ตอนที่ 5 จวนหลินอ๋อง (2)
ชายชุดดำคนนั้นลงมือกับนางเด็ดขาดมาก ต้องขอบคุณที่ใต้หน้าผานั่นมีต้นไม้ยื่นออกมาค่อนข้างหนาพอสมควร เนื่องจากมีมันเป็นแนวรับช่วยผ่อนแรงกระแทก ร่างนี้จึงไม่แหลกเป็นผุยผงไปเสียก่อน
นี่ไม่ใช่การฆ่าตัวตาย แต่เป็นฆาตกรรมต่างหาก!
จวินอู๋เสียตรึกตรองถึงสถานการณ์ปัจจุบันอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าชายชุดดำคนนั้นจะเป็นคนขององค์ชายรองหรือไม่ อย่างไรเขาก็ต้องมีส่วนร่วมด้วยแน่ๆ
จวินเสี่ยนเคยมีส่วนช่วยเหลือองค์ปฐมฮ่องเต้ขยายดินแดนออกไปกว้างไกล กองทัพรุ่ยหลินในมือของหลินอ๋องจึงเรียกได้ว่าแข็งแกร่งเป็นหนึ่งไม่มีสองในรัฐชีแห่งนี้ เนื่องจากมันอยู่ภายใต้การดูแลของหลินอ๋องโดยตรง ไม่เพียงแต่รัฐอื่นจะเกรงกลัว แม้แต่ฮ่องเต้รัฐชีองค์ปัจจุบันก็ยังไม่กล้าไม่ไว้หน้าเขา ต้องคอยดูสีหน้าของจวินเสี่ยนอยู่ร่ำไป
แม้ภายนอกฮ่องเต้จะแสดงออกว่าโปรดปรานจวนหลินอ๋องยิ่งนัก แต่หลายๆ คนรู้ดีว่าเบื้องลึกเบื้องหลังเป็นเช่นไร เมื่อเห็นว่าลูกชายทั้งสองของจวินเสี่ยนคนหนึ่งตาย ส่วนอีกคนพิการเดินไม่ได้ ต้องนั่งบนรถเข็นไปตลอดชีวิต คงไม่สามารถบัญชาการทัพทหารได้ หลานสาวหรือก็นิสัยเย่อหยิ่งทะนงตัว ซ้ำยังไม่มีภูติวิญญาณ ความรุ่งโรจน์ที่ถดถอยลงทุกวันทำให้หลายตระกูลเริ่มถอยห่าง คิดไปในทางเดียวกันว่ารอจวินเสี่ยนอายุครบหนึ่งร้อยปีเมื่อไหร่ ผู้ที่อยู่บนบัลลังก์ทองคงไม่คิดเกรงใจกันอีก
สภาพที่เหมือนเสือสิ้นลายของจวนหลินอ๋องในปัจจุบัน พูดได้ว่านอกจากจวินเสี่ยนที่พอจะมีอำนาจอยู่บ้าง คนอื่นๆ ก็ไม่น่ากลัวเลย น่าเสียดายที่ปีนี้เขาก็อายุปาเข้าเลขเจ็ดไปแล้ว
สุขภาพของจวินเสี่ยนย่ำแย่ลงทุกปีด้วยถูกโรคต่างๆ รุมเร้า อีกไม่นานคงตายจากโลกนี้ไป ท่าทีทางฝั่งราชวงศ์จึงยิ่งแสดงออกชัด คลับคล้ายกับว่าทนรอให้ถึงวันนั้นไม่ไหว ไม่ค่อยมีความเกรงใจเหมือนอย่างเมื่อก่อนอีก
เหตุการณ์ที่จวินอู๋เสียพบเจอ เป็นไปได้สูงมากว่าจะเป็นแผนการของคนในราชวงศ์ที่พยายามเล่นงานจวนหลินอ๋อง
“เพราะองค์ชายรองนั่นเห็นว่าจวนหลินอ๋องใกล้จะล่มสลายแล้วนี่เอง ถึงได้กล้าลงมือทำร้ายคุณหนูผู้สูงศักดิ์อย่างท่าน” เจ้าแมวดำบ่นพึมพำเบาๆ มันก็อุตส่าห์หลงดีใจคิดว่าเจ้านายมันนั้นได้มาอยู่ในร่างคุณหนูตระกูลใหญ่โตแล้ว คิดไม่ถึงว่าภาพตรงหน้านี้จะเป็นเพียงภาพลวงตา ความหรูหราเหล่านี้สามารถถูกทำให้หายไปได้ทุกเมื่อ
จวินอู๋เสียเลิกคิ้วเล็กน้อย
