ในคืนเดียวกัน 

 

ผมทิ้งตัวลงบนเตียงและนอนเล่นโทรศัพท์ 

 

เมื่อคืนก่อนผมเล่นเกมเพลินจนนอนดึก วันนี้ผมจึงสัญญากับตัวเองว่าจะเล่นให้มันน้อยลง 

 

—ติ๊ง 

 

ตอนที่ผมกำลังจะกดเข้าเกม เสียงแจ้งเตือนก็ได้ดังขึ้น 

 

มันดังมาจากกลุ่มไลม์ที่พวกเราสี่คนใช้คุยกัน 

 

ซึ่งตอนนี้รูปไอคอนของกลุ่มได้เปลี่ยนเป็นภาพแฮมเบอร์เกอร์เบลอๆที่ซาเองุสะส่งในกลุ่มวันนี้ 

 

ซึ่งคนที่ตั้งรูปอย่างทาคายูกินั้นบอกว่าเปลี่ยนเอาสนุก 

 

“ขอบคุณนะทุกคน! วันนี้มันสนุกมากเลย!” 

 

ข้อความนั้นถูกส่งมาจากซาเองุสะ 

 

ผมนึกถึงหน้าของเปี่ยมสุขของเธอตอนที่กำลังทานแฮมเบอร์เกอร์แล้วก็ขำกับตัวเอง 

 

ผมอยากจะบอกว่าการได้อยู่กับซาเองุสะช่วงหลังๆมานี้มันมีความสุขมากๆ

 

ผมแน่ใจว่าคนที่คิดแบบนี้ต้องไม่ใช่ผมคนเดียวแน่ๆ ทาคายูกิกับชิมิซุเองก็น่าจะคิดเหมือนกัน 

 

เธอเคยเป็นไอดอลสาวที่พวกเราได้แต่นั่งชมบนทีวี แต่พอมาเห็นตัวจริงแล้วเธอนั้นทั้งเป็นธรรมชาติ อารมณ์ดีและน่าสงสัย 

 

ผมเอาว่ามันน่าจะเป็นเพราะเสน่ห์ของเธอนั่นแหละ 

 

การที่เธอได้มาเป็นไอดอลที่ดังขนาดนี้ไม่ใช่แค่เพราะเธอน่ารักกับร้องเพลงเพราะแน่นอน 

 

เพราะแค่การมีตัวตนอยู่ของเธอก็ดึงดูดผู้คนได้มากแล้ว 

 

ระหว่างนันเเองที่ทาคายูกิกับชิมิซุตอบกลับมาว่าพวกเราก็สนุกเหมือนกัน 

 

และเนื่องจากวันนี้ผมไม่ได้เผลอหลับไปก่อน ผมจึงตอบกลับไปว่าผมเองก็เหมือนกัน 

 

แล้วผมก็ส่งไปเพิ่มด้วยว่า ถ้าซาเองุสะอยากไปอีกพวกก็มาชวนพวกเราได้เลย 

 

 

—ติ๊ง 

 

หลังจากที่ผมส่งข้อความไปได้สักพัก เสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้นอีกครั้ง 

 

เมื่อผมเปิดโทรศัพท์ดูก็พบว่ามันเป็นข้อความส่วนตัวจากซาเองุสะซัง 

 

แค่ผมเหรอ? อะไรเนี่ย? ผมสงสัยก่อนจะเปิดไลม์ขึ้นมา 

 

“คือว่า ฉันขอโทรหาหน่อยได้มั้ย?” 

 

เอ๋? โทรงั้นเหรอ? แต่พอผมคิดไปคิดมาเมื่อวันก่อนเราก็โทรคุยกัน แถมวันนี้ผมก็ว่างซะด้วยก็เลยตอบไปกลับไป “ได้ครับ” 

 

จากนั้นไม่กี่วิผมก็ได้รับโทรศัพท์จากซาเองุสะซัง 

 

“ฮัลโหล” 

 

“ทัคคุง! ขอโทษที่โทรมาตอนนี้นะ!” 

 

ซาเองุสะซังกล่าวด้วยเสียงแหบแห้ง 

 

“ไม่เป็นไรครับ แต่ว่ามีเรื่องอะไรเหรอครับ?’ 

 

“โอ๊ะ……เรื่องนั้นมัน…..” 

 

เรื่องไรอะ? 

 

“ก็ไม่มีอะไรหรอก แต่ว่า……มันไม่ดีงั้นเหรอ?” 

 

ไม่มีงั้นเหรอ? 

 

หืม? มันหมายความว่ายังไงเนี่ย?

 

เธอหมายความว่าที่โทรมานี่ไม่ได้มีเรื่องอะไรงั้นเหรอ? 

 

ใช่ซาเองุสะซังจริงๆมั้ยเนี่ย? 

 

ผมคิดแบบนั้น……แต่พอคิดไปติดมามันก็คงจะไม่แลกเพราะพวกเราก็สนิทกันอยู่พอตัว แถมวันก่อนเราก็ได้ไปดูหนังด้วยกันอีก

 

ถ้าให้พูดแล้วพวกเราน่าจะสนิทกันมากพอที่จะคุยกันแบบนี้ได้อยู่ 

 

ผมก็ยังไม่อยากจะเชื่ออยู่ดี แต่ก็ยอมรับความจริงนี้ เพราะผมเองก็อยากคุยกับเธออยู่เหมือนกัน 

 

“ได้ครับ ผมแค่ตื่นเต้นนิดหน่อยเท่านั้นเอง” 

 

“ตื่นเต้นงั้นเหรอ? ทำไมอะ?” 

