บทที่ 27 เพาะปลูก

บทที่ 27 เพาะปลูก

ป้าใหญ่หวังถือเป็นบุคคลที่ประทับใจในตัวอู๋ฝานที่สุดในหมู่บ้าน อู๋ฝานที่นำเนื้อของราชาหนูขนทองไปขายให้ เธอย่อมตอบแทนอู๋ฝานไม่เลวร้ายจนเกินไป โดยมอบให้อู๋ฝานทั้งสิ้นสามสิบเหรียญทอง เนื้อนั้นมีไม่มีราคาเท่าฟันและกรงเล็บ ขายได้สามสิบเหรียญทอง ก็มากพอทำอู๋ฝานปลื้มใจแล้ว

ด้วยเหตุดังกล่าว การเดินทางไปเหมืองครั้งนี้จึงไม่เพียงทำให้อู๋ฝานได้เรียนรู้วิชาช่างฝีมือ แต่ยังได้รับเหรียญทองมาหนึ่งร้อยสิบเหรียญ เรียกได้ว่าเป็นรางวัลที่ค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว

“เถ้าแก่อยู่ไหม? เถ้าแก่!” ด้วยเงินจำนวนมากในกระเป๋า อู๋ฝานที่มีความมั่นใจจึงมาอุดหนุนร้านสีดำอีกครั้ง มันคือร้านขายของชำภายในหมู่บ้าน

หากว่าเป็นไปได้ อู๋ฝานก็ไม่อยากค้าขายอะไรกับเถ้าแก่หลิวผู้หน้าเลือด แต่ใครกันใช้ให้ในหมู่บ้านมีแค่ร้านนี้ที่ขายเมล็ดพันธุ์? ต่อให้ไม่อยากมาแค่ไหน อู๋ฝานก็ต้องมาอยู่ดี

“ว่ายังไง ว่ายังไง” เพียงไม่นานเถ้าแก่หลิวก็ปรากฏตัวตรงหน้าอู๋ฝาน ยามเถ้าแก่หลิวพบเห็นเป็นอู๋ฝาน รอยยิ้มที่ใบหน้าจึงยิ่งฉีกกว้าง “เป็นเจ้านี่เอง มีอะไรอื่นมาทำการค้าอีกหรือ? ไม่ต้องกังวลไป ขอเพียงเป็นของดี เรื่องของราคาย่อมพูดคุยกันได้”

อู๋ฝานแทบคิดอยากยกน้ำดื่มแล้วพ่นใส่หน้าอีกฝ่ายที่โกงฮุบเงินเขาไปหลายเหรียญทอง ตอนนี้ยังทำตัวเช่นนี้ได้ เรียกว่าหน้าด้านยังอาจไม่พอ

เพียงแต่ เพราะยังต้องซื้อของจากที่นี่ อู๋ฝานจึงไม่กล้าฉีกหน้าอีกฝ่าย ทำให้ต้องปั้นรอยยิ้มขึ้นมากล่าวตอบรับ “ผมไม่ได้มาขายของ วันนี้มาซื้อต่างหาก!”

“ซื้องั้นหรือ? ย่อมได้อยู่แล้ว!” เถ้าแก่หลิวยิ่งกระตือรือร้น ไม่ว่าจะขายของหรือซื้อของ ทั้งหมดล้วนเป็นลูกค้า ในเมื่อเป็นลูกค้าก็ไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องปฏิเสธ

“เพียงบอกว่าอยากซื้ออะไร ที่นี่มีครบสรรพ” เถ้าแก่หลิวกล่าวตอบด้วยความมั่นใจ

คำของเถ้าแก่หลิว มันไม่ใช่การคุยโว เพราะที่นี่มีสินค้ามากมาย หลายสิ่งอย่างในร้าน อู๋ฝานที่พบเห็น ยังแทบต้องซดน้ำลาย

“ที่ผมต้องการก็ไม่ใช่อะไรอื่น แต่เป็นเมล็ดพันธุ์” อู๋ฝานไม่คิดใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แต่เลือกที่จะมุ่งตรงเข้าประเด็น เพราะที่นี่มีของหลายอย่างจนเกินไป ถึงขนาดเขาอยากได้เสียทั้งหมด เพียงแต่ในกระเป๋ามีเงินไม่มากพอ เงามืดย่อมปรากฏขึ้นในใจ เป็นความรู้สึกไม่ใคร่สบาย ที่ได้เห็นของแต่ไม่อาจซื้อหา

“เมล็ดพันธุ์?” เถ้าแก่หลิวชะงักไป “ไม่ใช่ปัญหา ทางนี้มีเมล็ดพันธุ์ทุกแบบที่ต้องการ”

“ผมขอเมล็ดพันธุ์ข้าวโพด เห็นหอม กุยช่าย ข้าว แอปเปิล…” อู๋ฝานไล่เรียงที่ต้องการออกมาทีละรายการ “แล้วก็ขอไก่ เป็ด ปลาบิน…”

