ความศักดิ์สิทธิ์สัมบูรณ์ – ควบคุมวัฐจักร
“ อย่าอวดดีให้มากนักไอ้สวะ!!! ”ลูซิเฟอร์
ART – ดุจแสงศักดิ์สิทธิ์…
“ ทำลายล้าง- ”
ชวิ๊งส์-
ฟูมมมมม!!!!!!!
ร่างที่เปล่งประกายของชายคนนั้นรวบรวมพลังงานจากห้วงอวกาศไว้ที่มือของตน ก่อนจะปล่อยออกมาในรูปแบบของลำแสงทำลายล้าง แบบที่ลูซิเฟอร์เคยทำเมื่อก่อนหน้านี้
ลูซิเฟอร์ที่รู้ว่าอันตรายใกล้เข้ามาถึงตัวแล้ว นางจึงใช้หมู่ดาวนับสิบเข้ามาขวางการโจมตีของชายคนนั้นเอาไว้
แม้ว่าลำแสงทำลายล้างนี้จะไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรมาก แต่อนุภาพของมันกลับสามารถทำลายล้างทั้งดวงดาวทิ้งได้เลย
มันชัดเจนแล้วว่าลองกินุสนั้นเป็นสิ่งที่ขัดต่อพลังของพระเจ้าจริงๆ แม้แต่การควบคุมกาลเวลาของลูซิเฟอร์ที่ขัดต่อกฏเกณฑ์ก็ยังไม่อาจจะทำอะไรตัวของเขาได้
เพียงแต่ หากสู้ไม่ได้ด้วยพลัง ก็ต้องใช้กำลังเข้าสู้แทน นั่นคือสิ่งที่ลูซิเฟอร์กำลังจะทำ
การโจมตีทางพลังวิเศษไม่สามารถถึงตัวชายที่มีลองกินุสสถิตอยู่ได้ ทว่ากลับกันการโจมตีทางกายภาพจะได้ผลมากที่สุดกับคนแบบบี๋
และการโจมตีทางกายภาพที่ว่าที่มีผลมากที่สุดและหนักหน่วงที่สุด ก็คือการฟาดดวงดาวใส่ตรงๆเลยยังไงล่ะ!
“ ข้าจะทำให้เจ้าพรุนไปด้วยหอกของข้าอีกครั้งซะ!! ”ลูซิเฟอร์
ความศักดิ์สิทธิ์สัมบูรณ์ – รังสรรค์สรรพสิ่ง
คมหอกของลูซิเฟอร์ปรากฏขึ้นเหนือห้วงอวกาศนับล้านล้านเล่ม ที่ดูไปแล้วบี๋ไม่น่าจะมีทางหลบได้เลย
ทว่าข้างบนนี้นั้นคืออวกาศ แน่นอนว่าแต่ละการโจมตีย่อมมีช่องว่างระหว่างเวลาและระยะห่างที่มากอยู่แล้ว เพราะแบบนั้นการที่เขาจะถูกหอกพวกนี้โจมตีนั้นมีความเป็นไปได้มากกว่าครึ่ง แต่ในทางกลับกันเขาสามารถใช้หอกพวกนี้เป็นสะพาน เพื่อไปให้ถึงตัวของลูซิเฟอร์ได้เช่นกัน
ART – ดุจแสงศักดิ์สิทธิ์
ตัวของเขาเปล่งแสงและลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงสีขาวอีกครั้ง แล้วตั้งท่าเตรียมพุ่งตัวขณะที่พื้นดวงดาวที่เขากำลังเหยียบอยู่ค่อยๆแตกสลายลงไป
ทว่าท่าทางพวกนี้นั้นทำให้ลูซิเฟอร์แสดงสีหน้าไม่สบายใจออกมา
เพราะตั้งแต่เมื่อกี้ ท่าที่บี๋ปล่อยออกมาทั้งหมด..
