ตอนที่ 18 ความฝัน

เฝิงเหล่าฮูหยินรีบเปลี่ยนท่าทีให้เป็นปกติ พลางเอ่ยอย่างไม่พอใจ “เจ้าพูดเหลวไหลอะไร”

คืนวานนางฝันประหลาดจริง ฝันเห็นไก่ฟ้าสีทองคู่หนึ่งพุ่งเข้ามาหานาง นางหลบอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังไม่พ้นถูกกรงเล็บของไก่ฟ้าสีทองตัวหนึ่งตะครุบดวงตาจนตาบอด…

เฝิงเหล่าฮูหยินเก็บความรู้สึกไม่สบายใจเอาไว้ สายตาที่มองไปยังเจียงซื่อยิ่งดูมุ่งร้าย

นางไม่ชอบหลานสาวคนนี้เอาเสียเลย!

เมื่อตอนที่ลูกสะใภ้ใหญ่ซูซื่อรอหมั้นหมาย ชื่อเสียงก็เสียหายย่อยยับ แต่เพราะมีรูปโฉมงดงามดึงดูดใจ บุตรชายคนโตแม้ตายก็จะสู่ขอนางมาให้ได้

เห็นแก่ซูซื่อที่เกิดในจวนอี๋หนิงโหวที่มีการสืบสกุล นางจึงจำใจยอมรับ แต่เมื่อซูซื่อคลอดหลานสาวคนโตเจียงอีแล้วกลับกลายเป็นแม่ไก่ไม่ฟักไข่ นางจึงตั้งใจให้บุตรชายคนโตแต่งอนุภรรยาแต่บุตรชายกลับถูกซูซื่อยุยงให้ขัดขืนนาง

นางยอมถอยออกมาก้าวหนึ่ง ด้วยการไม่รับอนุภรรยาและให้ให้สองสาวรับใช้มาปรนนิบัตรเพื่อให้กำเนิดบุตรหลานสืบทอดตระกูลก็ยังดี แต่แม้แต่เรื่องนี้ซูซื่อก็ยังไม่ยอม

ความตั้งใจดีของนางนี้ กลับทำให้บุตรคนโตค่อยๆ ห่างเหินออกไป รอจนเมื่อซูซื่อคลอดเจียงจั้นความสัมพันธ์ทั้งคู่จึงค่อยดีขึ้น

แต่น่าเสียดายที่นายท่านปั๋วจากไปเพียงไม่กี่ปี บุตรในไส้กลับปฏิบัติกับนางเช่นนี้!

ยังดีที่ฟ้ายังมีตา ซูซื่อคลอดเจียงซื่อไม่ถึงหนึ่งปีก็ป่วยตายไป จึงให้นางได้ระบายความโกรธเสียบ้าง

เนื่องเพราะเหตุนี้ นางจึงชมชอบหลานสาวคนที่สี่ผู้น้อยนี้นัก ใครจะรู้ ซื่อเอ๋อร์ยิ่งโต อุปนิสัยกลับยิ่งละม้ายคล้ายซูซื่อเข้าไปทุกวัน นับวันยิ่งมองใบหน้านี้ ความนิยมชมชอบนั้นยิ่งจางลงเรื่อยๆ

ใจนางรู้ดี หลานสาวกับลูกสะใภ้ไม่เหมือนกัน ในวันข้างหน้า หลานผู้มีใบหน้ารูปงามนี้คงมีอนาคตที่ดีเป็นแน่ ไม่มีประโยชน์ที่จะฟื้นฝอยหาตะเข็บให้เสียไพ่ดีในมือไป

น่าเสียดายเพียงแต่ว่า สตรีที่เกิดจากปีศาจมักจะไร้วาสนา การสมรสที่ดีเพียงนั้นก็ไม่อาจรักษาไว้ได้

เจียงซื่อเห็นท่าทีลืมตัวของเฝิงเหล่าฮูหยินทั้งหมด แม้จะเกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีก็ตาม นางแย้มยิ้มพลางเอ่ย “ข้าเห็นใต้ตาท่านย่าเขียวคล้ำ คิดว่าท่านย่าคงเหมือนหลานสาวที่นอนไม่หลับดี คืนวาน ฝันของหลานก็น่ากลัวเหลือเกินเจ้าค่ะ หลานฝันเห็นไก่ฟ้าสีทองสองตัวยื่นกรงเล็บจะตะครุบมาที่ดวงตาของหลาน…”

เฝิงเหล่าฮูหยินสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย มือที่กุมกันไว้ใต้ชายเสื้อกระตุกขึ้นทันที

เจียงซื่อก็ฝันถึงไก่ฟ้าสีทองหรือ มีเรื่องบังเอิญเช่นนี้ด้วยหรือ

เฝิงเหล่าฮูหยินพลันเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นในใจ

“เมื่อคืนท่านย่าพักผ่อนไม่ดีหรือเจ้าคะ” เจียงเชี่ยนแสดงสีหน้าเอาใจใส่

เฝิงเหล่าฮูหยินเป็นคนหน้าใหญ่ อยู่ต่อหน้าหลานๆ นางย่อมไม่ยอมรับ พร้อมรีบปรับสีหน้าเป็นปกติ “อายุมากแล้ว นอนหลับไม่สนิทเป็นเรื่องธรรมดา…”

