไมวันนี้มาสายอะ?” 

 

“เมื่อคืนนอนดึกน่ะ” 

 

“หายากนะเนี่ยที่นายจะนอนดึก” 

 

พวกผมสนทนากัน 

 

จี่……………

 

“ฉันเล่นเกมเพลินน่ะ” 

 

“ใช่เกมที่นายบอกเมื่อคืนปะ?” 

 

“ใช่ๆ ฉันไปไต่แรงค์มานิดหน่อย” 

 

ใช่ครับ เมื่อคืนผมเล่นเกมๆนึงบนมือถือและเล่นเพลินจนถึงเที่ยงคืนเลย 

 

เกมที่ดูดเวลาแบบนี้มันน่ากลัวจริงๆ ขนาดผมยังถูกมันกลืนกินจนลิมเวลาเลย 

 

จี่…………………… 

 

“แต่ว่านะทาคุยะ……..” 

 

“…..อ่า” 

 

ทาคายูกิกล่าวกับผมด้วยเสียงอึดอัด 

 

จี่……………………….. 

 

ในที่สุดผมก็ยอมแพ้และหันไปหาคนที่นั่งข้างๆ 

 

“…..เอ่อ อรุณสวัสดิ์ครับซาเองุสะซัง” 

 

ผมกล่าวทักทายเธออกไป 

 

แต่เธอดันพองแก้มและดูจะไม่พอใจสุดๆ 

 

ผมก็ผิดจริงแหละที่ไม่ได้ทักเธอตั้งแต่แรก แต่ว่าทำไมเธอถึงอารมน์เสียขนาดนั้นล่ะ? ผมก็พูดทักไปแล้วนะ 

 

“……..” 

 

แถมเธอยังไม่ตอบกลับมาด้วย เธอเอาแต่พองแก้มและจ้องมาที่ผม 

 

—มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย? 

 

ผมสับสนกับการกระทำอันแสนปริศนาของเธอมากๆ 

 

ผมหันไปขอความช่วยเหลือจากทาคายูกิ แต่หมอนั่นก็ไม่รู้จะทำไงเหมือนกัน 

 

ผมยอมแพ้และหันมามองเธอตรงๆ ตอนนี้เธอได้ปล่อยลมออกมาเหมือนกับลูกโป่งรั่ว 

 

ตอนที่เธอทำแก้มป่องนั้นเธอเหมือนหนูแฮมสเตอร์เลยล่ะ มันอาจจะน่ารักนะถ้าไม่ติดที่ว่าเธอเอาแต่จ้องผมเนี่ย 

 

“……..ชิ-จัง” 

 

ในที่สุดซาเองุสะยอมเปิดปากสักทีและพูดออกมาเบาๆ 

 

แต่นั่นก็ทำให้ผมถึงกับช็อคไปเลย 

 

“เดี๋ยวๆๆ นั่นมันสำหรับเมื่อวันเสาร์ไม่ใข่เหรอครับ……” 

 

“ชิ-จัง…….” 

 

เธอกล่าวขัดคำพูดของผมโดยเน้นที่คำว่าชิจัง 

 

ดูท่าเธอจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆด้วย ผมจึงทำได้แค่ยอมแพ้และกล่างทักอีกครั้ง 

 

“…..ก็ได้ อรุณสวัสดิ์นะชิ-ชิจัง” 

 

ในที่สุดผมก็พูดออกมาในห้องเรียนจนได้ 

 

ชักจะกังวลกับชีวิตผมในภายภาคหน้าซะแล้วสิ กับการเรียกซาเองุสะซังที่ไม่ใช่แค่เป็นไอดอลของโรงเรียน แต่เคยเป็นไอดอลจริงๆว่า “ชิจัง” แบบนี้ 

 

แต่ว่าซาเองุสะซังดูจะไม่ได้สนใจเลย แก้มป่องๆของเธอกลายเป็นสีแดงและใบหน้าที่ยิ้มบาน 

 

แล้วก็ 

 

“อื้ม! อรุณสวัสดิ์ทัคคุง!” 

 

ซาเองุสะซังทักทายตอบอย่างร่าเริง 

 

ด้วยเหตุนี้คนทั้งห้องต่างหันมองมาที่พวกเรา 

 

แม้แต่ทาคายูกิยังพึมพำออกมาอย่างตกใจว่า “ท-ทัคคุงอย่างงั้นเหรอ!?” 

 

ไม่แปลกเลยที่มันจะกลายเป็นแบบนี้ เพราะว่าซาเองุสะซังที่มักจะรักษาระยะห่างกับคนอื่นๆ จู่ๆก็มาเรียกผมว่า “ทัคคุง” เนี่ย 

 

—ก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ 

 

ตอนวันเสาร์ผมก็เรียกเธอว่าชิจังทั้งวันเลย ผมจึงไม่อาจพูดอะไรออกไปได้ 

 

ใช่แล้วทั้งชิจังและทัคคุงก็ต่างเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน 

 

ผมที่ทำใจได้แล้วจึงทำได้แค่ยิ้มออกมากับความจริงที่ว่าผมจากนี้ไปผมคงต้องเรียกเธอด้วยชื่อเล่นแล้วล่ะ

 

รู้สึกว่าอิทธิผลของซาเองุสะซึงที่มีต่อผมมันจะมากเกินไปแล้ว 

 

จากนั้นผมก็พูดกับซาเองุสะซังอีกครั้ง 

 

“จะพูดไงดีนะ…..เมื่อวันเสาร์สนุกดีเนอะชิจัง” 

 

“อื้ม! ไว้ไปด้วยกันอีกนะทัคคุง!” 

 

ซาเองุสะซังตอบกลับมาอย่างเปี่ยมสุข 

 

เมื่อการสนทนานี้เกิดขึ้นทักคนในห้องก็ต่างตะโกนออกมาพร้อมกันว่า “เเเเเเเเอออออออ๋” 

 

ชิมิซุซังที่นั่งอยู่ห่างจากทาคายูกิเล็กน้อยหันมายิ้มให้กับผมด้วย เอาเถอะจะเกิดอะไรขึ้นมันก็ต้องเกิดแล้วล่ะตอนนี้