“ นั่นมัน- ท่าของข้า!! ”ลูซิเฟอร์
เป็นท่าของลูซิเฟอร์ที่เคยใช้ในการร่นระยะห่างและโจมตีเขามาแล้ว
“ ไอ้สวะนั่นมันทำได้ยังไง!!? ”ลูซิเฟอร์
ความไม่พอใจเนื่องจากการถูกลอกเลียนท่าทางได้ง่ายๆเริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผู้ที่เปรียบได้ดั่งพระเจ้าอย่างเธอ
“ ท่าง่ายๆพวกนั้น ทำความเข้าใจแป๊บเดียวก็เข้าใจแล้วยัยบ้า!!! ”
‘ อะไรกัน!? มันมาตรงนี้ตั่งแต่เมื่อไหร่!! ’ลูซิเฟอร์
เพียงชั่วพริบตา ร่างที่ลุกโชติช่วงไปด้วยเปลวเพลิงของบี๋ก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าของเธอ
ปัก!!
ขณะที่ลูซิเฟอร์กำลังอ้ำๆอึ้งๆอยู่นั้น เขาก็บรรจงต่อยเข้าไปที่คางของเธอหวังเพื่อที่จะให้ลูซิเฟอร์ได้สลบ
ทว่ามันกลับไม่เป็นอย่างที่คิด นอกจากลูซิเฟอร์จะไม่เป็นอะไรแล้ว เธอยังแสดงสีหน้าที่โกรธแบบสุดขีดออกมา
หมับ-
เขาถูกลูซิเฟอร์จับหน้าเอาไว้ แรงของเธอมากซะจนสามารถบีบกะโหลกของเขาให้แหลกได้ด้วยมือเดียว แต่ก็โชคดีที่ในร่างของเขานั้นมีลองกินุสคุ้มกะลาหัวอยู่ จึงไม่สามารถถูกโจมตีให้บาดเจ็บได้ง่ายๆ
“ ชิ กะโหลกหนาจริงๆนะแก คงจะเป็นเพราะไอ้หอกเวรนี่สินะ ”ลูซิเฟอร์
ลูซิเฟอร์ปล่อยมือจากใบหน้าของบี๋ ใช้พลังจิตคงร่างของเขาให้ลอยตัวอยู่ทั้งแบบนั้นโดยที่ไม่สามารถขยับไปไหนได้เลย ก่อนที่จะยกแขนข้างที่มีรอยสักของลองกินุสของเขาขึ้นมา
“ อย่ามาล้อเล่นกับข้านะเว้ยไอ้เวร!!! ”ลูซิเฟอร์
แล้วใช้มือที่เปลี่ยนเป็นกรงเล็บฉีกกระชากหนังบริเวณรอยสักของเขาออกอย่างแรง ความเจ็บปวดมากมายมหาศาลคงจะแล่นเข้าสู่โสดประสาทของบี๋เลยเชียวล่ะ
“ อ๊ากกกก!!!! ”
“ แกทำได้แค่นี้แล้วจะเอาอะไรมาสู้กับข้าวะ!!! แกมันก็แค่มนุษย์น่ารังเกียจ ที่ถูกเลือกโดยหอกฆ่าพระเจ้าก็เท่านั้นแหละ!!!! ”ลูซิเฟอร์
“ หวังอะไรลมๆแล้งๆ ไม่มีใครที่จะช่วยเจ้าได้ทั้งนั้น! แม้แต่ไอ้หอกหักนี่ก็ตาม!!! ”ลูซิเฟอร์
ทว่าผิวหนังที่ถูกฉีกออกไปนั้นกลับกลายเป็นละออกแสง ก่อนที่จะมารวมตัวกันที่แขนของเขาก่อนจะถูกกระชากออกอีกครั้ง นั่นทำให้ลูซิเฟอร์ยิ่งไม่เข้าใจเข้าไปใหญ่
“ ???!!! ”ลูซิเฟอร์
‘ ไม่เคยมีครั้งใดที่ลองกินุสเลือกมนุษย์มาก่อน แล้วทำไมไอ้เปรตนี่ถึงสามารถควบคุมมันได้กัน? ’ลูซิเฟอร์
‘ เหอะ ช่างมัน ยังไงซะข้าก็ถือไพ่เหนือกว่าอยู่ดี ’ลูซิเฟอร์
ART – ดุจแสงศักดิ์สิทธิ์..
“ ซุุปเปอร์.. โนวา!!!”
ตู้มมมมม!!!!!!