 

ซาเองุสะซังดูจะแปลกใจมากเมื่อได้ยินผมบอกว่า “ตื่นเต้น” 

 

“ก็แบบว่า…..ชิจังเป็นคนที่ดังมากๆแล้วก็น่ารักสุด พอมาเทียบกับผมแล้ว…….โทษทีครับ ผมพูดอะไรของผมอยู่เนี่ย?”

 

ผมไม่รู้เลยว่ากำลังพูดเรื่องบ้าอะไรอยู่ 

 

ผมตื่นเต้นจนไม่สามารถพูดอะไรให้ออกไปเป็นคำได้ 

 

“……” 

 

ไม่มีการตอบกลับจากซาเองุสะซังมาสักพักแล้ว เหมือนกับว่าเธอจะกำลังสงสัย 

 

แต่ผมทนต่อไปไม่ไหวแล้ว จึงได้พูดขึ้น 

 

“…..อืม ชิจัง?” 

 

“…….ไม่” 

 

“ม-ไม่งั้นเหรอ?” 

 

ไม่? อะไรคือ”ไม่”? 

 

เธอกล่าวบางอย่างออกมา แต่ผมก็ไม่เข้าใจความหมายของมัน 

 

แล้วก็ 

 

“นายไม่ได้ทำให้ฉะนดูไม่ดีหรอกนะ!” 

 

เธอกล่าวออกมาเสียงดัง เธอปฏิเสธว่าผมไม่ได้เป็นคนทำให้เธอดูไม่ดี

 

“งั้นเหรอครับ?” 

 

“ใช่สิ! เพราะว่า!” 

 

“เพราะว่า?” 

 

—”เพราะว่า” ของคุณนี่มันหมายความว่าไงครับ? 

 

ผมรอคำพูดต่อไปอย่างสั่นกลัว 

 

“ไม่มี! ไม่มีอะไรแล้วล่ะ! ราตรีสวัสดิ์นะ!” 

 

—แล้วเธอก็วางสายไป 

 

ผมล่ะสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ผมก็รู้ว่าคำพูดสุดท้ายของเธอนั้นพูดเพื่อซ่อนความเขินอายเอาไว้

 

แล้วทำไมเธอถึงเขินล่ะ? นั้นคือสิ่งที่ผมกำลังคิดอยู่ 

 

หรือว่าเธอจะ……..ไม่ๆๆๆๆ หยุดคิดอะไรพล่อยๆดีกว่า 

 

มีความเป็นไปได้หนึ่งเข้ามาในหัวผม แต่ผมก็รีบลบความที่เหมือนกับพระเอกนิยายนั่นออกไปจากหัว 

 

—ติ๊ง! 

 

ตอนที่ผมกำลังเถียงกับตัวเองอยู่ เสียงแจ้งเตือนก็ดังอีกครั้ง 

 

พอเปิดขึ้นมาก็พบว่ามันคือภาพตอนที่พวกเราสี่คนกินแฮมเบอร์เกอร์กัน 

 

เธอเคยพูดว่าเธอถ่ายเซลฟี่มาตั้งแต่เริ่มเป็นไอดอล แล้วพวกเราอีกสามคนที่อยู่ในภาพก็ดูเด๋อด๋ากันนิดหน่อย 

 

จากในภาพพวกเราดูจะมีความสุขกันมากๆและมันด็เป็นภาพที่ดีด้วย 

 

ผมมองดูรูปอยู่สักพักเพื่อสึกถึงเรื่องในวันนี้และกดเซฟมัน 

 

รอยยิ้มของซาเองุสะซังที่อยู่ในภาพนั้นน่ารักมากๆจนผมอดจะหลงไหลไม่ได้ 

 

แล้วการที่ได้เห็นตัวเองอยู่ข้างๆเธอในรูปนั้นก็มีความสุขไม่น้อย 

 

—ติ๊ง! 

 

เสียงแจ้งเตือนดังอีกครั้ง 

 

ความนี้เป็นข้อความจากซาเองุสะซังส่งมาให้กับผม 

 

มันเป็นรูปภาพอีกแล้ว 

 

ผมกดเปิดภาพที่เธอเพิ่งส่งมา 

 

เป็นภาพเดียวกัยที่เธอส่งไปในกลุ่ม 

 

แต่ที่ต่างก็คือหนวดแมวที่ถูกกวาดอยู่บนหน้าของผมและซาเองุสะซัง แล้วก็รูปหัวใจสีชมพูที่วาดล้อมรอบหน้าของพวกเราสองคน

 

แล้วด้านล่างของมันก็มีข้อความน่ารักๆเขียนไว้ว่า “พวกเราเป็นเพื่อนกันนะ” 

 

น่าจะเป็นการตอบกลับคำพูดของผมก่อนหน้านี้ล่ะมั้ง 

 

ผมดีใจที่ได้เห็นว่าเธอรู้สึกยังไง 

 

หน้าผมกลายเป็นสีแดงด้วยความเขินอายและความสุข แล้วผมก็กดเซฟภาพไปสามครั้ง