ทั้งสามกลับไปเขตสองโดยใช้วิธีการเดิม ในไม่ช้าก็มาถึงเขตแรก

ด้วยก้าวแรกในเขตปลอดภัย หัวใจพวกเขาคลายตัว แหวนสายฟ้าที่พวกเขาสวมแล่บขึ้นจากการที่พวกเขาใกล้ชิดกัน

“ที่เหลือคือออกจากเมืองชิงหมิงและเราก็จะปลอดภัย”จั๋วฝานมองทิศทางของเมืองด้วยรอยยิ้ม

แม้เขาจะไม่ได้รับวิหคสายฟ้า เขาก็ได้รับมามากกว่านั้น ไข่มันกับสองเพื่อนรักที่ร่วมเป็นร่วมตาย

แต่ทว่า เสวี่ยหนิงเซียงกลับขมวดคิ้ว”แต่เราตอแยผู้อาวุโสเจ็ด เขาจะไม่ตั้งกับดักใส่เราเหรอ?”

“ไม่น่า”จั๋วฝานระบุ”เขาต้องไว้ชีวิตเราเพราะอันตรายครั้งใหญ่นั่นได้บังคับให้เขาหนี เขาต้องคิดว่าเราตายด้วยน้ำมือของสิ่งน่ากลัวนั้นแล้ว”

“สิ่งนั้น มันคืออะไร?”เซี่ยเทียนหยางถาม

จั๋วฝานส่ายหัว เขามองไม่ทันและไม่ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นตอนนั้น แต่เมื่อเขาตื่นขึ้น เขาก็เห็นการทำลายล้างรอบตัวและได้ข้อสรุปเช่นนี้

สำหรับว่าทำไมพวกเขาจะรอด ก็ต้องถามสวรรค์แล้ว!

“ไม่ว่ายังไง การลอบออกเมืองก็ง่ายขึ้น”จั๋วฝานยิ้ม”หนิงเอ๋อร์ เจ้าจะทำอะไรหลังเราออกไป?”

“ข้าไม่รู้”

เสวี่ยหนิงเซียงหน้าหมอง แต่จากนั้นก็แหงนมองจั๋วฝาน”พี่ใหญ่จั๋ว ข้าจะไปกับท่าน”

จั๋วฝานตกใจขณะที่เซี่ยเทียนหยางหงุดหงิด”หนิงเอ๋อร์ เจ้าไปกับข้าเป็นไง ตำหนักกระบี่ของข้า ไม่เพียงตระกูลของเจ้าจะไม่มาหาเจ้า แต่แม้กระทั่งคนของโหยวหมิงกู่ก็ไม่สามารถพรากเจ้าไปจากเราได้”

เสวี่ยหนิงเซียงพยักหน้าอย่างมีความสุข”ได้เลย พี่ใหญ่จั๋ว ทำไมท่านไม่มาด้วยละ?ข้าไม่เคยเห็นเจ็ดตระกูลใหญ่ของจักรวรรดิเทียนอวี่มาก่อน”

เซี่ยเทียนหยางไม่ยินดีนักเกี่ยวกับมันแต่เนื่องจากหนิงเอ๋อร์มีความสุข เขาจึงเป็นไปด้วย”จั๋วฝาน เพื่อหนิงเอ๋อร์ ข้าจะออกคำเชิญให้เจ้ามาเยือนตระกูลข้าในฐานะแขก”

จั๋วฝานมองพวกเขาสักพักและส่ายหัว”ข้าไปไม่ได้ ข้าต้องไปที่อื่น ถ้าโชคชะตายิ้มให้เรา เราคงได้เจอกันอีก”

ทั้งสองตกใจและลังเล

ถึงแม้เซี่ยเทียนหยางกับจั๋วฝานจะเป็นเหมือนน้ำกับไฟ เถียงกันทุกวัน ทั้งคู่ก็ผ่านทุกข์ร้นอมาด้วยกัน และกลายเป็นพี่น้อง

“เห้ ข้าต้อนรับเจ้าจากใจจริงนะ คิดให้ดีนะพี่น้องข้า”

จั๋วฝานหัวเราะ”ข้าบอกไปแล้ว เราไม่ใช่พี่น้องกัน!”

“เห้อ เจ้า…”

ขณะที่เซี่ยเทียนหยางกำลังจะหัวเราะ เสียงแตกก็ดังและแรงกดดันก็กดทับพวกเขา”ไม่มีใครจะไปไหนได้ทั้งนั้น!”

ซวบ!

เงาร่างดำปรากฏพร้อมผมขาว-ดำ เครายาวของเขาพริ้วสะบัด และดวงตาของเขาก็เปล่งแสงขณะจ้องทั้งสาม

ยอดฝีมือระดับนภา!