พลังงานความร้อนมหาศาลที่คล้ายคลึงกับดวงอาทิตย์สองดวงกำลังปะทุอยู่ภายในร่างของบี๋
แล้วระเบิดออกมาอย่างรุนแรง จนเกิดแรงสั่นสะเทือนไปทั่วอวกาศ
ที่เขาทำแบบนี้ ก็เพื่อสร้างระยะห่างระหว่างตัวเขากับลูซิเฟอร์ และใช้จังหวะนั้นที่ลูซิเฟอร์กำลังงุนงงในการถอยหลังกลับไปตั้งหลักใหม่
…
เอาล่ะบี๋ มาคิดหาทางออกกันดีกว่า… ว่าเราจะทำยังไงกับไอ้พระเจ้านั่นดี
ทั้งๆที่ตอนนี้มีลองกินุสอยู่ที่แขนซ้าย แต่ก็ยังทำอะไรเธอไม่ได้เนี่ย หรือตูจะกระจอกเกินไป?
ไม่ดิ มันเก่งเกินไปมากกว่า
ยังไงซะ… ก็ต้องหาทางจัดการกับเธอยังไงก็ได้
ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
…แย่แฮะ คิดไม่ออกเลยอ่ะ
หลังจากที่ผมได้รับรอยสักมา ผมมีความมั่นใจมากขึ้น เพราะพลังพระเจ้าหรือการควบคุมกฏเกณฑ์ต่างๆไม่สามารถใช้ได้กับลองกินุส แน่นอนว่าผมที่เป็นโฮสของมันก็เช่นกัน นั่นหมายความว่านอกจากการโจมตีทางกายภาพแล้ว พลังที่เหลือไม่สามารถโจมตีถึงตัวผมได้นั่นเอง
เพียงแต่ว่ามันมีปัญหาอยู่อย่างนึง
ลองกินุสมันกัดกินชีวิตผมอย่างมากเลยล่ะ เหตุผลนั้นทำให้ผมต้องรีบจัดการเรื่องทั้งหมดโดยเร็วก่อนที่ผมจะถูกลองกินุสมันเล่นงานซะเองน่ะนะ
เอาล่ะ ตอนนี้ผมกำลังสงสัยว่าผมยังสามารถใช้ลองกินุสในรูปแบบของหอกได้อยู่รึเปล่า
ชวิ๊ง-
ปรากฏว่ามันสามารถทำได้ แต่รอยสักที่อยู่บนร่างนั้นจะหายไป ผลข้างเคียงต่างๆก็ไม่มี เพียงแต่ผมจะไม่สามารถหายใจในอวกาศได้รวมถึงการเคลื่อนที่ต่างๆและพลังป้องกันจะลดลงไปอย่างมากเลยล่ะ
ผมเลยต้องใช้สกิลพลังจิตของตัวเอง เพื่อทำให้ผมสามารถเคลื่อนที่ได้ในอวกาศอย่างอิสระ
“ เยี่ยมไปเลย- ”
เคล้ง!!
อึ่ก!!–
ลูซิเฟอร์พุ่งเข้ามาฟาดผมด้วยหอกโดยที่ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัว ดีที่ประสาทสัมผัสของผมเร็วพอที่จะสามารถรับการโจมตีนั้นไว้ได้ทัน
ART – ดุจแสงทมิฬ
ร่างของลูซิเฟอร์ปกคลุมไปด้วยแสงสีแดงดำ ไม่นานนักความเร็วในการโจมตีของเธอมันมากขึ้นเรื่อยๆ จนผมเริ่มที่จะมองไม่เห็นวิถีหอกของเธอเลย มันเลยมีบางการแทง หรือฟาด ที่สามารถเล็ดรอดจากการปัดป้องของผมไปได้และสร้างดาเมจให้ผมตัวผมอย่างมาก
ART – ดุจแสงศักดิ์สิทธิ์
ร่างของผมปกคลุมไปด้วยแสงสว่างสีทองอีกครั้ง พร้อมกับเร่งความเร็วในการโจมตีและป้องกันให้เทียบเคียงกับลูซิเฟอร์
แต่แล้ว อยู่ๆเธอก็หยุด
นั่นทำเอาผมชะงักตาม
ราวกับว่าลูซิเฟอร์ได้สังเกตเห็นอะไรบางอย่างแล้ว
‘ อักขระหายไป? เปลี่ยนมาเป็นลองกินุสเรอะ ’ลูซิเฟอร์
“ แสดงว่าตัวแกไม่มีอะไรคอยคุ้มกะลาหัวอยู่แล้วสินะ!! ”ลูซิเฟอร์
ชิ- ว่าแล้วว่ามันจะต้องรู้! แต่ไม่คิดเลยแฮะว่ามันจะรู้เร็วขนาดนี้!