ก่อนจะมาที่นี่ อู๋ฝานได้คิดเรียบร้อยแล้วว่าต้องการจะซื้ออะไรบ้าง

เดิมนั้นอู๋ฝานวางแผนซื้อผักและผลไม้เพื่อใช้สำหรับทำบาร์บีคิว เพราะความคิดแรกเริ่มของตัวเขา คือการหาทางประหยัดค่าใช้จ่ายในการทำบาร์บีคิว

เพียงแต่ ปัจจุบันอู๋ฝานเกิดเปลี่ยนใจ สาเหตุก็เพราะพื้นที่เปิดกว้างที่ด้านหลังของภูเขามีขนาดใหญ่จนเกินไป แล้วผักที่เขาต้องการเพื่อนำไปทำบาร์บีคิวขายกับร้านแผงลอยจะมากสักเพียงไหนกัน? ต่อให้กิจการคนแน่นทุกวัน มันก็ไม่ใช่จำนวนที่มากมายอะไร ดังนั้นกับพื้นที่ด้านหลังภูเขาที่เปิดกว้าง จึงไม่จำเป็นต้องเพาะปลูกเฉพาะพืชผักที่ใช้ทำแค่บาร์บีคิว

ดังนั้นแล้ว อู๋ฝานจึงเตรียมเพาะปลูกข้าว ข้าวสาลี ส้มและอีกหลายสิ่งอย่าง

นอกจากนี้ เขายังมีแผนคิดเลี้ยงสัตว์ด้วยส่วนหนึ่ง ด้วยเหตุนั้น พวกมันจะกลายเป็นวัตถุดิบสำหรับทำบาร์บีคิว และพวกมันยังสามารถหากินด้วยตัวมันเองได้ และที่นี่ยังเป็นพื้นที่สีเขียวปลอดสารพิษ รสชาติของมันย่อมดีกว่าของโลกความเป็นจริง นับตั้งแต่อู๋ฝานได้กินก็เกิดถูกใจมาโดยตลอด ดังนั้นจึงคิดใช้โอกาสนี้ซื้อพวกมันเสียในคราวเดียว

แท้จริงแล้ว ในโลกแห่งนี้มันยังมีผัก ผลไม้ และสัตว์ที่ทานได้บางส่วนที่ไม่มีปรากฏในโลกความเป็นจริงอยู่ด้วย เพียงแต่อู๋ฝานไม่คิดซื้อหา เพราะหากนำของเหล่านั้นไปสู่โลกความเป็นจริง จะตกเป็นเป้าให้ผู้อื่นบังเกิดความสนใจ และตัวเขาก็ไม่มีทางจะอธิบายถึงหนทางที่ได้รับพวกมันมา สุดท้ายจะกลายเป็นปัญหาเกินมือ ตอนนี้ตัวเขายังอ่อนแอ หากว่าเกิดปัญหาใหญ่อะไรขึ้น เขาจะไม่อาจคลี่คลายมันได้

นอกจากนี้ อู๋ฝานจึงเลือกซื้อ แต่เฉพาะของที่มีในโลกความเป็นจริง ด้วยเหตุนี้เอง จึงสามารถลดทอนความสงสัยที่อาจเกิดขึ้นลงไปได้

ทันทีที่เถ้าแก่หลิวได้ยินรายการสั่งซื้อของอู๋ฝาน เขาย่อมทราบว่าเป็นการสั่งซื้อครั้งใหญ่ ดังนั้นจึงเร่งรีบจดไล่เรียงรายการที่อู๋ฝานต้องการ ใบหน้าที่เดิมยิ้มแย้มอยู่แล้วยิ่งแจ่มใสมากยิ่งขึ้น

“ตอนนี้ขอซื้อเท่านี้ก่อน ไว้ผ่านไปผมมาซื้อเพิ่มอีกครั้ง” ปัจจุบันอู๋ฝานมีเงินเพียงหนึ่งร้อยสิบเหรียญทอง ของและเมล็ดพันธุ์ที่สั่งซื้อก็ถือว่าจำนวนไม่ใช่น้อยแล้ว แต่หากเทียบเปรียบกับขนาดของด้านหลังภูเขา มันยังน้อยนิด เห็นได้ชัดว่าเขายังต้องแวะเวียนมาทำการซื้อครั้งที่สอง หรืออาจครั้งที่สาม

“แน่นอน แน่นอน ไม่ใช่ปัญหา!” เถ้าแก่หลิวยิ่งยินดียามได้ยินว่าอู๋ฝานยังคิดมาซื้อในภายหน้า กระทั่งนำเสนอลูกสัตว์จำนวนหนึ่งให้อู๋ฝานได้รับชม พวกมันเหล่านี้ไม่มีอยู่ในโลกความเป็นจริง เพราะอู๋ฝานมีความกังวล ก่อนหน้าจึงไม่สั่งซื้อ แต่ในเมื่อเถ้าแก่หลิวยินดีมอบให้ ก็ไม่มีเหตุผลที่เขาจะต้องปฏิเสธ อย่างน้อยที่สุดเขาก็เก็บเอาไว้ทานเองได้

เถ้าแก่หลิวดำเนินการรวดเร็ว ใช้เวลาเตรียมการไม่นาน ทุกสิ่งอย่างที่อู๋ฝานสั่งก็รวบรวมครบ และตามคำร้องขอของอู๋ฝาน พวกมันจะถูกส่งไปยังบริเวณใกล้เคียงด้านหลังภูเขา

“จะเพาะปลูกยังไงดี?” ภายหลังเถ้าแก่หลิวนำมาส่ง อู๋ฝานจึงเริ่มเกิดกังวลว่าจะจัดการกับเรื่องราวอย่างไรต่อ หากจำเป็นต้องเพาะปลูกเมล็ดพันธุ์ทีละเมล็ดเหมือนดังคนปกติ เช่นนั้นเมื่อไหร่จะเพาะปลูกแล้วเสร็จ?

