ตอนที่ 21 สั่งสอนเฉินเฉิน

สามีข้า คือพรานป่า

หลังจากเฉินผิงอันกินอาหารเสร็จสิ้น เขาโยนภาชนะทุกอย่างลงบนพื้นอย่างหงุดหงิด ตอนนี้ความกังวลเริ่มถาโถมเป็นเพราะเขาหาเงินที่หลินชวนฮวาซุกซ่อนไว้ไม่เจอ อย่างนี้คงจะไม่มีเงินไปเอาทุนคืนจากบ่อนแน่!

เมื่อเห็นว่าหมดหนทางจึงล้มตัวลงบนเตียงด้วยความสิ้นหวัง

ขณะนั้นเองเฉินเฉินเดินมาพร้อมกับเขย่าขาของเขาอย่างน่าสงสาร

“พ่อ… ข้าหิว…”

เฉินผิงอันที่กำลังหงุดหงิดจากการแพ้พนันก็ยิ่งโกรธมากขึ้น เขาไม่สนใจเฉินเฉินที่กำลังคร่ำครวญและอ้อนวอนเลย แม้อีกฝ่ายจะเป็นลูกรักก็ตาม!

“บอกข้าเพื่ออะไร! ไปบอกแม่ซะ!”

ร่างกายของเฉินเฉินสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว “ข้าหาแม่ไม่เจอ! พ่อ! อย่านอนเลยนะ… ข้าหิวจริง ๆ!”

เฉินผิงอันลุกขึ้นด้วยความรำคาญก่อนจะตะคอกกลับ “แม่ของเจ้าไม่ให้กินข้าวหรืออย่างไร? อีขี้ครอกอยู่ที่ไหน? ไปเรียกนางมาหาให้เจ้ากินสิ!”

เฉินเฉินตะลึงต่อภาพตรงหน้าและถอยกรูดไปด้านหลังอย่างตื่นตระหนก!

เมื่อเฉินผิงอันเห็นพฤติกรรมของลูกชายก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมหัวด้วยความหงุดหงิดและไม่คิดสนใจอีกต่อไป เมื่อเห็นท่าทางของผู้เป็นพ่ออย่างนี้แล้ว เฉินเฉินไม่กล้าพูดอะไรต่อ ‘มีอีกคนที่ทำอาหารได้นอกจากแม่ไม่ใช่หรือ? อีขี้ครอกที่นอนอยู่ในโรงเก็บไม้ไง!’

เมื่อก่อนตอนยังเด็ก เขาเคยเรียกเฉินเถียนเถียนว่าพี่สาว แต่หลินชวนฮวาไม่พอใจพร้อมดุด่าและสั่งสอนว่าหญิงคนนี้ไม่ใช่พี่สาวของเขา!

ตอนแรกเฉินเฉินไม่ได้สนใจจะฟังที่แม่บ่น แต่เมื่อถูกตีบ่อย ๆ จึงตระหนักได้ว่าสิ่งที่เขาทำมันผิด หากเขารังแกหรือดุด่าพี่สาว นั่นจะทำให้เขาได้รับรางวัลจากแม่มากมายและแม่ก็จะมีความสุข!

ดังนั้นเขาจึงเดินไปยังโรงเก็บไม้ ก่อนจะถีบประตูออกสุดแรง!

“อีขี้ครอก! ลุกขึ้นมาทำอาหารให้ข้าเดี๋ยวนี้!”

เฉินเถียนเถียนมองไปที่ประตูพร้อมกับจ้องมองเด็กชายตัวน้อยที่บุกเข้ามาในห้องอย่างกะทันหัน เด็กคนนี้ผอมโซอย่างเห็นได้ชัด แน่นอนว่าหลินชวนฮวาต้องไม่ให้เขากินอาหารแน่นอน เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็สกปรกและขาดรุ่งริ่ง ทั้งยังเย็บขอบไม่เรียบร้อยอีกด้วย

จู่ ๆ เฉินเถียนเถียนก็นึกขึ้นได้ว่าเด็กชายคนนี้เคยเป็นฝันร้ายของนาง นี่คือเจ้าเด็กน้อยนามว่าเฉินเฉินที่มักจะรังแกเฉินเถียนเถียนอยู่เสมอ

เฉินเฉินแปลกใจต่อปฏิกิริยาของพี่สาว ‘ปกตินางจะต้องกลัวสิ แต่วันนี้ทำไมกลับมองข้าเช่นนี้เล่า?’

“อีขี้ครอก ไม่ได้ยินเหรอ? รีบไปทำอาหารให้ข้า ไม่เช่นนั้นข้าจะฟ้องแม่!”

ใช่แล้ว! นี่คือเฉินเฉิน!

น้องชายต่างมารดาของเฉินเถียนเถียน!

เขาสามารถสั่งให้เฉินเถียนเถียนทำอะไรก็ได้และไม่จำเป็นต้องเรียกนางว่าพี่สาว หากนางไม่ทำตามเฉินเฉินสามารถนำเรื่องนี้ไปฟ้องหลินชวนฮวาและหลินชวนฮวาจะนำเรื่องไปบอกเฉินผิงอัน จากนั้นเฉินผิงอันจะโมโหและอาละวาดเฉินเถียนเถียนทันที…

บางครั้งหลินชวนฮวาก็ลงโทษเฉินเถียนเถียนโดยการเฆี่ยนตี จนเกิดรอยแผลมากมายตามร่างกายของนาง

“บ่นอะไร? เอาล่ะ! อยากพล่ามนักก็ตามใจ นอกจากพร่ำบ่นเจ้าทำอะไรได้อีกเล่า?”

