ตอนที่ 30 หาเงินอย่างไร

นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature )

ตอนที่ 30 – หาเงินอย่างไร

หลังคนชุดดำปรากฏตัว ความสนใจของทุกคนล้วนรวมอยู่ที่ร่างของพวกเขา

ไม่ใช่แค่มัธยมปลายปีสองห้อง 3 ที่ชิ่งเฉินอยู่ แม้กระทั่งบนอาคารเรียนฝั่งตรงข้ามยังมีคนสังเกตเห็นสถานการณ์ด้านนี้ พวกนักเรียนแต่ละคนเกาะหน้าต่างมองมาด้านนี้

อันที่จริงก็ไม่น่าแปลกที่พวกนักเรียนจะประหลาดใจ

ตอนที่ชิ่งเฉินพบหน้าอีกฝ่ายเป็นครั้งแรก ความรู้สึกกดดันที่อีกฝ่ายมอบให้เขายังสดใหม่อยู่ในความทรงจำของเขา

เอกลักษณ์อย่างนี้แล้วยังพลังสภาวะอันแหลมคม อยู่ในโรงเรียนแล้วมันสะดุดตาเป็นพิเศษเลย

ตั้งแต่ต้นจนจบชิ่งเฉินซ่อนตัวอยู่ข้าง ๆ หนานเกินเฉิน แต่เขาคิดมากไปแล้ว อีกฝ่ายไม่ได้มองมาในห้องเรียนของตนเองสักแวบเลย

ขณะนี้ชิ่งเฉินคาดเดาได้คร่าว ๆ แล้ว องค์กรที่สามารถทำให้หัวหน้าแผนกกิจการศึกษาของโรงเรียนมาอำนวยความสะดวกจะต้องมีภูมิหลังทางราชการ นี่จะมากจะน้อยก็ทำให้คนวางใจได้บ้าง

เพียงแต่เหล่าคนชุดดำหลังจากพาหลิวเต๋อจู้ไป ตอนที่คาบเรียนที่หนึ่งกำลังจะจบก็ปล่อยเขากลับมาแล้ว

หลังคาบ นักเรียนทั้งหมดของห้องเรียนโดยรอบล้วนพุ่งมา คนฝูงใหญ่รุมล้อมหลิวเต๋อจู้ถามว่า “คนชุดดำพวกนั้นเป็นใครอะ”

หลิวเต๋อจู้ก็อึ้ง ๆ “ฉันก็ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร หัวหน้าแผนกกิจการศึกษาสือชิงเหยียนแค่บอกว่าให้ฉันให้ความร่วมมือกับพวกเขาก็พอ”

“งั้นพวกเขาหานายทำไร” นักเรียนถาม

“ก่อนอื่นคือให้ฉันลงทะเบียนที่อยู่ของบ้านกับรายละเอียดการติดต่อ ยังมีเบอร์โทรผู้ติดต่อฉุกเฉิน” หลิวเต๋อจู้นึกทบทวน “จากนั้นบอกฉันว่าตอนนี้ไม่สามารถออกจากเมืองลั่ว ภายหลังอาจจะอยากให้พวกเราเหล่าผู้ทะลุมิติรวมตัวกันฝึกซ้อมอะไรพวกนี้ พวกเขาตอนนี้ยังอยู่ในขั้นเตรียมการ ไม่แน่ว่าจะเตรียมพร้อมเสร็จเมื่อไหร่”

“เมืองลั่วผู้ทะลุมิติเยอะเหรอ” พวกเพื่อนนักเรียนถามไถ่

“เหมือนว่าจะเยอะอยู่นะ” หลิวเต๋อจู้กล่าว

“พวกเขามาหานายยังมีเรื่องอะไรอื่นอีกไหม”

“เออใช่” หลิวเต๋อจู้จู่ ๆ ก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ “พวกเขาเอาภาพถ่ายหลายใบจากกล้องวงจรปิดสี่แยกมาถามฉันว่าเคยเห็นคนคนหนึ่งรึเปล่า คนในรูปถ่ายอายุน่าจะไม่เยอะ รูปถ่ายตอนกลางคืนก็เลยเบลอไปบ้าง อีกฝ่ายใส่เสื้อฮู้ดสีเทาแล้วก็หมวกแก๊ป มองไม่เห็นหน้าตา”

