ทรายเพชรจมเข้าไปในตัวจั๋วฝานทีละกลุ่ม ทรายทำเหมือนเข็มที่เจาะผ่านกล้ามเนื้อเขา และดึงเลือดออกมา

ทรายเพชรทั้งหมดที่สัมผัสตัวเขาจะทิ่มแทงเขา หนึ่งหรือสองกลุ่ม เขาสามารถทนได้ แต่กับร้อย พัน…พวกมันกำลังเริ่มอาละวาดบนตัวเขา ขณะที่เขาทำได้แค่กัดฟัน

พอจำนวนถึงล้าน ทั้งตัวของเขาก็ชุ่มไปด้วยเลือด เลือดนี้มาจากรูขนาดเท่าเข็ม มันคล้ายกับรังผึ้ง

พอมองใกล้ๆ ทรายเพชรได้ทำลายกล้ามเนื้อเขาไปหมดแล้ว เปลี่ยนพวกมันเป็นเศษเนื้อ

และนี่แค่จุดเริ่มต้น แต่ความเจ็บปวดกลับเกินทานทน มันเลวร้ายยิ่งกว่าการทรมานชนิดใด มันเหมือนกับการโดนมีดพันเล่มผ่าร่างกายทั้งเป็น

แต่ทว่า เพื่อเพิ่มพลังเขา จั๋วฝานยังทนมัน ไม่เต็มใจจะส่งเสียงร้องแม้แต่นิด เหงื่อแทรกซึมออกมาทุกรูขุมขน ตอบสนองต่อความเจ็บปวด แม้กระทั่งจักรพรรดิปีศาจผู้เกรียงไกรก็ยังต้องสั่นสะท้าน

“อ้ากก!”

จากนั้นจั๋วฝานก็กรีดร้องออกมา ไม่สามารถทนความเจ็บปวดของเข็มทรายเพชรอีกล้านเข็มที่เจาะผิวหนังกับกล้ามเนื้อได้

เขาแหกปากร้องสุดใจ แต่รู้ว่าเขาต้องหยุดและในไม่ช้าก็ปิดปาก

เขารู้เต็มอกว่า เคล็ดหลอมกายานี้จะสร้างร่างกายเขาใหม่ จากภายในสู่ภายนอก แทนที่ทั้งหมดด้วยทรายเพชร มันมากจนเข้าจะกลายเป็นเพชรที่ทำลายไม่ได้

แต่ก่อนหน้านั้น เขาต้องทนความเจ็บปวด

แต่นี่เป็นแค่เนื้อเยื่อ ในไม่ช้ามันจะตามด้วยกระดูกกับอวัยวะภายใน

จั๋วฝานกัดฟันฝืนทน ถ้าไม่ใช่เพื่ออยากช่วยเสวี่ยหนิงเซียง เขาคงไม่เลือกเส้นทางนี้เด็ดขาด!

ป่าเถื่อนเกินไป!

ค่ายกลพิศดารนี้ไม่เคยหยุดหมุน ป้อนร่างกายจั๋วฝานด้วยทรายเพชรไม่หยุด หลังผ่านไปสองชั่วโมงเต็ม กล้ามเนื้อของเขาก็ไม่หลงเหลืออีก จากนั้นทรายเพชรก็ทิ่มแทงกระดูกเขา

“อึก..”

จั๋วฝานตัวสั่นกระตุก และเสียงก็เล็ดรอดผ่านไรฟัน

การตะโกนมีแต่จะเพิ่มความเจ็บปวดของเขาจนกระทั่งเขาทนไม่ไหว เพื่อเลี่ยงมัน เขาต้องฝืนปิดปากแม้ดวงตาของเขาจะปูดจนแทบถลน

[ไอจักรพรรดิเก้าสมถะแสนบัดซบ เจ้าคิดบ้าอะไรอยู่ถึงได้สร้างเคล็ดหลอมกายาแสนบ้าคลั่งแบบนี้ขึ้นมา?]

วินาทีที่ทรายเพชรเข้ากระดูกเขา จั๋วฝานก็แทบขาดอากาศ เขาไม่สามารถพูดได้อีก เขาจึงสาปแช่งจักรพรรดิคนแรกของยุคโบราณในหัว

ถ้าอีกฝ่ายได้ยิน เขาคงตอบกลับมาว่า’ข้าบังคับเจ้าหรือไง?’