จั๋วฝานกับเซี่ยเทียนหยางตกใจและปกป้องเสวี่ยหนิงเซียงด้วยร่างกายพวกเขา

“ผู้อาวุโสจากโหยวหมิงกู่?”

“ข้าไม่เคยเจอเขา”

จั๋วฝานกับเซี่ยเทียนหยางกระซินกัน สิ่งที่แน่คือ ชายชราคนนี้อยากเล่นงานพวกเขา

แต่จากนั้น เสวี่ยหนิงเซียงก็กระโดดออกไปและเดินไปหาชายชรา”ท่านปู๋!”

เซี่ยเทียนหยางผงะขณะที่จั๋วฝานถามด้วยคิ้วที่ขมวด”ท่านคือยอดฝีมือระดับนภาเพียงคนเดียวของตระกูลเสวี่ย ปรมาจารย์ตระกูลเสวี่ย เสวี่ยติงเถียน?”

เสวี่ยติงเถียนไม่สนใจเด็กน้อยสองคนตรงหน้า เขากลับมองแต่เสวี่ยหนิงเซียง”หนิงเอ๋อร์ เจ้าวิ่งไปไหนมาตลอดหลายเดือนมานี้?ข้ามองหาเจ้าไปทั่ว”

เสวี่ยหนิงเซียงรู้สึกผิดและพึมพำ”ข้าขอโทษที่ทำให้ท่านปู่เป็นห่วง”

เสวี่ยติงเถียนถอนหายใจ และม้วนผมของหลานรัก จากนั้นก็พูดออกมา”เจ้าพวกนี้ทำตัวไม่ดีกับหลานหรือเปล่า?”

เสวี่ยหนงเซียงรู้ว่ามันหมายความว่าไงและเขินอาย”ท่านปู่พูดอะไรนะ!”

“ฮึ่ม งั้นก็ดี!”

เสวี่ยติงเถียนกลอกตาใส่จั๋วฝานกับเซี่ยเทียนหยาง”ใครกันที่ทำร้ายหลานชายข้า เสวี่ยกัง?”

“เขา!”

เซี่ยเทียนหยางรีบแฉ”ข้าเพิ่งพบหนิงเอ๋อร์หลังจากนั้น ข้าไม่เคยเจอหลานชายท่าน”

จั๋วฝานกลอกตา ทำได้แค่ตำหนิโชคร้ายที่มาเจอเพื่อนแบบนี้”ข้าไม่รู้ว่าเขาเป็นพี่ชายหนิงเอ๋อร์…โปรดให้อภัยข้าด้วย ผู้อาวุโส!”

“งั้น เจ้าก็คือคนรักของหนิงเอ๋อร์รึ?”เสวี่ยติงเถียนตั้งคำถาม

“อะไรนะ?คนรัก?”

เซี่ยเทียนหยางกรีดร้องและคว้าเสื้อผ้าจั๋วฝาน”จั๋วฝาน อธิบายมา!เจ้าไปสนิทกับหนิงเอ๋อร์ขนาดนั้นตอนไหน?”

เสวี่ยติงเถียนเหลือบมองเซี่ยเทียนหยาง และหันไปมองหลานสาวเขา[เด็กนั่นเป็นใคร ถึงกับโมโหยิ่งกว่าข้า?]

เสวี่ยหนิงเซียงจ้องปู่นาง จากนั้นก็ปิดแก้มที่ร้อนผ่าด้วยมือนาง

[ปู่แก่แล้ว เขากล้าพูดมันออกมาโต้งๆได้ไง?]นางบ่นในใจแต่ก็ลอบมองจั๋วฝาน

“รอเดี๋ยว อย่าเข้าใจผิด ข้าแค่ขอให้หนิงเอ๋อร์นำทาง ไม่มีอะไรทั้งนั้น!”

จั๋วฝานแก้ความเข้าใจผิดขณะตะโกน จากนั้นเซี่ยเทียนหยางถึงหุด

เสวี่ยติงเถียนจ้องมองจั๋วฝาน แต่ไม่พบเห็นการโกหก เขาจึงพูด”ดี ถ้าเป็นแบบนั้น ข้าจะไม่ทำอะไรกับเจ้าที่มายุ่งกับหลานสาวข้า”

“มา หนิงเอ๋อร์ กลับบ้านกัน”เสวี่ยติงเถียนดึงนาง แต่เสวี่ยหนิงเซียงกลับหันไปหาทั้งสอง เซี่ยเทียนหยางกระวนกระวาย อยากหยุดทั้งคู่

“หยุดก่อน!”จั๋วฝานตะโกน

เสวี่ยติงเถียนพูดเสียงเย็น”มีอะไร เจ้าหนู?”

