บทที่ 27 – ความจริงของหอคอย

 

ลมหายใจมังกร..หรือเสียงคำรามของมังกร มันมีชื่ออยู่มากมายที่ผู้คนขานเรียกอย่างไรก็ตามสำหรับมังกรแล้วนั้นมันคือการปลดปล่อยลมหายใจที่ทรงพลังที่สุด

มังกรพ่นไฟ.. มังกรพ่นน้ำแข็ง อะไรพวกนั้นต่างเป็นคำเล่าลือจากปากต่อปากกันเท่านั้น เพราะเดิมทีไอ้มังกรพ่นไฟได้ก็มาจากการที่มีคนเห็นลมหายใจมังกรแบบผิดๆ นั่นแหละ

เดิมทีมังกรไม่ได้พ่นไฟได้ ไม่สิ.. ตัวที่พ่นไฟได้อาจจะมีอยู่ก็จริง แต่ว่านั่นก็คงเป็นลมหายใจมังกรในรูปแบบหนึ่งเท่านั้น

และความวินาศสันตะโรที่มันสามารถสร้างขึ้นได้นั้นอยู่เหนือกว่าแนวคิดของผู้คน.. แม้แต่เอริเนียผู้กล้ามหาเผ่าพันธุ์ครั้งในอดีตที่กำจัดมังกรทั้งหมดได้

ก็เป็นเพราะว่ามังกรเหล่านั้นประมาทในตัวของสิ่งมีชีวิตที่ต่ำต้อยกว่าตัวเองเกือบทั้งหมด พอรู้ตัวว่าผู้กล้าแข็งแกร่งพอจะเป็นภัยต่อพวกมันได้

มันก็สายเกินไปแล้ว…

ใช่ ลมหายใจมังกรแม้มันจะแข็งแกร่งแต่มังกรก็ไม่ค่อยอยากใช้หากไม่จวนจะถึงแก่ชีวิตจริงๆ.. สำหรับมังกรนั้นว่ากันว่า

เมื่อมันหายใจเข้าไป มันไม่ได้เพียงสูดแค่ออกซิเจนเข้าไปเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพลังลึกลับบางอย่างที่มีอยู่เพื่อพวกมันด้วย

สิ่งเหล่านี้เป็นเหมือนสิ่งที่มีอยู่ในทุกๆ อนุภาค อยู่ในทุกๆ ที่ ทุกเวลา.. มันเหมือนกับมีมาตั้งแต่แรกหรืออยู่มาตั้งแต่ต้น

เรื่องนี้แม้แต่มังกรแรกเริ่มก็ไม่ทราบ.. แต่สิ่งเดียวที่มั่นใจเลยไอ้พลังงานนี้มันสำคัญกับมังกรยิ่งกว่าลมหายใจเสียอีก

ออกซิเจนแทบจะเป็นของแถมจากการสูดเอาพลังงานลึกลับนี้มากกว่าด้วยซ้ำ พลังงานนี้เป็นแหล่งกำเนิดอัตลักษณ์และการวิวัฒนาการของมังกรเลยก็ว่าได้

หากสิ่งมีชีวิตนั้นกำเนิดมาเพราะการวิวัฒนาการทางธรรมชาติหรือปรากฏการณ์ หรืออุบัติเหตุอะไรก็แล้วแต่

ทว่ามังกรที่ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ควรอยู่บนโลกปรากฏขึ้นมาได้อย่างไร.. เกล็ดที่หนาเหมือนกับป้อมปราการ

พลังทำลายล้างที่ไร้ที่สุด.. การวิวัฒนาการส่วนใหญ่มักตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกจากร่างกาย เพื่อดำรงอยู่ในโลกแห่งนี้

ราวกับว่าเกิดมาเพื่ออยู่บนโลกใบนี้.. แต่มังกรนั้นไม่ใช่ มังกรนั้นมีทุกอย่างสมบูรณ์พร้อมที่อาศัยอยู่ได้ในทุกที่

นั่นราวกับว่ามันไม่ได้วิวัฒนาการขึ้นมาจากการอยู่บนโลกนี้เลยด้วยซ้ำ.. คำตอบก็คือเพราะอะไรพลังงานลึกลับดังกล่าวนี้นั่นเองแหละ

และลมหายใจมังกรก็คือการ..ปลดปล่อยพลังลึกลับนั้นจากการสูดลมหายใจแล้วก็ปล่อยออกไปรวดเดียว

ซึ่งการทำแบบนั้นมันก็เหมือนการปล่อยเลือดเนื้อออกจากร่างกาย.. ไม่สิ พลังงานนี้มันสำคัญยิ่งกว่านั้นด้วยซ้ำ