ทว่านอกจากวิธีการดังกล่าว ก็ไม่คล้ายว่าจะมีวิธีการอื่น ก่อนหน้านี้เขาเคยนึกว่าด้วยการที่ตนเองเป็น ‘ผู้เล่น’ จะได้รับการปฏิบัติที่พิเศษออกไปบ้าง แต่แล้วตอนนี้ดูเหมือนไม่ใช่เช่นนั้น

แม้จนใจแต่อู๋ฝานก็ต้องยอมรับความจริง เขาได้เรียนรู้วิธีการเพาะปลูกจากหัวหน้าหมู่บ้านเรียบร้อยแล้ว แม้ว่าจะต้องใช้เวลานานไปบ้าง แต่มันก็ดีกว่าเอาแต่จ้องมองมันโดยไม่ลงมือ

“ศึกษาดิน…นับเป็นหัวข้อที่ควรแก่การเรียนรู้ รวมถึงการเลี้ยงพวกสัตว์ปีกก็ด้วย” ภายหลังหัวหน้าหมู่บ้านเฒ่าชราเข้าใจจุดประสงค์ของอู๋ฝาน เขาจึงนำเก้าอี้หวายตัวหนึ่งออกมานั่งพลางอธิบายให้อู๋ฝานได้รับฟัง “ระดับของการทำฟาร์มมีทั้งสูงและต่ำ ภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน บางคนเพียงเพาะปลูกบนที่ดินก็ได้รับผลการเก็บเกี่ยวที่ดี ขณะที่บางคนก็ได้รับน้อยกว่าที่คาดหวัง มันเกี่ยวข้องกับภูมิความรู้หลายประการ…”

[ขอแสดงความยินดี ท่านได้รับการสอนโดยปรมาจารย์ทำฟาร์มเจ้าต้าหมิง ได้เรียนรู้ทักษะการเพาะปลูกและเพาะพันธุ์ วิชาเพาะปลูก และวิชาเพาะพันธุ์ได้พัฒนาสู่ระดับสูง!]

เป็นปรมาจารย์อีกคนหนึ่งแล้ว!

อู๋ฝานไม่นึกคิดว่าหัวหน้าหมู่บ้านเฒ่าชรา แท้จริงแล้วเป็นปรมาจารย์ทำฟาร์ม แม้คาดเดาว่าชาวบ้านต่างก็เป็นตัวตนระดับปรมาจารย์ หัวหน้าหมู่บ้านเฒ่าชราก็สมควรเป็นเช่นเดียวกัน แต่หาได้นึกคิดไม่ว่าจะเป็นปรมาจารย์ทำฟาร์ม เรื่องที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้ตัวเขาได้ยกระดับวิชาเพาะปลูกและวิชาเพาะพันธุ์สู่ระดับสูง

ภายหลังรับฟังคำอธิบายของหัวหน้าหมู่บ้านเฒ่าชราอยู่นาน อู๋ฝานจึงรีบมุ่งตรงไปยังด้านหลังภูเขา หยุดยืนตรงหน้าพื้นที่โล่งกว้าง และเริ่มท่องวิชาเพาะปลูกอยู่ในใจโดยเงียบงัน

ถัดจากนั้นอู๋ฝานจึงได้พบเห็นว่าเมล็ดพันธุ์ที่อยู่ตรงหน้าตนเองได้เพาะปลูกในพื้นที่กว้างโดยอัตโนมัติ พวกมันจัดเรียงเป็นแถวและเว้นช่องอย่างเหมาะสมสวยงาม

“ไม่ผิด ‘ผู้เล่น’ ยังได้รับการดูแลเป็นพิเศษอยู่” อู๋ฝานที่พบเห็นเรื่องราวดำเนินไปจึงนึกยินดี ใช้เวลาไม่นานเมล็ดพันธุ์ทั้งหมดก็เพาะปลูกแล้วเสร็จ

ตามคำบอกเล่าของหัวหน้าหมู่บ้านเฒ่าชรา วิชาเพาะปลูกระดับสูงเพียงใด ผลผลิตของแปลงเพาะปลูกก็จะสูงขึ้นเท่านั้น ขณะเดียวกัน อัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว และรสชาติของพืชที่เพาะปลูกก็ดีขึ้นตามไปด้วย

เพียงอู๋ฝานนึกคิดถึงสิ่งที่เพาะปลูกในพื้นที่ก็อดไม่ได้ที่จะเกิดความคาดหวังขึ้นมา