ตอนที่ 29 ผมเป็นนักศึกษาดีเด่น

สูตรโกงฉบับเด็กเรียน

ตอนที่ 29 ผมเป็นนักศึกษาดีเด่น

วันต่อมา ตอนที่ไป๋เยี่ยมาถึงห้องทำงานของเหยียนหมิงก็พบว่าด้านในห้องมีคนรออยู่แล้ว หลิวเจิ้นซีเองก็อยู่ด้วย ไป๋เยี่ยจึงเอ่ยทักทาย

เหยียนหมิงจิบน้ำ ปรับลมหายใจและสภาพจิตใจของตนเองให้พร้อม จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นช้าๆ “เอาละ ทุกคนนั่งเถอะครับ อย่ายืนเลย”

หลังจากที่ทุกคนนั่งลง เหยียนหมิงก็เริ่มพูด “ที่วันนี้ผมเรียกทุกคนมานั้นเป็นเจตนารมณ์ของผู้อำนวยการมหาวิทยาลัย เพื่อเป็นการชมเชยผลการสอบของทุกคน”

“ผลการแข่งขันของทุกคนในการแข่งขันครั้งนี้ออกมายอดเยี่ยมมาก เพราะเป็นการสร้างเกียรติยศให้กับมหาวิทยาลัย จึงถือเป็นเรื่องที่ควรค่าแก่การยกย่อง”

“การประชุมวันนี้ ผู้อำนวยการมีจุดประสงค์ในการยกย่องทุกคน เพราะทุกคนล้วนเป็นผู้สร้างความหวังและความก้าวหน้าให้กับมหาวิทยาลัยของเรา”

“โดยเฉพาะสวี่จงเหล่ย ได้อันดับสาม ถือว่าทำได้ไม่เลวเลย พวกเราดูคนไม่ผิดจริงๆ คุณเป็นแบบอย่างที่ยอดเยี่ยมให้กับคณาอาจารย์ในมหาวิทยาลัยของเรา”

“แล้วแน่นอน เสี่ยวหลิวของพวกเราก็ทำได้ดีมาก เรียกได้ว่าคุณทำหน้าที่เป็นผู้ให้คำปรึกษาด้วยความใส่ใจมาโดยตลอด ทางมหาวิทยาลัยเห็นความพยายามและผลงานอันโดดเด่นของคุณ! ดีมาก ทำดีต่อไปนะครับ วันนี้ผอ.หูคงจะเอ่ยชมคุณเป็นแน่!”

พูดมาถึงตรงนี้แล้ว เหยียนหมิงก็หันไปพูดกับหลิวจื้อด้วยรอยยิ้ม

หลิวเจิ้นซีได้ฟังก็คิด นี่ผอ.ชมเราเหรอ เป็นเรื่องที่ดีมากเลย!

เขารีบตอบกลับอย่างถ่อมตน “ทั้งหมดเป็นเพราะการชี้แนะจากท่านผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยและหัวหน้าเหยียนเลยครับ ผมก็แค่ทำเรื่องที่ควรทำตามคำสั่งของผู้อำนวยการเท่านั้น ขอบคุณที่เมตตาครับ!”

เหยียนหมิงหัวเราะเหอะๆ “อืม ถ่อมตัวก็ดี แต่ว่าก็อย่าไปเข้มงวดกับการสั่งสอนนักศึกษามากล่ะ ต้องระวังเรื่องวิธีการด้วย คุณเข้มงวดเกินไปแล้ว เสี่ยวหลิว”

หลิวเจิ้นซีหัวเราะแห้งพลางเกาหัวไปมา เขาได้รับคำชมก็ตกตะลึงเล็กน้อย รอให้นักศึกษารุ่นนี้เรียนจบก่อนก็ถึงเวลาที่เขาควรจะโยกย้ายตำแหน่งบ้างแล้ว ได้ยินมาว่าตำแหน่งเลขากำลังว่างอยู่…พอถึงตอนนั้น…

ความคิดของหลิวเจิ้นซียืดหยุ่นมาก เขาจึงรีบเอ่ยขึ้น “วางใจได้ครับ ผมจะดูแลนักศึกษาให้ดี จะรักษาระเบียบวินัยของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ไว้และจัดการกับปลาเน่าในหมู่พวกเรา!”