แน่นอนว่าไอ้พลังงานที่มีทุกที่นี้นั้นมันสามารถทำลายล้างทุกอย่างได้เช่นกันหากปลดปล่อยออกมาในรูปแบบของการระเบิดพลังงานได้

และสาเหตุที่มิวแขนถูกฉีกกระชากก็คงเป็นเพราะเดิมทีพลังนี้ควรถูกปล่อยออกจากทางปาก แต่ร่างกายมิวนั้นวิวัฒนาการมาในรูปแบบนี้แล้ว

ทำให้เธอไม่สามารถปล่อยพลังงานออกจากปาก.. แต่บังคับปล่อยออกในลักษณะนี้ซึ่งมันเล็กเกินไปสำหรับพลังงานที่มหาศาล

ผลลัพธ์ก็คือ…แขนของเธอถูกฉีกขาดด้วยพลังงานเอง.. และพลังงานนี้มีคุณสมบัติการทำให้ฟื้นฟูไร้ผลด้วยนั่นเอง

แน่นอนว่าเมื่อการกระทำของเธอดำเนินมาถึงจุดจุดนี้.. จุดที่สามารถโจมตีจนทะลุหอคอยชั้นที่สองออกไปนั้น

ก็สร้างความแตกตื่นขวัญผวาให้กับโลกภายนอก.. ในตอนนี้โลกด้านนอกต่างมองไปที่หอคอยที่สูงเหนือพื้นไปเกือบสามสิบเมตร..

ตรงนั้นมันมีรูขนาดมหึมาที่ถูกเป่าออกมาจากด้านนอก… แต่เมื่อมองไปยังหอคอยก็ไม่ได้เห็นโลกด้านในแต่อย่างใด

กลับกันรอยพังทลายของหอคอยมันกลับดูพร่าเลือนแปลกตาเหมือนระบบกำลังขัดข้องยังไงยังงั้น

“…..ไอ้นั่นมันบ้าอะไร”

“แสงเมื่อกี้มันอะไร??!!”

“บอกฉันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น”

เสียงแตกตื่นดังขึ้นกันทั่วหน้า อย่างไรเสียแสงที่สว่างจ้าเมื่อครู่ก็แทบทำทุกคนตาบอดไปเพราะรู้สึกตัวอีกทีหอคอยก็เป็นรูเสียแล้ว

แน่นอนว่าจังหวะนี้ครึ่งโลก… โลกในทางทะเลแปซิฟิกทั้งหมดถูกแสงสว่างจ้าที่ยิ่งกว่าดวงอาทิตย์สาดเข้าสู่ใบหน้ากันทุกผู้ทุกคน

แสงนั้นมันตรงทะลุออกนอกชั้นบรรยากาศโลกไปเลยด้วยซ้ำ

“เมื่อกี้มันอะไร…!?”

เรนะที่อยู่ในบ้านผุดลุกขึ้นมองไปยังหอคอยที่อยู่ห่างออกไปซึ่งปล่อยแสงปริศนาอย่างลึกลับ.. ในตอนที่เธอกำลังสับสนนั้นเอง

ระบบของเธอก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าพร้อมขึ้นข้อความ

“ระบบขัดข้อง..”

“ดำเนินการแก้ไข”

“ดำเนินการแก้ไข”

คำว่า ‘ดำเนินการแก้ไข’ มันดังขึ้นซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุดแม้แต่เรนะเองก็ยังขมวดคิ้วเพราะนับตั้งแต่ที่เธอได้ระบบนี้มามันไม่เคยแสดงอาการเหมือนระบบมีปัญหาแบบนี้มาก่อน.. เอาเข้าจริงระบบที่มาจากพระเจ้ามันจะไปรวนได้ยังไง

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น….”

“นี่มัน—”

วิดาร์ที่ลอยอยู่ด้านข้างเรนะพึมพำด้วยความฉงน ก่อนจะเงยหน้ามองหอคอยด้วยความรู้สึกซับซ้อนเล็กน้อย

“มันเกิดอะไรขึ้น วิดาร์”

เรนะที่เห็นท่าทางของวิดาร์จึงถามขึ้นด้วยความสงสัย แต่เธอก็ยิ้มพร้อมกับส่ายหน้าตอบเรนะ

“…อย่างที่คิดจริง ข้าก็สงสัยมาตั้งแต่แรกแล้ว… หึๆ.. แต่ก็นะมันไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องสนใจในตอนนี้หรอกเรนะ สิ่งที่เธอสนใจในตอนนี้ก็มีแค่อย่างเดียว… ใช่ไหม?”

“หมายถึงเรื่องอะไร…?”

“เปล่า เวลาแห่งการเริ่มต้นมันเริ่มขึ้นแล้วน่ะ”

“….?”

