ตอนที่ 29 จริงและหลอก

นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature )

ตอนที่ 29 – จริงและหลอก

หลิวเต๋อจู้พูดว่าตนเองทะลุมิติไปในเรือนจำหมายเลข 18 แถมได้เห็นหลี่ซูถงแล้วด้วย

ประโยคนี้พอฟังเข้าหูของทุกคนแล้วคล้ายจะเป็น : ฉันเล่นเวอร์ชั่นเบต้าวงในที่ยังไม่ตัดต่อของเกมนี้แล้ว แถมได้อาวุธส้มหนึ่งเดียวในเกมนี้แล้ว แล้วยังได้รับอาชีพลับที่ร้ายกาจที่สุดในเกมนี้

ใช้เวลาเพียงพริบตาเดียว หลิวเต๋อจู้ก็กลายเป็นตัวตนเสมือนเทพในใจของเหล่านักเรียนไปแล้ว

ชิ่งเฉินมองดูปฏิกิริยาของทุกคนเงียบ ๆ อย่างใบ้กิน แต่นี่ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขา ไม่จำเป็นต้องแฉอีกฝ่าย

เพียงได้ยินเหล่าเพื่อนนักเรียนถามว่า “หลี่ซูถงหน้าตาเป็นยังไง”

หลิวเต๋อจู้คิด ๆ แล้วตอบว่า “เขาอยู่ในคุกค่อนข้างพิเศษเลยแหละ คนอื่นล้วนใส่ชุดนักโทษ เขาคนเดียวใส่ชุดต่อสู้แบบที่เอาไว้เล่นไทเก็กน่ะ ฉันเดาว่าเขาอาจจะเป็นหัวหน้าคุกอะไรล่ะมั้ง? ข้างกายยังมีลูกน้องสองคนติดตาม หนึ่งในนั้นผอมแห้งยิ้มแฉ่ง อีกคนค่อนข้างล่ำ ๆ ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยยิ้ม”

“พอฟังแล้วก็เหมือนบอสใหญ่เลยนะ……” เพื่อนนักเรียนอึ้งทึ้ง

“จริงสิ” หลิวเต๋อจู้กล่าว “เขายังเลี้ยงแมวไว้ตัวหนึ่ง ประเภทที่ใหญ่เป็นพิเศษเลย บนหูสองข้างยังมีขนตั้งขึ้นมา ดูแล้วคล้าย ๆ แมวลิงซ์”

ทุกคนเห็นหลิวเต๋อจู้พูดเสียละเอียดขนาดนี้ก็พากันเชื่อที่อีกฝ่ายพูดจริง ๆ แล้ว

ตอนนี้มีคนถามว่า “งั้นนายได้รับวิธีเปลี่ยนอาชีพจากเขาไหม”

นักเรียนไม่น้อยได้รับอิทธิพลจากเหอเสี่ยวเสี่ยว ทั้งหมดใช้ศัพท์เกมมาบรรยายโลกภายใน

แต่ว่าคำพูดนี้พอออกมาหลิวเต๋อจู้ก็พูดกลบเกลื่อนไป “อยากจะได้รับเควสเปลี่ยนอาชีพมันจะง่ายดายขนาดนั้นได้ที่ไหนล่ะ พวกนายก็ได้ยินเหอเสี่ยวแล้วว่าหลี่ซูถงไม่ใช่คนธรรมดา อยากจะได้รับความไว้ใจจากเขาไม่ง่ายแน่นอน”

พวกเพื่อนนักเรียนฟังแล้วพยักหน้า อย่างนี้จึงตรงกับสามัญสำนึก

ทุกคนคิดอย่างนี้ หลิวเต๋อจู้จะสามารถได้รับโอกาสเปลี่ยนอาชีพหรือไม่ก็ยังไม่แน่

“แต่ว่า” หลิวเต๋อจู้พูดเสริมทันทีว่า “ในเมื่อฉันทะลุไปถึงคุกหมายเลข 18 แล้วก็จะต้องไม่ปล่อยให้โอกาสครั้งนี้หลุดลอยไป อีกอย่าง ฉันคุยกับหลี่ซูถงแล้วนะ!”

ความสนใจของทุกคนลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง “พูดอะไร”

หลิวเต๋อจู้หลบเลี่ยงต่อ “ก็ทักทายไม่กี่คำ……”

ขณะนี้มีเพียงชิ่งเฉินที่รู้ว่าหลิวเต๋อจู้พูดอะไรกับหลี่ซูถง : เอาเควสเปลี่ยนอาชีพให้ผม

มีเพื่อนนักเรียนถามอีกว่า “งั้นนายทะลุไปในคุกหมายเลข 18 เป็นนักโทษในนั้นเหรอ จะอันตรายมากขมขื่นมากเลยรึเปล่า”

หลิวเต๋อจู้กล่าวว่า “ไม่นะ ฉันกับนักโทษคนอื่นไม่เหมือนกัน”