“ท่านจะเอาตัวหนิงเอ๋อร์ไปไม่ได้”จั๋วฝานูด”และข้าขอแนะนำว่าท่านเองก็ไม่ควรกลับไปเช่นกัน”

เสวี่ยติงเถียนขมวดคิ้ว”เจ้าหมายความว่าไง?”

“ข้าจะพูดตรงๆ เราได้ตอแยผู้อาวุโสเจ็ดของโหยวหมิงกู่และเขาก็จำหนิงเอ๋อร์ได้ ข้าเดาได้ว่าเขาคงไปเล่นงานตระกูลเสวี่ยแล้ว ถ้าท่านกลับไป ท่านจะตาย”

เสวี่ยติงเถียนตกใจ จากนั้นก็มองเสวี่ยหนิงเซียนที่พยักหน้าอย่างอายๆ

ราวกับโดนฟ้าผ่า เสวี่ยติงเถียนตัวสั่นสะท้าน และเซถอยหลังก่อนล้มลง

เสวี่ยหนิงเซียงเริ่มร้องไห้และวิ่งไปหาปู่นาง”ท่านปู่ ให้อภัยข้า..”

เสวี่ยติงเถียนกำหมัดแน่นขณะที่ความโกรธกลืนกินหัวใจเขา จากนั้นดวงตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหารของเขาก็จับจ้องจั๋วฝานกับเซี่ยเทียนหยาง

“มันเป็นพวกเจ้าที่นำหายนะมาสู่เรา ตราบเท่าที่ข้าพาเจ้าไปหาผู้อาวุโสเจ็ด เขาจะละเว้นเรา”

พอพูดแบบนั้น เขาก็ตบใส่จั๋วฝาน

เท้าของจั๋วฝานขยับ สร้างร่างเงาสองร่างใกล้เขา จากนั้นพวกเขาก็พลันถอยไปคนละทาง เสวี่ยติงเถียนขับไล่ร่างทั้งสามออกไปด้วยการสะบัดฝ่ามือ แต่ไม่มีตัวใดเป็นตัวจริง

วินาทีต่อมา จั๋วฝานก็โผล่ด้านหลังเสวี่ยติงเถียน โจมตีด้วยฝ่ามือโลหิต

ฝ่ามือโลหิต!

เสวี่ยติงเถียนตกใจ รู้สึกว่าเส้นเลือดอของเขาเดือดพล่าน ตอนนี้เขารู้สึกกับตัวแล้วว่าทำไมลูกชายกับหลานชายเขาถึงแพ้

จั๋วฝานไม่ใช่แค่เก่งข้ามระดับ แต่ยังเจ้าเล่ห์อีกด้วย

มันแย่หน่อยที่เขาไม่ใช่ยอดฝีมือระดับนภา

เสวี่ยติงเถียนหายตัวไปก่อนฝ่ามือโลหิตจะโดนเขา ทำให้จั๋วฝานตกใจ

ในเวลาเดียวกัน การโจมตีทรงพลังก็มาจากด้านหลัง และจั๋วฝานที่หลบไม่ทันก็กระอักเลือดออกมาขณะบินออกไป

เสวี่ยติงเถียนกำลังจะไล่ตาม แต่เจตจำนงกระบี่ก็พุ่งมาหาเขา มันคือเซี่ยเทียนหยางที่กวัดแกว่งกระบี่ดวงดาวโจมตีใส่หน้าอกของเสวี่ยติงเถียน

ขณะมองกระบี่ที่เข้าใกล้ ท้องฟ้าก็ดูเหมือนจะสงบและเขาก็สามารถเห็นได้แค่เงากระบี่

วิชายุทธ์ระดับนภา?

เสวี่ยติงเถียนขยับเท้าเล็กน้อยและหายตัวไป ตบเซี่ยเทียนหยางจากด้านข้าง

เซี่ยเทียนหยางกระอักเลือก บินออกไปจากแรงกระแทก มันต้องขอบคุณเกราะที่ทำให้เขาไม่บาดเจ็บหนัก

จั๋วฝานกับเซี่ยเทียนหยางเซถลา พลังของยอดฝีมือระดับนภาไม่อ่อนเลย โดยปราศจากค่ายกล พวกเขาไม่มีโอกาส

การปะทะสั้นๆจากก่อนหน้ากินเวลาแค่หนึ่งลมหายใจ แต่ผลลัพธ์ก็ชี้ชัดแล้ว

ทั้งคู่ไม่สามารถแตะต้องยอดฝีมือระดับนภาได้