“สำหรับเธอเรื่องนั้นไม่มีอะไรสำคัญหรอก สิ่งที่เธอต้องทำในตอนนี้จำได้ไหมว่าฉันบอกว่ายังไง”

“อืม… จำได้”

เรนะเลิกสนใจตามที่วิดาร์บอกก่อนจะหลับตาลงอย่างเงียบๆ อย่างที่เคยกล่าวระบบของวิดาร์คือระบบเทพเจ้า

เป็นระบบที่ช่วยซัพพอร์ตผู้ใช้ให้แข็งแกร่งขึ้นและก็ตามชื่อเรียกของเรนะ.. เพียงแค่เธอเงียบงันนั่นก็เพียงพอต่อการเพิ่มความแข็งแกร่งของเธอแล้ว

ระบบก็ตามชื่อ.. มันเหมือนกับระบบในเกม.. มีทักษะเริ่มต้นมีสเตตัสที่สามารถเพิ่มได้เมื่อได้รับ Stat point

มีสกิลที่สามารถพัฒนาและวิวัฒนาการได้หรือได้รับสกิลใหม่ๆ หลังเพิ่มระดับเลเวลรวมถึงได้รับ Skill point

แม้จะเป็นระบบความเงียบที่ชัดเจนว่าต้องเงียบไว้ก่อน.. แต่ก็ยังมีรูปแบบอาชีพเช่นกัน อาชีพแต่ละอาชีพก็แบ่งทักษะออกเป็นหลายแบบ

อาชีพที่เรนะเป็นตอนนี้ก็เป็นแค่ ‘ผู้ใช้อารยธรรม’ เท่านั้น และผู้ใช้อารยธรรมที่ว่าถ้าให้เทียบก็เหมือนคนธรรมดาในโลกแฟนตาซีเลย

เมื่อพัฒนาเลเวลก็สามารถเปลี่ยนอาชีพได้เมื่อถึงจุดจุดหนึ่ง ถึงจะได้รับสกิลที่ทรงพลังมากขึ้น

แน่นอนว่าการเพิ่มเลเวลของระบบนั้นหลักๆ เลยก็คือการฆ่าศัตรูในหอคอย.. แต่ว่าระบบของเรนะคือระบบพิเศษ

ระบบพระเจ้า.. มีออฟชั่นเสริมนั่นคือ ‘ธีม’ ของระบบ.. ธีมของระบบเธอคือความเงียบขอแค่เงียบก็สามารถแข็งแกร่งขึ้นได้

แต่ทว่าทุกสิ่งบนโลกล้วนไร้ซึ่งความเงียบ.. แม้ในช่วงแรกที่ได้รับระบบมาเพียงแค่เธอไม่พูดเธอการสามารถเพิ่มระดับเลเวลได้แล้ว

แต่ว่านั่นแค่จุดเริ่มต้น.. เพราะยิ่งเลเวลสูงหูเรนะจะยิ่งไวต่อเสียงของทุกอย่าง.. ตอนนี้เธออยู่ที่เลเวล 10 เท่านั้นก็จริง

แต่หูของเธอนั้นไวต่อการเคลื่อนไหวของเม็ดเลือดหรือแม้แต่หัวใจตัวเองด้วยซ้ำ.. ดังนั้นสิ่งที่เธอต้องทำในการฝึกก็คือ..

ทำให้หัวใจของตัวเองหยุดเต้น..แต่ก็ยังมีชีวิตอยู่ต่อไป

แน่นอนว่าเรื่องนั้นเรนะเริ่มทำไปแล้ว เมื่อเรนะหลับตาลงหัวใจของเธอเริ่มเต้นชาลงจนหยุดนิ่ง

เลือดเลิกหมุนเวียนไปทั่วร่าง.. แต่ทว่าร่างกายของเธอก็ซึมซับเอาออกซิเจนมาเลี้ยงร่างกายเลือดโดยตรง!

นี่คือการฝึกของเรนะในตอนนี้

แต่ถึงเธอจะฝึกทว่าคำพูดที่วิดาร์เคยบอกก็ยังลอยขึ้นมาในหัว เหตุผลที่เธอต้องแข็งแกร่งให้มากกว่านี้ในการขึ้นไปที่ชั้น 11 และเหตุผลที่เป็นรูปเป็นร่างสักทีของเธอว่าทำไมถึงต้องปีนหอคอย

หอคอย…มีทั้งหมด 100 ชั้น และหากเคลียร์ครบหนึ่งร้อยชั้น หอคอยจะบันดาลความปรารถนาทุกอย่างให้เป็นจริงได้!!

แต่สิ่งที่สำคัญเลยก็คือนับตั้งแต่ชั้นที่ 11 ขึ้นไป.. อดีต ปัจจุบันและอนาคตของโลกใบนี้

จะเชื่อมต่อกัน!