บทที่ 15 ตรวจลายนิ้วมือ

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

“ตรวจลายนิ้วมือ ง่ายขนาดนี้เชียว?”เมธาวีคิดว่าวารุณีกำลังพยายามล้างความผิดให้ตัวเอง ถ้าเธอสวมถุงมือล่ะ?

วารุณีมองความคิดในใจเมธาวีออก จึงพูดว่า“คุณหนูเมธาวี คุณสามารถไปดูกล้องวงจรปิดด้านนอกทางเดินได้ค่ะ ดูว่าฉันได้ทิ้งของอะไรไปบ้างหรือไม่”

พูดอย่างตรงไปตรงมา

วารุณีพูดประโยคติดๆกันแบบนี้ ก็ค่อยๆทำลายความสงสัยของเมธาวี

แต่ในใจรู้สึกริษยาและประหลาดใจ วารุณีมีสิทธิ์อะไรได้คุยกับนัทธี?

“ยามคะ!ค้นกล้องวงจรปิดให้หน่อยค่ะ!”เมธาวีเรียกยามมา เธอจะต้องหาหลักฐานได้ว่าวารุณีขโมยสร้อยคอ

เรื่องมาถึงนี่แล้ว ได้รุนแรงถึงตรงนี้แล้ว ไม่อาจจบลงได้

ในช่วงที่รอ นัทธีนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟา ในมือถือไวน์แดงแก้วหนึ่ง หลังจากชิมไปคำหนึ่งเล็กน้อย สายตาก็มองไปที่วารุณีที่อยู่ไม่ไกล

พิจารณาอีกครั้ง นัทธีพบว่าผู้หญิงคนนี้ถึงแม้รูปร่างหน้าตาจะสวยงามอย่างร้ายกาจอย่างมาก แต่สายตาคู่นั้นชัดเจนมาก ไม่เหมือนกับผู้หญิงพวกนั้นที่ลาภยศได้ครอบงำจนหน้ามืดตามัว

เห็นเธอใจเย็นรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่มีผลดีต่อเธอ นัทธีก็เลิกคิ้วขึ้น ดูเหมือนไม่มีเขา หญิงสาวก็สามารถรับมือคนเดียวได้

ครึ่งชั่วโมงถัดมา หัวหน้ายามก็เดินมาจากด้านนอกประตู พูดเสียงเบาที่ข้างหูเมธาวี“คุณหนู ไม่มีครับ”

พุ่มไม้ด้านนอกพวกเขาก็ค้นแล้ว ไม่พบเครื่องมือในการก่ออาชญากรรมใดๆ

ได้ยินตรงนี้ สีหน้าเมธาวีก็วูบวาบเล็กน้อย

“เป็นไงบ้าง?คุณหนูเมธาวี”วารุณีเดินเข้ามา

ที่จริงเธอรู้ว่า เมธาวีจะต้องไม่ได้อะไรสักอย่างแน่นอน

เรื่องมาถึงตรงนี้แล้ว ทุกคนต่างเข้าใจว่า วารุณีเป็นผู้บริสุทธิ์

แต่เมธาวียังไม่พอใจ“ตรวจลายนิ้วมือ!”

“พอแล้ว!หนวกหู”ทันใดนั้นเองเสียงคนแก่ที่ดังและทรงพลังก็ตัดบทของเมธาวี

ทุกคนมองไป เป็นคนตระกูลแววสูงเนินมา ที่นำหน้ามาคือนายท่านวัชระที่คุณธรรมและบารมีสูงส่งแห่งตระกูลแววสูงเนิน

วารุณีกับวัชระเคยเจอกันแล้ว นั่นคือตอนที่เธอขอร้องให้เมอร์เซเดอเป็นอาจารย์ ที่งานเลี้ยงฝากตัวเป็นศิษย์

ไม่คิดว่าหลายปีผ่านไป นายท่านวัชระยังคงร่างกายแข็งแรง พูดจายังทรงพลังอย่างมาก

“คุณปู่ ฉันไม่ได้ก่อกวนนะคะ เธอขโมยสร้อยคอฉันไปค่ะ”เมธาวีรีบเดินไปทางนายท่านวัชระ จับแขนของชายชรา แล้วพูดอย่างออดอ้อน

เมธาวีเป็นผู้หญิงคนเดียวในบรรดาลูกหลานของตระกูลแววสูงเนิน ปกติแล้วจะได้รับความเอาใจ แค่ออดอ้อนหน่อย ก็ได้ทุกอย่าง

แต่วันนี้นายท่านวัชระชักสีหน้า ใช้มือปัดเมธาวีออก“งานเลี้ยงดีๆ ถูกหลานทำอะไรไปหมดแล้ว?”

คำพูดตำหนิทำให้เมธาวีรับไม่ได้“ปู่คะไม่ใช่ฉัน แต่เป็นเธอ!”

เมธาวีใช้นิ้วชี้ไปที่วารุณีอย่างโกรธจัด

จากทางที่เมธาวีชี้นิ้วไป นายท่านวัชระก็มองไป เห็นวารุณี เขาก็ตะลึงไปก่อน จากนั้นก็ยิ้มให้“ฮ่าฮ่า สาวน้อย คุณมาแล้ว ทำไมไม่บอกผมล่ะ?”

พูดไป นายท่านวัชระก็เดินมาทางวารุณี

เอ่อ……

เห็นฉากนี้ คนในงานต่างตกตะลึง

“คุณปู่วัชระ นี่อาจารย์บอกมาค่ะว่า ต้องเซอร์ไพรส์ท่าน”วารุณีโค้งเอวเล็กน้อยอย่างมีมารยาทไปที่ฝ่ายตรงข้าม แสดงความนับถือของตัวเอง

“ฮ่าอ่า เซอร์ไพรส์จริงๆ”ได้เจอลูกศิษย์ของเพื่อนรักอีกครั้ง นายท่านวัชระดูดีใจอย่างมาก

ฝูงคนที่เข้ามาสาระแน สายตาที่มองวารุณีก็ค่อยๆไม่เหมือนเดิม

ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่ ไม่ใช่แค่รู้จักนัทธี แต่กับนายท่านวัชระก็ยังมีมิตรภาพต่อกัน

หลังจากขอความเห็นของวารุณี เรื่องขโมยสร้อยก็จบลง

ยังไงเรื่องคืนนี้ ก็ขายหน้า

พิชญาที่หลบอยู่ในมุมมืด กำมือไว้แน่น เธอไม่สำนึกในบุญคุณที่วารุณีปล่อยตัวเองไปครั้งหนึ่ง

แค่เห็นวารุณียืนอยู่ข้างนัทธี ในใจเธอก็อิจฉาอย่างบ้าคลั่ง

หลังจากที่เธอไปแทนวารุณีเมื่อห้าปีก่อน เธอก็ขออะไรจากนัทธี ก็ได้มาหมด

คนภายนอกดูแล้ว ตำแหน่งคุณหญิงตระกูลไชยรัตน์ต้องเป็นของเธอพิชญาแน่ แต่มีเธอคนเดียวเท่านั้นที่รู้ดีว่า นัทธีไม่มีเธอในหัวใจเลย ไม่แตะต้องเธอสักนิด!

เห็นได้ชัดว่า เธอก็แค่โล่อันหนึ่งที่นัทธีมีต่อโลกภายนอก!

ไม่ได้ เธอจะต้องคิดหาทาง ตัดรากถอนโคน วารุณีแล้วก็ลูกสองคนนั้นที่ไม่รู้ว่ามาจากไหน!