ทันใดนั้นร่างกายของจั๋วฝานทิ้งตัวลงกับพื้น โครงกระดูกของเขาเปลี่ยนเป็นฝุ่นผงไปแล้ว

ความเจ็บปวดฉายชัดผ่านดวงตาเขา แต่ตอนนี้เขาไม่มีอะไรมากกไปกว่าเศษเนื้อ ทั้งหมดที่เขาทำได้คือนอนเป็นอัมพาตบนพื้น

[ยังมีขั้นตอนสุดท้าย…สร้างร่างกายใหม่..]

จั๋วฝานหลั่งเหงื่อเย็น เขาสูดหายใจลึกผ่านไรฟัน

กระดูกของเขาป่นปี้หมดแล้ว ทรายเพชรฝังลึกเข้าอวัยวะภายในเขา มันไม่รอเพื่อเกาะติดเหมือนก่อนหน้า แต่กลับกระโจนใส่ทันที

อวัยวะภายในของจั๋วฝานหลั่งเลือดและเขาก็พ่นเลือดที่ผสมกับเศษเนื้อออกมาซ้ำแล้วซ้ำอีก

เลือดไหลย้อมค่ายกลและผสานกับมัน แต่แม้เลือด เหงื่อจะไหลริน เขาก็ยังแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย

[ข้าต้องผ่านไปให้ได้ ตอนนี้มันเหลือแค่การสร้างร่างกายเท่านั้น..]

รอยยิ้มของจั๋วฝานโดนลบออกด้วยเสียงร้องโหยหวน

“อ้ากก!”

มันไม่เป็นไปตามแผน ทรายเพชรทำลายอวัยวะภายในเขาเสร็จและพุ่งขึ้นสมองเขา

ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือผู้บ่มเพาะ สมองก็คือส่วนที่อ่อนแอสุด มันคือจุดสิงสถิตของวิญญาณคน

ทรายเพชรกำลังสร้างหายนะให้กับดวงวิญญาณ และจิตใจเขา เมื่อมันหายไป ความตายของเขาจะบังเกิด

เขารู้สึกราวกับมีวิญญาณนับพันกำลังทำร้ายเขา ความเจ็บปวดลงลึกไปถึงแก่นแท้ของเขา มันโหดร้ายกว่าขั้นตอนแรกนับพันเท่า แต่ไม่เหมือนก่อนหา้นี้ ตอนจิตใจของเขาชัดเจน ความเจ็บปวดกำลังกัดกินจิตสำนึกเขา

วิญญาณของเขาค่อยๆสลายและใกล้จะแตกเป็นเสี่ยงๆ ทั้งหมดที่เขาทำได้คือรอเวลาตาย

“ฮ่าๆ สำหรับข้า จักรพรรดิปีศาจที่ต้องมาตายด้วยมือตัวเอง!ช่างน่าขันยิ่งนัก!ถ้าข้ารู้ว่าเคล็ดหลอมกายานี้จะบัดซบขนาดนี้…”

จั๋วฝานตำหนิตัวเอง

ตลอดเวลานี้ ค่ายกลพิศดารนี้ไม่เคยหยุดหมุน และทรายเพชรที่เหลือก็เปียกไปด้วยเลือดเขา แต่เขาไม่สนใจ ชีวิตของเขากำลังแขวนอยู่บนเส้นด้ายเส้นบาง

สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจคือ ทำไมเขาถึงต้องหลอมร่างกายเขาด้วยวิธีการแสนโหดร้ายเช่นนี้?

“ข้าต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ ทำไมข้าถึงใช้เคล็ดวิชาที่บัดซบเช่นนี้”

จั๋วฝานหลับตาด้วยความเสียใจขณะที่ชีวิตของเขากำลังหายไปต่อหน้า

ตั้งแต่เขากลายเป็นผู้บ่มเพาะปีศาจ เขาก็เอาชนะอุปสรรคทั้งหมดที่ขวางทาง กลายเป็นผู้นำของแปดจักรพรรดิในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เป็นผู้อยู่ต่ำกว่าอาณาจักรนักบุญเท่านั้น เส้นทางของเขาเต็มไปด้วยความรุ่งโรจน์ จากนั้นเขาก็ได้รับคัมภีร์ลับเก้าสมถะ ทำให้ชีวิตของเขายิ่งสดใส และถึงแม้ศิษย์จะทรยศเขา เขาก็เกิดใหม่ในตระกูลลั่ว เป็นพ่อบ้าน จากนั้นก็ได้พบกับเซี่ยเทียนหยางและเสวี่ยหนิงเซียง..

“เสวี่ยหนิงเซียง..เสวี่ยหนิงเซียง”ริมฝีปากของจั๋วฝานเผยอขึ้น พึมพำชื่อนางเหมือนคนเสียสติ จากนั้นก็ลืมตาขึ้นและตะโกน”หนิงเอ๋อร์!”