เฉินเฉินไม่คาดคิดมาก่อนว่าพี่สาวผู้อ่อนแอจะกล้าแข็งข้อขึ้นมา

“อีขี้ครอก! อยากตายหรือไร?!”

จากนั้นเฉินเฉินจึงก้มลงหยิบไม้และเงื้อมมือขึ้นสุดอย่างหมายจะทุบตีอีกฝ่าย แต่หากเป็นเฉินเถียนเถียนคนเดิมคงจำยอมและซ่อนอยู่ในกองฟืนด้วยความกลัว

แต่วันนี้หากยอมให้เด็กคนนี้ทำร้ายคงเสียชื่อตำรวจสาวเป็นแน่

เฉินเถียนเถียนจึงเดินไปหยิบไม้เล็ก ๆ ก่อนจะเดินไปข้างหลังเฉินเฉินและฟาดขาเขาอย่างแรง เด็กน้อยล้มลงพร้อมมีเลือดไหลออกมา

เฉินเถียนเถียนตระหนักได้ว่าแม้เด็กน้อยจะเคยพูดจาหยาบคายหรือทำร้ายตน แต่จากเลือดที่ไหลจากขาที่บาดเจ็บคงทำให้เขาทรมานจนอยากร้องไห้ เฉินเถียนเถียนจึงก้าวไปข้างหน้าและดึงร่างน้องชายขึ้น

“ไม่ต้องมาทำดีต่อข้า เจ้ามันหน้าซื่อใจคด! ข้าจะบอกพ่อว่าเจ้ารังแกข้า! ข้าจะบอกให้พ่อลงโทษเจ้าให้ตาย!”

เฉินเถียนเถียนรู้สึกโมโหต่อความก้าวร้าวของเฉินเฉิน จึงเอื้อมมือคว้าคอเสื้อของเขาอย่างรุนแรงก่อนจะยกตัวเด็กน้อยขึ้น อย่างไรซะเฉินเฉินเองยังเป็นเด็ก เมื่อเห็นพฤติกรรมอันรุนแรงของพี่สาวจึงทำให้เขากลัวและกำลังจะแหกปากเพื่อร้องไห้

“อีขี้ครอก! ปล่อยข้าลงเดี๋ยวนี้!”

เฉินเถียนเถียนลากตัวเฉินเฉินเข้ามาในบ้านก่อนจะถีบประตูห้องนอนของเฉินผิงอันอย่างแรง

เฉินผิงอันตื่นจากฝันดีทันทีพลางดึงผ้าห่มลงด้วยความไม่พอใจ “อะไรนักหนาเนี่ย?!”

เฉินเถียนเถียนพูดออกด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ไม่ว่าอย่างไรท่านก็คือพ่อ ไม่คิดจะหาอาหารให้ลูกชายของตนกินบ้างหรือ?”

เฉินผิงอันรู้สึกงุนงงต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เขาไม่เข้าใจว่าเฉินเถียนเถียนหมายถึงอะไร ‘ไม่คิดจะหาอาหารให้ลูกชายกินงั้นหรือ?’

เฉินเฉินรู้สึกตื่นตระหนกกับสิ่งตรงหน้าอย่างยิ่งจึงร้องไห้ออกมา

“พ่อโบยนางให้ตายเลย! นางทำร้ายข้า! ดูสิ ขาและมือของข้ามีเลือดออกด้วย!”

เมื่อเฉินผิงอันเห็นเลือดไหลที่มือและขาของลูกชายก็โกรธจัดทันที

“อีขี้ครอก! กล้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร?! เขาเป็นน้องชายของเจ้านะ!”

เฉินเถียนเถียนแสร้งทำโศกเศร้าพร้อมกล่าวออกด้วยความคับข้องใจ “เป็นน้องชายของข้างั้นหรือ? ข้าเป็นเพียงอีขี้ครอกสกปรก! ได้ชื่อว่าเป็นพี่สาวของใครตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

เฉินเฉินเห็นสีหน้าของพ่อเปลี่ยนไปเป็นเกรี้ยวกราดจึงยิ่งร้องไห้ออกมาดัง ๆ อีกครั้ง “แม่บอกว่านางไม่ใช่พี่สาวของข้า เป็นเพียงอีขี้ครอกสกปรกเท่านั้น!”

หากเขาเพิกเฉยและบอกว่าสิ่งที่หลินชวนฮวาบอกลูกชายนั้นถูกต้อง แน่นอนว่าเฉินเถียนเถียนต้องนำเรื่องนี้ไปฟ้องคนในหมู่บ้านแน่!

หลังจากไตร่ตรองอยู่นานในที่สุดเฉินผิงอันก็เกลี้ยกล่อมเฉินเถียนเถียนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ถึงอย่างนั้นเขาก็เป็นน้องชายของเจ้า ทำแบบนี้ได้อย่างไร? เหตุใดจึงต้องทุบตีเขา?!”

คำพูดนั้นทำให้เฉินเถียนเถียนรู้สึกกระอักกระอ่วนต่อการเสแสร้งของเฉินผิงอัน!

พ่อเอาแต่ฟังความข้างเดียวจริง ๆ!

“พ่อ! ท่านแน่ใจได้อย่างไรว่าข้าทำร้ายเขา? เฉินเฉิน… เจ้าเองก็เป็นชายอกสามศอ กลับไม่กล้าพูดความจริงสักนิดเลยหรือ?

เมื่อเฉินเฉินได้ยินดังนั้นก็โกรธมาก เขาไม่พอใจที่โดนหญิงสกปรกเหยียดหยามจึงโพล่งออกมาเสียงดัง “ต่อให้ข้าเป็นคนทำร้ายเจ้าก่อน เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ตอบโต้ ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้าไม่ยอมลุกมาเตรียมอาหารให้ข้า!”