เหยียนหมิงพยักหน้า “ในการแข่งขันครั้งนี้ มีนักศึกษาในห้องที่คุณรับผิดชอบผ่านเข้ารอบระดับมณฑลไปสี่ห้าคน ผู้อำนวยการยินดีกับเรื่องนี้มาก ทั้งยังให้คุณเป็นผู้รับผิดชอบดูแลอีกด้วย เหอะๆ ไม่เลว”

ดอกไม้ผลิบานในใจของหลิวเจิ้นซี เขารีบแสดงท่าทีออกมา

เหยียนหมิงพยักหน้า “แต่ว่าคุณต้องระวังสักหน่อย อย่าลงโทษหรือตำหนินักศึกษาตลอดเวลา การตำหนิคือวิธีการ ส่วนจุดประสงค์คือเพื่อการสั่งสอน เหมือนกับนักศึกษาดีเด่นอย่างไป๋เยี่ย พวกเรายิ่งต้องให้กำลังใจและสนับสนุนเขา”

หลิวเจิ้นซีช็อก

อะไรกัน อะไรวะนั่น นี่มันเรื่องอะไร

“ไม่…ผู้อำนวยการ ท่านคงไม่ได้เข้าใจผิดใช่ไหมครับ ไป๋เยี่ยเขา…เขา…”

หลิวเจิ้นซีกำลังจะเอ่ยปากพูดต่อ แต่เหยียนหมิงกลับโบกมือใส่ “คุณไม่ต้องถ่อมตัวหรอก ที่ไป๋เยี่ยประสบความสำเร็จในวันนี้ ก็เป็นเพราะความพยายามและการสนับสนุนจากทุกคน”

คราวนี้ไม่ได้มีแค่หลิวเจิ้นซีที่งง สวี่จงเหล่ยก็เช่นกัน มันเรื่องอะไรกัน

เหยียนหมิงหยิบเอกสารแผ่นหนึ่งออกมาจากลิ้นชักและยื่นให้ซุนเฉียวเย่ว์พลางเอ่ยขึ้น “เสี่ยวซุนอ่านหน่อย เดี๋ยวผมจะโพสต์ลงหน้าเว็บทางการเพื่อประกาศให้ทั้งมหาวิทยาลัยทราบ”

ซุนเฉียวเย่ว์รับรายงานมา เธอเบิกตากว้างมองไป๋เยี่ยด้วยสายตาเหลือเชื่อ “จากการอภิปรายและตัดสินใจของผู้อำนวยการมหาวิทยาลัย ไป๋เยี่ย นักศึกษาสาขาวิชาบูรณาการการแพทย์แผนจีนและแผนปัจจุบันรุ่นปี 2011 ระหว่างที่ศึกษาในมหาวิทยาลัยนี้ เขาแสดงศักยภาพออกมาได้ดีเยี่ยม และมีความสุขในการช่วยเหลือผู้อื่น เขาได้รับทุนการศึกษาอันดับหนึ่งประจำปีต่อเนื่องกันสี่ปี และได้อันดับหนึ่งในบอร์ดอันดับอยู่หลายครั้ง นักศึกษาผู้นี้เปี่ยมไปด้วยศีลธรรมและความรู้ มีการพัฒนารอบด้านทั้งทางด้านจริยธรรม ความรู้ กายภาพ สุนทรียภาพ และแรงงาน จึงมีการมอบเหรียญรางวัลนักศึกษาดีเด่นและทุนการศึกษาที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มเฝินจิ่ว! จึงเรียนมาเพื่อทราบดังนี้”

หลิวเจิ้นซีเบิกตากว้างอย่างเหลือเชื่อก่อนจะรีบเอ่ยขึ้น “ผู้อำนวยการครับ นี่มัน…เพื่ออะไรเหรอครับ ไม่ใช่ว่าเราคอนเฟิร์มเรื่องทุนเฝินจิ่วไปแล้วเหรอครับ”

เหยียนหมิงยิ้ม “ก็นี่มันสถานการณ์พิเศษนี่นา! ยังไงไป๋เยี่ยก็มีผลการสอบที่ยอดเยี่ยมนี่!”