เขาจำได้ว่าทำไมเขาถึงเลือกเส้นทางนี้ มันเพื่อช่วยชีวิตนาง

ตอนนั้เอง ค่ายกลพิศดารหมุนเร็วขึ้น ห้อมล้อมทุกสรรพสิ่งด้วยพลังลี้ลับ

หน้าผากของจั๋วฝานปล่อยไฟสีฟ้าที่เปลี่ยนเป็นไม้เลื้อยและคลุมตัวเขา หลอมรวมเข้ากับค่ายกลพิศดารนี้

จั๋วฝานไม่รู้ว่าเคล็ดหลอมกายาลับนี้ไม่ใช่แค่การหลอมร่างกาย แต่รวมถึงจิตวิญญาณด้วย จุดประสงค์มันคือการขุดศักยภาพทั้งหมดของผู้บ่มเพาะ

ถ้ามีแค่ร่างกายที่ผ่านการหลอมด้วยวิธีนี้ ความล้มเหลวกับความตายก็เป็นเรื่องแน่นอน

ตอนจั๋วฝานใกล้ตาย เขาตื่นขึ้นมาด้วยเหตุผลเบื้องหลังที่เขาเลือกและความตั้งใจที่จะมีชีวิตอยู่ก็เอ่อล้น มันสะท้อนกับดวงวิญญาณเขาและช่วยให้ไฟสีฟ้าในตัวผสานเข้ากับค่ายกล

ตอนนี้ค่ายกลพิศดารถึงพลังแท้จริงของมันออกมา

ค่ายกลหมุนเร็วขึ้นจนทำให้เกิดพายุ ในไม่ช้ามันก็เปลี่ยนเป็นสีฟ้าจากไฟ หลอมละลายทรายเพชรก่อนผสานมันเข้ากับเลือดของจั๋วฝาน ไหลไปทั่วร่างกายเขา

เลือดสีทองไหลซึมจากร่างกายที่ฉีกขาดของจั๋วฝาน อัดฉีดเข้ากล้ามเนื้อ กระดูกกับอวัยวะ ไฟสีฟ้ากลับไปในหน้าผากเขาเมื่อกระบวนการทั้งหมดเสร็จสิ้นและหลอมรวมเข้ากับวิญญาณเขา

จั๋วฝานยังคงหลับตา ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นด้านนอก เขารู้สึกแค่ว่าชีวิตของเขากลับมาและยังแข็งแกร่งขึ้น

ตลอดเวลานี้ ทารกโลหิตนั่งสมาธิอยู่ในตันเถียนเขาตลอด หลังเห็นเลือดสีทอง มันก็เต็มไปด้วยความปีติยินดี กลืนกินให้มากสุดเท่าที่มันจะกินได้

มันเริ่มสลับไปมาระหว่างภาพลวงตาและภาพจริง สุดท้ายก็เปลี่ยนเป็นทารกทองคำ มันลืมตาขึ้น ดวงตามันเปล่งแสงสีทอง เต็มไปด้วยพลัง

ต้องขอบคุณไฟสีฟ้า ปีกคู่ซึ่งแล่บไปด้วยวสายฟ้าเปลี่ยนเป็นของเหลวและเข้าตัวจั๋วฝาน ในชั่วพริบตา ภาพของปีกสีฟ้าก็ปรากฏบนหลังเขา พร้อมด้วยสายฟ้าที่แล่บอยู่บนพวกมัน

ลึกเข้าไปในเทือกเขาหมื่นอสูร บนยอดเขาสูง ภายในถ้ำ เสียงตกใจของชายวัยกลางคนดังขึ้น

“หืม?ทำไมเพลิงฟ้าที่ข้ามอบให้เด็กนั่นถึงได้หายไป?เขาลบมัน หรือเขาควบคุมมันได้?”

จากนั้นเสียงหัวเราะก็ดังขึ้น”ฮ่าๆๆ ข้าคงแก่แล้วสินะ การที่เด็กนั่นจะลบมันนั้นเป็นไปไม่ได้ นับประสาอะไรกับการหลอมมัน แม้แต่ยอดฝีมือระดับนักบุญก็ไม่มีทางหลอมเพลิงฟ้าของข้าได้”

“แต่ถ้าเขาลบมันได้จริง งั้นข้าจะหาเขาเจอได้ไง?อืม ไม่ช้าเขาจะต้องกลับมา ฮ่าๆๆ”

ชายคนนั้นหัวเราะอยู่ในถ้ำ เสียงของเขาดังไปไกลหลายร้อยลี้ แต่กลับไม่มีสัตว์อสูรสักตัวที่ได้ยินมัน…