ขณะที่ผมกำลังคิดหนัก ลูซิเฟอร์ใช้ด้านท้ายหอกแทงที่หน้าท้องของผมจนจุก จากนั้นก็หมุนตัวเตะยอดหน้าผม ต่อมาก็ใช้เท้าซ้ายถีบผมจนกระเด็นออกไป ก่อนที่จะพุ่งตามมาด้วยความเร็วแสง
“ ต่อจากนี้ข้าคงจะไม่ได้เห็นหน้าแกอีกแล้วล่ะ ไอ้เวร ”ลูซิเฟอร์
และง้างหอกออกไปสุดแขนในระดับเอว
ใบหน้าของลูซิเฟอร์แสดงความอำมหิตออกมาอย่างเห็นได้ชัด
ART – ดุจแสงทมิฬสัมบูรณ์
แย่ล่ะ-
ในตอนนั้นผมรู้ได้ในทันทีถึงอันตราย
แม้ว่าคราแรกผมจะเอาลองกินุสใส่ในแขนได้ แต่คราวนี้มันต่างกัน ผมไม่เห็นจะทำแบบนั้นได้เลย
บอกได้คำเดียวว่าซวยของจริง
“ จงตาย และล่องลอยไปในอวกาศอันกว้างใหญ่ซะ ”ลูซิเฟอร์
ปรายแสงกระหน่ำ ทลายเอกภาพ
ในจังหวะเดียวกันนั้น ผมก็ได้สังเกตเห็นปีกสีขาวบริสุทธ์ทั้ง 3 คู่อยู่ข้างหลังผม
มันมีรอยไหม้อยู่ด้วย.. มันเหมือนกับปีกของมิคาเอลเลย
แต่ได้ยังไง ผมผนึกเธอไปแล้วหนิ!?
“ !!!!! ”
“ คุณมิคาเอล!!??? ”
ร่างอันเบาบางของหญิงสาวโอบกอดตัวผมจากด้านหลังอย่างอ่อนโยน และได้ใช้ปีกของเธอโอบล้อมพวกเราทั้งคู่เพื่อป้องกันจากอันตรายทั้งปวง
แม้ว่าลูซิเฟอร์จะเริ่มออกแทงมาอย่างเชือกช้าก่อนเป็นลำดับแรก ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป ทุกๆครั้งที่เธอแทงเข้ามาจะมีหอกขนาดยักษ์ที่เป็นออร่าสีม่วงอมชมพูปรากฏขึ้นมาโจมตีพร้อมๆกัน
และในทุกๆการแทง เธอจะเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนมันอยู่ในระดับความเร็วของแสง
การโจมตีของเธอยิ่งหนักหน่วงมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขนาดที่ทุกๆหนึ่งการแทงเราจะได้เห็นร่องรอยของมิติที่แตกหักคล้ายกับกระจกเลย และเมื่อยิ่งการโจมตีเพิ่มขึ้นมามากขึ้นเรื่อยๆ มันได้ทำให้ความเป็นอยู่ของมิตินี้กำลังปั่นป่วน
ราวกับว่าคมหอกของเธอที่เธอแทงเข้ามาในแต่ละครั้งเป็นการพุ่งชนของดวงอาทิตย์เลยล่ะ และไม่ได้มีแค่หนึ่งหรือสองครั้งติดต่อกัน
แต่เป็นล้านๆครั้งต่อเนื่องกันเลยต่างหาก
ถึงแบบนั้นก็ต้องชื่มชมมิคาเอล ที่ปีกของเธอมีความทนทานมาก ไม่ว่าลูซิเฟอร์จะแทงทะลุเข้ามาสักเท่าไหร่ก็ยังไม่สามารถส่งการโจมตีอันหนักหน่วงนั้นมาถึงตัวพวกเขาได้เลยสักนิด สมกับที่เธอกล่าวว่า ตัวตนของทูตสวรรค์แบบเธอมีอยู่เพื่อปกป้องจริงๆ