หลิวเจิ้นซีถามขึ้นทันทีที่ได้ฟัง “ผล…ผลการสอบอะไรครับ”

เหยียนหมิง “นี่คุณไม่รู้เหรอ เสี่ยวเยี่ยไม่ได้บอกเขาเหรอ”

ไป๋เยี่ยส่ายหัว

“เจ้าเด็กคนนี้ สอบได้คะแนนดีขนาดนี้ยังจะเก็บเป็นความลับอีก ดื้อชะมัด มานี่ คนกันเองทั้งนั้น บอกข่าวดีนี้ให้ทุกคนฟังสิ โชว์บัตรเข้าสอบให้ดูเลย”

ไป๋เยี่ยล้วงบัตรเข้าสอบออกจากกระเป๋ามาวางลงบนโต๊ะ บนนั้นมีข้อมูลการสอบเขียนไว้

[หมายเลข: xxxx0055 ชื่อ-สกุล: ไป๋เยี่ย คะแนนรอบแรก: 1800 คะแนน ได้อันดับที่ 1 จากทั้งประเทศ]

ทุกคนเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อในทันใด

ซุนเฉียวเย่ว์พึมพำเบาๆ “นี่มัน…เขาคือหมายเลข 0055 ที่ได้ที่หนึ่งนี่เอง! ถ้างั้นคนที่ได้คะแนนหนึ่งพันแปดร้อยคะแนน…ก็คือ…เขาเองเหรอ”

สวี่จงเหล่ยเองก็ไม่อยากเชื่อ

หลิวเจิ้นซีส่ายหัวไปมาพร้อมกับพึมพำอยู่ในคอ “นี่…นี่มัน…”

เหยียนหมิงมีความสุขมาก จึงเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ไป๋เยี่ย เตรียมพร้อมให้ดี สัปดาห์หน้าคุณต้องแดสงศักยภาพออกมาในรอบระดับมณฑลนะ ถ้าติดสิบอันดับแรก ทางมหาวิทยาลัยจะประกาศยกย่องคุณอีก คุณต้องสู้ๆ นะครับ!”

“จริงสิ สองวันนี้อย่าเพิ่งวิ่งวุ่นไปไหนล่ะ ทางมหาวิทยาลัยกำลังเตรียมสัมภาษณ์คุณอยู่ ให้คุณเตรียมตัวมาให้ดี ไม่ต้องเครียด ทำตัวปกติได้เลย”

“อ้อ ใช่ เสี่ยวซุน เดี๋ยวคุณช่วยไปที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์หน่อย ให้จัดบอร์ดเกียรติยศใหม่ที ใส่ชื่อนักศึกษาที่ผ่านเข้ารอบระดับมณฑลลงไปด้วย อย่าลืมนะ ใส่ชื่อไป๋เยี่ยไว้บนแถวที่หนึ่งให้มีแค่ชื่อเขาคนเดียวในแถวนั้น คุณช่วยไปจัดการให้หน่อย”

เหยียนหมิงหยิบจดหมายฉบับหนึ่งและใบประกาศเกียรติยศออกมาจากลิ้นชักพลางเอ่ยขึ้น “นี่คือใบประกาศเกียรติยศและทุนการศึกษาของคุณ อย่าทำตัวเหลาะแหละล่ะ ฮ่าๆ สู้ๆ นะ ผมดูคุณอยู่!”

เอ่ยจบ เหยียนหมิงก็หันมาพูดกับทุกคน “ความสำเร็จของทางมหาวิทยาลัยในวันนี้ จะขาดพวกคุณไปไม่ได้เลย เสี่ยวหลิว คุณก็ไปประชาสัมพันธ์ในห้องคุณที ให้ทุกคนมีกำลังใจในการเรียนรู้จากไป๋เยี่ย”

“เอาละ ทุกคนกลับไปเตรียมตัวให้พร้อมเถอะ! พวกคุณพาคนที่ผ่านเข้ารอบระดับมณฑลมารวมกัน ทุกคนก็เตรียมตัวกันดีๆ ล่ะ ถ้าได้เข้ารอบระดับประเทศ ทางมหาวิทยาลัยจะจัดงานประกาศเกียรติยศ!”