ช่วงพักกลางวัน
อย่างที่ผมได้คิดเอาไว้ ตอนนี้ช่าวลือของผมหนาหูไปทั้งโรงเรียนและตอนนี้ผมก็กลายเป็นเป้าของความรู้สึกมากมาย
ส่วนใหญ่ก็เป็นความรู้สึกด้านลบอย่างความอิจฉาและเกลียดชัง อย่างกับว่าผมไปขโมยซาเองุสะซังมาจากพวกเขา
แต่ผมไม่คิดเลยว่าความรู้สึกด้านลบไม่น้อยนั้นจะมาจากฝั่งผู้หญิง แล้วก็มีความรู้สึกโล่งอกด้วย
ผมก็แปลกใจอยู่เหมือนกันที่มีคนคิดในด้านพวกอยู่ไม่น้อยเลย บางคนยังถามผมด้วยว่าผมไปสนิทกับซาเองุสะซังได้ยังไง
แล้วก็มีหลายคนที่เป็นห่วงซาเองุสะเพราะตั้งแต่เปิดเรียนมาเธอไม่ได้เป็นเพื่อนกับใครแบบจริงๆจังๆเลย การได้เห็นเธอเป็นเพื่อนกับผมแบบนี้ทำให้พวกเขาโล่งใจเลยล่ะ
โลกใบนี้มันช่างน่าแปลกจริงๆ
ผมมั่นใจว่าถ้าทุกคนทำตัวดีๆแบบผมก็เป็นเพื่อนกับซาเองุสะซังได้ไม่ยากเลยนะ
และสุดท้ายก็คือสายตาที่ดูสนุกสนานที่เปี่ยมสุข ซึ่งมาจากคนที่อยู่ข้างๆผมนั่นเอง
“พวกเราทานด้วยได้มั้ยเอ่ย?”
ตอนนี้เป็นช่วงพักกลางวัน แน่นอนว่าผมกับเจ้าทาคายูกิก็นั่งทานด้วยกันเหมือนเช่นเคย แต่แล้วซาเองุสะซังก็กล่าวถามขึ้น
คำว่า “พวกเรา” ของเธอก็คงจะหมายถึงชิมิซุซังที่ยืนถือกล่องข้าวอยู่ข้างๆเจ้าตัวนั่นแหละ
“ได้อยู่แล้ว”
“ใช้แล้วมาทานด้วยกันเถอะครับ”
ในเมื่อคนที่ถามคือสองสาวที่สวยที่สุดในห้อง แน่นอนว่าพวกเราไม่มีทางปฏิเสธอยู่แล้ว
แถมเรายังอยู่กลุ่มเดียวกันตอนไปทัศนศึกษาและยังมีกลุ่มไลม์ไว้คุยกันอีก ยิ่งไม่มีเหตุผลอะไรให้ปฏิเสธ
เมื่อพวกเราตกลงกันแล้วชิมิซุซังก็มานั่งด้านหน้าซาเองุสะซัง แล้วพวกเราสี่คนก็เริ่มทานข้าวกลางวันด้วยกันโดยหันหน้าเขาหากัน
แล้วเรื่องของเรื่องก็คือสองในสี่คนนั้นเป็นสาวที่สุดในห้องส่วนอีกคนก็คือทาคุยะที่ดังมากในหมู่สาวๆ ทำให้กลายเป็นจุดสนใจของคนในห้องได้ไม่ยาก
“เป็นครั้งเลยนะที่พวกเราสี่คนทานข้าวด้วยกัน หลังจากไปทัศนศึกษาน่ะ! ฉันดีใจจังเลย!”
แต่ซาเองุสะซังก็ไม่ได้สนใจสายตาเหล่านั้นและเปิดกล่องข้าวของเธอด้วยรอยยิ้ม
พวกเราขำให้กับท่าทางของเธอแล้วตอบไปว่าพวกเราก็เหมือนกัน
ถ้าซาเองุสะซังมีความสุขกับการทานข้าวด้วยกันล่ะแล้วก็ ใครจะมองยังไงก็เรื่องของเขาเถอะ
“ฉันมีเรื่องนึงอยากลองทำมานานแล้วน่ะ!”
ซาเองุสะซังกล่าวขึ้นทันทีหลังจากที่เธอทานข้าวเสร็จแล้ว
อะไรคือสิ่งที่เธออยากทำกันนะ? พวกเรารอคำพูดต่อไปของเธออย่างใจจดใจจ่อ
“ฉันอยากไปกินแฮมเบอร์เกอร์กับเพื่อนๆหลังเลิกเรียนสักครั้ง!”