“ … ”
ทว่า เมื่อการโจมตีของสาวคนนั้นได้หยุดลง ร่างของมิคาเอลก็พลอยเรืองแสงสีทองออกมาด้วย
“ ขอโทษนะคะ ที่ข้าช่วยคุณได้เพียงเท่านี้.. ”มิคาเอล
“ ดูไม่ได้เลยล่ะค่ะ สภาพของข้าในตอนนี้.. ฮ่ะๆ ”มิคาเอล
จริงด้วย.. แผลที่ท้องของเธอก็ยังไม่หายไปไหนเลย
“ สุดท้ายนี้.. ช่วยผนึกท่านพี่ให้สำเร็จทีนะคะ- ไม่ใช่สิ มีชีวิตรอดนะคะ …”มิคาเอล
ละอองแสงของเธอกลับเข้ามาอยู่ในลองกินุสอีกครั้ง
ผมมองไปที่ลูซิเฟอร์
ดูเหมือนว่าหล่อนจะใจเย็นลงได้บ้างแล้วล่ะนะ
แต่ก็ยังไม่เปลี่ยนเรื่องที่หล่อนตั้งใจจะฆ่าผมให้ตายอยู่ดี
ถอนหายใจออก ทำสมาธิให้ใจเย็นที่สุด
ฟู่ว…
ตอนนี้ผมกำลังคิดถึงเรื่องลองกินุสอยู่ ว่าจะทำยังไงให้มันกลับไปเป็นอักขระ
“….”
อ่ะ.. กลับมาเป็นอักขระแล้วอ่ะ
โอเคๆ งั้นก็หมายความว่าการกลายสภาพของอาวุธขึ้นอยู่กับผู้ใช้สินะ งี้นี่เอง
ผมยอมรับเลยว่าก่อนหน้านี้ผมตึงเครียดและยึดติดเรื่องหนี กับจัดการลูซิเฟอร์มากไปหน่อย เลยไม่ได้ตั้งสติทำสมาธิเพื่อผ่อนคลาย
[ พลังงานปริศนาขัดขวางท่าน ท่านไม่สามารถใช้สกิลได้ ]
ก็ยังเป็นเหมือนเคยสินะ ก็นะ ตราบใดที่ลองกินุสยังอยู่ผมก็คงไม่สามารถใช้สกิลไปได้ตลอดนั่นแหละ
แต่ผมลืมคิดเรื่องนี้ไปได้ไงเนี่ย มานายังใช้ได้อยู่นี่นา ส่วนพลังจิตก็.. อาจจะใช้ได้? รึไม่กันนะ? นั่นสินะ มันยังพอมีหนทางอยู่
[ พลังจิตของท่านยังคงสามารถใช้งานได้ ]
เอาล่ะ ผมจะมีชีวิตรอด และกลับบ้านให้ได้
พรึบๆ
“ อีกแล้วรึ? ”ลูซิเฟอร์จ
พรึบๆ-
เปลวเพลิงบริสุทธิ์ได้ลุกโชนโชติช่วงท่วมร่างของผมอีกครั้ง
“ ขออนุญาตนะ มิคาเอล ”
ผมหยิบยืมพลังของเธอมาจากลองกินุส เป็นปีกสีขาวบริสุทธิ์ทั้งสามคู่ของเธอ
ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย
ตายก็ตาย
จบก็จบ
แต่ยังไงซะ
ผมก็จะไม่ยอมตายง่ายๆแน่นอน
“ นี่คงจะเป็นรอบสุดท้ายสินะ ที่แกจะลุกขึ้นยืน ดูๆไปแล้ว ร่างกายแกก็ใกล้จะแตกสลายแล้วเหมือนกัน”ลูซิเฟอร์
“ ฟู่ว… ”
ผมตั้งท่าเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตี
คราวนี้ผมจะเป็นฝ่ายรุกบ้างล่ะนะ
ART –
“ ดุจแสงศักดิ์สิทธิ์… “
ART –
“ ดุจแสงทมิฬ…”ลูซิเฟอร์
ปรายแสงกระหน่ำ
ตัดจบตอน
ตอนนี้ผมกำลังเดือดจัดๆเลย ฮ่าฮ่าฮ่า