ตอนที่เพื่อนนักเรียนคนอื่นยังฟังอย่างสนอกสนใจ ชิ่งเฉินกลับขมวดคิ้วขึ้นมากะทันหัน

เพราะคนที่หลิวเต๋อจู้บรรยายออกมามันไม่ใช่ตัวเขาเองหรอกเหรอ

“อยากหาเขาเพราะอะไร” เพื่อนนักเรียนถาม

“คนชุดดำพูดว่าเขาก็อาจจะเป็นผู้ทะลุมิติ เคยปรากฏตัวที่หน้าประตูบ้านผู้ทะลุมิติอีกคน” หลิวเต๋อจู้กล่าว “อีกฝ่ายก็ไม่ได้ปิดบัง พูดแค่ว่าผู้ทะลุมิติคนนี้พิเศษอยู่บ้าง ความสามารถต่อต้านการติดตามแกร่งมาก ไม่ใช่คนที่นักเรียนธรรมดาอย่างฉันจะสามารถเทียบได้ ถ้าหากเจอคนที่หน้าตาคลับคล้ายจะต้องโทรหาคนชุดดำก่อน ตัวเองอย่าไปเข้าหามั่ว ๆ”

ชิ่งเฉินเงียบงันไร้วาจา เขาคิดไม่ถึงว่าความประทับใจที่ตนเองมอบให้พวกคนชุดดำจะหลงเหลืออยู่อย่างล้ำลึกเช่นนี้ บางทีอีกฝ่ายอาจไปตรวจกล้องวงจรปิดภายหลังอีก ดังนั้นยืนยันพฤติกรรมต่อต้านการติดตามของตนเองแล้ว

เพียงแต่อีกฝ่ายเพราะอะไรถึงอยากถามหลิวเต๋อจู้ล่ะ

ยังไม่ทันที่เขาจะคิดจนเข้าใจก็มีเพื่อนนักเรียนหนึ่งคนถามออกมาว่า “งั้นพวกเขาถามนายเรื่องนี้ทำไมอะ”

“เออ พวกเขาพูดว่าตามที่กล้องวงจรปิดติดตามร่องรอย พื้นที่กระทำการของอีกฝ่ายน่าจะอยู่ที่ระยะสามกิโลเมตรนี้ เพียงแต่เขตที่พักนี้ของพวกเรามันเก่า ถนนหนทางก็แคบและเก่า พื้นที่มากมายไม่มีกล้องวงจรปิดไม่งั้นก็เสีย ดังนั้นร่องรอยเลยขาดหายไปแล้ว”

ชิ่งเฉินเป่าลมหายใจโล่งอกในใจ ที่อีกฝ่ายร่องรอยขาดหายไม่ได้บังเอิญเลย ทว่าวันนั้นเขาเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใส่มาสองปีแล้วเป็นพิเศษ แล้วก็จงใจเดินหลีกเลี่ยงวงจรปิดด้วย

ดูท่าความพยายามในการเตรียมความพร้อมตลอดเวลาของตนเองไม่ได้สูญเปล่าเลย

หลิวเต๋อจู้กล่าวว่า “ก็ไม่ได้ถามแค่ฉันคนเดียวนะ ยังถามครูบางส่วนที่โรงเรียนด้วย พวกเขาสงสัยว่าผู้ทะลุมิติคนนั้นถ้ายังเป็นนักเรียนก็มีความเป็นไปได้มากว่าจะอยู่ในโรงเรียนพวกเรา เพียงแต่พวกครูก็จดจำไม่ออก”

เพราะว่าข้างตัวมีผู้ทะลุมิติโผล่ออกมา ในโรงเรียนสอนภาษาต่างประเทศเมืองลั่วเอะอะวุ่นวาย

ระหว่างคาบของทุก ๆ คาบเรียนล้วนมีคนรวมตัวเป็นกลุ่มก้อน “แกล้งทำเป็นเดินผ่าน” ประตูห้องเรียนหลิวเต๋อจู้

ในนั้นยังมีนักเรียนหญิงหน้าตาดีไม่น้อยที่ซุบซิบคิกคักกันอยู่นอกห้องเรียน ทำให้จิตใจของหลิวเต๋อจู้ได้รับการเติมเต็มอย่างใหญ่หลวง

หนานเกิงเฉินนั่งอยู่ในห้องเรียนมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างอิจฉา “คนเขาทะลุมิติไปก็ไปถึงข้าง ๆ บอสใหญ่แล้ว แล้วยังได้พูดกับบอสใหญ่ ไม่แน่ว่าวันไหนขึ้นมาก็จะกลายเป็นยอดมนุษย์ ระยะห่างของคนกับคนไหงมันใหญ่ขนาดนี้ล่ะเนี่ย”

ชิ่งเฉินเหล่มองเขา “อิจฉา?”