เจ้าแมวดำรีบฝังหน้าลงไปใต้อุ้งเท้าปุกปุยของมัน
มันลืมไปเลยว่าเจ้านายของมันตอนนี้มีชื่อว่า ‘จวินอู๋เสีย’
เมื่อเห็นว่าหลานสาวของตนไม่พูดอะไร คิดว่าคงกำลังตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ จวินเสี่ยนก็ไม่บ่นอะไรมาก เพียงพูดกับจวินอู๋เสียไปด้วยความรักและห่วงใยว่า “ช่างเถอะ เจ้ากลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีแล้ว เจ้าค่อยๆ พักผ่อนไปนะ หากมีเรื่องอะไรก็เรียกพี่ชายเจ้า”
พี่ชายอย่างนั้นหรือ
จวินอู๋เสียพยายามค้นหาคำว่า ‘พี่ชาย’ จากความทรงจำของร่างนี้ แต่คนของจวนหลินอ๋องนั้นน้อยเหลือเกิน จวินเสี่ยนมีบุตรชายทั้งสิ้นแค่สองคน บุตรชายคนโตหรือก็คือบิดาของจวินอู๋เสียสังเวยชีวิตในสนามรบ มารดาของจวินอู๋เสียเสียชีวิตไปตั้งแต่ที่คลอดนางออกมา นอกเหนือจากจวินเสี่ยน จวินอู๋เสียจึงเหลือท่านอาเล็กเป็นญาติอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น เนื่องจากท่านอาเล็กของนางก็ได้รับบาดเจ็บมาจากในสนามรบที่ทำให้ท่านพ่อของนางตาย ขาทั้งสองข้างของเขาจึงไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้อีก
ไม่ว่าจะค้นหาอย่างไร จวินอู๋เสียก็ไม่อาจหาความเกี่ยวข้องกับคำว่า ‘พี่ชาย’ ในความทรงจำพบได้เลย
“อู๋เย่า เจ้าเข้ามาดูแลน้องสาวของเจ้าหน่อย ข้าจะออกไปทำธุระข้างนอกสักประเดี๋ยว” จวินเสี่ยนเก็บรอยยิ้มที่แขวนอยู่บนหน้ากลับไป แล้วตะโกนเรียกออกไป
ทันทีที่ประตูถูกเปิดออก บุรุษร่างกายสูงใหญ่ก็ปรากฏตัวขึ้น
จวินอู๋เสียสีหน้าแข็งค้างไปทันใดเมื่อได้เห็นหน้า ‘พี่ชาย’ ชัดๆ
ใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับฟ้าประทานนั่น ดวงตาที่มีเสน่ห์เหลือล้นชวนให้ผู้คนลุ่มหลงได้อย่างง่ายดาย…
“ขอรับ” บุรุษผู้นั้นยิ้มรับเล็กน้อย
จวินเสี่ยนพยักหน้าเบาๆ หลังจากกำชับจวินอู๋เสียให้พักผ่อนเยอะๆ เขาก็ผละจากไป
ในห้องนอน บัดนี้เหลือเพียงจวินอู๋เสียกับจวินอู๋เย่าแค่สองคนเท่านั้น
พริบตาต่อมาเงาดำสายหนึ่งก็ลอยออกมาจากร่างของจวินอู๋เสีย เจ้าแมวดำตัวน้อยออกมายืนขวางอยู่หน้าเตียง มันแยกเขี้ยวเล็กน้อยเพื่อให้เห็นถึงความแหลมคมของมัน
พอจวินอู๋เย่าเห็นเจ้าแมวดำแสดงท่าทางปกป้องเจ้านายเช่นนี้ ก็เดินไปนั่งที่เก้าอี้ข้างเตียงอย่างช้าๆ ยกขายาวขึ้นไขว้กัน แล้วมองไปที่จวินอู๋เสียที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงด้วยความเพลิดเพลินใจ
………….