แม้นางจะเอ่ยเช่นนี้ แต่อารมณ์ดีๆ ที่หลานรักกลับมาเยี่ยมกลับหายไปหมดแล้ว เหลือเพียงแต่อารมณ์ขุ่นมัววุ่นวายใจ

เจียงซื่อลอบยิ้ม

ในจวนปั๋ว ท่านอารองเป็นบุตรที่รักลำดับที่สองในใจท่านย่า พี่ใหญ่เป็นลำดับที่สาม ส่วนพี่รองอาจจะอยู่ลำดับราวๆ ที่สี่ หากถามถึงอันดับหนึ่ง จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากตัวท่านย่าเอง ไม่มีใครแย่งตำแหน่งไปได้

ท่านย่าก็เป็นคนเห็นแก่ตัวเช่นนี้ล่ะ นางรับรู้เรื่องนี้ได้ตั้งแต่จี้ฉงอี้ตายจากไป นางหาโอกาสไประบายความทุกข์เรื่องที่นางยังคงบริสุทธิ์อยู่

นางไม่มีมารดา เรื่องเช่นนี้ หากไม่พูดกับท่านย่า นางก็ไม่รู้จะพูดกับใคร

แต่ท่านย่ากลับตบนางหนึ่งฉาด สีหน้าท่าทางดุดัน และสั่งให้นางเก็บเรื่องนี้ไว้กับตัวตลอดไป

ไม่มีการปลอบโยน ไม่มีการปกป้อง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องจะออกตัวปกป้องนาง

ท่านย่ายิ้มเย็นชาพลางเอ่ย “เรื่องที่ผู้ชายไม่แตะต้องตัวเจ้า แม้จนตัวตาย หากแพร่งพรายออกไป เจ้าคิดว่าชื่อเสียงของเจ้าจะเป็นอย่างไร หรือเจ้าอยากให้ชื่อเสียงจวนปั๋วล่มจมไปจนโงไม่ขึ้น”

ตอนนี้นางใช้ ‘ฝันร้าย’ ดึงความสนใจของท่านย่าไป แน่นอนว่า ท่านย่าเริ่มรู้สึกไม่ชอบใจที่เจียงเชี่ยนยังอยู่ที่นี่

แล้วก็เป็นไปตามที่เจียงซื่อคาดการณ์ไว้ เฝิงเหล่าฮูหยินรีบยกมือขึ้นกุมหน้าผาก “ข้าคงแก่แล้ว เพียงครู่เดียวข้าก็เหนื่อยเสียแล้ว เชี่ยนอ๋อร์ เจ้าอุตส่าห์กลับมาทั้งที เรียกเจ้าสาม กับเจ้าห้ามาหาเจ้าสิ ย่าขอตัวไปพักก่อน”

เจียงเชี่ยนเผยอปากขึ้นลง

นี่ท่านย่ากำลังส่งแขกหรือ

วันนี้ช่างแปลกเสียจริง เริ่มแรกถูกเจียงซื่อใช้วาจาโจมตีถึงสามสี่ครั้ง ตอนนี้ก็ถูกท่านย่าส่งแขกอีก นางยังไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ!

“อย่างนั้นท่านย่าพักผ่อนเถิดเจ้าค่ะ จวนโหวเองก็มีเรื่องมากมาย หลานขอตัวกลับไปก่อน วันหลังค่อยกลับมาคุยเล่นกับน้องๆ เจ้าค่ะ”

“ก็ดี เจ้ากลับไปจัดการเถอะ คนมีครอบครัวยังไงก็ต่างจากเด็กสาวที่มีอิสระมากกว่า”

เจียงเชี่ยนรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ แต่บนใบหน้ายังคงทำเป็นปกติได้ถึงสามส่วนเพื่อให้เฝิงเหล่าฮูหยินเอ็นดู ที่เหลืออีกเจ็ดส่วนเป็นความเสียใจที่ปิดบังเอาไว้

ดึงดันมากเกินไปก็ไร้ประโยชน์ นางเข้าใจดี

“น้องสี่ไปส่งข้าหน่อยสิ” เจียงเชี่ยนยิ้มให้เจียงซื่อ ราวกับไม่ได้เสียใจกับเรื่องราวเมื่อครู่เลยสักนิด

คราวนี้เจียงซื่อกลับพยักหน้าอย่างฉับไว “เจ้าค่ะ”

เจียงเชี่ยนแอบถอนหายใจเบาๆ

คำขอร้องเล็กน้อยนี้หากถูกปฏิเสธ เจียงซื่ออาจดูเป็นคนไร้มารยาท แต่ก็ไม่มีประโยชน์กับตัวนางด้วยเช่นกัน