ชิ่งเฉินรู้ว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดเป็นความจริง อีกฝ่ายกับนักโทษคนอื่นไม่เหมือนกันจริง ๆ จะอย่างไรนักโทษคนอื่นก็ไม่ได้ถูกขังแยก

ฟังถึงตรงนี้แล้วเขาก็หมุนตัวกลับห้องเรียนของตัวเอง ดูท่ายากมากที่จะได้ฟังข่าวสารที่มีคุณค่าอะไรจากอีกฝ่าย

ส่วนสาเหตุที่อีกฝ่ายพูดอย่างนี้ในตอนนี้ก็คงจะเป็นเพราะความทะนงตัวไร้สาระของวัยรุ่นนั่นแหละนะ

มีคนพูดว่า ตอนนี้พระเจ้าสร้างมวลมนุษย์ ลูกน้องของพระองค์กังวลใจ : ท่านให้จิตใจอยากรู้ สติปัญญาและความกล้าหาญแก่มวลมนุษย์ พวกเขาจะแข็งแกร่งเกินไป

พระเจ้าจึงคิดแล้วตอบว่า : งั้นก็ให้ความทะนงตัวกับความริษยากับพวกเขาสักหน่อย

ชิ่งเฉินรู้สึกว่าความทะนงตนไม่จำเป็นว่าจะเป็นเรื่องแย่อะไร แต่ในสภาพแวดล้อมนี้ การเปิดเผยตัวเองว่าเป็นผู้ทะลุมิติกลับเป็นตัวเลือกที่โง่เง่าเป็นพิเศษ

โดยเฉพาะการอวดอ้างว่าตนเองรู้จักหนึ่งในบุคคลที่สำคัญที่สุดของโลกภายใน

อย่างน้อยจากมุมมองไกด์ของเหอเสี่ยวเสี่ยวในขณะนี้ หลี่ซูถงเป็นบุคคลอย่างนี้จริง ๆ

แต่ว่าอยากได้รับวิธีกลายเป็นเหนือมนุษย์จากตรงหลี่ซูถงดูเหมือนจะไม่ได้ง่ายดายอย่างในไกด์เลย

ต้องรู้ว่าชิ่งเฉินพยายามไปตั้งมากขนาดนั้นก็เพียงแค่เข้าใกล้เท่านั้นเอง

ท่ามกลางเสียงอุทานและอิจฉาชื่นชมของพวกเพื่อนนักเรียน ชิ่งเฉินเดินเฉียดไหล่พวกเพื่อนนักเรียนที่เพิ่งจะพุ่งเข้ามาร่วมความครึกครื้น เขาไม่มีแผนจะเพลิดเพลินกับเกียรติยศประเภทนี้ สายตาของคนอื่นไม่เกี่ยวกับเขา

อีกอย่างองค์กรเร้นลับเกรงว่ากำลังจะมาถึงแล้ว

ครั้งที่แล้วอีกฝ่ายไม่ได้ปรากฏตัว แต่ครั้งนี้มันแน่นอน

ทว่าตอนที่เขากำลังฝ่าฝูงคน จู่ ๆ กลับเห็นหนานเกิงเฉินกำลังก้มหน้าก้มตาหดตัวอยู่ท้ายกลุ่มคน

“หนานเกิงเฉิน” ชิ่งเฉินตะโกน

“เอ๊ะ? ใครตะโกนเรียกฉัน?” หนานเกิงเฉินเงยหน้า

ชิ่งเฉินจึงเห็นว่าหนานเกิงเฉินทั่วทั้งตัวล้วนซังกะตาย

“นายเป็นไรเนี่ย” ชิ่งเฉินฉงน “ถูกใครตีมาเหรอ”

“เปล่า ๆ” หนานเกิงเฉินรีบก้มหน้าก้มตาส่ายศีรษะ “ฉันก็แค่หลับไม่สนิท”

ชิ่งเฉินสำรวจอีกฝ่าย ไม่มีอวัยวะจักรกล แล้วก็ไม่มีความผิดปกติอื่น ก็แค่สติสตังไม่ค่อยจะดี

เขาดึงหนานเกิงเฉินกลับไปในห้องเรียนถามเสียงค่อย ๆ ว่า “นี่คือทะลุมิติไปแล้วถูกคนทรมานเหรอ”

“ทะลุมิติ? ทะลุมิติอะไร?” หนานเกิงเฉินแกล้งทำเป็นงงงวย

คราวนี้ชิ่งเฉินแอบบ่นอยู่ในใจ สิ่งที่เขาสามารถมั่นใจได้คืออีกฝ่ายจะต้องทะลุมิติแล้วแน่ ๆ

เพียงแต่เจ้าหมอนี่สรุปแล้วประสบกับอะไรที่โลกภายในกันแน่จึงเปลี่ยนจากท่าทางยืดหยิ่งก่อนหน้ากลายเป็นท่าทางตื่นกลัวอย่างนี้