“นายไม่อิจฉาเหรอ” หนานเกิงเฉินพึมพำ “ก่อนหน้านี้ยังพูดว่าหาเงินเยอะ ๆ แล้วจะเชิญนายไปกินข้าว ตอนนี้ดูท่าจะไม่ไหว”

“งั้นก็ตั้งใจเรียนไปสิ ยังมีคนธรรมดาตั้งมากมายที่มีชีวิตดี ๆ นะ ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องกลายเป็นผู้ทะลุมิติ” ชิ่งเฉินกล่าว

หนานเกิงเฉินลังเลจะพูดแล้วหยุด

ตอนนี้เขาไม่อยากให้คนอื่นค้นพบสถานะผู้ทะลุมิติของตนเอง ให้ตนเองแบกรับอันตราย จากนั้นจิตใจของวัยรุ่นกลับอยากให้คนอื่นอิจฉาตนเอง ดังนั้นก็เลยกระโดดไปมาซ้ำ ๆ ระหว่างสถานะผู้ทะลุมิติกับสถานะคนธรรมดา อุดหูขโมยกระดิ่ง

ตอนใกล้ค่ำ กรรมการนักเรียนมาหาชิ่งเฉินกับหนานเกิงเฉิน “ชิ่งเฉิน ค่าหนังสือนายสองคนยังไม่ได้จ่ายนะ”

ชิ่งเฉินคิดแล้วกล่าวว่า “พ่อแม่ฉันไม่อยู่บ้าน ฉันขอเลตสองวันค่อยจ่ายนะ”

กรรมการนักเรียนพยักหน้าแล้วมองไปทางหนานเกิงเฉิน “หนานเกิงเฉิน ค่าหนังสือนายล่ะ”

หนานเกิงเฉินเอ่ยอย่างขอโทษขอโพยว่า “ฉันก็เลตสองวัน……”

กรรมการนักเรียนไปโดยไม่พูดอะไร

อันที่จริงคนในห้องล้วนทราบว่าสภาพทางบ้านของหนานเกิงเฉินกับชิ่งเฉินไม่ค่อยจะดี แต่ทุกคนก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะเหตุนี้

งานเลี้ยงห้องอะไรจะไม่เรียกพวกเขาสองคน มันก็เพียงแค่รู้ว่าพวกเขาอับอายที่ขาดเงินจะไม่ออกมาก็เท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าจะดูถูกกันเลย

นักเรียนที่วางท่าบ้าอำนาจมากในชั้นมัธยมปลายเทียบจำนวนแล้วยังมีน้อยมาก

แถมชิ่งเฉินยังเป็นนักเรียนเทพ นักเรียนเทพด้วยตัวของตัวเองก็แบกรัศมีไร้เทียมทานชนิดหนึ่งอยู่แล้วในยุคสมัยมัธยมปลาย

คนมากมายนึกว่านักเรียนมัธยมปลายวัน ๆ คิดว่า : ที่บ้านของเพื่อนนักเรียนคนนี้มีเงินเยอะ ฉันต้องไปเล่นกับเขา เพื่อนนักเรียนคนนั้นที่บ้านจนโคตร ฉันจะไม่เล่นกับเขา

แต่ความเป็นจริงคือจิตใจของเหล่านักเรียนมัธยมปลายยังไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้น เรื่องที่ทุกคนคิดแทบจะเหมือน ๆ กัน : คือว่าใครวะที่คิดค้นฟังก์ชั่นขึ้นมา? หืม? ให้ฉันดูหน่อยสิว่าข้อสอบกากากบาทของใครที่ได้แค่ 15 คะแนน แม่ม กูเองนิ!

ตอนนี้ชิ่งเฉินมองไปทางหนานเกิงเฉิน “นายทำไมไม่เอาค่าหนังสือมาเหมือนกันล่ะ”

“แม่ฉันถูกพ่อฉันทำโมโหจนกลับไปอยู่บ้านยายแล้ว เงินนี่ได้แต่ต้องไปเอาที่พ่อฉันอะ” หนานเกิงเฉินพึมพำ

“พ่อนายไม่ให้เหรอ” ชิ่งเฉินถาม

“ไม่”

“เขาว่าไง”

หนานเกิงเฉินกล่าวว่า “เขาให้ฉันเอาหนังสือไปคืนโรงเรียน……”

ชิ่งเฉิน “???”

ทันใดนั้นเอง ค่าหนังสือก็ทำให้เด็กวัยรุ่นทะลุมิติผู้ลำบากยากเข็นสองคนหมดท่าไปเลย

นี่ก็เตือนความจำชิ่งเฉินว่าตนเองควรจะหาเงินแล้ว

เขาสามารถใช้การเล่นหมากรุกไปรังแกลุงแก่ ๆ นั่นต่อไปได้ แต่ปัญหาคือนั่นก็ไม่พอนะ แถมทุกคนตอนนี้ล้วนเรียนรู้ที่จะฉลาดขึ้นมา ไม่เล่นกับเขาแล้ว

ดังนั้น ยังต้องคิดว่าจะหาเงินจากโลกภายในอย่างไรจึงจะถูก

ไม่มีเหตุผลที่เฝ้าภูเขาสมบัติแต่กลับมือเปล่ากลับมาทุก ๆ ครั้งนี่นา

……………………………

ตอนที่ 31 – กลุ่มการเงินตระกูลหลี่