ที่นางกลับมาบ้านฝ่ายมารดาในครั้งนี้ เนื่องเพราะนำ ‘ภารกิจ’ มาด้วย จะให้กลับเลยอย่างนี้คงยังไม่ได้

ทั้งสองคนเดินออกไปตามทางที่คุ้นเคย สาวรับใช้คอยเดินตามอยู่ไม่ห่าง

เมื่อเห็นว่าใกล้จะถึงประตูแล้ว ฝีเท้าเจียงเชี่ยนจึงหยุดลงช้าๆ พลางเอ่ยกระซิบ “ไม่เจอกันพักหนึ่ง เหตุใดข้ารู้สึกว่าน้องสี่ห่างเหินกับข้าเหลือเกิน”

เจียงซื่อไม่แม้แต่จะชายตามอง เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “พี่รองคงคิดไปเอง”

“หากเป็นเช่นนั้นก็ดี” เจียงเชี่ยนดึงมือเจียงซื่อเอาไว้ “น้องสี่ไม่ได้ห่างเหินกับข้าก็ดีแล้ว ข้ารู้ว่าความรู้สึกน้องสี่ช่วงนี้คงกำลังแย่ อย่างนี้ดีหรือไม่ เดี๋ยวข้ากลับไปส่งจดหมายให้เจ้า แล้วเจ้ามาพักที่เรือนข้าวันสองวันเป็นอย่างไร”

เจียงซื่อจ้องมองเจียงเชี่ยน สายตาบ่งบอกความหมายมากมาย

“เหตุใดน้องสี่ถึงจ้องข้าเช่นนี้ หรือใบหน้าข้ามีอะไรหรือ” เจียงเชี่ยนยกมือขึ้นมาแตะหน้าผากตนเอง ชายเสื้อปักลายดอกไม้ไหลลื่นลงไป เผยให้เห็นแขนเรียวขาวผ่องเนียนละเอียด

เจียงเชี่ยนพลันรีบดึงมือลง

สายตาเจียงซื่อแหลมคมกว่า นางเห็นรอยช้ำบริเวณแขนด้านในของเจียงเชี่ยนชัดเจน

“ได้เจ้าค่ะ”

“น้องสี่ว่าอย่างไรนะ” เจียงเชี่ยราวกับยังไม่ได้สติ

“ข้าบอกว่าได้ เพียงแต่อาจเป็นการรบกวนพี่รองน่ะสิ”

เจียงเชี่ยนคาดไม่ถึงว่าเจียงซื่อจะตอบรับอย่างรวดเร็ว รีบเอ่ยขึ้น “ไม่รบกวน หากเพียงน้องสี่ยินยอมมา พี่รองดีใจเสียมากกว่า”

เจียงเชี่ยนรู้สึกราวกับสบายใจได้อีกหหนึ่งเรื่อง กระทั่งการเดินก็เดินได้อย่างปลอดโปร่งยิ่งขึ้น

เจียงซื่อหยุดฝีเท้าลง “พี่รองกลับดีๆ นะเจ้าคะ”

นางมองไปยังเจียงเชี่ยนด้วยสีหน้านิ่งเรียบ เอ่ยเน้นทีละคำ “ไว้ข้าจะรอจดหมายจากพี่รองนะเจ้าคะ”

สถานที่ที่ยิ่งกว่าฝันร้ายแห่งนั้น แม้จะเป็นถ้ำเสือบ่อมังกรนางก็ไม่กริ่งเกรงที่จะมุ่งเข้าไปแน่

ครั้งนี้ ก็ให้นางได้เห็นสักที ว่าคนเลวจะได้รับผลกรรมอย่างไร

เจียงซื่อยืนบนขั้นบันได มองดูเจียงเชี่ยนขึ้นรถม้าไปด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นจึงหันหลังกลับเข้าไปด้านใน

รถม้าค่อยๆ เคลื่อนตัวออกไป เจียงเชี่ยนเลิกม่านขึ้นหันกลับไป มองไปยังเงาหลังของสตรีน้อยผู้งดงามและสดใสด้วยสายตาสับสน

เจียงเชี่ยนมือสั่น ม่านสีฟ้าสดใสถูกปล่อยลงในทันใด แล้วรถม้าก็พลันควบจากไป

เจียงซื่อยิ้มเยาะ ดึงกระโปรงขึ้นพลางเดินเข้าไปในจวน เห็นอาฝูสาวรับใช้เรือนฉือซินเร่งฝีเท้าเดินมาหา

อาฝูเดินเข้ามาใกล้พลางน้อมทักเจียงซื่อ “คุณหนูสี่ เหล่าฮูหยินเชิญเข้าพบเจ้าค่ะ”

เจียงซื่อพยักหน้า แล้วตามอาฝูกลับเข้าเรือนฉือซินอีกครั้ง

เฝิงเหล่าฮูหยินสั่งให้บรรดาสาวรับใช้ออกไป เหลือเพียงเฝิงมาหม่าคู่ใจ แล้วจึงรีบเอ่ยถาม “ซื่อเอ๋อร์ เมื่อคืน เจ้าฝันถึงอะไรกันแน่”