“นายทะลุมิติไปแล้วทำอะไรมาเนี่ย” ชิ่งเฉินงึมงำ

“ฉันไม่ได้ทะลุมิติ! ใครบอกว่าฉันทะลุมิติฉันจะไปอัดมัน!” หนานเกิงเฉินกล่าว

ได้ ชิ่งเฉินเห็นว่าถามอะไรไม่ออกก็ไม่แคร์แล้ว

ตัวเองแม้แต่อีกฝ่ายทะลุมิติไปที่ไหนมีตัวตนอะไรก็ยังไม่รู้ คิดจะช่วยก็ช่วยไม่ได้

จนกระทั่งตอนใกล้จะเข้าเรียน หนานเกิงเฉินจึงพูดเสียงเบา ๆ มาประโยคหนึ่งในที่สุดว่า “ก่อนหน้านี้ฉันไม่ใช่ว่าเคยพูดกับนายเหรอว่ามีกลุ่มของผู้ทะลุมิติน่ะ”

“อืม ถูกแล้ว นายเคยพูด” ชิ่งเฉินพยักหน้า

เด็กนี่ไม่ใช่คนที่มีเล่ห์เหลี่ยมล้ำลึกเป็นพิเศษอะไร เรื่องทะลุมิติใหญ่ขนาดนี้ไม่มีคนที่สามารถบอกเล่าทุกสิ่งจะต้องอดไม่ได้แน่นอน

กลับได้ยินหนานเกิงเฉินกล่าวว่า “ฉันบอกกับนายใช่รึเปล่าวว่ามีคนขายถุงเท้าของโลกภายในน่ะ”

“อืม” ชิ่งเฉินพยักหน้า

“อันนั้นหลอก” หนานเกิงเฉินกล่าว “นายอย่าสนว่าฉันรู้ได้ยังไง ยังไงก็ตามเขาไม่ใช่ผู้ทะลุมิติ จากฝั่งนั้นเอาถุงเท้ากลับมาไม่ได้หรอก”

“อืม” ชิ่งเฉินพยักหน้า

หนานเกิงเฉินกล่าวต่อว่า “ฉันบอกกับนายใช่รึเปล่าว่ามีผู้ทะลุมิติพูดว่าไปแล้วสามารถช่วยติดต่อกับผู้หญิงรวย ๆ น่ะ”

“อืม” ชิ่งเฉินพยักหน้า

“ผู้ทะลุมิติคนนี้เป็นของจริง”

ชิ่งเฉินเลื่อมใสอย่างลึกซึ้ง “!!!”

เขามองหนานเกิงเฉินอย่างตกตะลึง พุดไม่ออกเป็นครึ่งค่อนวัน

เอาตามจริงเลยนะ ถึงจะเป็นตอนที่เขาทะลุมิติไปครั้งแรกก็ยังไม่ได้ตะตะลึงขนาดนี้เลย

ดังนั้น สภาพซังกะตายของหมอนี่ก็คือเพราะหลังจากเข้าไปแล้วคนอื่นช่วยติดต่อกับผู้หญิงรวย ๆ ให้?

หนานเกิงเฉินที่อดไม่ได้หลังพูดจบก็ตระหนักว่าสิ่งที่พูดมากไปหน่อยแล้ว จึงรีบเร่งกลับไปอุดรอยรั่วว่า “ฉันก็เห็นคนอื่นพูดในกลุ่มอะนะ แต่ฉันไม่ใช่ผู้ทะลุมิตินะ”

“อืม ฉันเข้าใจ” ชิ่งเฉินพยักหน้ารับทราบการให้เหตุผลของอีกฝ่าย

ทั้งสองฝ่ายตกอยู่ในความเงียบงันยาวนาน

ชิ่งเฉินจู่ ๆ ก็ถามว่า “……ให้เงินเยอะไหม”

หนานเกิงเฉินสีหน้าแปรเปลี่ยนอย่างใหญ่หลวง “ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ใช่ผู้ทะลุมิติ”

ตอนนี้ เสียงออดเข้าเรียนดังขึ้น

แต่ความสนใจของเหล่าเพื่อนนักเรียนไม่ได้อยู่บนตัวครูที่เพิ่งจะเดินเข้าห้องเรียนเลย ทว่าเป็นที่ทางเดินนอกหน้าต่าง…… คนชุดดำสี่คน

ชิ่งเฉินใช้ร่างของหนานเกิงเฉินซ่อนตนเอง เขามองไปนอกหน้าต่างเงียบ ๆ

คนชุดดำมีหัวหน้าแผนกกิจการศึกษาร่วมทาง เดินไปที่ห้องเรียนติดกัน

เหล่าเพื่อนนักเรียนถกกันอย่างประหลาดใจ แม้แต่ครูสอนคณิตศาสตร์ยังอดไม่ได้ยืนสังเกตการณ์อยู่ที่ทางเดิน

มีชิ่งเฉินคนเดียวที่ไม่ประหลาดใจ เพราะเขาเคยเห็นคนเหล่านี้มาก่อนแล้ว

………………………………..

ตามนั้นค่ะ 555 น้องหนานกลายเป็นเด็กเลี้ยงไปแล้ว

ตอนที่ 30 – หาเงินอย่างไร