ตอนที่ 6 จวนหลินอ๋อง (3)
จวินอู๋เสียมองบุรุษผู้ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกอันตรายตรงหน้าอย่างเฉยเมย จวนหลินอ๋องไม่เคยมีจวินอู๋เย่า และจวินอู๋เสียก็ไม่ได้มีพี่ชายอะไรทั้งนั้น คนที่นั่งอยู่เบื้องหน้านางตอนนี้ คือคนที่พานางออกมาจากถ้ำชัดๆ แต่ตอนนี้ดวงตาสีม่วงที่สื่อถึงความเป็นปีศาจได้หายไป แทนที่ด้วยดวงตาสีดำปกติแทน
“เจ้าทำอะไรลงไป” จวินอู๋เสียจ้องเขาเขม็ง
จวินอู๋เย่าจับไปที่คางของตน หางตายกขึ้นเล็กน้อย ดวงตาราวกับปีศาจมองไปที่การแสดงออกอย่างเฉยชาบนใบหน้าของหญิงสาว
“ทดแทนบุญคุณ”
“ไม่จำเป็น”
“เสียใจด้วย แต่ข้าได้ตัดสินใจลงไปแล้ว”
จวินอู๋เสียขมวดคิ้วแน่น บุรุษตรงหน้านี้อันตรายจนเกินไป นางไม่รู้ว่าเขาใช้วิธีไหนถึงทำให้จวินเสี่ยนรับเขาเป็นหลานชายอีกคนหนึ่ง
“เจ้าคิดจะทำอะไรกับพวกเขา”
จวินอู๋เย่ามองไปที่จวินอู๋เสียแล้วยิ้มเยาะ เขายกมือขึ้น ไม่นานงูตัวเล็กขนาดเท่าเส้นผมก็เลื้อยมารัดที่นิ้วของเขา “ไม่ต้องกลัว ข้าก็แค่ใช้สิ่งเล็กๆ นี่แทรกเข้าไปในความทรงจำของพวกเขาแล้วเปลี่ยนมัน เจ้าวางใจเถอะ มันมีผลแค่ชั่วคราวเท่านั้นแหละ ข้าสัญญาว่าไม่ทำร้ายใครอย่างแน่นอน”
เจ้าแมวดำสะดุ้งเฮือก แอบถอยหนีด้วยความหวาดกลัว
เจ้านายของมันช่วยตัวอะไรกลับมากันแน่! งูดำตัวนั้นทำให้สัญชาตญาณของเจ้าแมวดำร้องเตือนถี่ยิบ มันรู้สึกไม่ปลอดภัยเอาเสียเลย
สามารถแทรกเข้าไปในร่างกายของผู้คนได้ แถมยังเปลี่ยนความทรงจำของพวกเขาได้อีก!