ซาเองุสะซังประกาศสิ่งที่เธอต้องการออกมาด้วยแววตาที่เป็นประกายระยิบระยับ
ผมนึกว่าจะเป็นเรื่องอื่นซะอีก แต่คิดไปคิดมาก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่เพราะว่าซาเองุสะซังน่าจะยุ่งอยู่กับงานไอดอลจนไม่มีเวลาทำอะไรแบบนั้น
แถมวันนี้ทั้งผมทั้งทาคายูกิก็ว่างพอดี พวกเราจึงตัดสินใจที่จะไปกันตามที่เธอขอ
ซาเองุสะซังพูดด้วยว่าเธออยากลองทำแบบนั้มานานตั้งแต่เธอได้เห็นในมังงะหรืออะไรสักอย่างนี่แหละ
พวกเราจึงเลือกที่จะไปร้านแฮมเบอร์เกอร์ที่อยู่ตรงหน้าสถานี
พอถึงเวลาเลิกเรียน พวกเราสี่คนก็ตรงไปที่ร้านแฮมเบอร์เกอร์ที่ว่าทันที
ตอนที่เราออกมาจากโรงเรียน ซาเองุสะซังก็หยิบแว่นกันแดดออกมาจากในกระเป๋าก่อนที่จะสวมมันไว้
เธอคงตั้งใจจะปลอมตัวนั่นแหละ แต่ว่าขอโทษนะครับ มันไม่ได้เนียนเลยสักนิด
“เอ่อ คุณใช่ชิโอรินจาก Angel Girls รึเปล่าคะ?”
“ไม่ใช่ค่ะ!”
อย่างที่เห็น การที่มีนักเรียนหญิงชั้นม.ปลายคนนึงเข้ามาทักเธอแบบนี้ก็ชัดแล้วว่าแว่นที่ใส่อยู่ไม่ได้มีประโยชน์อันใดเลยจริงๆ
แต่ว่าเธอก็ยังตอบปฏิเสธไปอย่างรวดเร็ว
ผมอดจะขำไม่ได้จริงๆ เห็นชัดๆขนาดนี้ว่ามันไม่ได้ผล แต่เธอก็ยังหน้าด้านพอที่จะตอบปฏิเสธโดยไม่มีลังเล
ส่วนเด็กสาวที่ถูกปฏิเสธก็ยอมถอยกลับไปแต่โดยดี
สุดท้ายเธอก็ยอมแพ้ที่จะปลอมตัวและถอดแว่นตาออก ท่ามกลางเสียงหัวเราะของทาคายูกิและชิมิซุซัง
“โม่ว! หยุดหัวเราะฉันเลยนะ!”
เธอตกล่าวออกมาด้วยไปหน้าอายๆและแน่นอนว่ามันดูน่ารักเหมือนเคย
แล้วเธอก็พูดติดตลกว่า “คราวหน้าฉันเขียนป้ายกระดาษว่า “ฉันไม่ใช่ชิโอรินค่ะ” แล้วเอามาแปะที่หลังดีกว่า”
พอผมลองคิดภาพตามผมก็ขำหนักซะยิ่งกว่าเดิม
ในที่สุดพวกเราก็มาถึงที่หมาย ก่อนจะเข้าไปในร้าน
เมื่อเข้ามาด้านในพวกเราก็ได้กลิ่นน้ำมันโชนออกมาทันที
ดวงตาซาเองุสะส่องประกายอย่างกับเด็กๆ ภาพแบบนี้ไม่ได้เห็นกันบ่อยๆนะเนี่ย
พวกเราค่อยๆสั่งของมากินกันทีละคน จนกระทั่งมาถึงตาของซาเองุสะ
แต่เนื่องจากเธอไม่เคยเจ้าร้านแบบนี้มาก่อน เธอจึงส่งสายตาราวกับลูกหมามาทางผม
“ช่วยฉันด้วยทัคคุง…….”
ก็เป็นอย่างที่คิดไว้ล่ะนะ แล้วผมก็เดินเข้าไปช่วยเธอสั่ง
แล้วพวกเราก็มาหาที่ว่างๆนั่งกัน ซึ่งที่นี่ก็มักจะมีเหล่านักเรียนมากหน้าหลายตามาใช้บริการอยู่ตลอด ทำให้มีความรู้สึกว่าเราได้เข้ามาในร้านแฮมเบอร์เกอร์แล้วและซาเองุสะซังก็ดูจะสนใจที่ๆคนทั่วไปมัดจะมากันแบบที่นี่ไม่น้อย
มันคงเป็นความรู้สึกที่มีแค่คนดังด้วยกันเท่านั้นที่จะเข้าใจ แล้วการที่ได้เห็นหน้าเธอมีความสุขแบบนี้ก็พาทำให้คนทั่วไปอย่างพวกเราสุขใจไปด้วย
ซาเองุสะซังถ่ายรูปแฮมเบอร์เกอร์ด้วยมือถือของเธอและส่งในกลุ่มไลม์
—ติ๊ง!
โทรศัพท์ของพวกเราดังขึ้นพร้อมๆกัน ซึ่งแน่นอนว่ามาจากซาเองุสะซัง
สิ่งที่ถูกส่งมาก็คือภาพถ่ายของแฮมเบอร์เกอร์ที่เบลอเล็กน้อย
แล้วก็
“ฉลองให้กับแฮมเบอร์เกอร์อันแรกในชีวิตของฉัน!”
ทำเอาคนที่เหลือต้องระเบิดเสียงหัวเราะออกมาลั่นร้านเลยล่ะ
ปล.ช่วงนี้ผมอาจจะลงน้อยหน่อยนะครับ พอดีว่าใกล้จะสอบน่ะ
ปล2.นางก็บ๊องไปนะบางที