“แมวน้อยตัวนี้…เป็นภูติวิญญาณของเจ้าอย่างนั้นหรือ” จวินอู๋เย่ามองไปที่เจ้าแมวดำด้วยความคาดไม่ถึงอยู่บ้าง
“ไม่เกี่ยวกับเจ้า” จวินอู๋เสียตอบเสียงเย็น
“เย็นชาจริงๆ เลยนะ น้องสาวของข้า” จวินอู๋เย่าแสยะยิ้มมุมปากอย่างน่ากลัว
“ที่นี่ไม่ใช่ที่ของเจ้า เจ้ากลับไปได้แล้ว” จวินอู๋เสียขมวดคิ้ว บุรุษผู้นี้อันตรายเกินไป ให้เขาอยู่ในจวนหลินอ๋องต่อไปคงไม่ดีแน่
จวินอู๋เย่าหัวเราะหึๆ จากนั้นเจ้างูดำที่รัดอยู่ที่นิ้วมือของเขาก็ระเบิดออก “อย่าใจร้ายไปหน่อยเลย เจ้าช่วยข้า ข้าก็แค่อยากตอบแทนเจ้าก็เท่านั้น หากความต้องการเล็กน้อยนี้ของข้าเจ้ายังไม่ยอมให้สมปรารถนา ถ้าอย่างนั้นข้าคงต้องทำลายเจ้าพวกตัวเล็กที่เข้าไปแฝงอยู่ในร่างของคนพวกนั้นเสียแล้วล่ะ แต่ว่า…หากสิ่งเล็กๆ พวกนี้ถูกทำลาย ร่างที่มันแฝงอยู่ก็จะเสียหายไปด้วยนี่สิ”
“เจ้ากำลังขู่ข้าอยู่อย่างนั้นหรือ” จวินอู๋เสียหรี่ตามอง
“ไม่ ข้ากำลังขอร้องเจ้าต่างหาก” จวินอู๋เย่ายังคงปั้นหน้ายิ้มระรื่น ไม่สนใจสิ้งใดทั้งนั้น
ขอร้องบิดาเจ้ารึ! หากนางไม่ยินยอม เขาก็จะฆ่าคนทั้งจวนหลินอ๋องทิ้ง นี่เรียกว่าการขอร้องหรือ
“ไม่ต้องกังวลไป ตอนนี้ข้าแค่ยังไม่มีที่ไปเท่านั้น พอถึงเวลาหากข้าหาที่ที่จะไปพบแล้ว ข้าก็จะจากไปเอง เพียงแต่ก่อนหน้านั้น ข้าหวังว่าจะได้อยู่ที่นี่เพื่อตอบแทนบุญคุณเจ้า ข้ารับรอง ข้าจะไม่ทำร้ายใครเลยสักคนเดียว” จวินอู๋เย่ายิ้มพลางกล่าว
“จากนั้น พอถึงเวลาที่เจ้าต้องไป เจ้าก็จะฆ่าพวกเขาเหมือนเดิมอย่างนั้นสิ” จวินอู๋เสียพูดเหน็บอย่างไม่ชอบใจ
“ไม่หรอก พอถึงเวลาที่ข้าต้องไป ข้าสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดอะไรขึ้นกับคนที่นี่” จวินอู๋เย่าพูด
“ข้ามีทางเลือกด้วยหรือ” จวินอู๋เสียกัดฟัน
การแสดงออกของจวินอู๋เย่าผ่อนคลายลง
เมื่อเห็นว่าตนคงไม่อาจขับไสไล่ส่งเขาได้สำเร็จแน่แล้ว จวินอู๋เสียก็ล้มตัวลงนอน หลับตาพักผ่อนไม่สนใจเขาอีกต่อไป
เจ้าแมวดำเมื่อเห็นว่าจวินอู๋เย่าไม่ได้ประสงค์ร้ายต่อเจ้านายของตน ก็กลับสู่ภาวะปกติ แล้วเดินส่ายก้นไปขดตัวอยู่ที่ข้างๆ หมอนของจวินอู๋เสีย ดวงตาของมันมองสอดส่องจวินอู๋เย่าเป็นระยะๆ มันไม่กล้าละสายตาไปจากเขา
บุรุษผู้นี้อันตรายมาก อันตรายยิ่งกว่าทุกคนที่มันเคยเจอมาเสียอีก!
…………..